Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ห้องเรียนส่งเสริมคุณธรรมต้นกล้า โรงเรียนโสมาภานุสสรณ์ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 7:04 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ห้องเรียนส่งเสริมคุณธรรมต้นกล้า โรงเรียนโสมาภานุสสรณ์

“การเรียนในห้องที่จัดเป็นห้องธรรมะ และมีพระอาจารย์มาสอน รู้สึกสนุก เพราะพระอาจารย์จะเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ฟังแล้วไม่เบื่อ และทุกคนก็ตั้งใจฟังพระอาจารย์ เพราะครูสอนว่าเมื่ออยู่ในห้องจริยธรรมจะต้องเงียบ และเมื่อเจอพระอาจารย์จะต้องกราบ ซึ่งก็ได้ทำอยู่ทุกครั้ง กลายเป็นสิ่งที่ทำอย่างอัตโนมัติ”

ด.ช.ทองพล ชมฤทธิ์ หรือน้องขิง นักเรียนชั้นป.2 เล่าบรรยากาศการเรียนในโรงเรียนโสมาภานุสรณ์ เจ้าของรางวัลสถานศึกษาขนาดใหญ่ส่งเสริมคุณธรรมต้นแบบดีเด่นระดับภาคปี 2549

น้องขิงบอกว่า เข้าเรียนธรรมะหลายครั้งแล้ว และตอนนี้ท่องบทสวดมนต์ได้แล้วด้วย โดยเรียนในห้องจริยธรรม ซึ่งมีพระพุทธรูปและภาพวาดทางพุทธศาสนา แสดงถึงการเกิด แก่ เจ็บ ตาย พร้อมตำราและเทปสำหรับเด็กๆ และพระอาจารย์รอสอน

ด.ช.สิปปวิชญ์ เจือสวัสดิ์ หรือลูกเสือเพ้นท์ ชั้นป.6 บอกว่า ครั้งแรกที่เรียนวิชาคุณธรรมและจริยธรรมกับพระอาจารย์ ไม่ค่อยกล้าพูด เพราะท่านเป็นพระ แต่พระอาจารย์ก็ชอบเล่าเรื่องธรรมะสนุกๆ ให้ฟัง “เรียนสนุกครับ เพราะว่าห้องเรียนเมื่อเข้าไปแล้วรู้สึกเย็นสบาย และทุกคนก็รู้ว่าต้องเงียบ พอถึงหน้าห้องจริยธรรมทุกคนจะค่อยๆ คลานเข้าไปในห้องที่มีทั้งพระพุทธรูปและพระอาจารย์อยู่ จากนั้นทุกคนก็จะกราบพระและฟังพระอาจารย์เล่าเรื่องของธรรมะ”

ด้าน อ.เกรียงศักดิ์ สมหวัง อาจารย์หัวหน้ากลุ่มสาระสังคม ผู้ที่ดูแลด้านจริยธรรมและคุณธรรมของนักเรียนในทุกช่วงชั้น โดยเมื่อปี 2546 ได้รับรางวัลพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สาขาเผยแผ่และส่งเสริมกิจกรรมพระพุทธศาสนา กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมมีความก้าวหน้าในการพัฒนาด้วยวิทยาการใหม่ๆ คนส่วนใหญ่ยึดติดอยู่กับความสำเร็จทางวัตถุมาก จนขาดความเอาใจใส่ศีลธรรมคุณธรรมที่เป็นเรื่องสำคัญในการดำเนินชีวิต ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาเยาวชน ที่บางเรื่องจะต้องแก้ไขด้วยคุณธรรมและศีลธรรม หากเด็กทุกคนรู้ว่าเรื่องไหนดี ไม่ดี และเกิดความตระหนักได้เอง เมื่อโตขึ้นจะทำให้อยู่ในสังคมได้อย่างสงบสุข ไม่ตกเป็นภาระของสังคม ทั้งนี้ โรงเรียนต้องเป็นแหล่งที่ทำให้เด็กได้ซึมซับเอาสิ่งที่ดีๆ ออกไปใช้เมื่อเติบโต

Image

ครูเล่าถึงสิ่งสำคัญของการเรียนในวิชาจริยธรรมและคุณธรรมว่า บรรยากาศในห้องเรียนต้องจัดแจงให้มีความเหมาะสม หากว่าโรงเรียนทำห้องจริยธรรมให้รู้สึกเหมือนกับที่วัด เมื่อเด็กไปที่วัดเขาจะสงบนิ่งโดยอัตโนมัติ เพราะความเคยชินที่ได้ปฏิบัติมา และการที่จัดให้มีพระอาจารย์มาสอน เนื่องจากเห็นว่าการเรียนในหลายๆ วิชา อาทิ วิชาอังกฤษ หากจะเรียนให้รู้แจ้งจะต้องเรียนกับผู้ที่เป็นเจ้าของภาษา เช่นเดียวกับการเรียนวิชาจริยธรรม หากมีพระอาจารย์ซึ่งเป็นผู้ที่รู้แจ้งในธรรมะ จะทำให้เด็กซึมซับกับเรื่องราวต่างๆ ได้ดี คุณธรรมและจริยธรรมหากทำตั้งแต่ตอนเด็กจะส่งผลยั่งยืน ทั้งเด็กๆ รู้จักการปฏิบัติตัวเมื่ออยู่กับพระ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ต้องเข้าใจถึงความแตกต่างและความเหมาะสม

นอกจากห้องเรียนจริยธรรม ยังมี โครงการธนาคารความดี “เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจของเด็ก และเป็นเครื่องหมายยืนยันว่าเคยทำความดี เด็กจะได้เอามาอวดเพื่อนและผู้ปกครอง” ครูปราณี จันทร์แม้น ผู้ช่วยฝ่ายกิจการนักเรียน ผู้ช่วยดูแลโครงการธนาคารความดี ให้รายละเอียดว่า ความดีเป็นเรื่องที่อยู่ในชีวิตประจำวันที่สามารถทำได้ เช่น ปิดน้ำ เชื่อฟังครูจนได้รับคำชม ทำการบ้าน เก็บขยะ ฯลฯ ล้วนทำให้เด็กปฏิบัติในเรื่องดีที่เป็นประโยชน์ ซึ่งในอนาคตสิ่งเหล่านี้จะติดตัวเขาไป

สำหรับธนาคารความดีของโรงเรียน หากใครทำความดีสะสมจนเป็นจำนวนที่กำหนด สามารถแลกเป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ แทนน้ำใจ นอกจากนี้ ยังนำสมุดความดีไปวัดผลด้านพฤติกรรมของแต่ละคนได้ด้วย เพราะเด็กจะแสดงพฤติกรรมความมีน้ำใจ เสียสละต่อเพื่อน บิดา มารดา อย่างเด่นชัด หรือสามารถควบคุมอารมณ์ รู้จักกล่าวคำขอบคุณ ขอโทษ หรือเกิดพฤติกรรมรักษาความสะอาด เป็นต้น

“น้องเปรียว” พิชชารีย์ พรหมรัตน์, “น้องแพรว” วรนิษฐา อร่ามเอกสกุล และ “น้องนุ่น” ศกลวรรณ เอกนันทกุล นักเรียนชั้นป.3 ช่วยกันเล่าระหว่างต่อแถวรับของรางวัลจากการทำความดีว่า สมุดบัญชีความดีที่ได้เป็นความภาคภูมิใจ ถึงแม้ว่าคะแนนจะสามารถนำไปเป็นเงินเพื่อซื้อขนมได้ แต่อยากเก็บคะแนนเอาไว้ เพราะรู้สึกว่าสนุก เอามาอวดกันเองในกลุ่มเพื่อน และนำกลับบ้านไปชื่นชมกับผู้ปกครอง ถ้าวันไหนได้คะแนนเพิ่มเยอะ ก็จะนำไปพูดคุยกับที่บ้าน ได้รับคำชม ทำให้อยากทำความดี

นายสมเกียรติ โสมาภา ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงเรียน กล่าวว่า การเรียนการสอนในปัจจุบันจะเน้นให้นักเรียนมีความรู้เพียงอย่างเดียวไม่ได้ สถานศึกษาจะต้องส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรมด้วย เพื่อกระตุ้นเตือนให้นักเรียนได้ประพฤติและใฝ่ดีอยู่เสมอ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ต้องการให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์

Image

ด้าน นางทิพย์วรรณ สมานรักษ์ ครูใหญ่ กล่าวว่า การเรียนหนังสือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะทำให้เด็กมีความรู้ แต่สิ่งที่โรงเรียนสามารถเพิ่มเติมแก่เด็กได้คือการมีจิตใจที่ดี เป็นคนที่มีลักษณะนิสัยที่เป็นที่ยอมรับของผู้อื่น และเข้าใจผู้อื่น พร้อมกับสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ในตำราเรียน หากแต่จะต้องกระทำจนเป็นนิสัย

“หากเด็กและเยาวชนได้รับการเรียนรู้และอบรมสั่งสอนเรื่องศีลธรรมและคุณธรรมด้วยความสมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง จะยกระดับการพัฒนาจิตใจของเด็กและเยาวชนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณค่า ช่วยพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้ายั่งยืนต่อไป โดยโรงเรียนจะเป็นที่สร้างพื้นฐานที่สำคัญ เพราะเด็กต้องใช้เวลาอยู่กับโรงเรียนในช่วงวัยที่กำลังเรียนรู้ และสามารถที่จะจดจำสิ่งดีๆ ออกไปได้”

เป็นต้นกล้าสมบูรณ์ที่จะเติบโตแข็งแรงงดงามต่อไป


หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 24
คอลัมน์ รายงานการศึกษา โดย ศิริรัตน์ สิวราวุฒิ
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6140
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง