กรรมที่ก่อไว้

ตอบเมื่อ: 17 มี.ค.2008, 12:18 pm

เมื่อ 4 - 5 ปีที่แล้วผมได้พาแฟนไปทำแท้ง เพราะความรักสนุก ปัจจุบันนี้ได้เลิกรากันไปตั้งแต่ผมพาไปทำแท้งแล้ว มานั่งนึกย้อนกลับไปทุกวันนี้ยังคงมีความทุกข์ที่ตัวเองคิดทำลงไป คิดจะออกบวชตลอดชีวิต ก็ยังมีห่วงเรื่องหน้าที่การงาน และภาระหนี้สิน ทุกวันนี้ได้แต่สวดมนต์ ใส่บาตร นั่งสมาธิ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับเด็กที่เสียชีวิตไป และให้กรรมที่ทำไว้กับเด็ก ให้เบาบางลง แต่ใจก็ยังไม่ลืมเรื่องนี้ได้เลย แฟนที่เลิกลาก็ไม่เคยติดต่อมาอีกเลย คงจะโกรธผมไปตลอดชีวิต ซึ่งแฟนก็คือเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันสมัย ป. ตรี เป็นเพื่อนสนิท ถึงแม้จะตัดขาดกันไปแล้ว แต่คิดว่ากรรมยังคงผูกมัดไว้อยู่ ตายไปกี่ภพกี่ชาติก็คงจะตามจองเวรกันไปอีกหลายภพ ผมเองก็คงจะตกนรกรับใช้กรรมไปอีกนาน

ถ้าให้มีหนทางใดที่จะพ้นทุกข์นี้ ขอพระอาจารย์ หรือผู้ที่ละทุกสิ่งแล้ว โปรดช่วยชี้แนะทางพ้นทุกข์นี้ให้กับผมด้วยครับว่าจะทำอย่างไรดี จะทำไม่รู้ไม่ชี้ จนแก่ตายไปก็ไม่มีทางลบความทรงจำนี้ได้ ถึงจะหนีออกบวชก็หนีไม่พ้นแน่

ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ

ตอบเมื่อ: 17 มี.ค.2008, 1:40 pm

การทำแท้ง เป็นปาณาติบาต เป็นการฆ่าชีวิตเด็กในท้อง บาปหนักทั้งผู้เป็นแม่และผู้เป็นพ่อ (เป็นคนพาไปทำแท้ง) จะแก้ไขกรรมอันนี้ให้เบาบางลงได้อย่างเห็นผลจริงๆ ก็ด้วย การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เท่านั้น ดังนั้น หากคุณยังไม่พร้อมที่จะออกบวชด้วยภาระหน้าที่การงานหรือหนี้สิน ก็ควรหาเวลา หาโอกาส ลางานสัก 7 วันเป็นอย่างน้อย แล้วตั้งเจตนา ตั้งจิตให้มั่น ไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามสถานที่ปฏิบัติที่ดีๆ และศักดิ์สิทธิ์ค่ะ ขอแนะนำดังนี้

วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1596

สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต อ.หนองแค จ.สระบุรี
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1597

วัดภัททันตะอาสภาราม อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี หรือ
สำนักวิปัสสนากรรมฐานวิเวกอาศรม อ.เมือง จ.ชลบุรี
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1707

วัดมเหยงคณ์ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1638

ช่วงเวลาปฏิบัติ ก็ขอให้ตั้งใจมุ่งมั่นปฏิบัติจริง ปิดวาจา อย่าไปท้อแท้หรือหวั่นไหวกับมารหรืออุปสรรคที่จะเกิดขึ้นขณะไปปฏิบัตินะค่ะ เมื่อปฏิบัติแล้วเสร็จในแต่ละวัน ก็ขอให้ตั้งจิตอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล แผ่เมตตา ไปให้เด็กในท้องที่ทำแท้งไปนะค่ะ ขอให้ทำให้บ่อย ทำให้มาก ทำให้ต่อเนื่อง ทำให้จนเป็นอุปนิสัย

สาธุ

หากในอนาคตเหตุปัจจัยเอื้ออำนวย มีศรัทธาจะออกบวชตลอดชีวิต ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ และขอให้คุณตั้งจิตให้มั่นคงด้วยนะค่ะว่า ขอให้การบวชครั้งนี้ของคุณเป็น การบวชเรียน บวชเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย บวชเพื่อรักษาพระศาสนา บวชเพื่อปฏิบัติธรรม ไม่ใช่การบวชตามประเพณีเท่านั้น นะค่ะ สู้ สู้

ตอบเมื่อ: 17 มี.ค.2008, 10:31 pm

วิญญาณจะรังควานไม่เลิกนะสิครับ

ต้องทำบุญให้เค้ามากๆนะครับ

เค้าเกิดมาแล้วเค้าจะได้ทำบุญ มากกว่าเราไปปิดทางเค้า เค้าคงโกรธบ้างแหละ

อกเขา อกเรา

ตอบเมื่อ: 18 มี.ค.2008, 7:43 am

ขอบคุณมากนะครับผมจะหาเวลา ลาพักร้อนซัก 7 วัน เพื่อไปปฏิบัติธรรม ดีใจมากๆ เลยที่มีคนมาคอยชี้แนะ และจะตั้งใจปฏิบัติธรรม อุทิศส่วนกุศลให้เด็กในท้องครับ

ตอบเมื่อ: 18 มี.ค.2008, 10:55 am

อยากทราบว่าเป็นเวรกรรมที่ทำกันมาหรือไม่ที่ต้องมาเจอกันแต่ในสภาพที่เขามีครอบครัวแล้วแต่ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายครอบครัวของเขาให้เดือดร้อนแต่ทำอย่างไรถึงจะหลีกเลี่ยงได้ในเมื่อต้องเจอกันแทบทุกวันทำอย่างไรถึงจะหลุดพ้นถ้าคิดว่าชดใช้กรรมกันแล้วทำอย่างไรละถึงจะหลุดพ้นเสียที

ตอบเมื่อ: 19 มี.ค.2008, 9:39 am

คุณณัฐพัชร์ - ต้อง ทำใจ แก้ที่ใจของตัวเอง ค่ะ ถึงจะหลุดพ้น สาธุ

ทำใจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นทุกอย่างกับเราได้ด้วยความสงบเย็น

ตอบเมื่อ: 19 มี.ค.2008, 9:46 pm

ช้าก่อนท่าน จะรอหาเวลาอะไรอยู่ ไม่ต้องรอไป ให้ท่านทำเลย ไหว้พระ นั่งสมาธิแผ่ส่วนกุศล เอาให้หนักเลย ท่านรอไม่ได้ ถ้าท่านตายวันนี้ พรุ่งนี้ละ จะเป็นอย่างไร ทำเลย นั่งสมาธิ วิปัสนากรรมฐาน ทำได้ที่บ้าน พุธโท ทำได้ทุกที่ เกิดบุญมาก ก็อุทิศให้เขาไปให้หมด

กรรมที่จะเกิดแก่ท่าน ไม่ต้องกังวล ท่านเจอกับมันแน่ๆ หนักเท่ากันด้วย

ทางออกคือ หนีกรรม เพื่อหาท่างพ้นทุกข์ (ทำบุญ รักษาศิล แล้วสมาธิ) สามอย่างนี้ท่านต้องทำเอง ด้วยตัวเอง ด้วยใจตัวเอง คนอื่นทำให้ท่านไม่ได้ หมอดูทำให้ท่านไม่ได้ พระ แม่ชี ทำให้ท่านไม่ได้ แก้กรรมไม่ได้

ช่วงที่ท่านกำลังทำบุญเพื่อให้ไกลจากบาปที่ตามมานั้น ก็ให้ท่านทำใจไว้ด้วย เพราะนี้คือกรรมหนัก อาจจะตามท่านมาทันเร็วกว่ากรรมอื่น ดังนั้นท่านจะต้องเตรียมตัวตายให้พร้อม มีสติ อยู่กับ พุทธตลอด แม้เวลานอน นี้เป็นวิธีเตรียมพร้อมตายที่ดี อย่าประมาท ทำทั้ง 3 อย่างที่แนะนำให้เป็นปกติ ท่านจะหนีมันไปได้ไกล อาจจะไม่รับกรรมนี้ ถ้าท่านหลุดพ้นแล้ว สาธุ

ตอบเมื่อ: 19 มี.ค.2008, 10:15 pm

พระรูปหนึ่งบอกว่า คนเราควรให้อภัยตนเอง

การสำนึกผิด และจะไม่ทำมันอีก ก็เป็นสิ่งที่ดีมากๆ แล้ว

ใครๆ ก็เคยทำผิดกันทั้งนั้น อย่าไปจมอยู่กับอดีตเลยค่ะ ทำปัจจุบันของเราให้ดีดีกว่าค่ะ ถ้าคุณจะไปปฏิบัติธรรมก็ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ และหลังจากกลับมาจากสถานที่ปฏิบัติธรรม ควรจะนั่งกรรมฐานทุกๆ วัน และเคร่งครัดในศีล 5 ด้วยนะคะ

ไม่ทราบว่าเคยอ่านหนังสือเล่มนี้ไหมค่ะ
ชวนมื่นชื่น ของ อาจารย์ พรหมวังโส (เล่มแปลเป็นภาษาไทย) เหมือนว่าจะมีให้อ่านในเน็ตนะคะ
หรือ ต้นฉบับบ คือ opening the door of your heart
มีเรื่องเกี่ยวกับคนที่เศร้าและทุกข์ จากการที่ขับรถแล้วทำให้เพื่อนเสียชีวิต และ เด็กที่เล่นกะเพื่อน แล้วเพื่อนเสียชีวิตเพราะการเล่นแผลงๆ ซึ่งตอนนี้คนที่ทุกข์เค้าไม่ทุกข์แล้ว เพราะอะไร ลองไปอ่านนะคะ ดิฉันอ่านเล่มต้นฉบับ เลยไม่กล้าที่แปล หรือสรุป ค่ะ เกรงว่าจะใช้ภาษาไทยผิด

เวปที่จะอ่านค่ะ
http://www.hermitstar.com/modules.php?name=News&file=article&sid=40

น่าเสียดายว่า link เสีย ลองหาจากแหล่งอื่นเองดูนะคะ

ตอบเมื่อ: 20 มี.ค.2008, 7:59 am

ตอนนี้ผมได้วันเวลาจะไปปฏิบัติธรรมแล้วครับ คือช่วงหยุดยาวสงกรานต์ รวมเวลา 9 วัน (12-20 เม.ย. 51) สถานที่เป็นวัดป่า จ.กาญจนบุรี ครับ

แต่ก่อนไปผมได้เริ่มสวดมนต์และนั่งสมาธิโดยสวดมนต์และนั่งสมาธิก่อนนอน และตื่นตี 5 สวดมนต์ เดินจงกรม และนั่งสมาธิ และเดินจงกรมอีกรอบ สุดท้ายแผ่เมตตาให้เด็กในท้องและเจ้ากรรมนายเวรทั้งปัจจุบันและอดีตชาติ วันแรกรู้สึกหายใจขัดๆ คันยุกยิก ง่วงหาวนอน ปวดขา เป็นตะคริว แต่ก็บริกรรมพุทธโธไปเรื่อยๆ วันนี้ 19 มีนา นั่งสมาธิแล้วรู้สึกไม่คัน หายใจสะดวกขึ้น แต่ก็ยังง่วงอยู่ แต่ก็อ่านตำราที่พระพุทธเจ้าสอนให้แก่พระโมคคลานะเรื่องการแก้ง่วง พยายามทำอยู่ครับ

ก่อนไปปฏิบัติจริงที่วัดป่า เลยทดสอบตัวเองก่อน ขอบคุณทุกท่านนะครับที่ให้คำชี้แนะ ยังไงผมก็หนีกรรมไม่พ้น แม้พระโมคคลานะบรรลุธรรมแล้ว ยังหนีกรรมที่ตัวเองทำไว้ในอดีตชาติไม่พ้น ผมทำใจเตรียมไว้แล้วครับ

ตอบเมื่อ: 20 มี.ค.2008, 12:35 pm

อนุโมทนาบุญกับคุณ anusorn นะคะ
-ขอให้ไปปฏิบัติธรรมด้วยจิตใจที่ผ่องแผ้ว
-ขอให้ปล่อยวางทุกอย่างทุกเรื่องในทางโลกก่อนเข้าวัดน่ะ วางไว้ตรงหน้าวัดนั่นเลย
-พึงรู้ไว้เสมอ (แค่ให้รู้ไม่ต้องจำตลอดเวลาค่ะ) ทุกสิ่งในอดีตนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว ผ่านไปแล้ว
ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ ฉะนั้นจงทำในสิ่งที่คุณทำได้
-คนเราต้องเดินไปข้างหน้าค่ะ
-ขอบอกไว้เลยว่า 3 วันแรกที่คุณเริ่มปฏิบัติธรรมจะยากมาก เพราะเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
จะมารับส่วนบุญ อาการปวดแขนปวดขาปวดท้อง สารพัดจะบังเกิด พึงสำรวมจะรู้ไว้
-ตั้งใจปฏิบัตินะคะ คำสอนที่อยู่ในบอร์ดนี้ จะมีประโยชน์กับคุณมากๆ
-จงเตรียมตัวก่อนเดินทางไปปฏิบัติธรรมให้พร้อมค่ะ จะได้ไม่เป็นกังวล

ตอบเมื่อ: 20 มี.ค.2008, 3:11 pm

ดีใจด้วยค่ะ ... ที่ทุกคนมีธรรมะในหัวใจ
ขอโมทนาบุญกับการปฏิบัติธรรมครั้งนี้ด้วยนะค่ะ อายหน้าแดง

ตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2008, 5:12 am

- ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ จะไปวัดไหนละครับ ผมอยู่กาญจนบุรี จะได้ไปด้วย

ตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2008, 8:10 am

สรุปแล้วไปวัดป่าสุนันทวนาราม ของพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
12-20 เม.ย. ครับ

ถ้าไปคงได้เจอกันครับ

ตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2008, 9:46 pm

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
แล้วก็ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นด้วย

ผมก็จะไปเข้ากรรมฐานที่วัดอัมพวัน ครับ ๓-๑๒ พฤษภาคมนี้ครับ

ตอบเมื่อ: 14 เม.ย.2008, 12:04 pm

คงจะทราบแล้วนะครับว่าอย่างไรก็หนีกรรมที่ได้ทำลงไปนี้ไม่มีทางพ้นได้ แต่ผมว่าคุณก็ยังโชคดีนะที่สำนึกได้ครับ แต่ผมว่าสิ่งที่น่ากังวลมากกว่ามีอีกครับ ถ้าสมมติว่าชาติหน้ามีจริง แล้วจะมีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่าคุณจะไม่ทำบาปอย่างนี้อีก หรือหนักกว่านี้อีกครับ ก็คงไม่สามารถที่จะทราบได้เช่นกัน พระพุทธเจ้าตรัสว่า โลกมนุษย์เป็นทางลาดลงสู่อบาย มากว่าที่จะขึ้นสู่ที่ที่ดีกว่านี้ผลกรรมต่างๆที่เป็นกรรมชั่วย่อมเกิดง่ายกว่ากรรมดี หลักประกันจึงเกิดขึ้นได้ยากถ้าเราจะไม่ทำความชั่วอีก ก็เห็นจะมีทางออกอยู่ทางเดียวคือไม่กลับมาเกิดอีกจะดีที่สุดครับ ลองผึกเจริญสติปัฏฐานสี่ตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าทรงวางไว้ดูนะครับ แล้วคุณจะพบคำตอบเองครับรายละเอียดลองดูที่ หนังสือของคุณดังตฤณ เรื่อง 7 เดือนบรรลุธรรม จากเวปไซน์ตามชื่อคนเขียนครับลองอ่านให้จบดูแม้ครั้งเดียวของชีวิตนี้ก็พอครับ ชื่อหนังสืออาจฟังแล้วดูเหมือนไม่ค่อยดีเท่าไรแต่เนื้อความมาจากพุทธพจน์เรื่องสติปัฏฐานสี่ทั้งหมดครับ ที่พระพุทธเจ้ารับรองว่าใครก็ตามที่ทำตามเขามีสิทธิ์ที่จะบรรลุธรรมได้ทั้งนั้นครับไม่ต้องรอชาติไหนๆ ขอให้ลองทำตามดูสัก 1 ปีก็พอแล้วครับ ทำที่บ้านก็ได้ไม่ได้ยากเย็นอะไรมากครับถ้าไม่มีเวลา เข้าวัด ยิ้ม

ตอบเมื่อ: 18 เม.ย.2008, 10:12 am

ภาพในอดีต ลบเลือนไม่ได้ เป็นสนิมกินเหล็ก มีแต่จะกัดกร่อนไปเรื่อย ๆ
แต่ใจเราสามารถฝึกอบรมได้ ..

สาธุ

อนุโมทนาที่คุณหันมาปฏิบัติธรรมเพื่ออุทิศกุศลให้เด็ก
และให้เขาอโหสิกรรม..

ขอให้คุณพบแสงสว่าง ดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีสติ และไม่คิดจะทำร้ายใครอีก..

สาธุการค่ะ

ตอบเมื่อ: 19 เม.ย.2008, 4:49 am

สนิมกินเหล็ก มีแต่จะกัดกร่อนไปเรื่อย ๆ
แต่ใจเราสามารถฝึกอบรมได้ ..

ปล.เห็นด้วย อยากให้อ่าน ประวัติพระองคุลิมาล ^0^

ตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2008, 8:11 am

ประสบการณ์จากการไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าสุนันทวนารามครับ

ตลอด 9 วัน ก็ปฏิบิติตามนี้ครับ ระฆังปลุก ตื่น ตี 2.45 ตี 3 นั่งสมาธิเจริญสติ ตี 4 ทำวัตรเช้าถึงประมาณ ตี 5 ฟังธรรม 6โมงตรง พระอาจารย์ พาเดินจรงกรม รอบพื้นที่วัด ซึ่งมีเนื้อที่ 1500 ไร่ครับ เดินกันขาลาก แต่ ไม่เหนื่อยเลย กลับมีพละกำลังขึ้นเยอะ นี่คืออนิสงฆ์ของการเดินจรงกรมข้อนึงครับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม ก็พักผ่อนตามสบาย 8 โทงก้มาที่โรงทาน เตรียมกินข้าวกัน หลังจากนั้นก็กวาดลานวัด สรีระกิจ หรือแล้วแต่ใครจะทำอะไรก้ได้ครับ ไปจนถึง 11.00 ก็ขึ้นธรรมศาลา ฟังธรรม นั่งสมาถิ เดินจงกรม ช่วงเที่ยง บ่ายโมง บ่าย 2โมง บ่าย 3 โมง จะมีพระในวัด หรือไม่ก็พระอาจารย์เอง จะสลับกันมาแสดงธรรมตลอด บ่าย 3 - 5 โมง ก็เป็นช่วงเวลาพักผ่อน ใครจนั่งสมาธิ เดินจงกรมต่อก็ทำได้ 5โมง ก้ทำความสะอาดลานวัดอีกรอบ 6โมงเย็น ก็ขึ้นธรรมศาลา เตรียมทำวัตรเย็น นั่งสมาธิ เจริญสติ เดินจงกรม ฟังธรรม จนถึง 21.00 น ก็แยกย้ายกันไปนอน กำหนดการก็มีประมาณนี้หละครับ ทำเป็นประจำทุกวัน อ้อ และต้องปิดวาจาด้วยนะครับ

ช่วงแรกๆ ต้องมีความอดทนสูงสำหรับคนไม่เคยกินข้าวแค่มื้อเดียว และไม่เคยตื่นนอน ตี 2 จะอ่อนเพลียมากหน่อยในระยะแรกๆ เท่านั้นครับ พอซักพักร่างกายจะปรับตัวเอง หลังจากกลับมาแล้ว ผมก็ถือศิล 5 ปฏิบัติเหมือนตอนอยู่วัดเลย ตื่น้า ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น นั่งสมาธิเช้า ค่ำก่อนนอน แต่กินข้าวตามปกติครับ 3 มื้อ และที่สำคัญคือ ถ้ามีเวลาเหลือพอก็ใส่บาตร ให้เป็นนิสัยครับ อันนี้พระอารย์ท่านแนะนำผม ปกติแล้วผมเคยใส่แต่วันพระ วันสำคัญ เดี๋ยวนี้ต้องหมั่นทำทุกวัน แต่เวลาใส่บาตร ให้ใส่ตัวจิตใจที่บริสุทธินะครับ อย่าใส่เพื่อหวังได้โน้นได้นี่ในชาติหน้า มันเป็นมโนกรรม ถ้าจะอธิษฐานก็ให้ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร หรือ บุพการี จะดีกว่าครับ

ตอบเมื่อ: 01 พ.ค.2008, 7:53 pm

การทำแท้งเป็นสิ่งไม่ดีนะครับ

แต่เมื่อคิดได้ก้อควรปรับตัวทำในสิ่งที่ดี

หรือไม่ก้อลองบวชแผ่เมตตาให้วิญญาณเด็กดูก้อได้นะครับ

ขอให้เจริญในธรรมยิ่งขึ้นครับ สาธุ

ตอบเมื่อ: 05 พ.ค.2008, 3:16 pm

ใจจริง...ผมอยากจะสาปให้คุณไปลงนรก
แต่ผมแน่ใจว่าตอนนี้คุณอยู่ในนั้นแล้ว...

ทุกคนมีสิทธิ์จะผิดพลาดกันได้ สติ จะเป็นสิ่งที่เตือนตัวคุณเอง
ให้หมั่นทำความดีไว้มากๆ คิดถึงเรื่องดีๆที่คุณทำมา มากๆ
โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา ไม่มีวิธีใดที่จะลืมบาปนั้นได้
ที่คุณทำไปเพราะคุณไม่รู้ หรือรู้แต่ต้องทำ มันฝังลึกเกินไปแล้ว
อย่ามัวแต่โทษตัวเองอยู่เลย คุณออกมาจากนรกนั้นได้ด้วยตัวคุณเอง
ไม่มีคำว่าสายไป...ไม่มี

เจริญธรรม