Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เสนาบดีขี้โกง (ธรรมสภา) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 20 ม.ค. 2005, 6:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

เสนาบดีขี้โกง

นิทานธรรม ฉบับพิเศษ
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา



พระเจ้ายสปาณีแห่งเมืองพาราณสี มีเสนาบดีชื่อ “กาฬกะ” และมีปุโรหิตชื่อ “ธัมมธัช” เสนาบดีกาฬกะนอกจากคุมกำลังกองทัพแล้ว ยังทำหน้าที่ตัดสินคดีความให้แก่ชาวเมืองด้วย ขณะที่ปุโรหิตทำหน้าที่ถวายความรู้เรื่องการปกครองแก่พระเจ้ายสปาณี ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นปุโรหิตธัมมธัช ซึ่งเสนาบดีกาฬกะถือว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญที่ต้องกำจัด

วันหนึ่ง เสนาบดีกาฬกะได้รับว่าความคดีหนึ่ง ซึ่งฝ่ายผิดพยายามวิ่งล้มคดีโดยเสนอเงินตอบแทนเป็นจำนวนมาก เสนาบดีกาฬกะรับข้อเสนอ และเมื่อคดีถึงที่สุดก็ตัดสินให้ฝ่ายที่ติดสินบนซึ่งเป็นฝ่ายผิดชนะคดี

“ข้าพเจ้าแพ้ได้อย่างไร ?” ฝ่ายที่ถูกต้องแต่ถูกตัดสินว่าแพ้อุทานออกมาด้วยความเสียใจ ถึงกับร้องไห้คร่ำครวญออกมา เขาเดินไปอย่างคนไร้สติ ระหว่างทางนั้นเองได้มาพบกับปุโรหิตธัมมธัช ซึ่งคนทั่วไปรู้จักดีว่าเป็นคนยุติธรรม

“ท่านปุโรหิต เสนาบดีกาฬกะไม่ซื่อสัตย์เลย รับสินบนเขาแล้วมาตัดสินให้ข้าพเจ้าแพ้ความ” ชายผู้นั้นหมอบลงแทบเท้าของท่านปุโรหิตธัมมธัช แล้วชี้แจ้งความจริง ปุโรหิตได้ฟังเรื่องราวแล้ว บอกให้เขาสบายใจ

“เอาเถอะ ถ้าท่านมั่นใจว่าไม่ใช่คนผิด ฉันจักตัดสินคดีให้ใหม่”

หลังจากนั้น ปุโรหิตธัมมธัชก็พาชายคนนั้นกลับไปยังศาล แล้วสั่งรื้อฟื้นคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่ ปุโรหิตธัมมธัชพิจารณาคดีตามความเป็นจริง จึงพบว่าเสนาบดีกาฬกะตัดสินคดีไม่ยุติธรรมอย่างที่ถูกกล่าวหาจริง ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรมปุโรหิตจึงกลับคำตัดสินใหม่ ให้ชายผู้ที่ถูกตัดสินให้แพ้เป็นผู้ชนะตามรูปคดี ชาวเมืองต่างดีใจพากันโห่ร้องแสดงความยินดีกับชายผู้ชนะคดี

พระเจ้ายสปาณีประทับอยู่ในพระราชวัง ทรงตกพระทัยที่ได้ยินเสียงโห่ร้องนั้น ทรงรับสั่งถามเจ้าหน้าที่ว่า “นั่นเสียงอะไร”

“เสียงโห่ร้องแสดงความยินดี พระเจ้าข้า” เจ้าหน้าที่กราบทูล

“ยินดีอะไรกัน”

“ยินดีที่คดีได้รับการตัดสินอย่างยุติธรรม พระเจ้าข้า”

“ใครตัดสิน”

“ปุโรหิตธัมมธัช พระเจ้าข้า” เจ้าหน้าที่กราบทูล

วันนั้นเอง พระเจ้ายสปาณีทรงรับสั่งให้เชิญปุโรหิตธัมมธัชเข้าเฝ้า แล้วตรัสถามถึงเรื่องราวทั้งหมดด้วยพระองค์เอง

“ขอเดชะ ข้าพระองค์อดสงสารคนถูกไม่ได้ ที่ต้องกลายมาเป็นคนผิด” ปุโรหิตกราบทูลพระเจ้ายสปาณีตามความจริง

“ดีแล้วท่านปุโรหิต ขอให้ท่านรักษาความยุติธรรมไว้ ตั้งแต่นี้ฉันขอมอบหน้าที่ตัดสินคดีให้ท่านแต่เพียงผู้เดียว”

ปุโรหิตธัมมธัชตัดสินคดีด้วยความยุติธรรม ชาวเมืองต่างพอใจในการตัดสินใจในการตัดสินคดีของท่านมาก ต่างกล่าวสรรเสริญกันทั่วไป เสนาบดีกาฬกะเกิดความอิจฉาปุโรหิตธัมมธัช เขาจึงหาทางทำลายปุโรหิตอยู่ตลอดเวลา คราวหนึ่งสบโอกาสเหมาะได้เข้าเฝ้าพระเจ้ายสปาณี แล้วยุยงว่า

“ขอเดชะ ปุโรหิตธัมมธัชคิดกบฏ”

“ท่านพูดเหลวไหล” พระเจ้ายสปาณีไม่เชื่อ

เสนาบดีกาฬกะไม่ละความพยายามกราบทูลยุยงเรื่องปุโรหิตธัมมธัชคิดกบฏ ให้พระเจ้ายสปาณีฟังอยู่ตลอดเวลา

“ท่านมีหลักฐานหรือ” พระเจ้ายสปาณีเริ่มคล้อยตาม

“มีพะย่ะค่ะ” เสนาบดีกาฬกะกราบทูล

“ตอนนี้ปุโรหิตธัมมธัชเกลี้ยกล่อมชาวเมืองไว้ในมือได้หมดแล้ว หากพระองค์ไม่เชื่อแล้วละ ก็ลองทอดพระเนตรดูทางหน้าต่างนั่นซี”


(มีต่อ)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 20 ม.ค. 2005, 7:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขณะนั้น ปุโรหิตกำลังเดินมาเข้าเฝ้า ชาวเมืองเมื่อเห็นปุโรหิตธัมมธัชต่างก็เข้ามาหาทักทายและแสดงความเคารพรัก ในฐานะผู้ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรมของบ้านเมือง พระเจ้ายสปาณีทอดพระเนตรเห็นภาพนั้นก็ตกพระทัย

“แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี ท่านเสนาบดี” พระเจ้ายสปาณีตรัสปรึกษากับเสนาบดีกาฬกะ

“มีทางเดียวพะย่ะค่ะ” เสนาบดีกราบทูลแบบไว้เชิง

“ทางอะไรหรือ”

“ฆ่าเขาเสีย ไม่อย่างนั้นพระองค์ก็จะไม่สิ้นเสี้ยนหนาม”

พระเจ้ายสปาณีทรงเห็นชอบด้วยตามที่เสนาบดีกาฬกะกราบทูล แล้วร่วมกันวางแผนกำจัดปุโรหิตธัมมธัชผู้ซื่อสัตย์

“ท่านปุโรหิต” พระเจ้ายสปาณีตรัสขึ้นในวันหนึ่งขณะปุโรหิตธัมมธัชเข้าเฝ้า

“ท่านเป็นคนมีบุญ ชาวเมืองรักใคร่ ฉันอยากจะอาศัยบุญของท่านช่วยให้ฉันได้อุทยานใหม่”

“หมายความว่าอย่างไร พระเจ้าข้า” ปุโรหิตธัมมธัชสงสัย

“ฉันอยากให้ท่านสร้างอุทยานใหม่ให้เสร็จภายในวันเดียว” พระเจ้ายสปาณีตรัสย้ำ

“หากไม่เสร็จ ท่านจะต้องได้รับโทษประหารชีวิต”

“ได้พระเจ้าข้า” ปุโรหิตธัมมธัชทูลรับสนองพระดำรัส

คืนนั้น หลังจากกลับจากเข้าเฝ้าพระเจ้ายสปาณีแล้ว ปุโรหิตธัมมธัชก็ทุกข์ใจอย่างหนักเพราะมองไม่เห็นทางจะสร้างอุทยานให้เสร็จภายในวันเดียวได้ ทันใดนั้นเองพระอินทร์ก็มาปรากฏร่างให้เห็นและปลอบโยน

“อย่าหนักใจไปเลย เราจักช่วยเนรมิตอุทยานให้”

ปุโรหิตธัมมธัชเพ่งพินิจดูรูปที่ยืนสง่าอยู่ตรงหน้า และเมื่อระงับความตื่นเต้นได้แล้วจึงทรุดตัวลงกราบ พร้อมทั้งกราบทูลว่า

“ขอเดชะ พระองค์ผู้เป็นเจ้าแห่งทวยเทพ ขอได้โปรดช่วยข้าพระองค์ด้วย”

“อย่าวิตกไปเลย บอกมาเถอะว่าท่านจักสร้างอุทยานที่ตรงไหน เราจักเนรมิตให้” พระอินทร์ตรัสปลอบ

รุ่งเช้า ปุโรหิตธัมมธัชออกไปดูยังที่ที่ชี้ให้พระอินทร์สร้าง ก็เห็นอุทยานกว้างใหญ่แห่งใหม่ มีดอกไม้งามสะพรั่ง จึงรีบไปกราบทูลพระเจ้ายสปาณีให้ทรงทราบ พระเจ้ายสปาณีเสด็จไปทอดพระเนตรพร้อมด้วยเสนาบดีกาฬกะ และเมื่อเห็นว่ายังไม่สามารถกำจัดปุโรหิตธัมมธัช พระราชากับเสนาบดีก็วางแผนกำจัดต่อไปอีก

คราวนี้ พระเจ้ายสปาณีรีบสั่งให้ปุโรหิตธัมมธัช สร้างสระโบกขรณีและเรือนในอุทยานให้เสร็จภายในวันเดียว พระอินทร์ก็เสด็จมาช่วยเนรมิตให้อีก และครั้งสุดท้ายพระเจ้ายสปาณีสั่งให้หาคนเฝ้าอุทยานที่มีคุณสมบัติ ๔ ข้อ คือ ไม่ริษยา ไม่ดื่มน้ำเมา ไม่รัก ไม่โกรธ

ปุโรหิตธัมมธัชทุกข์ใจหนัก พระอินทร์ทรงทราบความเป็นไปนั้น จึงแปลงตัวเป็นพรานป่ามาหาแล้วตรัสถาม “ดูเหมือนท่านจากแว่นแคว้นมาอยู่ป่าที่สงบเงียบ แล้วนั่งอยู่ผู้เดียวที่โคนไม้คล้ายคนกำพร้า เป็นเพราะเหตุใดหรือ”

ปุโรหิตธัมมมธัชตอบว่า “ข้าพเจ้ามานั่งนึกถึงธรรมของสัตบุรุษ เพื่อบรรเทาความทุกข์ใจ”

จากนั้นก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พรานป่าฟัง พระอินทร์แปลงได้ฟังดังนั้น จึงปลอบโยนและบอกว่า “ช่างกัลบกของพระเจ้ายสปาณีชื่อ ฉัตตปาณิ นั่นแหละ มีคุณสมบัติครบทั้ง ๔ ข้อ”

เช้าวันรุ่งขึ้น ปุโรหิตธัมมธัชเข้าเฝ้าพระเจ้ายสปาณี แล้วกราบทูลถึงคุณสมบัติ ๔ ประการของช่างกัลบกฉัตตปาณิ พระเจ้ายสปาณีทรงรับสั่งให้ช่างกัลบกเข้าเฝ้า ตรัสถามถึงเหตุผลที่คุณสมบัติ ๔ ประการนี้

ทันทีที่ช่างกัลบกกราบทูลจบ อำมาตย์ทั้งหลายพร้อมทั้งพวกชาวเมืองก็ลุกฮือขึ้นขับไล่เสนาบดีกาฬกะ ซึ่งพวกตนเชื่อว่าเป็นผู้วางแผนร้ายทำลายปุโรหิตธัมมธัชผู้ซื่อสัตย์ นับตั้งแต่นั้นมา พระเจ้ายสปาณีก็ครองราชสมบัติโดยธรรม ทั่วแคว้นสงบสุข ทุกคนได้รับความยุติธรรมคราวเกิดคดีความ และปุโรหิตธัมมธัชก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ

นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนที่เจริญรุ่งเรืองมาด้วยความดีนั้น แม้จะถูกกลั่นแกล้งเพียงไรก็เอาชนะความเลวร้ายได้ในที่สุด เหมือนปุโรหิตธัมมธัชเอาชนะเสนาบดีกาฬกะด้วยความดีฉะนั้น



........................ เอวัง ........................
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
siam
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 01 มี.ค. 2005
ตอบ: 19

ตอบตอบเมื่อ: 20 มี.ค.2005, 1:50 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ ขออนุโมทนาครับ...............เเละป๋มขอ copy ไปเผยเเผ่ต่อนะอะคับ เอาไว้ให้น้องๆ ดูอะนะครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ไร้นาม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 พ.ค.2005, 2:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอให้เข้ามาอ่านกันเยอะๆ นะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 16 ส.ค. 2006, 11:47 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกเรื่องที่อ่านมามีข้อคิดและมีประโยชน์มากๆ ค่ะ ขออนุโมทนาด้วยค่ะ
 
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 05 มิ.ย.2008, 4:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทโธ ขออนุโมทนาครับ
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง