Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 นิมิตดวงหทัย (หลวงปู่อุ่น ชาคโร) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.พ.2008, 3:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

หลวงปู่อุ่น ชาคโร ถามหลวงปู่มั่นถึงการนิมิตเห็นดวงหฤทัย

--------------------------------------------------------------------------------

ตอนหนึ่งความว่า

ข้าพเจ้ากราบเรียนท่านพระอาจารย์มั่นว่า " กระผมขอโอกาสกราบ

เรียน การนิมิตเห็นดวงหฤทัย (หัวใจ) ของคนตั้งปลายขึ้นข้างบนนั้น

เป็นอะไร" ท่านเลยอธิบายไปว่า " ที่จริงดวงหฤทัยของคนนั้นก็ตั้งอยู่

ธรรมดานี้แหละ อันมันเป็นต่างๆ นานา ตามเรานิมิตเห็นนั้น มันเป็นนิมิต

เทียบเคียงคือปฏิภาคนิมิตนั้นเอง ที่ท่านเห็นว่ามันตั้งขึ้นนั้น แสดงถึง

จิตของคนนั้นมีกำลังทางสมาธิ ถ้าจิตตั้งขึ้นและปลายแหลม กกใหญ่

คล้ายดอกบัวตูมกำลังเบ่งบานนั้น แสดงว่าจิตคนนั้นมีกำลังทางสมาธิ

และปัญญาแล้ว ถ้าน้ำเลี้ยงดวงหฤทัยมีสีต่างๆกัน กันนั้น หมายถึงจริต

ของคน เช่น โทสจริตนั้นหฤทัยเป็นสีแดง ถ้าราคะจริตน้ำเลี้ยงหฤทัย

เป็นสีแดงเข้มๆ ถ้าจริตของคนที่หลุดพ้นไปแล้วเป็นน้ำหฤทัยขาวสะ

อาดเลื่อมเป็ปภัสสรเหมือนทองหลอมแล้วอยู่ในเตาเลื่อมอย่างนั้นแหละ


ถ้าดวงหฤทัยเหี่ยวๆแห้งๆ นั้นหมายถึงจิตของคนนั้นไม่มีกำลังทางจิต


คือ ศรัทธาพลัง วิริยะพลัง สติพลัง สมาธิพลัง ปัญญาพลัง ถ้าธรรมทั้ง

ห้าอย่างนี้ไม่มีในจิตแล้ว ท่านว่าอบรมไม่ขึ้น ไม่เป็นไป จะสั่งสอน

ทรมานสักปานใดไม่มีประโยชน์เลย ถ้าดวงหฤทัยของคนนั้นมีกกเบ่ง


บานเหมือนดอกบัว อบรมสั่งสอนไปได้ผลตามคาดหมายจริงๆ" ท่านว่า


"ผมเองเคยเพ่งดวงหฤทัยของผมเอง เห็นเลื่อมเป็นแสงเลยทีเดียว เพ่ง

ไปเพ่งมาปรากฏว่าแตกใส่ดวงตา" นี้เป็นคำพูดของท่าน ท่านจึง

อธิบายว่า "คนในประเทศไทยนี้ ดวงหฤทัยต่างหมู่อยู่ ๓ องค์คือดวง

หฤทัยปรากฏมีจานหรือแท่นรองสวยงามดี พระ ๓ องค์นี้ องค์หนึ่งคือ


ท่านสมเด็จมหาวีรวงค์(ติสโส อ้วน) ท่านตายไปแล้ว ส่วน ๒ องค์นั้นยัง

อยู่" ท่านพระอาจารย์มั่นพูดว่า " บุญวาสนาบารมีพระ ๓ องค์นี้แปลกๆ

" หมู่เพื่อนมากนี้นึกว่า ท่านอาจารย์นี้ท่านดูคนไม่ใช่ดูแต่หูชิ้นตาหนัง

เหมือนคนเรา ท่านสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาต้องดูด้วยตานอกตาในเสียก่อน

ไม่เหมือนปุถุชนเรา


************************************************************************

ที่มาของหนังสือ - บูรพาจารย์ หน้า ๕๑๔
ประวัติพระครูสังวรศีลวัตร (หลวงปู่อุ่น ชาคโร)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?=&p=38600
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง