Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 อ่านแล้วไม่ต้อง “ซีเรียส” นะคะ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ดุสิตธานี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 21 ก.ย. 2007
ตอบ: 352
ที่อยู่ (จังหวัด): สุโขทัยธานี

ตอบตอบเมื่อ: 29 ม.ค. 2008, 8:26 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรื่องวัตถุดิบ

ญาติโยมหลายท่านมักถามว่า
" ท่านบวชเรียนมาตั้งแต่อายุยังน้อย อยู่ในเพศบรรพชิตมามากกว่าครึ่งชีวิต มีโอกาสสัมผัสชีวิตฆราวาสไม่มากนัก
แล้วเอาข้อมูล วัตถุดิบหรือมุกมาจากไหนหนักหนา"

อาตมาก็ตอบว่า หลักๆ เลยก็คือ การอ่าน นอกจากนั้นก็หนัง ละคร ที่ญาติโยมดูกันนั่นแหละ
พอตอบออกไปอย่างนี้ โยมก็สวนกลับทันที
" ไม่ผิดข้อห้ามหรือท่าน"

อาตมาก็จะอธิบายไปว่า ดูเพื่อให้เท่าทันกิเลสจะได้สกัดมันถูก และที่สำคัญ หากอาตมาไม่รู้หรือไม่เข้าใจ
ตลอดจนไม่เท่าทันเรื่องราวทางโลกและ จะมาบรรยายธรรมให้ญาติโยมรู้สึกอินกันได้อย่างไร
ซึ่งนอกจากการอ่าน การดูและการฟังแล้ว หลายวัตถุดิบที่นำมาสร้างเป็นมุกฮา ก็ได้มาจากการพูดคุยกับ
เหล่าโยมๆ นี่แหละ
อย่างวันหนึ่งระหว่างที่อาตมากำลังฉันเพลอยู่ก็มีโยมท่านหนึ่งโทร.มา
" พระอาจารย์เหรอคะ นี่อาตมาเองนะคะ"
" หา อะไรนะ"
" พระอาจารย์เหรอคะ นี่อาตมาเองค่ะ"
" ถ้าโยมแทนตัวว่าอาตมา แล้วอาตมาจะแทนตัวอาตมาว่าอะไร"
" อ๋อ ขอโทษค่ะ"
หลังจากนั้นก็คุยธุระกันจนจบ อาตมาก็กล่าวว่า
" เจริญพร"
" ค่ะ เจริญพรเช่นกัน"
แน่ะ มีอวยพรให้พระด้วย

ข้างต้นก็คือ สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ ระหว่างพูดคุยกับเหล่าญาติโยม จนถือว่าเป็นเรื่อง
ปกติสำหรับอาตมาไปแล้ว หรืออย่างก่อนหน้านี้มีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง เดินถือสังฆทานมาอย่างมาดมั่น
พอเข้ามาในกุฏิแล้ว เธอก็มุ่งตรงไปที่พระบวชใหม่รูปหนึ่งทันที
" ถวายสังฆทานค่ะ"
พระบวชใหม่ด้วยความที่ยังจำบทสวดต่างๆ ไม่ค่อยคล่องนัก จึงหยิบหนังสือขึ้นมาดู
" ไม่ต้องค่ะ" โยมผู้หญิงคนนั้นกล่าวอย่างหนักแน่นตามสไตล์สาวมั่น
" ดิฉันท่องได้ค่ะ เพราะคุณยายพาเข้าวัดตั้งแต่เด็กๆ" เธอพนมมือขึ้น ก่อนกล่าวว่า
" อิมานิ มะยัง ภันเต สะปะริวารานิ คิกขุ สังโฆ" ( ที่ถูกต้อง จะต้องเป็น ภิกขุ สังโฆ)
พระบวชใหม่มีสีหน้างุนงง ก่อนหันมาถามอาตมา
" คิกขุสังโฆ นี่มันฟังทะแม่งๆ นะหลวงพี่"
อาตมาเกรงว่าโยมผู้นั้นจะหน้าแตก ก็เลยตอบไปว่า
" คิกขุ แปลว่า น่ารัก สังโฆ แปลว่าสงฆ์ คิกขุสังโฆ ก็คือ แด่พระสงฆ์ผู้น่ารัก"
เท่านั้นแหละ พระใหม่รูปนั้นนั่งยืดทั้งวันเลย

แต่ก็มีบางกรณี ที่การพูดผิดของคุณโยมทำให้อาตมาแทบจะสำลัก
อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ มีโยมท่านหนึ่งโทรศัพท์มา
" หลวงพี่ขา ขอเรียนเชิญนิมนต์ค่ะ"
" ไปไหนล่ะโยม"
" ไปมรณภาพที่บ้านน่ะค่ะ"
โห นิม นต์พระไปตายถึงที่บ้านเลย อาตมาจึงบอกไปว่า ถ้านิมนต์ไปงานศพไปให้ได้
แต่ถ้าเชิญไปมรณภาพนี่ ช่วงนี้อาตมาไม่ว่างจริงๆ ขอตัวเถอะนะโยม

จากตัวอย่างที่อาตมาเล่าไว้ข้างต้น คุณโยมอาจจะเห็นเป็นเรื่องขบขัน แต่มันก็สะท้อน
ให้เห็นความห่างเหินระหว่างคนกับวัดได้ในระดับหนึ่ง ปัจจุบันนี้คนจะนึกถึงวัดในกรณีพิเศษ
เท่านั้น เช่นงานบวช งานศพ ต่างกับสมัยก่อนที่วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน ฆราวาสกับพระจึง
สนทนากันไหลลื่น ไม่มีคำแปลกๆ หรือผิดที่ผิดทางออกมาให้พระสุดุ้งแต่อย่างใด
ซึ่งถ้าพูดถึงศัพท์แสงที่แสลงใจแล้ว ตอนไปบิณฑบาตอาตมาจะเจอบ่อยมาก เช่นมีอยู่
ครั้งหนึ่งระหว่างที่กำลังเดินๆ อยู่ ก็ได้ยินเสียงใสๆ แว่วขึ้นมา
" แม่ๆ พระมาขอข้าว"
" มาเยอะไหมลูก"
" มา 2 อัน"
โห เรียกอย่างกับชิ้นส่วนรถยนต์ นี่ถ้ามาเยอะๆไม่เรียกเป็นฝูงเลยเหรอ
ดังนั้นเวลาไปบรรยายธรรมให้นักเรียนฟังอาตมาจะนำเรื่องนี้ไปสอดแทรกเพื่อสอน
เด็กๆ ด้วย
" ถ้าพระกิน เรียกว่า ฉัน"
" พระนอน เรียกว่า จำวัด" (บางคนเรียกขี้เกียจเป็นพระนอนไม่ได้)
" พระป่วย เรียกว่า อาพาธ"
" พระตาย เรียกว่า มรณภาพ" (ไม่ใช่เรียกป่อเต็กตึ๊งนะ)
" แล้วพระอาบน้ำล่ะ เรียกว่าอะไรเอ่ย" คราวนี้อาตมาถามให้เด็กๆ ตอบบ้าง
" เรียกคนมาดู"
; จบกัน


.................................................................

อ่านกันเล่นๆ เน๊อะ ขำดี.......... ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
“จงทำจิตให้บริสุทธิ์” ด้วยความดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น หรือแม้กระทั่ง “ตัวของเราเอง”
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ใบโพธิ์
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2007
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 29 ม.ค. 2008, 4:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ทำความดีทุกๆ วัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กามโภคี
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 17 ก.พ. 2008
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 17 ก.พ.2008, 11:43 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน
หะๆๆ อาการเซ็งเป็ดหายเลยครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67

ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2008, 6:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยิ้มเห็นฟัน น่ารักครับ ความบันเทิงในพระศาสนา ยิ้มเห็นฟัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
สุรเชฏฐ์ ไลตระกูล
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 24 ก.พ. 2008
ตอบ: 24
ที่อยู่ (จังหวัด): นครปฐม

ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2008, 9:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สำนวนการบรรยาย คล้ายพระมหาสมปอง นับถือ เข้าใจง่าย เข้าถึงกลุ่มผู้ฟัง
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
bansadet
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 03 มี.ค. 2008
ตอบ: 13
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 06 มี.ค.2008, 2:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป็นเรื่องของภาษา เท่านั้นเองครับ ภิกขฺ ก็แปลว่าผู้ขอ อยู่แล้วครับ บุคคลที่ตายไปแล้ว ก็หมดสภาพความเป็นบุคคลนั้นไปแล้ว ถึงแม้เป็นพระสงฆ์ ก็หมดสภาพความเป็นบุคคลนั้นแล้ว ไปเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็นเด็ก เล็ก ๆ คนอื่น ๆ ต่อไป (ยกเว้นศพพระอริย ก็เป็นธาตุ ของบุคคลผู้ควรแก่การเป็น เจดีย์ ของมนุษย์ ทั้งหลาย) ไม่มีใครให้พรใครได้ครับ >>>แม้พระพุทธเจ้ายังไม่ให้พระเลยพระเจ้าสุทโธทนศากยะทูลขอพระพร ต่อมา พระเจ้าสุทโธทนศากยะเข้าไปเป้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นถึงแล้วถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งครั้นท้าวเธอประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลขอพระพรต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าว่าหม่อมฉัน ขอประทานพรต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าสักอย่างหนึ่ง พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าถวายพระพรว่า ดูก่อนพระองค์ผู้โคตมะ ตถาคต
ทั้งหลายมีพรล่วงเลยเสียแล้ว.
สุท. หม่อมฉันทูลขอพรที่สมควรและไม่มีโทษ พระพุทธเจ้าข้า.
ภ. พระองค์โปรดตรัสบอกพรนั้นเถิด โคตมะ.
สุท. เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงผนวชแล้ว ความทุกข์ล้นพ้นได้
<<<<<< เพราะเห็นอย่างใดก็ได้อย่างนั้นอยู่แล้ว ขอรับ
(พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้าที่ 282)
 

_________________
สังวรที่ตรัสไว้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อน อชิตะ กระแส(ตัณหา) เหล่าใดในโลกมีอยู่ สติย่อมเป็นเครื่องห้ามกระแสเหล่านั้น http://bansadet.9f.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 22 ส.ค. 2008, 4:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
kokorado
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 12 ก.ค. 2008
ตอบ: 104
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 22 ส.ค. 2008, 6:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มีข้อน่าคิดอยู่ว่าพระศาสดาของเรายังไม่พูดให้ตลกเลย การกระทำเช่นนี้ดีจริงเหรอ
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 22 ส.ค. 2008, 9:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
อิทธิกร
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 28 ส.ค. 2008
ตอบ: 137
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 3:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

io
 

_________________
ชีวิตที่รู้
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 12:42 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เห็นชื่อกระทู้ทีแรก คิดว่าเป็นเรื่องหนัก ๆ ซะอีก ยังงี้ต้องบอกว่า ดู๊ ดู ดูเธอทำ...
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง