|
|
|
|
ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
นวสฤษฏ์
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 06 พ.ย. 2007
ตอบ: 11
|
ตอบเมื่อ:
03 ม.ค. 2008, 8:36 pm |
|
เฮ้อ น่าเบื่อจังครับ บ้านผมมีแต่พวกที่คอยจะแกล้งทั้งนั้นเลย บ้านผมโดนคนไม่ดี ถมที่ดินทับเป็นรูปสามเหลี่ยม ร้องมานานจะเป็น 10 ปี เพิ่งจะมาได้เรื่องเอาปีใหม่นี้ แต่ก็ดันมีปัญหาอีก เลยต้องมีการรางวัดที่กันใหม่ คนไม่ดี มันดันชี้จุดเข้ามาในที่ผมอีก กินเข้ามามากกว่าเดิมอีก หน้าไม่อายมาก การรางวัดวันนี้ เลยกลายเป็นต้องมีการไปไกล่เกลี่ยที่ที่ดิน แถมล่องน้ำที่บ้านผมซึ่งเราต้องใช้อาศัยเลี้ยงชีพ ซึ่งบ้านผมและที่เจ้าของอีกฝั่ง คือวัด ตกลงกันแบ่งคนละครึ่งล่องแล้ว มีมานานมากแล้ว เท่ากับว่าเรามีล่องคนละครึ่งล่อง ที่วัดนั้นเขาให้คนเข้ามาเช่าปลูกบ้านอาศัยมากมาย แต่ดันมีคนไม่ดีคิดแต่คอยจ้องจะเอาที่บ้านผมให้ได้ คอยจะแทะเล็มเข้ามาตลอด แต่เราก็ไม่เคยยอม เบื่อครับ วันนี้ที่ที่ดินเขามาทำการจะรางวัดดันบอกว่าล่องน้ำเป็นของวัด ผมและคนที่บ้านงงเลย งงมาก ไม่อยากเชื่อว่าอิทธิ์พลท้องถิ่นจะทำกันได้ขนาดนี้ หลักเขตแบ่งกันคนละครึ่งล่องน้ำ แต่คนที่ที่ดินมาบอกว่าล่องน้ำเป็นของวัด มันขัดกันไหมครับ กลายเป็นว่าบ้านผมบุกรุกคนอื่นไปเลยครับ เรื่องทั้งหมดมาจากจากการที่บ้านผมมีที่อยู่เป็นของตัวเองครับ ไม่เคยไปโกง ไม่เคยไปยุ่งกับใครหรือทำใครเดือดร้อน แต่ดันมีพวกนี้แหละครับที่คอยจะเข้ามาหาเรื่องตลอด แม่ผมเสียรู้ไปแล้วทีนึง ให้เขาปิดล่องน้ำ เพื่อข้ามไป เขาบอกเดี๋ยวจะเอาออกให้แต่ดันไม่เอาออก น้ำไม่เข้าบ้าน ประกอบอาชีพติดขัด บ้านผมเคยเป็นคนยากจนมากมาก่อน ไม่มีที่นอนต้องอาศัยบ้านคนอื่นเขา แต่ด้วยแม่ผมท่านเป็นคนเก่ง ประกอบอาชีพสุจริตมาตลอด จนมีเงินมีทอง พอซื้อที่ดินอยู่อาศัยเป็นของตนเอง สมัยก่อนตอนจน คนทั้งหลายก็ทักทายกันดี แต่พอบ้านผมรวยมีที่มีทางคนพวกนี้กลับเปลี่ยนนิสัย กลายเป็นไม่ถูกกับบ้านผมไป ไม่ทักทายเหมือนเดิม คอยแต่จะมาหาทางกลั่นแกล้งโกงที่โกงทาง พรรคพวกเขาเยอะครับ เป็นผู้ใหญ่บ้าน อบต. เจ้าหน้าที่ที่ดิน กำนัน สาพัดครับ ไม่มีใครช่วยบ้านผมได้เลยครับ แถมมีขู่กลับอีก จนเรื่องต้องถึงปลัดอำเภอ ดีที่ท่านเพิ่งย้ายมาท่านเลยช่วยครับ แต่ก็ยังมีปัญหาที่ที่คนไม่ดีโกงนี่สิครับ จะต้องขึ้นศาลกันทีเดียว อยู่เฉยๆดีๆก็ต้องมีเรื่องเดือดร้อนมาจนได้ครับ น่าเบื่อครับ คนสมัยนี้ช่างอิจฉากันจริงๆ คุณอยากรวยก็ขยันหากินสิครับ ไม่เห็นต้องมาทำกันขนาดนี้เลย สังคมไทยเรามีหนึ่งสิ่งที่ผมไม่ชอบคือ ระบบพรรคพวกครับ ระบบเครือญาติ ผมเกลียดมาก หากใครเจอคนดีก็โขคดี หากใครเจอคนไม่ดีก็ซวยไปครับ ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ผมและครอบครัวทุกขืใจมากครับ ดดยเฉพาะคุณแม่ครับ ท่านไม่เคยพูดดูถูกดูแคลนใคร ไม่เคยไปแกล้งใคร อิจฉาใคร โกงใครก็ไม่เคยเลย วันนี้ผมขอความคิดเห็นด้วยนะครับ ปีใหม่แล้วแต่ต้องมาเจอเรื่องไม่ดีต้นปีเลย ผมพาพ่อแม่ผมไปปล่อยปลาทำบุญให้คนไม่ดี เพื่อเขาจะได้ยอมความไม่ทำให้บ้านผมเดือดร้อนอีก ถามว่าตัวผมอโหสิกรรมให้เขาได้หรือไม่ ผมตอบว่าได้ครับ ทางใจนะครับ แต่ทางโลกผิดก็ว่าตามผิดถูกก็ว่าตามถูกครับ ผมกะว่าผมจะไปปฏิบัติกรรมฐานที่วัด 3 วัน หากว่าบ้านผมได้รับความยุติธรรม ผมจะทำบุญให้ครับ ใครมีแนวทางแก้ไขก็ช่วยบอกกันมั้งนะครับ
สุขสันต์วันปีใหม่ครับ |
|
|
|
|
|
กรัชกาย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
03 ม.ค. 2008, 9:26 pm |
|
สังคมมนุษย์ปัจจุบันนี้ เป็นอย่าง จขกท. กล่าวจริงๆ
เรื่องเส้นสายพวกใครพวกมัน ผิดถูกไม่สนพวกเดียวกันช่วยกันก่อน คนที่ไม่มีพวก
เป็นใหญ่หรือไม่มีอิทธิพลหนุน เช่นคุณหรืออีกหลายๆครอบครับ จึงถูกเอารัดเอาเปรียบโดยไม่
เป็นธรรม
(มองเลยออกไปอีกนิดหนึ่ง ตอนนี้ทางการเมืองก็เห็นชัดว่าพวกใครพวกมัน)
ปัญหาประมาณนี้ ยังมีอีกหลายครอบครัวกำลังประสบ เคยประสบมาแล้ว ผมเองก็เคย
และนี่อีกคนหนึ่งที่กำลังประสบอยู่ แต่ท่านผู้นี้มีศักยภาพที่จะทำอะไรๆเถื่อนๆได้
แต่ไม่ทำเพราะเป็นคนมีเมตตาประจำใจ
สังคมมนุษย์จะถึงความสงบสุขได้ คนทุกคนจะต้องมีเมตตาต่อกันและกัน เพราะเมตตาเป็น
คุณธรรมประจำภายในจิตใจ
ฝ่ายหนึ่งมีเมตตาประจำจิตใจ แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่มี ก็จะเป็นดังตัวอย่างนี้
ลองอ่านดูแล้วจะเห็นความเป็นต่างๆ ของจิตใจมนุษย์
ช่วยคนด้วยใจบริสุทธิ์
กลับได้บาป
ผลตอบแทนที่ได้รับคือการทรยศ นี้เป็นผลกรรมอะไร
ผมซื้อที่ดินอยู่ที่จังหวัดแถวภาคเหนือ เพื่อทำกิจการที่พักให้นักท่องเที่ยว ที่ดินไม่มีโฉนด ไม่มี
เอกสารสิทธิ์ใดๆแต่ใช้สิทธิ์ครอบครอง
เจ้าของที่ดินเดิมผมก็ให้ความช่วยเหลือครอบครัวเขามาตลอด แต่กิจการไปได้ดี เจ้าของที่ดินเดิม
ต้องการเอาที่ดินคืน คงนึกเสียดาย ก็เลยเป็นปัญหา กลั่นแกล้งเราสารพัด เช่นเอาทอนไม้มาขวาง
ถนนไม่ให้เราเข้าออก ลอบตัดท่อน้ำประปา โรยตะปูถนน
แอบมาตัดต้นไม้ ดอกไม้ที่ประดับที่รีสอร์ท
สั่งสอนให้ลูกหลานอายุเพียงไม่กี่ขวบ ด่าว่าเรา พ่อแม่กลับชอบใจหัวเราะ ที่ลูกหลานเขาด่าว่าเรา
เสียๆหายๆ เจอหน้ากันก็คอยหาเรื่องทั้งที่เราไม่อยากจะปะทะด้วย เมื่อเราทนไม่ไหวมีปากเสียง
ด้วย ญาติวงศ์สาเขามาทั้งตระกูลมาช่วยกันด่า พอเรื่องถึงตำรวจ ตำรวจก็ไม่เอาเรื่อง
กลับเป็นเรื่องทะเลาะวิวาท
เขาก็ได้ใจก็มาด่าว่าเราเมื่อมีโอกาสเพราะไม่มีความผิดอะไรเอาผิดอะไรไม่ได้ จนเราต้องจ้าง
ทนายฟ้องร้องศาลเอง ศาลรับฟ้อง แต่ผลออกมาคือไม่มีความผิด
เขาก็ได้ใจกันใหญ่
ศาลคงเห็นเป็นชาวบ้านตาดำๆ คงไม่มีพิษสงอะไร เป็นคดีไม่ร้ายแรงอะไร
แต่เขาไม่เคยทราบตอนที่พวกเขามาทำร้ายเรามากลั่นแกล้งเราอยู่เสมอ ที่ฟ้องร้อง ไปนั้นเป็น
เพียงหนึ่งในร้อยครั้งที่นำไปฟ้องร้องศาล
นี้เป็นบางส่วนที่ผมเล่าให้รับทราบกัน เพิ่งเคยเจอคนประเภทนี้ในโลกนี้ก็มีด้วย ตั้งใจ
อยากมาอยู่อย่างสงบเงียบบรรยากาศดีๆ แต่ก็มีแต่ความวุ่นวาย ช่วยเหลือเขาไม่อยากให้เขาเดือด
ร้อน กลับได้รับความเดือดร้อนเสียเอง
ผมก็คงทนอยู่ในสภาพนี้อีกนาน หรือเหตุการณ์อาจจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ผมคงไม่ย้ายออกไปไหนแน่ เพราะลงทุนไปตั้งหลายล้านบาทแล้วเพราะหวังตั้งหลักฐานที่นี่
หากไม่นึกถึงบาปกรรม คงสั่งเก็บไปนานแล้ว คงไม่ยอมให้มาขัดขว้างการทำกิจการ
และมาดูหมิ่นผมขนาดนี้หรอก
ใครมีทางออกที่ดีสำหรับคนป่าเถื่อนพวกนี้บ้าง
มีปัญหาด้านกฏหมายลองปรึกษาที่ลิงค์นี้ครับ
http://www.pramarn.com/pramarn2/index.php?name=PNphpBB2&file=index |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 04 ม.ค. 2008, 5:03 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
|
|
นวสฤษฏ์
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 06 พ.ย. 2007
ตอบ: 11
|
ตอบเมื่อ:
04 ม.ค. 2008, 4:56 am |
|
บางคนฟังอาจคิดว่า ที่ติดวัดก็บริจาคไปเถอะ อย่าคิดเช่นนั้นเลยครับ หากวัดดีผมก็ทำครับ แต่นี้ไม่ใช่วัดไม่ดี แต่คนไม่ดี คือ คณะกรรมการวัดและพรรคพวกที่ดูแลต่างหากครับ ผมไม่รู้ว่าที่วัดได้ค่าเช่าที่รายปี ของผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัยในที่วัด แล้วคณะกรรมการพวกนี้ได้อะไรจาการหากินบนที่วัด ได้ส่วนแบ่งหรือ ? คนพวกนี้อาศัยเช่าที่วัดอยู่ครับ ผมไม่ได้ดูถูกนะครับ แต่จะบอกว่า ได้มีที่อาศัยแล้ว ก็ดีแล้ว ทำไมต้องมาอยากได้ที่ของคนอื่นด้วย หมายถึงได้ไปเป็นของวัดแล้วจะเอาไปให้เขาเช่านะครับ ข้างบ้านผมกลายเป็นชุมชนไปแล้วครับ สิบกว่าปีแล้วที่แม่ผมทุกข์ใจเรื่องนี้มาตลอด ไม่รู้ว่าเขาสร้างเวรสร้างกรรมเอาไว้ให้คนอื่นทำให้เขาทุกข์ใจ บาปมันจะมากเข้าหากเขาไม่ยอมหยุดนะครับ แม่ผมท่านรักที่ดินผืนนี้ที่ท่านหาเงินมาซื้อด้วยความเหน็ดเหนื่อย ท่านบอกว่าท่านไม่ยกโทษให้ ดูเอาครับว่ากรรมแรงไม่แรง ไปใช้เขามันจะไม่เท่าที่คุณทำ มันจะมากกว่านั้น ไม่กลัวนรกกันเลยคนสมัยนี้.........เฮ้อ
ขอบคุณคุณกรัชกายครับ
ในช่วงที่กำลังทุกข์ใจ แค่มีคนแนะนำมาเท่านี้ ก็อาจแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ได้ หากผลกรรมครั้งนี้ทำให้ปัญหาที่มีอยู่คลี่คลาย ผมขอให้บุญกุศลที่คุณทำนี้จงทำให้คุณมีความสุขในชีวิตเช่นกันขอให้ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายเช่นกัน สาธุ |
|
|
|
|
|
กรัชกาย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
04 ม.ค. 2008, 8:16 am |
|
เป็นดังนั้น
อนาคตเจ้าอาวาสองค์ต่อไป จะเกิดพิพาทกับชาวบ้านที่เช่าที่ดินปลูกบ้านพักอาศัย
มีตัวอย่างเยอะ เพราะนโยบายของเจ้าอาวาสแต่ละองค์ๆต่างกัน
องค์นี้ต้องการรายได้จากค่าเช่าที่ดิน
องค์ต่อไปต้องการนำที่ดินปลูกสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ฯลฯ
ก็ให้ชาวบ้านรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป
ทีนี้บ้านกับวัดก็ขัดกัน
ถูกชาวบ้านประท้วงขับไล่ก็มี ให้สีกาปล้ำแล้วถ่ายรูปร้องเรียนก็มี กินลูกตะกั่วก็มี
-เพื่อให้เห็นคำสอนของพระพุทธเจ้ากว้างขึ้น จะนำปฏิจจสมุปบาททางสังคมให้พิจารณา
ปฏิจจสมุปบาทแห่งทุกข์ หรือ ความชั่วร้ายทางสังคม ก็ดำเนินมาตามวิถีเดียวกันกับ
ปฏิจจสมุปบาทแห่งทุกข์ของชีวิต นั่นเอง
แต่เริ่มแยกออกแสดงอาการที่เป็นไปภายนอกต่อแต่ ตัณหา เป็นต้นไป
มีพุทธพจน์ ดังนี้
อานนท์ ด้วยประการดังนี้แล
-อาศัยเวทนา จึงมี ตัณหา
-อาศัยตัณหา จึงมี ปริเยสนา (การแสวงหา)
-อาศัยปริเยสนา จึงมี ลาภะ (การได้)
-อาศัยลาภะ จึงมี วินิจฉัย (การกะกำหนด)
-อาศัยวินิจฉัย จึงมี ฉันทราคะ (ความชอบชิดติดพัน)
-อาศัยฉันทราคะ จึงมี อัชโฌสาน (ความหมกมุ่นฝังใจ)
-อาศัยอัชโฌสาน จึงมี ปริคคะหะ (การยึดถือครอบครอง)
-อาศัยปริคคหะ จึงมี มัจฉริยะ (ความตระหนี่)
-อาศัยมัจฉริยะ จึงมี อารักขะ (ความหวงกั้น)
-อาศัยอารักขะสืบเนื่องจากอารักขะ จึงมีการถือไม้ ถือมีด การทะเลาะ แก่งแย่ง วิวาท
การด่าว่า มึง มึง การส่อเสียด มุสาวาท บาปอกุศลธรรมทั้งหลาย
เป็นอเนก ย่อมเกิดมีพรั่งพร้อมด้วยอาการอย่างนี้
-แสดงกระบวนธรรมที่แยกเป็น 2 สาย ให้ดูพอเห็นเค้า (ที่เป็นทุกข์ของชีวิต)
ดังนี้
-อวิชชา => สังขาร=>วิญญาณ =>นามรูป => สฬายตนะ => ผัสสะ => เวทนา =>
ตัณหา => อุปาทาน => ภพ=>ชาติ=>ชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ
ทุกข์ โทมนัส อุปายาส = ทุกข์ของชีวิต
(ที่เป็นทุกข์ทางสังคม) ตัดแยกจากตัณหา ดังนี้
...ตัณหา =>ปริเยสนา =>ลาภะ=>วินิจฉัย=>ฉันทราคะ=>อัชโฌสาน=>
ปริคคะหะ=>มัจฉริยะ => อารักขะ=> การทะเลาะ แก่งแย่ง วิวาท ส่อเสียด
มุสาวาท บาปอกุศลธรรม ทั้งหลาย ย่อมเกิดมีพร้อมด้วยอาการอย่างนี้ = ทุกข์ของ
สังคม
(นำมาจากพุทธธรรม)
สรุปว่า มนุษย์มีปัญหาทั้งภายนอกและภายใน
ศึกษาวิธีแก้ปัญหาแบบพุทธจากพุทธธรรมที่ลิงค์นี้
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13867 |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
|
|
Story Note
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2007
ตอบ: 97
|
ตอบเมื่อ:
09 ม.ค. 2008, 5:17 pm |
|
|
|
|
โมกข์ป่า
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 10 ม.ค. 2008
ตอบ: 22
|
ตอบเมื่อ:
11 ม.ค. 2008, 9:39 am |
|
ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่จะแนะนำว่า อโหสิกรรม และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร อย่าลืมชวนคุณแม่ไปทำด้วยนะคะ และก็ตอนที่ไปปฏิบัติธรรมนั้นก็อย่าลืมแผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย พร้อมทั้งเจ้ากรรมนายเวรที่อาจยังแค้นเราอยู่แล้วตามมาขัดขวางหนทางเจริญของเราไม่ให้เราอยู่อย่างสงบได้
และที่สำคัญ แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลให้แก่บุคคลรอบข้างที่มาระรานเราด้วยนะคะ
ทำจิตใจให้ผ่องใส ยิ้มสู้กับปัญหา ใช้ปัญญาในการตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ อย่าบุ่มบ่ามนะคะ เพราะถ้าเราพลาดแม้แต่นิดเดียว เหล่าคนชั่วทั้งหลายจะได้โอกาสซ้ำเติมเราค่ะ
ขอให้ผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายนี้ได้อย่างลุล่วงด้วยดีนะคะ
เอาใจช่วยผู้ที่ทำดีทุกคนค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
| | |