Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
สมาธิแปลว่าทำจิตให้ตั้งมั่นเป็นหนึ่ง (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สมาธิ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
I am
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972
ตอบเมื่อ: 31 ม.ค. 2008, 8:52 am
สมาธิ แปลว่า ทำจิตให้ตั้งมั่นเป็นหนึ่ง
ที่จะทำจิตให้เป็นหนึ่งได้ก็ต้องรู้จิตก่อน ถ้าไม่รู้จิตก็ไม่ทราบว่าจะทำตรงไหนและที่ไหน จิตใครๆ ก็พูดว่าจิตของเราๆ แต่จิตของเราแท้มันเป็นอาการอย่างไรและมันอยู่ตรงไหน ในพระอภิธรรมท่านก็ว่า จิตประกอบด้วยอกุศลมูลมี ราคะจริต โทสะจริต โมหะจริต เป็นต้น
คำว่าประกอบด้วยหมายความว่า ราคะ โทสะ โมหะ มันอันหนึ่งมิใช่จิตแท้
จิตมันอีกอันหนึ่ง มันจึงไปประกอบกับ ราคะ โทสะ โมหะ ถ้า
จิตเป็น ราคะ โทสะ โมหะ กิเลสแล้ว จิตก็ไม่มีวันจะผ่องใสได้
จะปฏิบัติขัดเกลากิเลสสักเท่าไร ก็ไม่มีวันจะผ่องใสได้ เพราะจิตเป็นกิเลสเสียแล้ว
นี่เพราะกิเลสกับจิตมันคนละอันกัน ท่านพระอริยเจ้าทั้งหลายจึงฝึกหัดขัดเกลากิเลสออกจากจิตของท่านได้
ฉะนั้นเราทั้งหลายจงพากันมาหาจิตลองดูเถิด จิตก็แปลว่าผู้คิดผู้นึกอยู่แล้ว คิดนึกเป็นอาการของจิต จิตมีอาการกิริยา ถ้าผู้นั้นไม่ทำอาการกิริยาผู้นั้นก็เป็นตัวจิต
จิตแท้ไม่มีกิเลส กิเลสของจิตนั้นจิตไปดึงเอามาต่างหาก ท่านจึงเรียกว่ากิเลสจรมาทำให้จิตเศร้าหมอง ตัวจิตแท้ผ่องใสสะอาดอยู่ตามเดิม
เหมือนกับควันหรือเมฆหมอกปกคลุมบุคคลไม่ให้มองเห็นสิ่งต่างๆ เป็นต้น แต่จิตภายในยังใสสว่างมองเห็นหนทางที่จะออกไปให้พ้นจากควันหรือเมฆหมอกนั้นได้ ถ้าจิตเป็นของเศร้าหมองมาแต่เดิมแล้ว ที่ไหนคนเราจะทำให้สะอาดได้ เหมือนดินเผามันไม่สะอาดมาแต่เดิมเสียแล้ว จะเอาไปเจียระไนให้ใสอย่างแก้วย่อมไม่ได้อย่างเด็ดขาด
จงพากันหาจิต ดูจิต คือ ผู้คิด ผู้นึก ผู้ส่งส่าย
อาการเหล่านี้เป็นเครื่องปกปิดกำบังของจิต
เราจงพากันปล่อยวางเรื่องเหล่านี้
แล้วจะเห็นจิตผู้เป็นกลางของสิ่งทั้งปวงและไม่มีอดีต อนาคตเฉยอยู่
คราวนี้เราจะคิดก็ได้ ไม่คิดก็ได้ ให้มันอยู่เฉยๆ ก็ได้
นั่นแหละเห็นจิตของตนแล้ว จงรักษาไว้ให้มั่นคงต่อไป
: เริ่มต้นปลูกพระพุทธศาสนา
พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
http://www.thewayofdhamma.org/patum/patum103.html
_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
ตอบเมื่อ: 04 ก.พ.2008, 11:48 am
สาธุ สาธุ สาธุจ้า...คุณ I am
ธรรมะสวัสดีค่ะ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สมาธิ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th