Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ท่านมั่นใจได้อย่างไรว่า ศาสนาพุทธดีที่สุด อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
มรรคคา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
ตอบ: 77
ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต

ตอบตอบเมื่อ: 10 เม.ย.2008, 12:26 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กาลามสูตร

มีหลายสิ่งหลายอย่างหรือหลายเหตุการณ์ ทำให้เราสงสัยว่าจริง ไม่จริง ถูกต้อง ไม่ถูกต้อง มีโทษ ไม่มีโทษ ควรที่เราจะเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด แต่ในส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยจะได้คิดกัน หรือสงสัยกัน จะเชื่อถือหรือรับเอามาปฏิบัติโดยทันทีที่เขาบอกว่าดี ถูกต้องแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ก็บอกได้เลยว่าสังคมเรากำลังอ่อนแออย่างมาก ถูกปั่นหัวได้โดยง่าย ยิ่งทุกวันนี้การสื่อสารมีประสิทธิภาพสูงมาก เมื่อมีเหตุการณ์อะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นมุมไหนของโลก เพียงชั่วครู่ก็สามารถกระจายข่าวให้รับรู้กันได้ทั่วโลก ในแต่ละวันเราได้รับข่าวสารมากมายและมันก็ไม่เป็นที่แน่นอนว่าจะถูกต้องดีงามไปทั้งหมด

เพราะฉะนั้นการรับเอาข่าวสารควรมีการพิจารณาเสียก่อน เพื่อไม่ให้ผิดผลาดหรืองมงายไป ในสมัยพุทธกาล ชนชาวกาลามะแห่งเกสปุตตนิคมในแคว้นโกศล มีครูบาอาจารย์สอนเรื่องดับทุกข์อยู่อย่างมากมาย พวกหนึ่งสอนอย่างหนึ่ง อีกพวกหนึ่งก็สอนอีกอย่างหนึ่ง จนชาวบ้านไม่รู้ว่าคำสอนไหนที่เชื่อถือได้ จนพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเสด็จผ่านมา จึงทูลถามเรื่องที่พวกเขากำลังงงกันไปหมดแล้ว ไม่อาจทราบได้ว่าข้อปฏิบัติอย่างใดจะดับทุกข์ได้โดยตรง

ลักษณะเช่นนี้ เราน่าจะนำมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในยุคปัจจุบันนี้บ้าง เพราะปัจจุบันมีเหตุการณ์มากมายที่เรางงกันว่าถูกต้องเชื่อถือได้หรือไม่ เช่น การทำอะไรๆให้มันใหญ่ที่สุดในโลก รู้สึกว่าจะนิยมทำกันมาก เตียงใหญ่ที่สุดในโลก กระทะใหญ่ที่สุดในโลก ธูปใหญ่ที่สุดในโลก โบสถ์ใหญ่ที่สุดในโลก เจดีย์ใหญ่ที่สุดในโลก ฯลฯ สร้างแล้วอานิสงส์แรง จะได้สวรรค์วิมานสมบัติ สิ่งเหล่านี้ทำได้ก็แต่คนที่บ้าที่สุดในโลกเท่านั้น แล้วมันก็ใหญ่ได้แต่เพียงเท่านั้น ทำประโยชน์ได้คุ้มค่ากับราคาแสนราคาล้านหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยังมีอีกหลายสถานการณ์ที่ไม่สามารถกล่าวได้หมด ฉะนั้นจึงควรอาศัยหลักการแก้ไขปัญหาอย่างนี้ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพิจารณาดู คือ พระองค์ทรงตรัสสอนคนเหล่านั้นว่า

๑. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่บอกต่อๆกันมา
๒. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาได้ทำตามๆกันมา(ประเพณี)
๓. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า มันเล่าลือกันกระฉ่อนไปหมดแล้วว่าเป็นความจริง
๔. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า มันมีอ้างอยู่ในปิฎก(คัมภีร์,ตำรา)
๕. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า เป็นตรรก หรือการคำนวณ
๖. อย่าได้เชื่อโดยการอนุมานเทียบเคียง หรือคาดคะเนเอาเอง
๗. อย่าได้เชื่อโดยการตรึกตรองเอาตามอาการ
๘. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า มันเข้ากันได้กับลัทธิความเชื่อ และทฤษฎีของตน
๙. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า รูปร่างลักษณะน่าเชื่อถือ
๑๐. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า ผู้สอนเป็นครูเป็นอาจารย์ของเรา


สาธุ ต่อเมื่อใดพิจารณาเห็นด้วยปัญญาว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้วจึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น เรียกว่า กาลามสูตร หรือ เกสปุตติยสูตร หรือ เกสปุตตสูตร

แม้จะอ้างว่าบอกต่อๆกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว มันก็ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่าจะถูกต้อง ดี มีโทษ ไม่มีโทษ ฯลฯ เสมอไป หรือบอกว่าฉันเห็นมากับตาตัวเองเลยว่าเป็นจริง แม้ยืนยันอย่างนี้ก็ยังเชื่อโดยทันทีไม่ได้ แน่ใจหรือว่าอะไรๆที่เราเห็นจะเป็นจริงดังที่เราเห็น ในตอนเช้าหรือตอนเย็น เราเห็นพระอาทิตย์ติดกับพื้นโลก ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า ที่เส้นขอบฟ้าเราเห็นท้องฟ้าติดกับพื้นดิน แล้วมันเป็นจริงดังที่เห็นหรือเปล่า เรามองไปบนถนนในตอนกลางวันเห็นถนนมีน้ำอยู่ทางด้านหน้า แต่พอเราเข้าไปใกล้มันกลับหายไป(พยับแดด) เห็นไหมว่ามันไม่แน่หลอกว่าที่เราเห็นจะเป็นจริงไปซะหมด หรือแม้แต่การปฏิบัติต่อๆกันมา ร่วมไปถึงประเพณีต่างๆด้วย บางประเพณีถือปฏิบัติกันมาอย่างผิดๆก็มี และส่วนมากจะตื่นเต้นไปกับการร่ำลือ ที่โน้นดี มีของศักดิ์สิทธิ์ ให้หวยแม่น อย่างนี้ชอบ แล้วก็แห่แหนกันไป แม้จะต้องเสียเงินเสียทองจ้างรถหรือจ่ายค่าหลอกลวงอะไรต่างๆก็ยอม ขอให้ได้สนองความมัวเมาของตัวเองเถอะเป็นเอาทั้งนั้น แต่การทำตนเองให้ศักดิ์สิทธิ์นี่ไม่ค่อยมีใครอยากทำกัน เพราะฉะนั้นเราเห็นอะไรก็สักแต่ว่าเห็น ได้ยินอะไรก็สักแต่ว่าได้ยิน อย่าด่วนตัดสินใจรับหรือปฏิเสธโดยทันที

คนไทยเราสมัยนี้ด้อยคุณภาพเป็นอย่างมาก คอยแต่จะหวังพึ่งของขลังศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วย ไม่เคยคิดทำด้วยความเพียรพยายามของตนเอง ไม่คิดพัฒนาตนเอง แล้วในที่สุดมันก็ตกอยู่ในความประมาท ปล่อยให้วันคืนผ่านไปเปล่า สิ่งที่ทำด้วยความสามารถของตนเองไม่มีเกิดขึ้นมาให้เสริมคุณค่าของตนเองเลย แล้วมันก็ขาดอิสระภาพ ตกเป็นทาสของขลังศักดิ์สิทธิ์ ต้องคอยส่งส่วย ต้องคอยหาของมาเซ่นไหว้กลัวว่าจะไม่ช่วย บางทีไม่ได้ตามที่ต้องการก็คิดไปว่าเราคงติดสินบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์น้อยไป ต้องนำมาให้มากกว่านี้ แล้วอย่างนี้จะหาคุณค่าที่น่าภูมิใจได้ที่ตรงไหน

บ้างก็เชื่อง่ายดายเพียงเพราะรูปร่างลักษณะต่างๆดี ดูแล้วมันน่าเชื่อถือ ใจง่ายอย่างนี้โดนหลอกมานักแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาทางโทรทัศน์ ทางหนังสือพิมพ์ สื่อต่างๆ หรือแม้แต่การโฆษณาตามวัดบางวัด อวดอ้างอิทธิปาฏิหาริย์ แล้วญาติโยมก็ชอบซะด้วย เราได้ชื่อว่าเป็นพุทธบริษัท ก็ควรที่จะรู้บ้างว่าสิ่งใดเปลือก สิ่งใดคือแก่นของพระพุทธศาสนา จะเป็นพุทธบริษัทก็ควรเป็นให้สมบูรณ์ มีคุณค่า มีปัญญา อย่าเป็นเพียงพุทธบริษัทที่ด้อยคุณภาพ

ไม่มีศาสนาใดอีกแล้วที่ให้ความอิสระทางความคิดความเชื่อได้เท่าพุทธศาสนา ยืนยันได้จากข้อสุดท้ายที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "มา สมโณ โน ครูติ" อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า สมณะนี้เป็นครูเป็นอาจารย์ของเรา หมายถึงพระองค์เองโดยเฉพาะเลย แม้พระองค์ตรัสเองก็อย่าเพิ่งเชื่อโดยทันที ลองใช้ปัญญาพิจารณาดูก่อนแล้วจึงตัดสินใจเชื่อ หรือ ไม่เชื่อ

อย่าถือปฏิบัติเสียจนสุดโต่งไปเลย ไม่ยอมเชื่ออะไรเสียเลย เช่น หมอให้ยามากินเพื่อรักษาอาการไข้ แต่แล้วก็ไม่ยอมกิน เพราะว่ายังไม่เชื่อว่ายานี้จะสามารถรักษาไข้ได้ อย่างนี้ก็เกินไป แล้วจะหายไข้ได้อย่างไร ก็ควรกินไปก่อน ถ้าหายแล้วก็ค่อยเชื่อก็ได้

และท้ายนี้ก็ขอแสดงความหวังว่า จะไม่นำกาลามสูตรนี้มาอ้างว่าเรายังไม่เชื่อว่าธรรมะนี้จะสามารถดับทุกข์ได้จริง จึงไม่ปฏิบัติธรรมกัน อย่างนี้ก็เท่ากับทำตัวให้ต่ำลงไปอีก ยอมรับเสียว่าเรายังไม่มีปัญญาพอที่จะสามารถไตร่ตรองธรรมะได้ ก็ลองปฏิบัติตามพระพุทธองค์ไปก่อน(เรียกว่าใช้ศรัทธานำหน้าไปก่อน) ต่อเมื่อใดที่รู้แจ้งธรรมด้วยปัญญาอันแท้จริงแล้วว่าสามารถดับทุกข์ได้จริง จึงค่อยเชื่อก็ได้
สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
sittidet
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 26 ธ.ค. 2007
ตอบ: 53
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 10 เม.ย.2008, 4:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ศาสนาพุทธกล้าท้าให้คุณพิสูจน์ด้วยตัวเองครับให้คุณเห็นได้ด้วยตนเอง ผมชื่นชมคำถามของคุณครับ ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่พุทธเพราะพ่อแม่นับถือ คุณลองพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วกันนะครับว่าทางพ้นทุกน์ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้จริงหรือเปล่า สมดังพุทธพจน์ที่ว่าท่านจงลองดูเถิด ท่านจงลองมองดูเถิด ศาสนาเราสอนแค่เรื่องทุกข์ที่มีอยู่ทุกวันครับไม่สนเรื่องอื่นครับ อิทธิปาฏิหารไม่ใช่ศาสนาพุทธหรอกครับ ผมไม่เคยสนใจเลย แค่คุณเรียนรู้อย่างวิทยาศาสตร์ก็พอแล้วครับ ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
 

_________________
ผู้ใดมีตนเป็นที่พึ่งนับว่าหาที่พึ่งอันหาได้ยาก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
manio
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 10 เม.ย. 2008
ตอบ: 16

ตอบตอบเมื่อ: 10 เม.ย.2008, 11:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เริ่มเเต่เกิดมาก็รู้จักแต่ศาสนาพุทธ พ่อเเม่พานับถือหรือเปล่า ก็ไม่รู้ เเต่ก็ช่วยให้การใช้ชีวิตของผมเป็นไปอย่าง เรียบง่าย และเหมาะกับการดำเนินชีวิตมากที่สุด ท้ายสุด เราคงยังดีไม่พอนะเนี่ย อายหน้าแดง
รู้สึกยังงั้นอ่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
human
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 01 พ.ย. 2006
ตอบ: 41

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2008, 1:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

- ศาสนาพุทธดีที่สุด เพราะศาสนาพุทธมีสมณะที่ 1 สมณะที่ 2 สมณะที่ 3 สมณะที่ 4 เมื่อมีสมณะที่ 4 แล้วก็ไม่ต้องกลับมาเกิด แก่ เจ็บ ตาย อีก หลุดพ้นจากโลกิยภูมิ ไปสู่พระนิพพาน

- อยู่ที่ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ศึกษาธรรม ขจัดสรรพกิเลสให้หมดสิ้นจากสันดาน รู้แจ้งเห็นจริงในธรรม บรรลุพระนิพพาน พุทธอยู่ตรงนี้

- ตอนนี้ยังเป็นพุทธที่ไม่ดี ยังมีความเลวอยู่ แต่จะปฏิบัติเพื่อละความเลว ทำให้เป็นพุทธที่ดีให้ได้
 


แก้ไขล่าสุดโดย human เมื่อ 11 เม.ย.2008, 6:54 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2008, 5:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้ายัง "ไม่มั่นใจ".....ก็พิจารณา ไตร่ตรอง
และขอเชิญให้ "พิสูจน์" ต่อไป สงสัย

แต่ถ้า "มั่นใจ" แล้ว...

ย่อมไม่ลังเลสงสัยที่จะศึกษาและปฏิบัติต่อไป
ตามวาสนาบารมี และความเพียร ของตน
จนสุดสายปลายทาง...
สู้ สู้

อย่างงี้...ดีมั้ยเอ่ย?!?! สาธุ ยิ้ม
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
cat
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 21 ก.พ. 2008
ตอบ: 20

ตอบตอบเมื่อ: 15 เม.ย.2008, 12:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อืม จริง ๆ ไม่น่าจะยกขึ้นมาถามนะ เพราะประเด็นเรื่องของศาสนาว่าดีหรือไม่ดีนั้น พูดไม่มีวันจบ แต่ถ้าจะถามว่า พุทธดีไหม ดีตรงไหน ตอบสั้นๆว่า ดี และกรุณาอย่าถามต่ออีก เพราะมันจะไม่จบ พระพุทธองค์ท่านตรัสว่าปัญหาบางอย่างไม่ควรพยากรณ์ อีกอย่างหนึ่งผู้ปฎิบัติธรรมจริงๆแล้ว เวลาถามพวกเขา ว่า พุทธศาสนาดีไหม พวกเขาเหล่านั้นจะไม่ตอบ แต่จะยิ้มเท่านั้นเอง
สุดท้ายนี้ขอฝากพระพุทธพจน์ที่เราเคยได้ยินบ่อยๆว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นธรรม" สาธุ
 

_________________
๛ สรรพสิ่งล้วนอนิจจัง ๛
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
cat
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 21 ก.พ. 2008
ตอบ: 20

ตอบตอบเมื่อ: 15 เม.ย.2008, 1:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เราซีเรียสไปป่าวนิ อิๆ
 

_________________
๛ สรรพสิ่งล้วนอนิจจัง ๛
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โปเต้
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 10 พ.ค. 2008
ตอบ: 76
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2008, 6:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอนเด็กๆ ชอบบรรยากาศการใส่บาตร หรือทำบุญในวัดมาก
ก็คงจะเป็นพุทธเพราะพ่อแม่ แต่ถ้านึกดูดีๆ น่าจะมาจากจิตใจในส่วนลึกด้วย
เพราะชอบธรรมะในแนวพุทธ ชอบอ่านอะไรที่คล้ายจะรู้เรื่อง(ดูยากดี เหมือนคนมีปัญญา ยิ้มเห็นฟัน 5555555)

เพิ่งจะรู้จักอริยสัจ 4 อย่างจริงจัง แต่ไม่ถึงกับถ่องแท้ ก็ตอนที่โตขึ้นมาแล้วมาเจอทุกข์สุดๆ
ทุกข์เพราะความคิดของตัวเองล้วนๆ ทั้งที่บอกตัวเองเป็นล้านครั้งว่า ไม่มีใครเค้าคิดอะไรซักคนแต่ทำไมเราถึงต้องมานั่งแบกความคิดที่เป็นทุกข์อยู่ได้
ก็เลยได้เห็นทุกข์ และเริ่มคิดที่จะออกจากทุกข์ (ลุยหามรรค 8 อายหน้าแดง )

มั่นใจได้อย่างไรว่าพุทธดีที่สุด.............
.......เพราะเราชอบและรักศาสนาพุทธมากที่สุด ปรบมือ
โดยเฉพาะพระพุทธเจ้าและคำสั่งสอนของท่าน และสงฆ์สาวกทั้งหลาย
ซึ่งไม่เพียงแต่เฉพาะอริยสงฆ์ แม้แต่สงฆ์สมมติ หรือแม้แค่เห็นผ้าเหลืองก็ยังจับใจ ยิ้มเห็นฟัน
จาให้ไปทางไหนก็ไม่เอาแล้วอะ

พุทธอยู่ที่ไหน........
ทั้งหมดในศาสนาพุทธ ทั้งผล ดอก ใบ เปลือก กระพี้ และแก่น
ชิมลูกว่ามีรสอร่อย ชื่นชมดอกว่าสวยหอมกลิ่นขจรขจาย แล้วก็ฝ่าใบที่ดกหนาเข้าไปจนถึง เปลือก กระพี้ และก็แก่น ตามลำดับ
(ถึงยังไงก็ขอลิ้มชิมรสของผลอร่อยๆ และก็ชื่นชมกับดอกสวยๆหอมๆไปด้วย ยิ้ม )

เป็นพุทธที่ดีหรือยัง.......
ยิ้มเห็นฟัน สงสัยต้องโดนหวดด้วยไม้เรียวอีกซักหลายๆที ร้องไห้

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
นพดล สมบูรณ์เรศ
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 13 พ.ค. 2008
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): อุดรธานี

ตอบตอบเมื่อ: 19 พ.ค.2008, 11:40 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดีที่สุด เพราะศรัทธาและเลื่อมใส
ศรัทธาเพราะ อธิบายธรรมชาติของมนุย์และสัตว์โลกได้ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
เลื่อมใส เพราะ มีแนวทางให้ปฏิบัติ มีแนวทางให้ตัดสินใจความดี ความไม่ดี และแนวทางไม่ได้มีเพียงทางเดียว มีหลายทางตามจริตของแต่ละคน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
think
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 16 พ.ค. 2008
ตอบ: 1

ตอบตอบเมื่อ: 19 พ.ค.2008, 12:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ในความคิดของผมนั้น ผมไม่คิดว่าศาสนาใดดีที่สุด เพราะแต่ละศาสนานั้นก็มีวิธีการสอนที่แตกต่างกัน และสอนให้คนทำดีเช่นกัน แต่ที่ผมเชื่อในพุทธศาสนานั้นเป็นเพราะว่า ศาสนาพุทธมิใช่สอนให้คนทำดีเพียงเท่านั้น ศาสนาพุทธยังสอนให้คนเข้าใจธรรมชาติของสิ่งที่เป็นอยู่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สอนให้เห็น "ธรรม" ซึ่งธรรมนั้นเองที่จะทำให้เราพ้นทุกข์ได้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ballad666
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 19 พ.ค. 2008
ตอบ: 10

ตอบตอบเมื่อ: 23 พ.ค.2008, 7:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หลักคำสอนต่างๆ ของพุทธ สามารถพิสูจน์ได้จริง มีเหตุมีผล สิ่งที่เกิดขึ้นมีที่มาที่ไป ไม่ใช่ให้นับถือเพราะความเชื่อหรืองมงาย
พระพุทธเจ้าตรัสว่า อย่าเพิ่งเชื่อเรา จงพิสูจน์ก่อน แต่บางศาสนาสอนให้เชื่อ ให้วางใจในศาสดาของเขา และพิสูจน์ไม่ได้

****************************
Image
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 23 พ.ค.2008, 7:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สี บุญมา พิมพ์ว่า:
ก็ข้าพเจ้าเคยศึกษา อ่าน เปรียบเทียบมาหลายศาสนา ใครก็ว่าใครดีที่สุด ข้าพเจ้าไม่อยากให้ท่านทั้งหลายเห็นว่าพุทธดีที่สุดเพราะในบัตรประชาชนท่านทั้งหลายระบุตั่งแต่เกิดว่าเป็นพุทธ

ในการตั้งกระทู้นี้ไม่มีความต้องการให้ท่านทั้งหลายเปรียบเทียบ แต่ให้ท่านที่เป็นพุทธบอกมาหน่อยว่าท่านถือพุทธเพราะอะไร(ต้องการความคิดเห็น ไม่ต้องการบทความที่ก๊อบมา)

พุทธของท่านทั้งหลายอยู่ที่ใหน (หิ้งพระ วัด เหรียญ อภินิหาร ฯลฯ)

แล้วท่านเป็นพุทธที่ดีหรือยัง

สาธุ

กระผมเป็นอีกคนหนึ่งที่บัตรประชาชนระบุว่าเป็นพุทธครับ...แล้วก็เป็นจริงด้วยครับ
เหตุที่นับถือศาสนาพุทธก็เพราะเป็นศาสนาที่ถูกจริตกับกระผมเองมากที่สุดครับ เป็นศาสนาที่เปี่ยมไปด้วยเหตุผล จริง พิสูจน์ได้ จนปัจจุบันยังไม่เคยรู้สึกคัดค้านในคำสอนเลย....จึงทำให้เกิดศรัทธาในศาสนาพุทธเป็นอันมากครับ
ส่วนพุทธของกระผมนั้นอยู่ที่กระหม่อมครับ มีพระธรรมอยู่ตรงหน้า แต่ว่ายังไม่ได้พบพระสงฆ์ครับ........คงได้เจอเข้าสักวัน...
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 29 พ.ค.2008, 5:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ส่วนของผม

อ้างอิงจาก:
พุทธของท่านทั้งหลายอยู่ที่ใหน (หิ้งพระ วัด เหรียญ อภินิหาร ฯลฯ)


ตอบ - ถ้าจะให้ตอบว่าอยู่ที่ไหน คงต้องขออธิบายนิดนึงนะคับ
พุทธ .. มันเป็นสภาวะ ไม่กินสถานที่ ไม่กินเวลา ไม่มีรูปร่าง
เพราะพุทธศาสนาที่ผมเห็น มันเป็นการรวบรวมสภาวะความจริงที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ
นำมารวม Categorized ให้เป็นระบบ เป็นองค์ความรู้ โดยคนที่นามว่าพุทธเจ้า

ตัวอย่างของสิ่งที่เรียกว่าสัจจะธรรม ก็เช่น
... ศาสดาสงสัยว่า มีไหม...ที่มนุษย์ไม่ตาย ไม่แก่ ไม่ป่วย ..ไม่เกิด
แต่ไม่ว่าจะค้นหาคำตอบยังไง ก็ยังพบแต่ว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสภาวะตามธรรมชาติ

ท่านยังพบอีกว่า
เป็นจริงทั้งในอดีต - ในอดีต ไม่มีใครรอดพ้น เป็นอย่างนี้มานานแล้ว
ืั้เป็นจริงทั้งในปัจจุบัน - ยุคปัจจุบันของท่านก็ไม่มีใครรอดพ้นสภาพธรรมชาติอันนี้
เป็นจริงทั้งในอนาคต - 2500 ปีมาแล้ว ยังไม่มีใครไม่ตาย ไม่แก่ ไม่เจ็บ
และด้วยความรู้ของทั้งคุณและผม ก็สามารถจะหยั่งรู้ได้ว่า
อนาคตนั้น สัจจะธรรมข้อนี้ก็ยังจะคงจริงต่อไปไม่สิ้นสุด ..
อย่างน้อยก็ไม่น้อนกว่า 2550 ปีเป็นแน่แท้

เราเรียกความรู้ประเภทนี้นี้ว่าเป็น ธรรมะ (ธรรมชาติ ธรรมชาติมันเป็นของมันอย่างนี้)
ธรรมะ จึงเป็นสภาวะของความจริงตามธรรมชาติ
ไร้กาลเวลา แต่มีอยู่ตลอดเวลา
ไร้สถานที่ แต่มีอยู่ทุกที่
ไร้รูปร่าง แต่มีอยู่ในทุกรูปร่าง (ไม่เว้นแม้แต่สิ่งที่ไม่มีรูปร่างเช่น ความรัก ความดี ความซื้อสัตย์)

สัจจะภาวะเหล่านี้ มันมีอยู่ก่อนจะมีศาสนาพุทธ
แม้จะไม่มีศาสนาพุทธแล้ว มันก็จะยังมีอยู่
จึงเรียกว่า ธรรมะนั้นเป็นสากล
ถ้าคุณยังเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้ ไม่ว่าจะในฐานะรูปร่างอะไรก็ตาม ศาสนาไหนก็ตาม
ก็ล้วนแล้วแต่ได้ร่วม share อยู่ในสัจจะภาวะเดียวกัน
ไม่ใช่ลิขสิทธิ์ของใคร สีอะไร ยี่ห้ออะไร
สัจจะภาวะเช่นความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ล้วนเป้นของทุกคน...เป้นต้น


คุณว่าเทพ อนัค /เทพซุส/ เซเรส ฯลฯ ของอียิปต์หรือของกรีก มีจริงไหม เป็นเทพจริงไหม
เราคงใช้มากที่สุดเพียงคำว่า "อาจจะ" เพราะไม่มีใครนับถือในฐานะศาสนา
เคยมีอยู่จริงในอดีต แต่ปัจจุบันไม่มีความเป้นเทพแล้ว
เป็นเพียงข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ว่าคนสมัยนั้น ตรงนั้น นับถืออย่างนั้นๆ ชื่อนั้นๆ

ในขณะเดียวกัน ศาสนาคริสต์ อิสลาม ในปัจจุบัน ต้องตอบว่า พระเจ้ามีอยู่จริง
แล้วอีกสัก 5000 พันปี คนสมัยนั้นจะนับถือพระเจ้าในแบบไหน
เหมือนกับเราในปัจจุบันที่มองย้อนไปยังอียิปต์หรือกรีก หรือไม่

เทพทุกอย่าง หรือพระเจ้าของทุกศาสนา ทางพุทธยอมรับว่ามีอยู่จริง
แต่จริงในห้วงระยะเวลาหนึ่ง
แต่ไม่ใช่ของที่เป็นของจริง (ไม่เป็นสัจจะธรรม) ที่จะอยู่ตลอดไป
ไม่เหมือนสัจธรรมที่ว่า ...
ความเกิด การตั้งอยู่ และการดับไปของสรรพสิ่งเป้นของแน่นอน ...


ผมนับถือศาสนาพุทธ เหมือนกับการที่เรายอมรับความคิดของนักปราชญ์ท่านหนึ่ง
นักปราชญ์ที่เป็นพระศาสดาได้เป็นผู้มองเห็นสภาวะต่างๆนี้อย่างลึกซึ้ง
มากมาย กว้างขวาง ทะลุปรุโปร่ง
แล้วได้นำสภาวะเหล่านี้ มารวบรวม เป็นระบบ และเมื่อท่านได้ศึกษา พิสูจน์ จนแน่ใจแล้วว่าเป็นสัจจะภาวะแน่นอน พิสูจน์ได้ และเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์
จึงได้นำออกเผยแพร่ สั่งสอน อธิบาย ต่อๆกันมา

ส่วนคำว่าศาสนาพุทธ ที่มีภาพเป็นเรื่องพิธีกรรมก็ดี ความเชื่อหลายๆอย่างก้ดี
รูปแบบหลายๆอย่างก็ดี มีสีเหลือง มีเครื่องแบบ ฯลฯ
ล้วนเป็นแต่เพียงเครื่องอุปโลกน์ เครื่องประกอบ ที่เกิดขึ้นตามสภาพธรรม ของแต่ละพื้นที่
ถ้าศาสนาพุทธในยุโรป ผมคิดว่าเครื่องแบบ คงหนากว่านี้
เผลอๆอาจจะใส่ hood เหลืองๆกันหมด ดอกไม้จันอาจจะเป็นดอกลิลลี่

สิ่งประกอบ สิ่งอุปโลกน์ ทั้งหลายเหล่านี้เหล่านี้ ี้ล้วนแล้วแต่ไม่เที่ยงแท้แน่นอน เป้นของที่แปลกแตกต่างไปตามพื้นที่ ความความนิยม ตามยุคสมัย

อ้างอิงจาก:
พุทธของท่านทั้งหลายอยู่ที่ใหน (หิ้งพระ วัด เหรียญ อภินิหาร ฯลฯ)


ถ้าใช้คำว่า ศาสนาพุทธอยู่ที่ไหน คงต้องรวมทุกอย่างที่ท่านระบุตัวอย่างมา
และผมอาจจะรวมถึงทุกนิกาย รวมการไหว้แบบแปลกๆ นุ่งห่มแปลกๆ ใช้อุปกรณ์แปลกๆ
คนที่ระบุในบัตรประชาชน คนที่อยู่ในท้องมารดาที่นับถือพุทธ
ศาสนาพุทธ อยู่ในทุกอย่างหล่านี้


แต่สำหรับคำว่า "พุทธ(ของผม)อยู่ที่ไหน"ผมจึงอยากจะตอบว่า ..
พุทธของผมอยู่ที่สัจจะภาวะ ... พุทธคือสัจจะภาวะ
สภาวะความจริงทั้งแหลายนั้นแล คือความเป็นพุทธธรรม
ไม่ได้อยู่ที่พระบรมสารีริกธาตุ ไม่อยู่ที่พระพุทธรูป
ดังพระศาสดาตรัสไว้ว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา

เมื่อเห็นธรรม ท่านติ๊ต่างโดยอนุโลมสำหรับคนที่อยากพบท่านเมื่อท่านไม่อยู่แล้ว
ว่า .. เห็นธรรมเมื่อไหร่ ก็ถือว่าเห็นพระองค์ก็แล้วกัน


ไม่ใช่ ... ต้องเห็นกระดูกเรา จึงจะเห็นเรา
ต้องไหว้กระดูกเราครบ 9 วัด 900 จบ จะได้มาพบเรา
... อันนั้นมันเป็นการพลิกแพลงปรุงแต่งไปตามจริตของแต่ละกลุ่ม แต่ละก้อน

เพราะถ้าเราบอกว่า ไหว้พระครบ 9 วัดจะได้ขึ้นสวรรค์
คำถามคือ... แน่นอนหรือ? ไหว้ด้วยกัน 100 คน... ทั้งร้อยคนได้ไปเหมือนกันหมดไหม?

ถ้าไหว้แล้วได้ไปหมดทั้งร้อยคน แปลว่าเป็นสัจจะธรรม เป้นพุทธธรรม
แต่ถ้าไม่ใช่ บางคนได้ บางคนไม่ได้ไป
แปลว่ามันก็ไม่แน่นอน ... มันก็ไม่ใช่พุทธธรรม
แต่มันจะเป็น นายดำธรรม นายแดงธรรม นางเหลืองธรรม อาจารย์เขียวธรรม อาจารย์ขาวธรรม ...

ถ้าเป็นพุทธธรรมต้องเป็นจริง ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
หากไม่เข้าข่ายนี้ ... ไม่ใช่พุทธธรรม ...
แต่มันเป็นธรรมมะของคนบางกลุ่ม บางคน ..ที่อยู่ในศาสนาพุทธ
คนเลยสับสนว่านี่คือพุทธธรรม


แต่การที่เราเคารพ บูชา กราบไว้ วัตถุเหล่านั้น จะอุปมาอย่างนี้ครับว่า

พ่อแม่เลี้ยงท่านมา มีความรักปารถนาดี เลี่ยงดูปูทาง ชี้ทางให้ความรู้
ต่อมาท่านไปสบายแล้ว...

ท่านจะยังเคารพกราบไหว้หรือไม่
ท่านจะยังไปอ่านอันกุ๊ซให้ที่หลุมศพท่านไหม
ท่านจะยังขอพรต่อพระเป็นเจ้าเพื่ออำนวยพรให้วิญญาณของพ่อแม่ท่านหรือไม่

ท่านทำอย่างนั้นทำไม ในเมื่อพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว
ชาวพุทธกราบไหว้พระพุทธเจ้าทำไมเมื่อท่านไม่อยู่แล้ว ดับแล้วไม่ใช่เหรอ

ท่านติดรูปถ่าย ซึ่งก้คือกระดาษเปื้อนสีรูปพ่อแม่ไว้ในบ้านเพื่อเคารพบูชาทำไม
ทั้งๆที่รูปก็ไม่ใช่ส่วนใดๆเลยของร่างกายพ่อแม่

ชาวพุทธเอาเศษหินดินทราบมาทำเป็นรูปพระพุทธเจ้าแล้วเอามากราบไว้ทำไม
ทั้งๆที่ไม่ใช่ส่วนใดเลยของพระพุทธเจ้า

เหตุผลง่ายๆ คือเราเป็นปุถุชน คนธรรมดาครับ
เรารัก เคารพ ระลึกถึง แล้วก็แสดงออกไปตามความชอบ ตามยี่ห้อที่นับถือ
ตามจรติของสังคมที่ตัวเองอยู่


อ้างอิงจาก:
แล้วท่านเป็นพุทธที่ดีหรือยัง

อ้างอิงจาก:
ท่านมั่นใจได้อย่างไรว่า ศาสนาพุทธดีที่สุด


- ต้องการเป็นพุทธที่ดี พยามจะเป็นพุทธที่ดี
- พุทธ(ธรรม)ศาสนา ดีที่สุดสำหรับผมเพราะเป็นของจริง ของแท้
จริงแท้ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ปราศจากข้อสงสัย ท้าทายการพิสูจน์

แต่คำว่า "ดี" ของท่านเจ้าของกระทู้กับของผมอาจจะ สั้นยาวไม่เท่ากัน
อาจจะคนละหน่วย จึงยากจะตอบกันเรื่องแบบนี้
ถ้าเรื่องไหนใครเคร่งมาก ก็คงใช้แสงเลเซอร์มาวัดความสั้นยาวกัน
เคร่งกลางๆ อาจจะใช้ไม้ฟุตเหล็ก
ถ้าไม่เคร่งมาก ก็อาจจะกะๆเอา สามวา สองศอก

อีกอย่างผมก็แค่คนศึกษาเรื่องพวกนี้ ยังไม่ถึงที่สุดอย่างพระพุทธเจ้า
เลยยังไม่มันใจว่า ความดีที่แท้ของพุทธนั้นเป็นอย่างไร
เมื่อแจ้งแก่ใจไร้ข้อสงสัย ค่อยว่ากันอีกทีคับ

ขอบคุณสำหรับคำถามนะคับ
แต่เล่นเอาเหนื่อยตอบเลยทีเดียว
ปล.ผมเขียนของผมเองนา ไม่ได้ลอกใครมา
...............................................

Disclaimer : ความคิดเห็นของผมนั้นเป็นแต่เพียงของที่รู้วันนี้ อย่างนี้ เท่านี้
.."ธรรมทั้งหลาย ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น" ... หากท่านใดคิดเห้นอย่างไร ขอรบกวนชี้แนะมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณคับ
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ลูกศิษย์
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 31 พ.ค. 2008
ตอบ: 1

ตอบตอบเมื่อ: 31 พ.ค.2008, 6:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถือพุทธะเพราะอะไร
-- เพราะ ทุกข์เบาลง เมื่อได้ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรม (คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า)
พุทธของท่านทั้งหลายอยู่ที่ไหน
- อยู่ที่ใจ อยู่ที่การกระทำที่ออกมาจากใจ
ท่านเป็นพุทธที่ดีหรือยัง
- ยังไม่เป็นพุทธที่ดีเท่าที่"ใจ"นึก"อยาก"ให้"เป็น" และพยายามเดินตามหลังพระพุทธองค์อยู่

ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี แต่ละศาสนาบอกว่าศาสนาตนดีที่สุด -- คนแต่ละคนมีความชอบต่างกัน เปรียบได้กับ บางคนชอบอาหารจีน บางคนชอบอาหารไทย บางคนชอบอาหารฝรั่ง แต่ละคนก็บอกว่า อาหารที่ตัวเองชอบนั้น รสชาติ"ดีที่สุด อร่อยที่สุด" อาหารชาติไหนๆ แบบไหน ก็ให้ความอิ่มได้

-- มั่นใจได้อย่างไร ว่าศาสนาพุทธดีที่สุด
สำหรับตัวเอง ขณะที่ปฏิบัติตาม"คำสอน"แล้ว รู้ว่าทุกข์ลดลง เปรียบเที่ยบกับอาหาร ก็คล้ายกับ คนที่กินอาหารที่ตัวเองชอบแล้ว ขณะที่กิน ก็ไม่มีความใส่ใจที่จะนึกถึงอาหารชนิดอื่นอีก
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
สี บุญมา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ม.ค. 2008
ตอบ: 83

ตอบตอบเมื่อ: 18 มิ.ย.2008, 6:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บางท่านตอบจากการปฏิบัติจริง
บางท่านตอบจากการเรียนมาจริง
บางท่านตอบจากการลอกมาจริง
นานาจิตตัง สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
dd
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 17 มิ.ย. 2008
ตอบ: 179
ที่อยู่ (จังหวัด): overseas

ตอบตอบเมื่อ: 23 มิ.ย.2008, 5:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
ท่านมั่นใจได้อย่างไรว่า ศาสนาพุทธดีที่สุด


แต่ก่อนโง่ เดี๋ยวนี้เร่ิมมีปัญญาเพราะ
เช่ือคำสอนของพระพุทธเจ้า สามารถมีชีวิตด้วยความสงบสุข
แ ม้มีปัญหาก็แก้ไขได้ด้วยปัญญาไม่ต้องว่ิงพล่านหาเจ้าหรือเทพ
เพ่ืออ้อนวอนขอให้ช่วย เข้าใจเหตุท่ีนำผลมาให้ตนและคนอื่น
ไม่ต้องเข้าทรงถามไม่ต้องหาหมอดูให้พยากรณ์ถูกๆผิดๆจนน่าระอา
และสามารถระวังจิตใจ กายและวาจาไม่ให้สร้างทางไปอบาย อย่างท่ีเคยขยันสร้างทางไปนรกเม่ือก่อนท่ียังเป็นพุทธ ตามทะเบียนบ้าน
รู้ด้วยประสบการณ์ของตนเองและจากการสมาคมกับคนอื่นว่า ศาสนาพุทธเท่านั้นท่ีสอนให้คนมีปัญญา..จนถึงขนาดสามารถพาตนให้พ้นจาก
สังสารทุกข์ได้ในท่ีสุด ไม่มีศาสนาใดทำได้เท่า
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
hs6kjg
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 28 มิ.ย. 2008
ตอบ: 7

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2008, 1:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สี บุญมา พิมพ์ว่า:
ก็ข้าพเจ้าเคยศึกษา อ่าน เปรียบเทียบมาหลายศาสนา ใครก็ว่าใครดีที่สุด ข้าพเจ้าไม่อยากให้ท่านทั้งหลายเห็นว่าพุทธดีที่สุดเพราะในบัตรประชาชนท่านทั้งหลายระบุตั่งแต่เกิดว่าเป็นพุทธ

ในการตั้งกระทู้นี้ไม่มีความต้องการให้ท่านทั้งหลายเปรียบเทียบ แต่ให้ท่านที่เป็นพุทธบอกมาหน่อยว่าท่านถือพุทธเพราะอะไร(ต้องการความคิดเห็น ไม่ต้องการบทความที่ก๊อบมา)

พุทธของท่านทั้งหลายอยู่ที่ใหน (หิ้งพระ วัด เหรียญ อภินิหาร ฯลฯ)

แล้วท่านเป็นพุทธที่ดีหรือยัง

สาธุ


ถ้าไม่เปรียบเทียบคงมองไม่เห็นเปรียบเหมือนตาบอดคลำช้าง
สรุปมาให้พิจารณากันครับ

เรื่อง ศาสนาพุทธต่างจากศาสนาอื่นอย่างไร?
ที่นี่ http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16391
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
Buddha
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415

ตอบตอบเมื่อ: 11 ก.ค.2008, 10:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สี บุญมา พิมพ์ว่า:
ก็ข้าพเจ้าเคยศึกษา อ่าน เปรียบเทียบมาหลายศาสนา ใครก็ว่าใครดีที่สุด ข้าพเจ้าไม่อยากให้ท่านทั้งหลายเห็นว่าพุทธดีที่สุดเพราะในบัตรประชาชนท่านทั้งหลายระบุตั่งแต่เกิดว่าเป็นพุทธ

ในการตั้งกระทู้นี้ไม่มีความต้องการให้ท่านทั้งหลายเปรียบเทียบ แต่ให้ท่านที่เป็นพุทธบอกมาหน่อยว่าท่านถือพุทธเพราะอะไร(ต้องการความคิดเห็น ไม่ต้องการบทความที่ก๊อบมา)

พุทธของท่านทั้งหลายอยู่ที่ใหน (หิ้งพระ วัด เหรียญ อภินิหาร ฯลฯ)

แล้วท่านเป็นพุทธที่ดีหรือยัง

สาธุ


.........................................................
กระทู้ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน

มีเพื่อนมาชวนให้เปลี่ยนศาสนา...จะดีไหม?
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6088





ตอบ... ก่อนที่ท่านทั้งหลายจะอ่านข้อแสดงความคิดเห็นของข้าพเจ้า ต้องทำความเข้าใจไว้ก่อนว่า ข้อแสดงความคิดเห็นของข้าพเจ้าเป็นเพียงข้ออ้างอิง ยกตัวอย่าง และเปรียบเทียบ กับหลักธรรมชาติของมนุษย์ ไม่มีเจตนาจะยกยอปอปั้น ตัวข้าพเจ้า เพราะ
ถ้าหากข้าพเจ้า คือ "ศาสดาแห่งศาสนาทั้งมวล " ข้าพเจ้าก็จะแนะนำทุกท่านว่า ศาสนาไม่ใช่เป็นสิ่งที่มนุษย์จะเอามาเปรียบเทียบกัน เพราะศาสนาแต่ละศาสนา ย่อมมีความเหมาะสม ต่อสภาพภาวะลมฟ้าอากาศ สภาพภูมิประเทศ และเผ่าพันธุ์เชื้อชาติ ของมนุษย์ในแต่ละภูมิภาค
ศาสนาหนึ่งในภูมิภาคแห่งหนึ่ง อาจไม่เหมาะต่อมนุษย์ ในอีกภูมิภาคหนึ่ง
คล้ายกับการรับประทานอาหาร และเครื่องนุ่งห่มนั่นแหละ แต่ศาสนานั้น เป็นเครื่องนุ่งห่มทางใจและความคิด เป็นเครื่องปกป้องภายในร่างกาย นี้เป็นข้อแตกต่างกับปัจจัยภายนอก
การนำเอาศาสนามาเปรียบเทียบกันนั้น รังแต่จะทำให้เกิดความแตกแยกในมวลหมู่มนุษย์
อีกประการหนึ่ง อันสภาพสภาวะจิตใจของมนุษย์ ล้วนต้องมีความหวงแหนเข้าข้าง ในสิ่งของ วัฒนธรรมจารีต รวมไปถึงศาสนาที่ตัวเองมี เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ศาสนาที่อยู่ในภูมิภาคใด มนุษย์ในภูมิภาคนั้น ก็ล้วนต้องมีความเห็นว่า ศาสนาของตัวเองดีกว่าศาสนาอื่น เป็นธรรมดา
ยังมีอีกมากในเรื่องของศาสนาและความสัมพันธ์ของศาสนาในแต่ละภูมิภาคในที่นี้จะไม่กล่าวถึง
แต่จะบอกให้ทุกท่าน โดยเฉพาะผู้ตั้งกระทู้ว่า
ศาสนาพุทธ (ศรีอาริยเมตไตรย) คือศาสนาที่ดีที่สุด ไม่มีมนุษย์หน้าไหน เชื้อชาติไหน หลีกพ้นหลักธรรมคำสอน และคำว่าดีที่สุดนี้ หมายความว่า เป็นศาสนาที่มีหลักธรรมคำสอน อันมนุษย์ ย่อมเป็นไปตามหลักธรรมคำสอน เพราะไม่ว่าจะอยู่ในภูมิภาคไหนของโลก ก็ล้วนต้องมีต้องเป็น ต้องประพฤติทั้งทางกาย วาจา และใจ ตามหลักธรรมคำสอน แห่งศาสนาพุทธ(ศรีอาริย์) ทั้งสิ้น เพราะศาสนาที่แท้จริงนั้น คือธรรมชาติของมนุษย์ ไม่ใช่มนุษย์มาสร้างธรรมชาติต่างๆด้วยตัวเอง แต่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

(หมายเหตุ) ข้อความข้างต้น เป็นเพียงข้อแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ใช่การเปรียบเทียบกับศาสนาอื่นๆ เพราะศาสนาทุกศาสนาล้วนมีต้นตอต้นกำเนิดมาจากแหล่งเดียวกัน
นที่นี้จะไม่อธิบายถึงศาสนาอื่นๆว่า ศาสนาอื่นๆ ก็เป็นศาสนาที่ดีที่สุดเช่นกัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 11 ก.ค.2008, 6:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าหากข้าพเจ้า คือ "ศาสดาแห่งศาสนาทั้งมวล " ข้าพเจ้าก็จะแนะนำทุกท่านว่า ศาสนาไม่ใช่เป็นสิ่งที่มนุษย์จะเอามาเปรียบเทียบกัน เพราะศาสนาแต่ละศาสนา ย่อมมีความเหมาะสม ต่อสภาพภาวะลมฟ้าอากาศ สภาพภูมิประเทศ และเผ่าพันธุ์เชื้อชาติ ของมนุษย์ในแต่ละภูมิภาค

ตัวอย่างหนึ่งของความเพี้ยน นายคนนี้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ปกรณัม
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 12 ก.ค. 2008
ตอบ: 52
ที่อยู่ (จังหวัด): ขอนแก่น

ตอบตอบเมื่อ: 12 ก.ค.2008, 11:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอนแรกๆผมนึกว่าจะเป็นกระทู้หักล้างกับความเชื่อ

แท้จริงแล้วผมนึกผิด เมื่อผมได้มาลองอ่าน คห.ต่างๆ แล้ว

ผมขอบคุณมากนะครับที่ทำให้ตระหนักว่าแท้จริงแล้ว ผมนับถือเพราะอะไร

ผมนับถือแล้วปฏิบัติตามหรือไม่

ตอนนี้ผมบอกได้เลยว่า ความเชื่อของผมไม่ต่างจากเมล็ดที่เกิดอยู่บริเวณสอกหินเท่านั้น เกิดได้ไม่นานก็ตาย...

ขอบคุณครับที่ช่วยปลุกธรรมมะที่หลับไหลอยู่ให้ตื่นขึ้น ผมจะต้องปฏิบัติตัวให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ให้จงได้ เชื่อว่าสักวันต้องทำสำเร็จ

ขอบคุณ คุณ สี มากครับ ซึ้ง แลบลิ้น
 

_________________
คนที่ไม่ทำงานไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่!
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง