Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เที่ยว 4 วัดทอง ที่คลองสาน อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
webmaster
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 04 มิ.ย. 2004
ตอบ: 769

ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ย.2007, 6:39 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image
พระอุโบสถวัดทองธรรมชาติ


เที่ยว 4 วัดทอง ที่คลองสาน

ในช่วงนี้ข้าวของต่างๆ ก็พากันขึ้นราคาไปตามๆ กัน ตั้งแต่ค่าน้ำมันที่ทะลุ 30 บาทขึ้นไปเรียบร้อย ค่ารถเมล์บางสายก็ขยับขึ้นจนจะแตะสิบบาทอยู่รอมร่อ ไหนจะของกินของใช้ต่างๆ ที่ขยับขึ้นตามราคาน้ำมันอีก คิดอยากจะซื้อทองเก็บไว้ซักบาทสองบาท ราคาทองตอนนี้ก็ปาเข้าไปตั้งหมื่นสามเฮ้อ.. คิดแล้วก็เหนื่อยใจ

แต่ราคาทองจะขึ้นไปอีกถึงเท่าไหร่ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกลไกตลาดไปเถอะ ส่วนตัวเราก็หาทางออกด้วยการมาไหว้พระที่ 4 วัดทองในเขตคลองสาน โดยแอบหวังอยู่ลึกๆ ว่าจะมีเงินมีทองเหมือนอย่างชื่อวัด ซึ่งที่คลองสานนี้มีวัดที่มีชื่อเป็นทองอยู่ถึง 4 แห่งด้วยกัน คือ วัดทองธรรมชาติ วัดทองนพคุณ วัดทองเพลง และวัดสุวรรณ

วัดทองแห่งแรกที่เดินทางไปถึงนั้นก็คือ “วัดทองธรรมชาติ” แต่เดิมนั้นวัดทองธรรมชาติก็มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า “วัดทอง” เท่านั้น แต่เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงมีวัดทองนพคุณตั้งอยู่ เพื่อความไม่สับสนชาวบ้านแถบนั้นจึงเรียกวัดทองธรรมชาติว่า “วัดทองบน” คู่กับ “วัดทองล่าง” ซึ่งก็คือ “วัดทองนพคุณ” นั่นเอง

Image
พระพุทธชินชาติ มาศธรรมคุณ พระประธานในวัดทองธรรมชาติ


วัดทองธรรมชาตินี้เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 กรมหลวงนรินทรเทวี (เจ้าครอกวัดโพธิ์) หรือพระองค์เจ้าหญิงกุ พระขนิษฐาในรัชกาลที่ 1 และกรมหมื่นนรินทรพิทักษ์ พระภัสดา ได้ทรงร่วมมือกันปฏิสังขรณ์วัดขึ้นใหม่ แต่ยังไม่ทันเสร็จสมบูรณ์ การก่อสร้างก็ต้องหยุดชะงักลง เพราะกรมหมื่นนรินทรพิทักษ์สิ้นพระชนม์ลง จนมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระองค์ก็ได้โปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร เป็นแม่กองสานต่อการปฏิสังขรณ์วัดจนเสร็จสมบูรณ์ และได้พระราชทานชื่อวัดว่า “วัดทองธรรมชาติ”

พอเดินผ่านลานวัดเข้าไปไหว้พระในพระอุโบสถ จึงได้พบกับความงดงามด้านใน พระประธานในพระอุโบสถนี้เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลปัจจุบัน ได้พระราชทานนามแก่พระประธานองค์นี้ว่า “พระพุทธชินชาติ มาศธรรมคุณ” มีพระอัครสาวกอยู่ด้านซ้ายและด้านขวาสององค์

ส่วนภาพจิตรกรรมฝาผนังด้านในก็มีความงดงามไม่แพ้กัน ด้านหลังพระประธานเป็นภาพไตรภูมิ ส่วนด้านตรงข้ามพระประธานเป็นภาพพระพุทธประวัติตอนมารผจญ ส่วนด้านข้างของพระอุโบสถก็เป็นภาพเทพชุมนุมและภาพพุทธประวัติ รวมถึง ภาพวิถีชีวิตของประชาชนในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ด้วย แต่ตอนนี้ภาพจิตรกรรมบางส่วนกำลังอยู่ระหว่างการบูรณะซ่อมแซม ซึ่งจะซ่อมแซมแล้วเสร็จก็ปีหน้า ปี พ.ศ.2551 นู่น

Image
พระประธานในวัดทองนพคุณ ด้านหลังเป็นภาพจิตรกรรมคล้ายผ้าม่านจริง


ออกจากวัดทองธรรมชาติ มาที่ “วัดทองนพคุณ” กันบ้าง วัดทองนพคุณนี้ก็เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายเช่นกัน โดยต่อมา พระยาโชดึกราชเศรษฐี (ทองจีน ไกรฤกษ์) ได้เป็นผู้บูรณะซ่อมแซม และถวายให้เป็นพระอารามหลวงในสมัยรัชกาลที่ 3 และหลังจากนั้นก็ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ใหญ่อีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 4

นอกจากนั้น วัดทองนพคุณแห่งนี้ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรอีกด้วย เนื่องจากความงดงามของตัวพระอุโบสถ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง และหน้าต่างของพระอุโบสถที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และก็ไม่มีที่ไหนเหมือน แต่ก่อนอื่นขอเข้ามากราบไหว้พระประธานในพระอุโบสถก่อน เมื่อกราบพระเสร็จจึงได้สังเกตเห็นว่า ด้านหลังพระประธานมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปพระวิสูตร หรือผ้าม่าน และมีเหล่าทวยเทพคลี่พระวิสูตรออกมาทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ซึ่งวาดได้เหมือนจริงมาก เหมือนขนาดที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ถึงกับรับสั่งเมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จมาถวายผ้าพระกฐินที่วัด ว่า “ทำไมถึงได้มาแขวนม่านไว้หลังองค์พระประธาน”

Image
พระอุโบสถวัดทองนพคุณ


สำหรับผู้วาดภาพจิตรกรรมเหล่านี้ก็คือ พระครูกสินสังวร (มี) ศิษย์ของขรัวอินโข่ง จิตรกรเอกในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยได้ฝากฝีมือไว้ทั้งภาพพระวิสูตรด้านหลังพระประธาน และภาพพระเวสสันดรชาดกเหนือหน้าต่างพระอุโบสถ และนอกจากนั้นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของพระอุโบสถนี้ก็คือบานหน้าต่างที่ดูแล้วแปลกตา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องมองดูจากภายนอก แล้วจะเห็นว่าบานหน้าต่างทั้งสิบบานนี้มีกรอบหน้าต่างเป็นรูปพัดยศของพระภิกษุสงฆ์ที่ไม่มีที่ไหนเหมือน

Image
บานหน้าต่างของพระอุโบสถวัดทองนพคุณ ซึ่งไม่มีที่ไหนเหมือน


คราวนี้เดินทางผ่านท่าน้ำคลองสาน แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตเพื่อไปต่อกันยัง “วัดสุวรรณ” หรือที่มีชื่อเดิมเต็มๆ ว่า “วัดสุวรรณอุบาสิการาม” แต่ภายหลังได้ตัดคำว่าอุบาสิการามออกเนื่องจากสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเห็นว่าชื่อยาวเยิ่นเย้อ

วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปีเดียวกันกับที่สร้างกรุงรัตนโกสินทร์ คือเมื่อปี พ.ศ.2325 สันนิษฐานว่าชาวจีนเป็นผู้สร้างวัด เนื่องจากพระอุโบสถหลังเดิมเป็นลักษณะแบบจีน พระประธานในพระอุโบสถวัดสุวรรณนี้เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยที่งดงามมาก ว่ากันว่าชาวจีนผู้สร้างวัดนั้นได้อัญเชิญมาจากสุโขทัยเพื่อนำมาประดิษฐานตั้งแต่ครั้งสร้างวัด นอกจากนั้นบริเวณด้านข้างพระอุโบสถก็ยังมีวิหาร “หลวงพ่อทรมานกาย” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางพระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญทุกข์กิริยา มีประชาชนมากราบไหว้อยู่เสมอๆ อีกทั้งบริเวณด้านหน้าทางเข้าวัดก็ยังมีพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ (อวโลกิเตศวร) ให้ประชาชนสักการะกันอีกด้วย

มาปิดท้ายกันที่ “วัดทองเพลง” วัดราษฎร์ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีชื่อเดิมว่า “วัดกลางทุ่ง” เพราะบริเวณที่ตั้งของวัดแห่งนี้เป็นทุ่งนาและสวนผลไม้ แต่ที่มีชื่อว่า “วัดทองเพลง” ในภายหลังนั้น ก็เนื่องจากว่ามีอุบาสกท่านหนึ่งชื่อ นายทอง มีอาชีพเป็นนักร้องเพลงพื้นบ้าน มีความศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา โดยได้นิมนต์พระภิกษุมาพำนักจำพรรษา อีกทั้งยังได้นำเงินที่ได้จากการร้องเพลงมาบูรณปฏิสังขรณ์วัดอีกด้วย ภายหลังจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดทองเพลง” ตามที่เรียกขานกันในปัจจุบัน

Image
พระอุโบสถวัดสุวรรณ


วัดทองเพลงแห่งนี้ มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่พระอุโบสถทรงไทยที่สร้างตามแบบสมัยกรุงศรีอยุธยา ด้านในมีพระประธานนามว่า “หลวงพ่อสิทธิชัย” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่บ้างก็เชื่อกันว่าพระพุทธรูปองค์นี้ลอยน้ำมา บ้างก็ว่ามีคนไปขุดพบแถวๆ วัดกก ที่เขตบางขุนเทียน และได้นำกลับมาที่วัดทองเพลงโดยทางเรือ ซึ่งชาวบ้านก็มีความศรัทธาและกล่าวกันว่าเมื่อบนบานสิ่งใดกับหลวงพ่อ ก็มักจะได้ในสิ่งที่หวังไว้เสมอ

ภายในพระอุโบสถก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งแสดงถึงเรื่องราวของพระพุทธเจ้าเปิดโลก อีกทั้งยังมีภาพเจดีย์จากสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมืองไทย และขนบธรรมเนียมประเพณีประจำท้องถิ่นในทุกภาคของประเทศ แต่ในตอนนี้ทางวัดกำลังมีการซ่อมแซมพระอุโบสถอยู่ คงใกล้จะแล้วเสร็จในไม่ช้านี้

4 วัดทองเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชื่นชอบการทำบุญไหว้พระและชมสถาปัตยกรรมแบบไทยๆ ถ้าหากใครมีเวลาก็ควรหาโอกาสมาเยือนได้ที่เขตคลองสานนี้

Image
พระอุโบสถวัดทองเพลง


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

วัดทองธรรมชาติ ตั้งอยู่เลขที่ 141 ถ.เชียงใหม่ แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพฯ สอบถามโทร. 0-2438-8840 วัดทองนพคุณ ตั้งอยู่เลขที่ 4645 ถ.สมเด็จเจ้าพระยา แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพฯ สอบถามโทร. 0-2437-2256 วัดทองเพลง ตั้งอยู่เลขที่ 338 ซ.เจริญนคร 14 ถ.เจริญนคร แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ สอบถามโทร. 0-2438-2657 วัดสุวรรณ ตั้งอยู่เลขที่ 246 ถ.เจริญนคร แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ สอบถามโทร. 0-2437-5585

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤศจิกายน 2550 16:37 น.
 

_________________
ธรรมจักรดอทเน็ต
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง