Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 อานิสงส์การสร้างหนังสือและอานิสงส์ปัญญาบารมี อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 14 พ.ย.2007, 11:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image
[พระไตรปิฏกฉบับสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๕ พ.ศ. ๒๔๓๖--ของพระราชทาน]



อานิสงส์การสร้างหนังสือ

ดังมีใจความว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เสด็จประทับอยู่ในเชตวันมหาวิหาร ณ กรุงสาวัตถี
ในเวลานั้นพระสารีบุตรเถระเจ้ามีความประสงค์ว่า
จักทูลถามพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรม
ประกาศอานิสงส์สร้าง พระไตรปิฎก
ให้ทราบทั่วถึงกันแก่พุทธบริษัท
พระเถระเจ้าก็เข้าเฝ้าทูลถามแก่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าชนทั้งหลายให้พุทธศาสนายืนยาวถึง ๕ พันวัสสา
จะมีอานิสงส์เป็นประการใด พระพุทธเจ้าข้า

........ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า

ดูกรท่านสารีบุตร
ถ้าชนทั้งหลายมีจิตรศรัทธาเลื่อมใสเช่นนั้นแล้ว
เมื่อตายไปแล้วก็จักรได้เสวยราชสมบัติ
เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชถึง ๘ หมื่น ๔ พันกัลป์
ใช่แต่เท่านั้น เมื่อเคลื่อนจากความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิแล้ว
ก็จะได้เป็นพระราชา มีอานุภาพอีก ๙ อสงไขย

ต่อจากนั้นก็ได้เสวยสมบัติในตระกูลต่างๆ เป็นลำดับไป
คือตระกูลพราหมณ์มหาศาล ตระกูลเศรษฐีคฤหบดี
และเป็นภูมิเทวดาอากาศเทวดา อย่างละ ๙ อสงไขย

ต่อแต่นั้นก็จะได้เสวยในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น เป็นลำดับไปชั้นละ ๘ อสงไขย
เมื่อจุติจากชั้นเทวโลกแล้ว มาถือกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์
ก็จะมีร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่อง
เป็นที่รักใคร่แก่คนทั้งหลายที่ได้พบเห็นทั้งน้ำใจก็บริสุทธิ์
สุจริตปราศจากบาปธรรมอกุศลทั้งปวง
และเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาดรอบรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม
ดังนี้เป็นต้น

ดูกรท่านสารีบุตรเมื่อตถาคตสร้างบารมีอยู่ได้เกิดเป็นอำมาตย์ของพุทธบิดา
แห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า ปุราณโคดม
ได้สร้างพระไตรปิฎกไว้ให้สืบองค์ได้ตั้งความปรารถนา
ขอตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเถิดในอนาคตกาลโน้น
สมเด็จพระปุราณโคดมบรมศาสดาทรงพยากรณ์ไว้ว่า
อำมาตย์ผู้นี้ต่อไปภายภาคหน้า
จะได้ตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งมีพระนามว่า
พระสมณโคดมก็คือพระตถาคต
เรานี้เองดังนี้แลก็สิ้นสุดพระกระแสธรรมเทศนา
ที่พระบรมศาสดาทรงแสดงแก่พระสารีบุตรเถระเจ้าแต่เพียงเท่านี้

สาธุ สาธุ สาธุ

ที่มา : http://www.84000.org/anisong/28.html
 


แก้ไขล่าสุดโดย กุหลาบสีชา เมื่อ 15 พ.ย.2007, 12:18 am, ทั้งหมด 4 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 14 พ.ย.2007, 11:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

อานิสงส์ปัญญาบารมี

ในสมัยหนึ่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดา
เสด็จประทับอยู่บนแท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ชั้นดาวดึงส์เทวสถาน
ท้าวอมรินทราธิราช ได้ทูลถามถึงธรรมอันประเสริฐ
ที่จะสามารถอำนวยมรรคผลให้แก่ผู้ประพฤติปฏิบัติ
ขจัดเสียซึ่งภัยอันตราย ที่เกิดขึ้นจากหมู่มนุษย์
และสัตว์ดิรัจฉานทั้งหลายให้พ่ายแพ้ไปด้วยอำนาจอานุภาพ
ที่ได้ประพฤติปฏิบัติท่องบ่นสาธยายทรงจำไว้
ซึ่งธรรมจะมีอยู่หรือพระพุทธเจ้าข้า

สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

ดูกรมหาราช ธรรมที่ยังผู้ปฏิบัติให้ประสบสุขเช่นนั้น
มีอยู่ท้าวอมรินทราธิราชจึงทูลถามต่อไปว่าธรรมนี้ชื่ออะไร

พระพุทธเจ้าข้าพระบรมครูจึงตรัสว่า

พระธรรมนี้ชื่อว่า “ปัญญาบารมี”

ท้าวอมรินทราธิราช ทูลอาราธนาให้พระองค์ทรงแสดงพระสัทธรรมนี้

พระบรมศาสดาทรงแสดงซึ่งปัญญาบารมี
ที่พระองค์ได้เคยสร้างมาแล้วในอนันตะชาติว่าปัญญาบารมี

๓๐ ทัศนี้ เป็นยอดแห่งธรรมที่พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์
ทรงบำเพ็ญมาแล้วอย่างเต็มเปี่ยม
จึงได้ตรัสเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

บุคคลใดได้เขียนไว้สักการบูชาก็ดี ได้สดับฟังทุกวันก็ดี
ผู้นั้นจะเป็นผู้มีสมบัติข้าวของมาก

ผู้ใดได้ท่องบ่นทรงจำไว้สาธยายทุกวัน
ผู้นั้นจะพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง

ปรารถนาสิ่งใดก็จะสำเร็จดังความมุ่งหมาย
เป็นที่รักแก่เทวดาและมนุษย์ ทั้งปวง
เทวดาย่อมให้พรและตามรักษาบุคคลนั้น

ผู้ใดได้ประพฤติบารมี ๓๐ ทัศนี้
ให้บังเกิดมีแก่ตนย่อมประสบสมบัติ ๓ ประการคือ

มนุษย์สมบัติสวรรค์สมบัตินิพพานสมบัติ
แม้จะปรารถนาเป็นพุทธภูมิ
ปัจเจกภูมิ สาวกภูมิอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็จะสำเร็จ


พระอรหันตสัมมสัมพุทธเจ้าทรงแสดง “ปัญญาบารมี” จบลงแล้ว

ท้าวอมรินทราธิราช แสดงตนเป็นอุบาสก
น้อมเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดชีพ
เหล่าเทวดาทั้งหลายได้บรรลุมรรคผลเป็นอันมาก

สาธุ สาธุ สาธุ

ที่มา: http://www.84000.org/anisong/02.html
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
I am
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972

ตอบตอบเมื่อ: 15 พ.ย.2007, 8:20 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุครับ.. สาธุ ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 17 พ.ย.2007, 1:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ สาธุค่ะ...คุณ กุหลาบสีชา, คุณ I am

ธรรมะสวัสดีวันพระค่ะ

ยิ้ม ปรบมือ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง