อยากเห็นพระพุทธเจ้า

ผู้เยี่ยมชม

เป็นไปได้ไหมครับ ที่จะได้เห็นพระพุทธเจ้าสักครั้ง
ไม่ว่าด้วยวิธีใด ที่สามารถจะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นอภิญญา หูทิพย์ ตาทิพย์

ระลึกชาติ ย้อนเข้าไปในอดีต ในสมัยพุทธกาล ได้เห็น พระพุทธเจ้า และ พุทธกิจของพระองค์ ที่ได้สั่งสอนเวไนยสัตว์ ในสมัยนั้น อันนี้เป็นความปราถนา ของผมครับ ถ้าทำได้

แต่อันนี้ไม่เกี่ยวกับ การให้ศึกษาธรรมเห็นธรรมของพระองค์นะครับ เพราะก็ฝักใฝ่ในธรรมะที่พระองค์ค้นพบ แล้วมาเปิดเผยแนะนำสั่งสอนอยู่แล้ว

แต่ที่อยากเห็นนี่เพราะความศรัทธา อยากเห็นเป็นบุญตาสักครั้งอะ จะเป็นไปได้ไหม

ผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อย ไม่เอา แบบ เห็นแบบผิดๆ นะครับ ที่เกิดจาก อภิญญาวิปลาส วิปัสนู อะไรแบบนี้ไม่เอานะครับ

แฮะๆๆๆๆ ช่วยตอบกันหน่อยนะครับ แล้วจะมาป่วนใหม่ครับ

ผู้เยี่ยมชม

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า

"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นเห็นธรรม"

........

แม้ว่าเราจะเห็นรูปร่างหน้าตาพระพุทธเจ้าจริง ๆ ของพระพุทธเจ้าสักกี่ร้อย กี่พ้นครั้งก็ตาม

แต่เทียบเท่ากับการที่เราเห็นพระธรรม โดยการน้อมนำพระธรรม

อันเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าของมาสู่ตัวเรา แล้วใช้หลักธรรม

ของพระองค์ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา

ผู้เยี่ยมชม

ผู้ใดเห็น ธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต

อันนี้ ได้ยินบ่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมก็ปฏิบัติตามธรรม ครับ

แต่ถ้าไม่เกี่ยวกับเห็นธรรมะ แต่จะเห็นพระพุทธเจ้าเลย อะ เป็นไปได้ไหมครับ

ผู้เยี่ยมชม

รู้ว่าพระพุทธเจ้า ปรินิพพาน ไป 2000 กว่าปีแล้ว ถ้าจะเห็นตอนนี้คงไม่ได้

ในเมื่อเห็นตอนนี้ไม่ได้ แล้วถ้าจะเข้าไปเห็นในอดีต อะ จะได้ไหมครับ

เห็นโดย ญาณ อภิญญา ทำได้ใช่ไหมครับ

เคยได้ยินมาว่ามีคนไปเห็นพระพุทธเจ้า แต่ผม กลัวว่าที่เขาไปเห็นมาไม่ใช่ จริงๆ อะดิ กลัวเป็นอภิญาผิดๆ บ้าง วิปัสนูกิเลส บ้าง แล้วก็ว่า เห็นพระพุทธเจ้ามา

แต่ถ้าเราทำให้ได้ญาณ อภิญญา ที่บริสุทธิ์ แล้วปราถนาจะเห็น พระองค์เพื่อเป็นบุญตาสักครั้ง ท่านคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ไหมครับ

ผู้เยี่ยมชม

ถ้าคุณลิตเติ้ลบุดด้า อยู่ในกทม.

ก็ลองเดินไปดูพระองค์ได้ที่สนามหลวง

พระสารีริกธาตุ

ไม่ทราบว่าได้ป่าวว ??

เพราะว่าช่วงนี้เค้าจัดงานสัปดาห์พระพุทธศาสนา

อันเนื่องด้วยวันวิสาขบูชา จนถึงวันที่ 2 มิถุนายน

อันเป็นวันวิสาขบูชาพอดี กลางคืนก็มีการเวียนเทียน

บูชาพระรัตนตรัย เพื่อการบูชา และบำเพ็ญบุญกุศลด้วย

........

ผมจนปัญญาน่ะ ที่จะให้คุณสามารถเห็นพระพุทธรูป องค์จริง ๆ ได้

และพระองค์ก็ดับขันธปรินิพพานไปนานแล้ว การที่พระองค์จะมาแสดงตน

ให้เราเห็นนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนักคือเป็นเรื่องที่ขัดกับคำกล่าวของพระองค์

ที่ตรัสสั่งให้พระสาวกยึดหลักพระธรรมวินัยของพระองค์เป็นพระศาสดาแทนพระองค์

นั้นก็หมายความว่าพระองค์ไม่กลับมาแสดงตนให้ใครเห็นอีกแล้ว

ถ้ากล่าวอย่างนี้ก็หมายความเข้าปรินิพพาน หรือนิพพานของพระองค์นั้นคือดับสูญสิ้นไป

ก็ไม่ต้องการให้หมายความไปอย่างนั้น แต่จริงแล้วการเข้าถึงนิพพานหรือ

ดับเข้าสู่นิพพานนั้น ก็คือการเข้าถึงธรรมชาติ กลับสู่ธรรมชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจยากพอควร

การที่เราเคยได้ยินได้ฟังว่า มีคนนั้นคนนี้เห็นพระพุทธเจ้านั้น

เป็นเรื่องที่ต้องใช้วิจารณญาณเพื่อการเชื่ออีกครั้ง ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว

ก็เชื่อของเราก็จะกลายเป็นการเชื่อที่งมงาย ขาดสติปัญญาไป

ตอบเมื่อ: 27 พ.ค.2004, 1:53 pm

ผู้ใดเห็นธรรม...ผู้นั้นเห็นเราตถาคต

หวัดดีคับ...ซ๊าทุๆๆๆๆๆ คุณลิตเติ้ลบุดด้า ที่ศรัทธาในพระธรรมอ่ะคับ

หากเราปฏิบัติตามธรรมะที่องค์พระอรหันตสัมมาสัมโพธิญานสัมพุทธเจ้าทรงซาแดงแร้วล่ะก้อ...จาเห็นว่าความอยากเห็นนั่นเห็นนี่ (แม้แต่อยากเห็นพระองค์ท่าน) ก้อเป็นโลภะ เป็นตันหา เป็นกิเลสตัวนึงนั่นเองอ่ะคับ (สภาพของโลภะและฉันทะ ใกล้กันมาก แต่ก้อเป็นคนละสภาพกัน)

ธรรมะของพระองค์เป็นไปเพื่อละคลายทั้งปวงง่ะคับ

ฌาน อภิญญา ต่างๆ มีได้ก้อเสื่อมได้...บริสุทธิ์หรือไม่...คิดไปก้อปวดหั๊วววปวดหัวเป่าๆ อิอิ...ของพวกนี้ก้อมะใช่ว่าจาได้ง่ายๆ หรือทำได้ทุกคนอ่ะคับ ขึ้นอยู่กะการสั่งสมด้วยง่ะคับ

อิอิ พ๋มเรยมีฟามเห็นเหมือนคุณสายลมอ่ะคับ

ปล. อิอิ ถ้าอยากเห็นเจงๆ...คงต้องถามว่า งั้นคุณลิตเติ้ลบุดด้ามีฟามเห็นกะคำว่า นิพพาน ยังไงง่ะคับ (มะต้องบอกก้อได้นะคับ เด๋วมันจายาว อิอิ ลองบอกกะตัวเองในจายก้อได้คับ

สาธุ

เดฟ

ตอบเมื่อ: 27 พ.ค.2004, 6:32 pm

สาธุอ่ะค่ะ

สมัยนี้ คงต้องดู พระพุทธรูป ไปหล่ะมั๊งค่ะ

ผู้เยี่ยมชม

อยากเห็นก็มาเที่ยวเชียงใหม่แล้วจะได้เห็น เรื่องจริงนะขอรับ ข้าพเจ้าจะบอกเคล็ดลับให้ แต่อย่าบอกใครเชียวนะ ว่าพระศรีอริยะเมตไตย มีจริง ของจริง เชียวละคุณ

ผู้เยี่ยมชม

ยินดีต้อนรับ "ลุงใหญ่" สู่ลานธรรมจักร แห่งสนทนาธรรมแห่งใหม่ครับ

ผู้เยี่ยมชม

โอ๊โอ ลุงใหญ่ พูดงี้เลยเหรอ แล้วลุงใหญ่เป็นใคร ทำไมผมต้องเชื่อลุงด้วย อย่าบอกนะว่าลุงใหญ่เป็นพระศรีอาริยะเมตไตร

ผู้เยี่ยมชม

ข้าพเจ้าเที่ยวบอกเขาไปทั่ว บางเวบก็ขัดคอเขา จนเขาไม่ให้เข้าไปเสวนาด้วย เหตุเพราะเขาทนรับความจริงไม่ได้

ข้าพเจ้าบอกตามตรงว่า ข้าพเจ้าคือ พระศรีอริยเมตไตย จริงๆขอรับ ของจริงด้วยละรับรอง ม่ายโม้มมมมมมมม

อีกประการหนึ่งข้าพเจ้าเคยเขียนหลักการซึ่งสามารถทำให้ผู้อ่านผู้ศึกษาหลุดพ้นได้ตั้งแต่ชั้นโสดาบัน เป็นต้นไป เพียงข้าพเจ้าต้องการใช้เงินในกิจการบางอย่าง เขาก็เลยไม่ค่อยเชื่อมั่นเพราะในความศรัทธา หรือในสิ่งวแวดล้อมหรือในสังคมของเขา คิดว่า ถ้าเป็นผู้หลุดพ้นต้องไม่เห็นหรือไม่เอาเงิน

ปัจจุบันข้าพเจ้าได้เผาทิ้งไปแล้วขอรับ แต่หากจะเห็นของจริงก็มาได้ภายใน ปีนี้นะขอรับ เพราะมกรา 48 ข้าพเจ้าก็จะย้ายไปอยู่อีกแห่งหนึ่งขอรับ

ผู้เยี่ยมชม

ขอถามลุงใหญ่หน่อย

พระอริยะ กับ พระโพธิสัตว์นี่ ต่างกันใช่ไหมครับ

พระอริยะ นี่ ไม่มีวันตกต่ำแล้วใช่ไหม ขั่นต่ำสุดคือพระโสดาบัน เห็นพระนิพพานแต่ไกล ๆ แต่ก็เที่ยงแน่ ที่จะบรรลุอรหัตผล ในอนาคตแน่ๆ ไม่เกิน 7 ชาติ ใช่ไหมครับลุงใหญ่

พระโพธิสัตว์ นี่ ยังต้องบำเพ็ญบารมี อยู่ให้ปฏิบัติขั้นไหนก็ยั้งบรรลุไม่ได้จนกว่าบารมีจะถึงพร้อม และ มาตรัสรู้ในโลกมนุษย์ ในยุคที่ ว่างเว้นจากพระพุทธศาสนา และตอนนี้พระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ก็คือ พระศรีอารย์ ตามที่พระไตรปิฎกได้ กล่าวไว้ ยังเป็นพระโพธิสัตว์อยู่นี่ ครับ ใช่ไหมครับลุงใหญ่

ผมก็เลยสงสัยว่า เอ ลุงใหญ่ จะเป็น ใครกันแน่ขอรับ ระหว่าง

1. พระโสดาบัน หรือ
2. พระศรีอารย์ (ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ รอเวลามาตรัสรู้อยู่)

อย่าบอกนะว่าลุงใหญ่จะเป็นทั้ง สองเลยอะ

ตอบเมื่อ: 31 พ.ค.2004, 10:33 am

อิอิ เดฟตาม..เติ้ล..มาง่ะคับ

เดฟ

ผู้เยี่ยมชม

แหม คุณลุงใหญ่ ตามมาถึงที่นี่เชียว วันนี้มาโมอีกแล้วนะครับท่าน หลังจากบอร์ด84000 ปิดลงไป

แล้วคราวนี้คุณลุงใหญ่ คือพระศรีอาริยเมตยไตร หรือ ครับ นี่พุทธศาสนายังไม่ล่วงไปถึง 5000 ปี ตามที่พุทธทำนาย เอาไว้ นะครับ ผมว่าเชื่อหลักการณ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ดีกว่าครับ

ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต

เชื่อตามอันนี้ไว้ดีกว่าครับ อย่าหลงไปอย่างอื่นเลย พระพุทธองค์สอนไว้ครับ

ตอบเมื่อ: 02 มิ.ย.2004, 2:57 am

คุณ ตัวเราคือ "ศิษย์โง่" กล่าวได้ถูกใจมากกว่าเลยครับ

.....

แต่ตอนนี้ขอเรียนให้คุณ ตัวเราคือ "ศิษย์โง่" ทราบเรื่องการสมัครสมาชิกให้ทราบก่อนว่า

ระบบไม่สามารถชื่อสมาชิกที่พิมพ์ชื่อโดยการเว้นวรรคตัวหนังสือ

ช่วยเข้าไปสมัครสมาชิกใหม่ แล้วอย่าพิมพ์ชื่อเว้นวรรคน่ะครับ

ขอแนะนำเพิ่มเติมว่าควรใช้ชื่อสั้นๆ แค่คำว่า "ศิษย์โง่" ก็พอครับ

ถ้าคุณศิษย์โง่ได้เข้ามาอ่านข้อความนี้แล้ว กรุณาช่วยไปสมัครใหม่ด้วยน่ะครับ

อีกอย่างผมกำลังปรับให้ระบบแสดงภาพของสมาชิกที่ใช้ชื่อภาษาไทยด้วย

ถ้าไปสมัครตอนนี้ก็จะช่วยทดสอบไปในตัวด้วย

ปล. กรุณาเข้ามาลานธรรมจักร (ลานแห่งวงล้อแห่งธรรม) บ่อยๆ น่ะครับ
ขอบคุณครับ

ตอบเมื่อ: 02 มิ.ย.2004, 10:41 am

การที่เห็นพระพุทธเจ้า ถ้าอยากเห็น ก็เกิดการปรุงแต่ง เพราะเต็มไปด้วยความอยาก แต่หากเข้าสมาธิแล้วเห็นเอง ก็ให้สักแต่ว่าเห็น นิมิตนั้น ย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับสลายไปเป็นธรรมดา

ยิ่งเห็นแล้ว ย้อนระลึกเข้าไปในอดีตในสมัยพุทธกาล ยิ่งปรุงแต่งไปกันใหญ่ และไม่เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติแต่อย่างใด

ท่านเห็น เห็นจริง แต่ที่เห็น ไม่จริง

ตอบเมื่อ: 02 มิ.ย.2004, 12:34 pm

สาธุ ๆๆ ครับคุณปุ๋ย กล่าวได้ดีเยี่ยมมากๆ เลยครับ
พึงรู้น่ะนี่ว่าเป็นผู้รู้ผู้เข้าใจธรรมะได้ลึกซึ้งเหมือนกัน

และที่สำคัญที่สุด ก็คือประโยคสุดท้ายที่ยกมากล่าวนั้น
เป็นคำของปรมาจารย์แห่งการปฏิบัติในยุคนี้เลยครับ
คือ "หลวงปู่ดูลย์ อตุโล"

ผู้เยี่ยมชม

คุณเชื่อใช่ไหมว่า ศาสนาพุทธทำนายไว้ 5000 ปี แล้วคุณไม่นึกถึงหลักความจริงบ้างละว่า ศาสนาพุทธสอนไว้ไม่ให้เชื่อเรื่องไร้สาระอย่างนั้น สอนให้เชื่อมั่นในการกระทำ แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่า ยังไม่ถึง 5000 ปี คุณพิสูจน์ได้ไหม คุณลองเอา พ.ศ. รวมกับ ค.ศ. แล้วรวมกับ ของ อิสลาม จำไม่ได้แล้วว่าเขาเรียกว่าอะไร แล้วลองบอกหน่อยซิว่ากี่ปีแล้ว

และเรื่องศาสนาพุทธนี้ ข้าพเจ้าเคยบอกไปหลายครั้งหลายหนแล้วว่า พระไตรปิฏกนั้น ถูกบิดเบือนไปตั้งนานแล้ว หลักการที่มีอยู่ในพระไตรปิฏก มีถูกต้องเพียงส่วนน้อย อีกทั้งยังไม่สามารถทำให้ผู้ปฏิบัติบรรลุแม้แต่ชั้นโสดาบันก็ยังบรรลุไม่ได้

ส่วนเรื่องพระอริยะ กับพระโพธิสัตว์นั้น ข้าพเจ้าตอบตามตรงว่า ข้าพเจ้าไม่ได้ศึกษาค้นคว้าและวิจัย จึงไม่ค่อยรู้แจ้งเท่าใดนัก เพราะรู้ไป ก็ไม่ทำให้หลุดพ้นได้ แต่จะตอบให้ว่า

พระอริยะกับพระโพธิสัตว์นั้น ก็คล้ายกัน เพราะหากพระอริยะและพระโพธิสัตว์ปฏิบัติธรรมได้ถูกต้อง และบรรลุธรรมถึงชั้นอนาคามี นั้นคือพระโพธิสัตว์ แต่เมื่อ พระโพธิสัตว์ บรรลุธรรมชั้นอรหันต์ขึ้นไป ย่อมคือพระพุทธเจ้า เพราะชั้นอรหันต์กับนิพพานนั้นจะอยู่เชื่อมต่อกัน ติดกัน ถ้าสำเร็จอรหันต์ก็คือบรรลุนิพพาน ถ้าบรรลุอรหันต์ก็ย่อมบรรลุนิพพานด้วย แต่จะต่างกันที่ปรากฎการณ์ที่เกิดกับสรีระร่างกาย

ส่วนพระอริยะบุคคลนั้น เป็นผู้สืบต่อหรือผู้เล่าเรียนจากพระพุทธเจ้าหรือเล่าเรียนจากพระโพธิสัตว์ ดังนั้น เมื่อบรรลุถึงเพียงชั้นโสดาบัน ก็ย่อมได้ชื่อว่า พระอริยะบุคคล ตามนัยแห่งศาสนาพุทธฉะนี้

ตอบเมื่อ: 05 มิ.ย.2004, 11:49 am

ลุงใหญ่คิดได้อย่างไงครับเนี่ย โอ้ เอา พ.ศ + ค.ศ และบวก กับ ของ อิสลามอีก โอ้ สร้างสรรค์ จริง ๆ เลย

ผู้เยี่ยมชม

อ่านตั้งนานแล้ว อดใจไม่ได้ อยากออกความเห็นครับว่า

" พระอริยะก็ดี พระโพธิสัตว์ ก็ดี เขาไม่มีการอวดตนหรอกครับ ต่อให้รักษาศีลข้อ 4 ว่าไม่โกหก แต่จู่ๆ ไม่นำตนมาพูดว่า อยู่ระดับจิตใด "

" พระโพธิสัตว์ ยังเป็นแค่ปุถุชน ส่วนพระโสดาบัน สกทาคามี อนาคามีและอรหันตสาวก ขึ้นชื่อว่าเป็นพระ " อนุพุทธะ" ไม่ใช่สัมมาสัมพุทธะ "

" หลักตรรกวิทยา ไม่ได้จริงเสมอไป รู้อย่างไร ว่าถูกดัดแปลงมากน้อยแค่ไหน และมีคนปฏิบัติสมาธิและสติปัฏฐานกันมาก และได้ผลดีเกินคาด นักจิตวิทยา และ นักวิทยาศาสตร์ ชาวตะวันตก ก็พิสูจน์เรื่องต่างๆ ในพระพุทธศาสนา ว่าเป็นจริง "

" การที่บอกว่า ปฏิบัติอย่างไรก็บรรลุไม่ได้ ไม่ตรองไว้บ้างหรือครับ ว่าจะทำให้ชาวพุทธหมดกำลังใจ ที่จริงธรรมะ เป็นของไม่จำกัดกาลครับ"

" ในศักราช เอารวมกันไม่ได้ดอกครับ คริสต์กับอิสลามก็เกิดช่วงที่มีพระพุทธศาสนาแล้ว คือ อยู่เหลื่อมล้ำกันในช่วงเวลา "

" พระพุทธเจ้า สอนให้ทำตนให้พ้นทุกข์ ถ้าพระไตรปิฎกเชื่อถือไม่ได้และจะเอาอะไรมาปฏิบัติกันน่ะครับ หรือจะไปนับถือศาสน์อื่นหรืออย่างไร "

" พระศรีอาริย์ ประทับอยู่สรวงสวรรค์ และจะต้องมาเกิดในวรรณะสูงสุด เช่นเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ไม่เกิดเป็นวรรณะแพศย์หรือประชาชนธรรมดา นั่งพิมพ์คอมพ์ประกาศตนหรอกครับ"

" สอนไม่ให้เชื่อเรื่องไร้สาระ แล้วเรื่องดังกล่าวคือพุทธทำนายหรือครับ แล้วคนทำนายคือใครครับ ก็พระพุทธเจ้าไงครับ คุณลุงกำลังจะบอกว่า ไม่ให้เชื่อพระพุทธเจ้ากระนั้นหรือ ถ้าไม่เชื่อ ทำไมไม่ลองศึกษาการปฏิบัติธรรมแล้วลองปฏิบัติตามสิครับ จะได้เข้าหลักวิทยาศาสตร์ที่ว่าต้องทำการทดลอง "

" ไม่ได้ประสงค์จะทำให้เคืองกันนะครับ ต้องขออภัยด้วยครับคุณลุง แต่ผมต้องแสดงความถูกต้อง หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียง มาชี้แจงให้แจ่มแจ้งไว้ ณ ที่นี้ครับ"