Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ความซับซ้อนของกรรม (สมเด็จพระญาณสังวรฯ) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
poivang
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 18 มิ.ย. 2005
ตอบ: 224

ตอบตอบเมื่อ: 03 ม.ค. 2008, 11:16 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ความซับซ้อนของกรรม
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช


การเขียนหนังสือด้วยปากกาหรือดินสอลงบนกระดาษแผ่นเดียวนั้น เขียนลงครั้งแรกก็ย่อมอ่านออกง่าย อ่านเข้าใจง่าย แต่ยิ่งเขียนทับเขียนซ้ำลงไปบนกระดาษแผ่นเดียวนั้นตัวหนังสือยิ่งจะทับกันยิ่งขึ้นทุกที การอ่านก็ยิ่งอ่านยากขึ้นทุกทีจนถึงอ่านไม่ออกเลย ไม่เห็นเลยว่าเป็นตัวหนังสือ จะเห็นแต่รอยหมึกหรือรอยดินสอทับกันไปทับกันมา ให้เพียงรู้เท่านั้นว่ามีการเขียนลงบนกระดาษแผ่นนั้นอ่านไม่รู้เรื่อง และไม่รู้ว่าอะไรเขียนก่อนและอะไรเขียนทีหลัง

การทำกรรมหรือการทำดีทำชั่วก็เช่นกัน ต่างได้ทำกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วนทับถมกันมายิ่งกว่าตัวหนังสือที่เขียนทับจนอ่านไม่ออกและไม่สามารถรู้ว่าอะไรเขียนก่อนอะไรเขียนทีหลัง เหมือนกับการทำกรรมใดไว้ก็ไม่รู้ว่ากรรมใดทำก่อนกรรมใดทำทีหลัง ไม่สามารถรู้และแยกว่าทำอะไรดีมาบ้าง ทำอะไรไม่ดีมาบ้าง ทำดีทำไม่ดีอะไรทำก่อนอะไรทำทีหลังไม่สามารถแยกแยะได้ และทำมากทำน้อยทำหนักทำเบากว่ากันอย่างไร เป็นความซับซ้อนของกรรมที่ทำไว้จนแยกไม่ออกมาหลายภพหลายชาติ เช่นเดียวกับการเขียนหนังสือที่ทับกันไปเรื่อยๆ จนอ่านไม่ออกและไม่รู้ว่าคำไหนเขียนก่อนเขียนทีหลัง

ความซับซ้อนของกรรม แตกต่างจากความซับซ้อนของตัวหนังสือ ตรงที่ตัวหนังสือเมื่อเขียนทับกันมากๆ ย่อมไม่มีทางรู้ว่าเขียนเรื่องดีหรือเขียนเรื่องไม่ดีอย่างไร แต่กรรมนั้นแม้ทำซับซ้อนมากเพียงไร หรือทำกรรมไม่ดีไว้มากน้อยเพียงใด โดยผลที่ปรากฏขึ้นของกรรมนั้นเองเป็นเครื่องช่วยแสดงให้เห็น

ชีวิตหรือชาตินี้ของทุกคนมีชาติกำเนิดไม่เหมือนกัน เป็นไทยก็มี จีนก็มี แขกก็มี ฝรั่งก็มี เป็นต้น มีชาติตระกูลไม่เหมือนกัน ตระกูลสูงก็มี ตระกูลต่ำก็มี ฐานะต่างกันร่ำรวยก็มี ยากจนก็มี สติปัญญาต่างกัน โง่ก็มี ฉลาดก็มี ความแตกต่างห่างกันนานาประการเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องชี้ให้ผู้เชื่อในกรรมและผลของกรรม เห็นความมีภพชาติในอดีตของแต่ละชีวิตในชาติปัจจุบันที่เกิดมาต่างกันในชาตินี้ เพราะทำกรรมที่ต่างกันไว้ในชาติอดีต

ความแตกต่างของชีวิตที่สำคัญที่สุดที่แสดงให้เห็นอำนาจที่ใหญ่ที่สุดของกรรม คือความได้ภพชาติของมนุษย์ กับความได้ภพชาติของสัตว์ เป็นต้น แม้เทวดาอาจมาเป็นมนุษย์ได้เป็นสัตว์ก็ได้ มนุษย์อาจเป็นเทวดาได้เป็นสัตว์ได้ สัตว์อาจเป็นเทวดาได้เป็นมนุษย์ได้ ด้วยอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของกรรมอันนำให้เกิดนั่นเอง

สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง