Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 หมาจิ้งจอกผู้เหิมเกริม (ธรรมสภา) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 20 ม.ค. 2005, 5:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หมาจิ้งจอกผู้เหิมเกริม

นิทานธรรมฉบับพิเศษ
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา



พระเจ้าพรหมทัตแห่งเมืองพาราณสีมีปุโรหิตอยู่หนึ่งคน ศึกษาจบศิลปศาสตร์ ๑๘ ประการพร้อมทั้งไตรเพท และมีความเชี่ยวชาญในมนต์ปฐพีพิชัย (มนต์ครองแผ่นดิน) มนต์นี้เมื่อร่ายแล้วจะสะกดศัตรูให้อยู่ในอำนาจ

ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นปุโรหิต ถวายคำแนะนำในราชกิจแก่พระเจ้าพรหมทัตอยู่สม่ำเสมอ แต่ไม่ค่อยได้ร่ายมนต์ปฐพีพิชัยนักเพราะไม่ต้องการให้ผู้อื่นจำได้ เนื่องจากจะเกิดอันตรายแก่ผู้นำไปใช้ในทางที่ผิด

อยู่มาวันหนึ่ง ปุโรหิตประสงค์จะร่ายมนต์ปฐพีพิชัยนั้นจึงได้นั่งบนแผ่นหินดาดที่เนินแห่งหนึ่งแล้วสาธยายมนต์เสียงดังขณะนั้นเอง มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่งนอนใกล้ๆ ฟังปุโรหิตสาธยายมนต์ซ้ำไปซ้ำมาหลายเที่ยวจนจำ

ปุโรหิต หลังจากสาธยายมนต์อยู่หลายเที่ยวจนแน่ใจว่าไม่ผิดพลาดและคล่องปากแล้วก็ลุกขึ้นไปจากที่นั่น ขณะนั้นเองหมาจิ้งจอกก็รีบลุกขึ้นเดินเข้าไปหาปุโรหิตพร้อมทั้งกล่าวว่า

“ท่านพราหมณ์ ข้าพเจ้าต้องขอขอบคุณท่านมากที่สาธยายมนต์นี้ให้ข้าฟังจนข้าพเจ้าจำได้แม่นยำไม่แพ้ท่าน”

ปุโรหิตรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่ได้ทราบว่าหมาจิ้งจอกจำมนต์ปฐพีพิชัยได้เพราะเกรงว่ามันจะนำไปใช้ในทางที่ผิด

“มนต์เป็นของมีค่า” ท่านเอ่ยขึ้น “เมื่อเจ้าจำได้แล้วก็จงนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางที่ถูกต้องเถิด” จากนั้น หมาจิ้งจอกก็เดินหนีเข้าป่าไป

หมาจิ้งจอกรู้สึกกระหยิ่มใจในมนต์ที่ตนลักจำได้มาขณะที่เดินไปในป่านั้นเห็นนางหมาจิ้งจอกตัวหนึ่งยืนขวางหน้าจึงแกล้งงับเข้าที่ลำตัว

“มีอะไรหรือนาย” นางหมาจิ้งจอกสงสัย

“เจ้าไม่รู้จักข้าหรือ” หมาจิ้งจอกถาม

“รู้จักซีจ๊ะนาย” นางหมาจิ้งจอกตอบแบบเอาใจ

“เจ้าเข้าใจพูด” หมาจิ้งจอกยิ้มหวานให้พลางสอดส่ายสายตาเล้าโลมไปทั่วเรือนร่างของนาง

เพื่ออวดศักดาของตน ณ ที่นั้นเอง หมาจิ้งจอกก็ร่ายมนต์ปฐพีพิชัยเรียกให้หมาจิ้งจอกหลายร้อยตัวมาอยู่ในอำนาจเขาภูมิใจมากที่มนต์สัมฤทธิ์ผล และเดินตรวจแถวหมาจิ้งจอกที่มายืนอยู่ตรงหน้าอย่างองอาจ

“ดีมาก ดีมาก” เขาเอ่ยขึ้น “ที่พวกเจ้ามากันพร้อมพรักในวันนี้ เวลาข้าต้องการใช้จะเรียกพวกเจ้ามาใหม่”

“ได้เจ้านาย” บรรดาหมาจิ้งจอกค้อมศีรษะลงรับคำ



(มีต่อ ๑)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 20 ม.ค. 2005, 6:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หลังจากร่ายมนต์รวมพลหมาจิ้งจอกได้แล้ว หมาจิ้งจอกนั้นก็คิดจะรวมพลสัตว์อื่น ต่อไป เข้าจึงร่ายมนต์ปฐพีพิชัยอีกครั้งหนึ่ง ทันใดนั้นเอง สัตว์ป่านานาชนิดนับตั้งแต่ ช้าง ม้า ราชสีห์ เสือโคร่ง หมู กระต่าย และเก้ง กวาง ก็มาประชุมพร้อมกันต่อหน้าพวกหมาจิ้งจอก

“มีอะไรจะให้พวกเรารับใช้หรือนาย” บรรดาสัตว์ป่าพูดขึ้นพร้อมกัน

“มีซี.....มี” หมาจิ้งจอกพูดเสียงดัง “อยู่แต่ว่าพวกเจ้าจะยอมทำตามคำบัญชาของข้าหรือเปล่าเท่านั้นเอง”

“นายพูดอะไรอย่างนั้น” ช้างพูดขึ้น “มีหรือที่พวกพสกนิกรจะไม่ทำตามบัญชาของเจ้าเหนือหัว”

“เจ้ายอมรับข้าเป็นราชาของพวกเจ้าหรือ”

“ใช่แล้ว.....พะย่ะค่ะ” ราชสีห์รับคำ

“ดีมาก.....ดีมาก.....” หมาจิ้งจอกหัวเราะลั่น “ธรรมดาราชามันต้องมีราชินีแต่ตอนนี้ข้ายังอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเดียวดายเจ้าคิดว่าใครเหมาะจะเป็นราชินีของข้า”

“สุดแท้แต่ท่านประสงค์เถิด” บรรดาสัตว์ป่าร้องขึ้นพร้อมกัน

หมาจิ้งจอกชายตาไปที่นางหมาจิ้งจอก แล้วส่งยิ้มหวานให้ นางหมาจิ้งจอกเข้าใจความหมายจึงยิ้มตอบ หมาจิ้งจอกเดินเข้าไปหานางพลางแลบลิ้นเลียที่หน้านางด้วยความรัก แล้วหันมาประกาศแก่บรรดาสัตว์ป่าว่า

“นางคือราชินีของพวกเจ้า”

“ต่อนี้ไปเราจะต้องหาเมืองครอบครอง” หมาจิ้งจอกพูดขึ้นอย่างองอาจ “เมื่อมีเมืองครอบครองแล้ว พวกเจ้าจะได้มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย ข้าเองกับราชินีก็จะได้ดูแลพวกเจ้าได้อย่างทั่วถึง”

“พระองค์คิดว่าจะสร้างเมืองขึ้นที่ไหนพะย่ะค่ะ” ช้างร้องถาม

“การสร้างเมืองใหม่เป็นเรื่องยุ่งยาก” หมาจิ้งจอกทำท่าครุ่นคิดหนัก “เราไปยึดเอาเมืองอื่นจะง่ายกว่า”

“แล้วพระองค์คิดว่าจะยึดเมืองไหนดีพระเจ้าข้า” ม้าเร่งเร้า

“เมืองพาราณสีเป็นยังไง” หมาจิ้งจอกตอบแบบไม่ต้องคิด

“ไชโย.....ไชโย.....” ราชสีห์กับเสือโห่ร้องนำ ยังผลให้สัตว์ป่าอื่นพากันโห่ร้องตามกันเสียงลั่นป่า

เมื่อพลพรรคเห็นชอบด้วยดังนั้น หมาจิ้งจอกก็สั่งให้ช้างอยู่แถวขวา ราชสีห์อยู่แถวซ้ายจากนั้นก็มีสัตว์อื่นๆ ยืนแยกแถวกันไปทั้ง ๒ ข้าง ส่วนแถวหน้ามีช้าง ๒ เชือกยืนอยู่ราชสีห์ตัวหนึ่งถูกจัดให้ยืนอยู่บนหลังช้าง ๒ เชือกนั้นเพื่อทำตัวให้เป็นบังลังก์

สำหรับให้หมาจิ้งจอกในฐานะราชากับนางจิ้งจอกในฐานะราชินีประทับนั่ง เมื่อจัดกระบวนทัพเสร็จสรรพแล้ว หมาจิ้งจอกก็สั่งพลพรรคเคลื่อนทัพทันที



(มีต่อ ๒)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 20 ม.ค. 2005, 6:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กระบวนทัพสัตว์ป่าซึ่งมีหมาจิ้งจอกเป็นจอมทัพเคลื่อนตัวมุ่งหน้าเข้าเมืองพาราณสีต่างตกใจกลัววิ่งหนีกันจ้าละหวั่น หมาจิ้งจอกนั้นมองดูเหตุการณ์อยู่บนหลังราชสีห์ด้วยความรู้สึกกระหยิ่มใจไม่แพ้กัน

ขณะที่พวกชาวเมืองพากันแตกตื่นหนีภัยด้วยความกลัวนั้น ปุโรหิตของพระเจ้าพรหมทัตเจ้าของมนต์ปฐพีพิชัยก็รู้ได้ทันทีว่าหมาจิ้งจอกรวบรวมพลมาได้เพราะใช้มนต์ปฐพีพิชัยเรียกมา จึงอาสาจะสู่กับกองทัพสัตว์ป่าเอง

ปุโรหิตขึ้นไปยืนอยู่บนป้อมปราการสำรวจดูองทัพสัตว์ป่าก็เห็นหมาจิ้งจอกนั่งเคียงคู่กับนางหมาจิ้งจอกอย่างสง่าอยู่บนหลังราชสีห์จึงร้องถาม

“เจ้าต้องการราชสมบัติหรือ”

“ใช่แล้ว.....” หมาจิ้งจอกตะโกนตอบเสียงลั่น “เจ้าจะเอาอย่างไหนให้เลือกเอา ระหว่างสงครามกับการยอมแพ้”

“ก่อนที่จะเลือกตัดสินอย่างใด เราก็ต้องทราบก่อนว่าเจ้าจะรบแบบไหน” ปุโรหิตลองหยั่งเชิง

“ง่ายมาก.....ข้าจะให้ราชสีห์ตัวที่ข้าขี่หลังนี่แหละแผดเสียงร้องให้เต็มที่ พวกเจ้าก็จะตกใจจนไม่มีทางต่อสู้”

ปุโรหิตครั้นได้ทราบแผนรบของหมาจิ้งจอกแล้วก็สั่งพวกชาวเมืองให้เอาแป้งอุดหูพร้อมทั้งอุดหูให้พวกสัตว์เลี้ยงต่างๆ ด้วย จากนั้นก็กลับขึ้นไปบนป้อมปราการบัญชาการรบ

“ไอ้พวกโง่ จะตายยังไม่รู้สึก” หมาจิ้งจอกตวาดพลางหันมาสั่งราชสีห์ตัวที่ตนเองนั่งอยู่บนหลังให้แผดเสียงร้อง

ราชสีห์ปฏิบัติตามคำสั่งทันทีโดยป้องปากวางลงไปที่กระพองช้างแล้วแผดเสียงร้องขึ้น ๓ ครั้ง ช้าง ๒ เชือกที่ราชสีห์ยืนอยู่บนหลังตกใจเหวี่ยงราชสีห์ ส่งผลให้หมาจิ้งจอกกับนางจิ้งจอกพลัดตกลงมากองอยู่แทบเท้าช้างและถูกเหยียบตายอยู่ตรงนั้นเอง

ฝ่ายช้างที่เหลือได้ฟังราชสีห์แผดเสียงร้องก็ตกใจกลัวตายต่างวิ่งแทงกันและกันจ้าละหวั่นเป็นเหตุให้ล้มตายกันหมดสิ้น สัตว์ป่าอื่นๆ ที่เหลือ อาทิ ม้า เก้ง กวาง กระต่าย ก็ตกใจหัวแตกตายอยู่ในที่นั้นเอง เป็นอันว่าบรรดาสัตว์ป่าที่หมาจิ้งจอกคุมมารบนั้นเหลือรอดตายอยู่เพียงราชสีห์เท่านั้นซึ่งทั้งหมดก็พากันวิ่งเข้าป่าไป

ปุโรหิตให้เปิดประตูเมืองเพื่อให้ชาวเมืองออกมาช่วยกันขนซากสัตว์ที่นอนตายเกลื่อนกินเนื้อที่ถึง ๑๒ โยชน์ ชาวเมืองต่างดีใจช่วยกันขนย้ายสัตว์ไปชำแหละเอาเนื้อตากแห้งไว้กิน ส่วนของหมาจิ้งจอกกับนางจิ้งจอกถูกทับอยู่ใต้สุด

นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า วิชาความรู้แม้จะให้ประโยชน์ แต่ถ้านำไปใช้อย่างไม่รอบคอบก็ก่อให้เกิดโทษได้เหมือนกัน เหมือนอย่างหมาจิ้งจอกได้มนต์ปฐพีพิชัยแล้วนำไปใช้อย่างไม่รอบคอบจนมีผลทำให้ตนเองถึงตายฉะนั้น



--------จบ--------
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
wipada
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 26 ต.ค. 2005
ตอบ: 1

ตอบตอบเมื่อ: 26 ต.ค.2005, 10:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สนุกดีคะ ให้ข้อคิดดี
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
หมาจิ้งจอก
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ก.พ.2007, 9:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 03 มิ.ย.2008, 3:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สู้ สู้ ได้ข้อคิดครับ ยิ้มแก้มปริ
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง