Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ศิษย์คิดล้างครู (ธรรมสภา) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 20 ม.ค. 2005, 5:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ศิษย์คิดล้างครู

นิทานธรรม ฉบับพิเศษ
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา



ในเมืองพาราณสี มีตระกูลหนึ่งรับหน้าที่สอนศิลปะเกี่ยวกับการฝึกช้างและการใช้ช้างให้ทำงานต่างๆ ตามที่ปรารถนา ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นลูกของตระกูลนั้น ศึกษาศิลปะเกี่ยวกับเรื่องการฝึกช้างจนจบและเชี่ยวชาญ จึงได้รับมอบหมายจากตระกูลให้ทำหน้าที่สอนศิลปะนั้นแก่ศิษย์รุ่นต่อๆ มา

อาจารย์เป็นคนมีเมตตาต่อบรรดาศิษย์มาก ตั้งใจสอนศิลปะวิทยาเป็นอย่างดีโดยไม่ปิดบัง และไม่เลือกว่าศิษย์นั้นมีฐานะเป็นเช่นไร ดังนั้น จึงมีศิษย์มาสมัครเรียนศิลปะวิทยาจากทั่วสารทิศ ต่อมาได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาขอศึกษาอยู่ด้วย

“เธอมาจากที่ไหน” อาจารย์ถาม

“ข้าพเจ้าเป็นชาวเมืองพาราณสีนี้เอง” ชายหนุ่มตอบ

“เธอจะเรียนไปทำไม”

“ข้าพเจ้ามาเรียนก็เพื่อเอาไว้ไปใช้ทำมาหากิน”

เมื่อทราบความประสงค์ของศิษย์อย่างนั้นแล้ว อาจารย์ก็ได้รับไว้ด้วยความเมตตาและสอนศิลปวิทยาให้จนหมดสิ้น

วันหนึ่ง หลังจากจบการศึกษาแล้ว ชายหนุ่มได้เข้าไปหาอาจารย์ อาจารย์ได้กล่าวความยินดีและชวนสนทนาถึงเรื่องต่างๆ รวมทั้งเรื่องราวในราชสำนักด้วย

“ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าอยากรับราชการ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นในตอนหนึ่ง

“งานราชการคืองานรับใช้พระราชสำนักเป็นงานหนักนะ” อาจารย์บอก

“ข้าพเจ้าไม่กลัวงานหนัก กลัวแต่ว่าจะไม่ได้งานทำเท่านั้น”

“ถ้าเธอต้องการจริงๆ ฉันจะช่วยฝากให้”

อาจารย์ทำตามที่พูดไว้ หลังจากเฝ้าพระเจ้าพรหมทัต พระราชาแห่งแคว้นกาสีแล้ว วันหนึ่งจึงได้กราบทูลว่า “ขอเดชะ ข้าพระองค์มีลูกศิษย์ฝีมือดีอยู่คนหนึ่ง ขอฝากเขาไว้รับใช้ในราชสำนักด้วย”

“ได้ซีท่านอาจารย์” พระเจ้าพรหมทัตตรัสรับรอง “ใครก็ตามถ้ามาจากอาจารย์ ฉันรับหมดเพราะเชื่อฝีมือ”

“เป็นพระมหากรุณาธิคุณพระเจ้าข้า” อาจารย์ก้มลงกราบ พลางขอให้พระเจ้าพรหมทัตตั้งเงินเดือนให้เขาด้วย

“ท่านอาจารย์ ฉันมีธรรมเนียมอยู่ว่าศิษย์กับอาจารย์จะได้เงินเดือนไม่เท่ากัน ศิษย์จะต้องได้น้อยกว่า อาจารย์จะต้องได้มากกว่า” พระเจ้าพรหมทัตตรัสชี้แจง

“ข้าพระองค์คิดว่าเรื่องนี้คงไม่มีปัญหา”

“ถ้าอย่างนั้น ทุกวันนี้ฉันให้อาจารย์เดือนละ ๑๐๐ กหาปณะ ศิษย์ของอาจารย์ก็จะได้ครึ่งหนึ่งคือ ๕๐ กหาปณะ”

“เป็นพระมหากรุณาพระเจ้าข้า”


(มีต่อ 1)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 20 ม.ค. 2005, 5:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อาจารย์ดีใจมากที่สามารถฝากศิษย์เข้ารับราชการได้สำเร็จตามความต้องการของศิษย์ ดังนั้นครั้นกลับถึงบ้านแล้วจึงรีบแจ้งให้ชายหนุ่มทราบทันที “อาจารย์ดีใจด้วย พระราชารับเธอเข้ารับราชการแล้ว”

“แล้วเรื่องเงินเดือน พระราชาทรงให้เท่าไร ท่านอาจารย์” ชายหนุ่มถามอย่างกระตือรือร้น

“เห็นรับสั่งว่าจะพระราชทานให้ครึ่งหนึ่งของฉัน” อาจารย์ตอบตามความเป็นจริง

“ทุกวันนี้อาจารย์ได้เท่าไร”

“ฉันได้ ๑๐๐ กหาปณะ”

“ถ้าอย่างนั้น ข้าพเจ้าก็ได้เพียง ๕๐ กหาปณะใช่ไหมอาจารย์”

“ใช่.....” อาจารย์พยักหน้ารับ

“ท่านอาจารย์.....” ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ

“ข้าพเจ้ากับท่านมีความรู้เท่ากัน ก็ควรจะได้เงินเดือนเท่ากัน”

“ถ้าเธอต้องการอย่างนั้น ฉันจะไปกราบทูลพระราชาดูก่อนว่าจะทรงเห็นด้วยหรือไม่” อาจารย์ยินดีรับข้อเสนอ

ต่อมาอาจารย์ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าพรหมทัต และกราบทูลข้อเสนอของชายหนุ่มให้พระราชาทราบ

“ได้.....ท่านอาจารย์” พระเจ้าพรหมทัตรับข้อเสนอของชายหนุ่ม และทรงมีเงื่อนไขว่า “ลูกศิษย์ของท่านจักได้เงินเดือนเท่ากับท่าน ถ้าเขามีความสามารถเท่ากับท่าน”

“พระองค์จะให้เขาแสดงศิลปะแข่งกับข้าพระองค์หรือพระเจ้าข้า” อาจารย์ทูลถาม

“ใช่แล้ว” พระจ้าพรหมทัตพยักหน้าพระพักตร์รับ

อาจารย์ได้นำความนั้นมาแจ้งให้แก่ชายหนุ่มได้ทราบ และได้รับคำตอบอย่างหนักแน่นว่า

“ได้.....ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้ายินดีจะแสดงความสามารถแข่งกับท่าน”

“ตกลง” อาจารย์รับคำ

วันรุ่งขึ้น อาจารย์ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าพรหมทัตอีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งกราบทูลเรื่องที่ชายหนุ่มตกลงแสดงศิลปะแข่งกับตนให้ทรงทราบ

“เอาละ อาจารย์ พรุ่งนี้เชิญท่านกับศิษย์มาแสดงแข่งกันได้เลย ที่ลานดินหน้าพระราชวัง” พระเจ้าพรหมทัตทรงนัดหมาย

“เป็นพระมหากรุณาธิคุณพระเจ้าข้า” อาจารย์ก้มลงกราบแทบพระบาท “และเป็นพระมหากรุณาธิคุณมากยิ่งขึ้นหากพระองค์จะป่าวประกาศเชิญชวนชาวเมืองมาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย”

“ได้.....ท่านอาจารย์ ถ้าท่านต้องการอย่างนั้น” พระเจ้าพรหมทัตตรัสรับคำอย่างหนักแน่น


(มีต่อ 2)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 20 ม.ค. 2005, 5:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความจริงแล้วอาจารย์รู้สึกสะเทือนใจที่ต้องมาแสดงฝีมือแข่งกับศิษย์ เพราะคิดไม่ถึงว่าศิษย์จะกล้าท้าทายตนเช่นนี้ “เราควรจะสอนให้เขาได้สำนึกบ้าง” อาจารย์บอกกับตนเองขณะเดินทางกลับบ้าน

คืนวันนั้น ขณะที่ทุกคนหลับกันหมดแล้ว อาจารย์ก็แอบไปที่โรงช้างและฝึกช้างให้เรียนรู้วิธีที่จะเอาชนะชายหนุ่มศิษย์อกตัญญูของตน เขาฝึกให้ช้างเรียนรู้คำสั่งและปฏิบัติการที่ตรงกันข้าม นั่นคือ

เมื่อออกคำสั่งว่า “ไป” ให้ช้างเรียนรู้ว่า “ต้องถอยหลัง”
เมื่อออกคำสั่งว่า “หยุดยืน” ให้ช้างเรียนรู้ว่า “ต้องนอน”
และเมื่อออกคำสั่งว่า “ถือ” ให้ช้างเรียนรู้ว่า “ต้องปล่อย”

รุ่งเช้าที่บริเวณหน้าพระราชวัง ชาวเมืองพาราณสีมาเฝ้าชมการแข่งขันประลองความสามารถระหว่างศิษย์กับอาจารย์อยู่เนืองแน่น พระเจ้าพรหมทัตประทับนั่งบนพระที่นั่งอย่างสง่างาม แล้วทันใดนั้นเอง อาจารย์กับศิษย์ก็ปรากฏตัวพร้อมด้วยช้างที่จะใช้ประลองความสามารถ

ครั้นได้เวลา อาจารย์กับศิษย์ก็ผลัดกันแสดงความสามารถในการบังคับช้าง ผลปรากฏว่าอาจารย์มีความสามารถบังคับได้อย่างไร ศิษย์ก็มีความสามารถอย่างนั้น ผู้คนที่มาเฝ้าชมต่างพากันเงียบกริบเพราะคิดว่าอาจารย์คงสู้ศิษย์ไม่ได้ อาจารย์เองก็ชื่นชมศิษย์ของตนเองอยู่ในที ช่วงสุดท้ายมาถึงแล้ว อาจารย์ยืนสงบนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นจึงเสนอวิธีการประลองความสามารถครั้งสุดท้าย คือ ให้ศิษย์สั่งบังคับช้างของตนเอง

“ได้.....ท่านอาจารย์ ช้างของท่านก็เหมือนช้างของข้าพเจ้า” ชายหนุ่มรับข้อเสนอของอาจารย์ทันที แล้วตรงรี่เข้าหาช้างของอาจารย์ พร้อมทั้งออกคำสั่งให้ช้างทำ

แต่ผลปรากฏว่าช้างกลับทำกิริยาอาการตรงกันข้ามหมดสิ้น

ถึงตอนนี้ ชายหนุ่มเริ่มหน้าถอดสีเพราะรู้สึกอับอายที่ไม่สามารถสั่งช้างของอาจารย์ให้ทำตามตนสั่งได้ ผู้คนที่เฝ้าชมซึ่งเอาใจช่วยอาจารย์อยู่ตลอดเวลา ต่างได้โอกาสลุกฮือขึ้นสาปแช่งชายหนุ่มกันเสียงอึงมี่

“ไป.....ไปให้พ้น ไอ้ลูกศิษย์เนรคุณ ช่างไม่รู้จักประมาณตัวเองบ้างเลย” ว่าแล้ว ต่างคนต่างปาก้อนดินใส่ชายหนุ่มจนได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส และขาดใจตายในเวลาต่อมา



นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ศิษย์ที่คิดล้างครูนั้นย่อมมีแต่ความวิบัติ เหมือนชายหนุ่มกับอาจารย์ผู้มากด้วยเมตตา ผลสุดท้ายชายหนุ่มก็ได้รับผลร้ายที่เกิดจากการกระทำของตนเอง



............... เอวัง ...............
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
ชราทัศน์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ม.ค. 2005, 1:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สับสน ที่จริงก็เห็นด้วยว่าศิษย์ควรต้องได้บทเรียนบ้าง แต่จะได้ประโยชน์อะไรเพราะเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร และขึ้นชื่อว่าครูหน้าที่ ที่อยู่ในจิตสำนึกก็คือให้ความรัก เมตตา ปรานีศิษย์ และอดทนที่จะหาทางสอน เข้าทำนองเอาความดีชนะมากกว่า ให้อภัยน่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดนะ
 
เจี๊ยบ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.ย. 2005, 7:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ อ่านแล้วนอกจากสนุกยังได้ข้อคิดดีๆ อีกค่ะ
 
วิชัย รักชาติ
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 10 พ.ค. 2006
ตอบ: 1
ที่อยู่ (จังหวัด): นน

ตอบตอบเมื่อ: 19 มิ.ย.2006, 1:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ซึ้ง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
sunton
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 23 มี.ค. 2006
ตอบ: 1
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 26 มิ.ย.2006, 12:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
สาธุครับ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 26 ส.ค. 2006, 4:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยิ้ม ขอบคุณสำหรับนิทานธรรมครับ อ่านแล้วได้ข้อคิดดีมากๆ เลยครับ
 
ศรา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2006, 8:02 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอขอบคุณมากครับ นิทานเรื่องนี้ให้ข้อคิดได้หลายแง่มุมมากเลยครับผม สาธุ ยิ้ม
 
wolf2516
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 27 ก.พ. 2007
ตอบ: 4

ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.พ.2007, 3:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บ้านเรา ยังมีคนประเภทนี้อีกล้นเหลือ ทำใจ อโหสิให้กันและกันดีกว่าครับ
 

_________________
ไม่กังวลกับอดีต ไม่สงสัยกับอนาคต เพียงปัจจุบันทำให้ดีก็เพียงพอ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ไม้อ่อน
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2007
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 13 เม.ย.2007, 8:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนคิดได้เค้าก็เจริญด้วยจิตใจ แต่คนคิดไม่ได้ก็เจริญยาก
ขนาดผู้มีคุณยังคิดไม่ดีได้ ยากนักที่จะดี
เจ๋ง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mongkol
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 28 มี.ค. 2007
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): Mahasarakam

ตอบตอบเมื่อ: 20 เม.ย.2007, 10:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณมากครับนิทานเรื่องนี้ เป็นเหมือนแสงส่องทางในการดำเนินชีวิตของผม ขอบคุณมากครับ สาธุ สาธุ
 

_________________
สักวันหนึ่งต้องเป็นของเรา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailตำแหน่ง AIMYahoo MessengerMSN Messengerหมายเลข ICQ
หทัยชนม์ นนท์เรืองฤทธิ์
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2007
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 02 ส.ค. 2007, 10:22 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทำไมอาจารย์ต้องออกอุบายเจ้าเล่ห์เพื่อให้ชนะศิษย์ด้วยล่ะ ถ้าแพ้ก็ควรยอมรับว่าตนแพ้ แล้วฝึกฝนตน คนรุ่นใหม่อาจจะเก่งกว่าคนรุ่นเก่าก็ได้ เราควรยอมรับในสิ่งที่เปลี่ยนแปลง
 

_________________
ระวังทุกข์ ไม่ไขว่าคว้าสุข
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 02 มิ.ย.2008, 3:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยิ้มแก้มปริ แม้ว่าศิษย์จะเก่งกว่าอาจารย์ แต่ก็ควรที่จะให้เกียรติอาจารย์ซึ่งเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ แม้ไม่เคารพก็มิควรดูหมิ่น สาธุ
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ชาติกุญชร
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 23 ก.ย. 2007
ตอบ: 9

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ค.2008, 8:31 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โมทนา สาธุครับ
 

_________________
ร่วมสร้างวิหารทาน http://watbanchumseang.igetweb.com/index.php
อ่านเรื่อง เยื่อใยแห่งความพลัดพราก (เธอหายไปกับสายลมร้อน)
http://watbanchumseang.igetweb.com/index.php?mo=1
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ปริญญา ไชยา
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 18 ก.ค. 2008
ตอบ: 127
ที่อยู่ (จังหวัด): ราชบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.ค.2008, 2:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เตือนสติได้จริงๆคับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 7:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา

ตอบตอบเมื่อ: 06 ต.ค.2008, 9:27 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แย่จริงๆ ครับ ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ทำดีทุกทุกวัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง