Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ^^ธรรมะเวลาทะเลาะกับเพื่อน^^ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ย. 2008, 7:52 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ต้องโทษตัวเอง...ที่ไปมีปากเสียงกับเพื่อน
ถ้าวันนั้น...เราเองควบคุมอารมณ์ สติ ความคิด การพูด และการกระทำให้ดีกว่านี้ได้...
เพื่อนคนนั้นคงไม่สร้างความคับข้อง หมองใจไว้กับตัวเอง...กลายเป็นอารมณ์อันเร่าร้อน
เร่าร้อนเพราะ...อยากให้เราเร่าร้อนบ้าง (และเขาก็ทำสำเร็จ)
ถ้ารู้อย่างนี้...ต้องพยายามฝึกควบคุม และรักษาใจของตนเองให้ดี
อย่าให้อารมณ์มาอยู่เหนือจิตใจ...จริงอยู่ พูดง่ายแต่ทำยาก
ถึงบอกว่าต้องฝึก ต้องพยายาม และรักษาความสามารถนั้นไว้ให้ดีไง
ของดี มีค่ามาก เพราะว่ากระทำได้ยากนี่ล่ะ
เอาธรรมะไปสักหัวข้อหนึ่งนะ...ธรรมอันทำให้งาม

๑. ขันติ ความอดทน อดกลั้น ต่อความยากลำบาก ทั้งที่กระทบกับร่างกายก็ดี
เช่น เหนื่อย เพลีย หนาว ร้อน ปวด ป่วย เป็นต้น
อดทนต่อสิ่งที่กระทบกับใจ...ง่ายๆก็เอาแค่อารมณ์ที่ไม่ชอบ ไม่พอใจก่อน
ความรู้สึกโกรธ เป็นเรื่องปกติ...แต่รู้แล้วให้ทิ้งไว้ตรงนั้น อย่าเก็บไว้
ถ้าเก็บไว้..จะกลายเป็นอาฆาต พยาบาท ถ้ากลั้นไม่อยู่ผลอาจจะรุนแรงกว่าที่คิด
เพราะเราเองก็อยากจะทบต้นทบดอก

๒. โสรัจจะ ความเสงี่ยม การรักษามารยาทให้เรียบร้อย
ไม่ให้อาการอันไม่งามแสดงออกมา ไม่ใช่กลั้นได้ว่าไม่ตอบโต้เขา
แต่ยังมีอาการแค้นด้วยสายตา เดินกระทืบปึงปัง ทำลายข้างของแทน
บุคคลหนึ่ง ที่เป็นแบบอย่างที่ดีเยี่ยม คือ ในหลวงของพวกเรา
พระองค์ ไม่เคยแสดงความท้อแท้ ความเหนื่อยอ่อนให้พวกเราเห็นเลย
แม้จะเดินป่า ขึ้นเขา ลุยน้ำ แต่ทุกครั้งที่พระองค์ทรงทอดพระเนตรพสกนิกร
พระองค์ทรงมีแต่รอยยิ้ม ด้วยความปิติ ความรัก ความเมตตา
เพราะพระองค์ทรงมีขันติ และโสรัจจะ นี้เป็นคุณธรรมส่วนหนึ่ง
จึงทรงเป็นผู้สง่างามยิ่ง เป็นที่รักใคร่ของปวงประชาเสมอมา

ดังนั้น ตัวเราเองถ้ายังทำให้ตัวเองดีไม่ได้ อย่าเพิ่งไปโทษใคร...ให้โทษตัวเอง
แล้วจะโทษตัวเองอีกนานแค่ไหน...ถ้ารู้ตัวว่าขาดอีกเท่าไหร่
เราก็ต้องเร่งพัฒนาตนเอง ให้สามารถเผชิญหน้ากับสถานการณ์เหล่านั้นได้อย่างมีสติ
ก็พอจะรักษาตัวรอด ให้การดำเนินชีวิตนี้มีความสงบในระดับหนึ่ง
ส่วนที่ทำได้ดีอยู่แล้ว ก็ต้องขวนขวายให้ดียิ่งขึ้นๆ ไป
จะสามารถช่วยคนรอบๆ ข้างเราได้ด้วย
"ขันติ คือ ความอดกลั้น เป็นธรรมเครื่องเผากิเลส อย่างยิ่ง"


สาธุ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
chill
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 22 ก.พ. 2008
ตอบ: 85

ตอบตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 4:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนานะคะ ขำ
 

_________________
มีชีวิตอยู่เพื่อทำความดี..
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง