Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ชายสามโบสถ์ ช่วยขยายความหน่อยครับ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ยุทธนา ศรีสง่า
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 22 พ.ค. 2006
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): ราชบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2007, 11:23 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สงสัย
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวYahoo Messenger
I am
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2007, 12:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คือคนที่บวช ๓ ครั้ง

ท่านว่าเป็นคนใจรวนเร ไม่แน่นอน บวชๆ สึกๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ห้ามคบ (ว่างั้น)
ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
human
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 01 พ.ย. 2006
ตอบ: 41

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 1:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

น่าจะเป็นผู้ที่ชอบเปลี่ยนศาสนาที่นับถือ 3 ครั้งนะ
แต่ถ้าบวช 3 ครั้งไม่น่าใช่นะ
เพราะในบาลีนั้น พระโพธิสัตว์ ตอนที่เป็นชาวบ้านธรรมดามีอาชีพ ทำนา
ก็เคยบวชแล้วสึก ถึง 6 ครั้ง จนครั้งที่ 7 จึงตัดใจได้ บวชแล้วไม่สึก
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม.
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 22 พ.ค. 2007
ตอบ: 95

ตอบตอบเมื่อ: 30 มิ.ย.2007, 5:28 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เปรียบกับคนที่ใจไม่มีความหนักแน่น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
arcturus
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 17 มิ.ย. 2007
ตอบ: 14

ตอบตอบเมื่อ: 30 มิ.ย.2007, 11:36 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เข้าใจแบบเดียวกับคุณ human ครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
NongBua
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 10 ก.ค. 2007
ตอบ: 21

ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.ค.2007, 7:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อืม ที่จริงแล้วเค้าหมายถึง ผู้ที่โดนจับสึก แล้วไปบวชซ้ำอะคะ
อันนี้เป็นความรู้ด้านภาษาไทย เรื่องภาษิต คำพังเพย นะคะ
ไม่ใช่เรื่องพระพุทธศาสนา ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยคะ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.ค.2007, 8:08 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป็นคำพูดของคนรุ่นปู่ยาตาทวด

ชายสามโบสถ์ คงได้แก่คนที่บวชสามหนบวชๆสึกๆ ท่านคงมองด้านความมั่นคงในชีวิตตั้งหลักปักฐานของผู้นั้นเอง

คือผู้นั้นเอาดีทางไหนไม่ได้สักทางเดียว ไม่ว่าทางพระหรือทางคฤหัสถ์

สมมุติบวชโบสถ์แรก (ครั้งแรก) อายุ 20 ปี บวชได้ 6-7 พรรษา ชาวบ้านและคณะสงฆ์จะแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส

ตนไม่เอา ไม่ชอบปกครองคนวุ่นวาย ไม่อยากรับผิดชอบการก่อสร้าง เป็นต้น ตนทนการรบเร้าจากหลายๆฝ่ายไม่ไหว ก็จึงสึกหนีออกไปเสีย....เมื่ออายุได้ 26-27 ปี

สึกไปทำงาน....ทำมาหากิน ทำไปทำมา 6-7 ปีได้
ต้องต่อสู้กับงานหนักบ้างเบาบ้าง....รับผิดชอบทุกอย่างทั้งในบ้านนอกบ้านเรื่องปากท้องตนเองและพ่อแม่เป็นต้น...

วุ่นวายสารพัดทะเลาะกันบ้างในหมู่ญาติพี่น้อง ฯลฯ
จิตใจเริ่มเบื่ออีกแล้ว...สู้บวชไม่ได้ ยังไงๆ ก็ยังดีกว่านี้ ไม่วุ่นวายแบบนี้ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมายขนาดนี้
บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ ฯลฯ บวชดีกว่า...
6-7 ปีที่สึกออกไป ทำงานก็ยังไม่เป็นหลักเป็นฐาน ตั้งตัวไม่ได้ ทำมาใช้ไป

เข้ามาบวชใหม่ อายุปาเข้าไป 33-34 แล้ว....บวชเป็นพระใหม่อีก
อยู่ไปอยู่มาตามประสา พรรษามากขึ้นๆ

ตนก็ขยับไปนั่งหัวแถว เพราะพระใหม่อื่นๆ ก็สึกหาลาเพศกันไปหมด เหลือตนผู้เดียว เอาอีกแล้ว จะมีเจ้าอาวาสหรือไม่มีก็ตาม ก็คงต้องรับผิดชอบในวัดบ้าง หรืออาจจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส งานก็มีเข้ามามากเช่นกัน

ตนก็ไม่เอางานเอาการเป็นทุนเดิมอยุ่แล้ว เมื่อมีภาระรับผิดชอบมากขึ้น
เบื่ออีก บวชมา 7-8 พรรษา สึกอีก

อายุปาเข้าไปเท่าไหร่แล้ว 40 กว่าแล้ว สึกไปจะไปทำอะไรกิน อายุก็มากขึ้น
สรุป...คนโบราณจึงว่า
คนประเภทนี้ เอาดีไม่ได้สักทาง ไม่ว่าทางพระหรือทางฆราวาส เป็นคนไม่สู้งานจิตใจโลเล ตั้งเนื้อตั้งตัวสร้างหลักฐานสร้างความมั่นคงในชีวิตไม่ได้แล
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
Story Note
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2007
ตอบ: 97

ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.ค.2007, 11:03 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

O^_^O

การตีความ ของ ชาย 3 โบสถ์ ..น่าจะเป็นกุสโลบาย ที่ใช้เตือน..

การที่เป็นชาย 3 โบสถ์ อาจเป็นคน 3 ศาสนาก็เป็นได้ ซึ่งถ้าตนเองไม่มีศาสนาใดไว้ยึด

ชายคนนั้น อาจหาแก่นสารให้กับตัวเองไม่ได้...

และการที่ชายคนนั้น ต้องบวช แล้ว สึก.. ถึง 3 ครั้ง ก็น่าจะเป็นคนหนักไม่เอา เบาไม่สู้

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ใครจะคบด้วยได้ "^-^"
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
aek_nida7
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 22 มิ.ย. 2006
ตอบ: 11
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม

ตอบตอบเมื่อ: 04 ส.ค. 2007, 11:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เอ่อ.. เค้าหมายถึง คนที่หลายศาสนาครับ เข้าไหนก็ได้ แต่ไม่จริงจัง คบไม่ได้

ในอดีต มีพระสาวกท่านหนึ่งบวชประมาณสิบครั้งได้มั้ง สุดท้ายจึงได้บรรลุเป็นพรอรหันต์

ผมว่า ไม่ได้หมายถึงคนบวชหลายครั้งหรอกครับ

คนที่บวช 6-7 ปีแล้วสึกออกมา อย่าได้ไปว่าเค้าเลยครับ ดีที่สึก ดีที่พอรู้ว่าตนเองมีกิเลส ไม่อยากอยู่ในผ้าเหลืองแล้ว กล้าพอที่จะสึก ไม่ทำให้แปดเปื้อนสงฆ์

ผมเองบวช 1 ปี 8 เดือน รู้จักพระอาจารย์ที่ท่านประพฤติดีๆเยอะ หลายท่านสึกออกมา ผมเสียดายมากๆ ที่พระดีๆสึก บางท่านมีความจำเป็นทางบ้าน แต่นับถือที่ท่านยอมรับตัวเอง กล้าที่จะสึก เพราะบางท่านแทบไม่มีวุฒิทางโลกเลย ต้องมาเผชิญอะไรบ้างในสังคม

จริงอยู่ครับบางคนไม่เอาไหน บวชแล้ว เบื่อก็สึก สึกแล้วเบื่ออีก บวชดีกว่า ประมาณนี้ก็คงมี แต่อย่าไปเหมารวมสิครับ จะเป็นบาปกับตัวเองเปล่าๆ คนดีๆมีอีกเยอะครับ

แม้แต่ตัวผมเอง บวช 3 ครั้ง แล้วครับ

1.บวชเณร รับกฐินแม่ ตอน 8-9 ขวบมั้ง กี่วันจำไม่ได้ 2-3 วันมั้ง
2.บวชเพระ 1 ปี 8 เดือน
3.บวชพระให้ยายตอนยายกำลังจะเสีย 7 วัน พอสึกแล้วยายเสียเลย

ถ้าตามความหมายของท่านๆ ผมก็ครบ 3 โบสถ์ พอดีเลยครับ
คบไม่ได้ รึเปล่าครับ
 

_________________
ดูใจตัวเอง ให้รู้ว่ามีอะไรมากระทบ และเกิดอะไรขึ้น แล้วปล่อยซะ ไตรลักษณ์เกิดดับให้เราเห็นอยู่ทุกขณะจิต

อย่าให้อกุศลของผู้อื่น มาทำให้จิตเราเกิดอกุศล

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 06 ส.ค. 2007, 9:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ชายสามโบสถ์นั้นมิใช่คบหาสมาคมมิได้นะครับทุกท่าน เพียงแต่คนที่บวชแล้วสึกนั้นบุญของคนนั้นทำมาอย่างนี้เอง ในครั้งพุทธกาลเคยมีคนบวชแล้วสึกถึง 7 ครั้งด้วยกัน ในพระสูตรพระธรรมบทครับ คือท่านนั้นยังมีความอาลัยในของใช้ของท่านอยู่คือ ขวานที่ท่านใช้ทำมาหากินจนครั้งสุดท้ายท่านขว้างขวานนั้นเข้าป่าเลยแล้วตะโกนขึ้นว่าเราชนะแล้ว คือชนะใจตัวเองนั่นเองที่ยังมีความอาลัยในชีวิตฆราวาสครับ บุญของท่านที่ท่านนั้นตัดขาดได้ เพราะชีวิตฆราวาสเป็นชีวิตที่คับแคบไม่มีเวลาจะปฏิบัติธรรมสักเท่าไหร่ แต่ไม่ใช่ปฏิบัติไม่ได้นะครับ
RarmaDhammo
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง