Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 พระติสสพุทธเจ้า อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
น้องนน
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 10 พ.ค. 2007
ตอบ: 47

ตอบตอบเมื่อ: 16 ก.พ.2008, 6:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ติสสพุทธวงศ์ที่ ๑๗
ว่าด้วยพระประวัติพระติสสพุทธเจ้า
[๑๘] ในกัปต่อมาจากพระสิทธัตถพุทธเจ้า มีพระพุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ
ผู้ไม่มีบุคคลเปรียบเสมอ มีศีลไม่มีที่สุด ทรงยศนับมิได้ เป็นนายก
ชั้นเลิศของโลก พระมหาวีรเจ้าผู้มีพระจักษุ ผู้ทรงอนุเคราะห์ เสด็จ
อุบัติขึ้นในโลก กำจัดความมืดมน ฉายพระรัศมีให้มนุษยโลกพร้อม
ทั้งเทวโลกสว่างไสว แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ก็ทรงมีฤทธิ์ ศีล
และสมาธิ ไม่มีสิ่งอื่นเทียมถึง ทรงบรรลุถึงความสำเร็จในธรรม
ทั้งปวงแล้ว ทรงประกาศพระธรรมจักร พระองค์ทรงแสดงธรรม
สั่งสอนถึงความบริสุทธิ์ไปในหมื่นโลกธาตุ ในพระธรรมเทศนาครั้ง
ที่ ๑ สัตว์ได้ตรัสรู้ร้อยโกฏิ ครั้งที่ ๒ เก้าสิบโกฏิ ครั้งที่ ๓ หกสิบ
โกฏิ ครั้งนั้น พระองค์ทรงเปลื้องมนุษย์และเทวดาที่มาประชุมกัน
ให้หลุดพ้นจากกิเลสเครื่องผูก พระองค์ทรงมีการประชุมพระภิกษุ
ขีณาสพ ผู้ปราศจากมลทิน ผู้มีจิตสงบระงับ ผู้คงที่ ๓ ครั้ง ครั้งที่ ๑
พระภิกษุขีณาสพผู้ปราศจากมลทิน ผู้บานแล้วด้วยวิมุติ มาประชุม
กันหนึ่งแสน ครั้งที่ ๒ เก้าโกฏิ ครั้งที่ ๓ แปดโกฏิ สมัยนั้น
เราเป็นพระมหากษัตริย์พระนามว่าสุชาต ละทิ้งโภคสมบัติเป็น
อันมากแล้ว ออกบวชเป็นฤาษี เมื่อเราบวชแล้ว พระพุทธเจ้าผู้เป็น
นายกของโลกจึงเสด็จอุบัติ เพราะได้ฟังเสียงว่าพุทโธ ปีติจึงเกิดแก่
เรา เราผู้กำจัดมานะแล้ว เอามือทั้งสองประคองดอกมณฑารพ ดอก
ปทุม และดอกปาริชาต เข้าไปเฝ้า เราเอาดอกไม้นั้นถือกั้นเป็นร่ม
ให้พระติสสชินเจ้า ผู้แวดล้อมด้วยพระรัศมีอันปรากฏ ผู้เป็นนายก
ชั้นเลิศของโลก ในกาลนั้น แม้พระองค์ก็ประทับนั่งท่ามกลาง
ประชุมชน ทรงพยากรณ์เราว่า ในกัปที่ ๙๒ แต่กัปนี้ ผู้นี้จักได้
เป็นพระพุทธเจ้าในโลก ...........................
ข้ามแม่น้ำใหญ่ ฉะนั้น เราได้ฟังพระพุทธพยากรณ์แม้นั้นแล้วยัง
จิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง ได้อธิษฐานวัตรในการบำเพ็ญบารมี ๑๐
ประการยิ่งขึ้น พระนครชื่อว่าเขมกะ พระบรมกษัตริย์พระนามว่า
ชนสันทะ เป็นพระชนกของพระติสสศาสดา พระนางปทุมา เป็น
พระชนนี พระองค์ทรงครอบครองอาคารสถานอยู่เจ็ดพันปี ทรงมี
ปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อคุณเสลา นาทิยะ และนิสภะ
ทรงมีพระสนมนารีกำนัลในสามหมื่นนาง ล้วนประดับประดาสวยงาม
พระมเหสีพระนามว่าสุภัททา พระราชโอรสพระนามว่าอานันทะ
พระพิชิตมารทรงเห็นนิมิต ๔ ประการ จึงเสด็จออกผนวชด้วย
อัสวราชยาน ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ครึ่งเดือนเต็ม พระติสสมหาวีรเจ้า
ผู้เป็นนายกชั้นเลิศของโลก อันพรหมทูลอาราธนาแล้ว ทรงประกาศ
พระธรรมจักร ที่ยสวดีทายวันอันประเสริฐ ทรงมีพระพรหมเทว
เถระและพระอุทยเถระ เป็นพระอัครสาวก พระเถระชื่อว่าสมคะ เป็น
พระพุทธอุปัฏฐาก พระผุสสาเถรีและพระสุทัตตาเถรี เป็นพระอัคร
สาวิกา ไม้โพธิพฤกษ์ของพระองค์เรียกชื่อว่าไม้ประดู่ สัมพล
อุบาสกและศิริอุบาสก เป็นอัครอุปัฏฐาก กิสาโคตมีอุบาสิกาและ
อุปเสนาอุบาสิกา เป็นอัครอุปัฏฐายิกา แม้พระพุทธชินเจ้าพระองค์
นั้น ก็มีพระองค์สูง ๖๐ ศอก ไม่มีผู้เปรียบ ไม่มีผู้เสมอเหมือน
ทรงปรากฏดังขุนเขาหิมวันต์ แม้พระองค์ผู้มีเดชหาเทียบเคียงมิได้
มีพระจักษุ ทรงมีพระชนมายุมาก ดำรงอยู่ในโลกแสนปี พระองค์
ทรงเสวยพระยศใหญ่ อุดม ประเสริฐสุด ทรงรุ่งเรืองดังกองไฟ
เสด็จนิพพานพร้อมด้วยพระสาวก พระองค์เสด็จนิพพานพร้อมด้วย
พระสาวกดังเมฆหายไปเพราะลม น้ำค้างหายไปเพราะพระอาทิตย์
ความมืดหายไปเพราะแสงไฟ ฉะนั้น พระติสสพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ
เสด็จนิพพาน ณ นันทาราม พระสถูปอันประเสริฐของพระองค์
สูง ๓ โยชน์ ประดิษฐานอยู่ที่นันทารามนั้น ฉะนี้แล.
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง