Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 อรหันต์ นิพพาน อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121

ตอบตอบเมื่อ: 20 เม.ย.2007, 6:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สภาวะนิพพาน มีลักษณะแบบไหน ?

แล้วพระอรหันต์มีกิเลสหรือไม่ ?

ตัวผมเองคิดว่า ท่านมีแต่ท่านไม่ใช้ หรือไม่ ?

ขอท่านนักธรรมทั้งหลายตอบทีครับ
 

_________________
ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 20 เม.ย.2007, 9:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สภาวะนิพพาน มีลักษณะแบบไหน ?

ไม่ทราบครับ แต่เท่าที่รู้มา คือ สภาวะนิพพานเนื้อแท้นั้น อยู่เหนือสมมุติแล้ว ไม่สามารถกล่าวได้

ที่กล่าวได้ คือ นิพพานัง ปรมัง สุขขัง นิพพานเปนสุขอย่างยิ่ง สุขในที่นี้คือสุขปรมัตถ์


แล้วพระอรหันต์มีกิเลสหรือไม่ ?

เมื่อ อรหัตมรรคจิต เกิดแล้ว ก็ประหารกิเลส และอนุสัยทั้งหลายให้หมดไป
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
สมพร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 12:14 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอบแบบตรงๆ เลยนะครับ ตามที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านบอกไว้ เพราะท่านไปเห็นมาท่านบอกไว้ว่า
พระนิพพานเป็นสถานที่อยู่ คล้ายๆ เมืองของเทวดา แต่สวยงามกว่ามาก และมีแต่ความสุขไม่มีการเคลื่อนไปไหนอีก

พระอรหันต์กิเลสนั้นหมดแล้ว เมื่อกระทบกับผู้หญิงก็เหมือนกระทบกับตุ๊กตา หาความรู้สึกไม่มี และกิเลสที่เข้ามากระทบก็เหมือน เอาขี้โคลนมาทาขา มันไม่สามารถจะเข้าไปสู่ร่างกายได้อีก คือมันไม่เกิดขึ้นอีกเพราะตัดขาดไปหมดแล้ว ท่านกล่าวไว้แบบนี้ครับ
 
ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 6:34 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถึงคุณสมพรนะ สงสัยหลวงพ่อท่านคงจะเรียนมาน้อนนะ หรือไม่ก็ฝันไปเห็นสถานที่ใดที่หนึ่งแล้วก็บอกว่านิพพาน น่าอายมากเลยท่านเป็นพระยังให้คำตอบแบบผิดๆแสดงว่าท่านอยู่เฉยๆไม่ได้ศึกษาธรรมบ้างเลยคิดเอาเองแล้วเอามาสนคนอื่น ผมคิดว่านะ นิพพาน คือสภาวะที่สิ้นกิเลส ไม่มีกิเลสหรืออยู่ เมื่อสิ้นชีวิตไปแล้วไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก แล้วถามว่าเมื่อไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกจะไปอยู่ไหน ขอตอบตามความเข้าใจนะ จิตดวงนั้นจะดับหายไปเลย ผมคิดว่าผมยังเข้าในมากกว่าหลวงพี่คงนั้นอีกนะ ท่านมาพูดความหมายของนิพพานแบบนั้นทำให้คำสอนพระพุทธองค์เสื่อมเสียหมด เพราะความไม่รู้จริง เห้อจริงๆเลย
 
ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 6:37 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ที่ท่านบอกว่าท่านเคยไปมาแล้วแสดงว่าท่านเคยไปนิพพานมาแล้วดิ ขี้โม้จริงเลยถ้าคนไปนิพพานได้นะคงไม่กลับมาโลกนี้อีกแล้วนะ นิพพานไม่ใช่สถานที่ใดที่หนึ่ง นิพพานเป็นสภาวะเท่านั้น หลวงท่านคงจะฝันไปนะ (เกิดก็เป็นทุกข์ แก่ก็เป็นทุกข์ ตายก็เป็นทุกข์)
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 7:50 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ท่านต้องการให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทยไหม ?
 
MG
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 3:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่ควรไปเสียเวลากับเรื่องอะไรอื่นภายนอก

ให้มาดูที่ "จิต" ของเราเอง

ลงมือศึกษาให้เข้าใจในขั้นเบื้องต้น ให้เกิดศรัทธา

แล้วให้เริ่มลงมือปฏิบัติ

ฝึกทำสมาธิ ฝึกภาวนา

ค้นหา "จิตใจ" ของเราเอง


ก่อนจะไปถกเถียงกันถึงเรื่อง นิพพาน

ตอบให้ได้ก่อนว่า "จิต คือ อะไร? "

"จิตของเราอยู่ที่ไหน?"

และในตอนนี้ "จิตของเราเป็นอย่างไร?"
 
chidsanucha
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 23 ม.ค. 2007
ตอบ: 6

ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 5:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมคิดว่านิพพาน หมายถึง พระอรหันต์ ที่จิตว่างแล้วจาก โลภ โกรธ หลง แต่ความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้ยังมีการกระทบอยู่ตลอดเวลา แต่มิได้รับรู้อะไร กับสภาวะนั้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
สมพร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 เม.ย.2007, 9:20 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สวัสดีครับคุณผู้รู้ จริงแล้วก็ไม่อยากจะมาอธิบายให้มันยาวออกไป แต่ที่คุณว่าหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ท่านคงฝันไปเห็นพระนิพพาน หลวงพ่อท่านสำเร็จอรหันต์แล้วนะ กายท่านก็ไม่เน่าเปลื่อย ก่อนมรณะภาพท่านก็บอกแล้วว่า ท่านสำเร็จแล้ว กายท่านไม่ต้องเผา เอาใส่โรงแก้วไว้ คุณมีโอกาสก็ไปกราบท่านได้นะ ท่านอยู่วัดท่าซุง คนทั่วไปรู้จักท่านในนาม หลวงพ่อฤาษีลิงดำวิชาของท่านสอนให้เด็กเล็ก จนถึงคนแก่ๆ ไปเห็นพระนิพพานกันเป็นแสนๆคนแล้ว คุณคงไม่ได้อะไรกับเขาเลยก้เลยเดาส่ง ว่าพอเราหมดกิเลส จิตก็หายไปเลย หลวงพ่อท่านบอกว่าไม่หาย ต้องไปอยู่ที่พระนิพพานไง ผมอยากให้คุณศึกษาให้รู้จริง เพื่อที่จะสอนหรือบอกคนอื่นจะได้ไม่ผิด ไม่งั้นคนที่มาศึกษาใหม่จะทำผิดทาง คุณก็จะบาปหนักนะครับ นี่ผมยังไม่ได้ว่าคุณนา เพียงอยากให้ศึกษาให้รู้จริงๆก่อน ส่วนผมก็ทำตามที่ท่านสอน จนจิตออกจากกายจริงๆ ไปไหนต่อไหน แต่คุณก็คงไม่เชื่ออยู่ดีว่าผมทำได้ คุณผู้รู้ก็ต้องบอกว่า ที่ไปเห็นนะมันไม่ใช่ จิตอุประทานไปเอง ก็คุณยังไม่เคยก็เลยเดาส่งอีก ผมว่าคุณต้องทำให้ได้เอง แล้วคุณจะมาบอกเพื่อนๆว่า จริงตามที่ผมบอกทุกอย่าง

ต้องขออภัยท่านอื่นที่เข้ามาอ่าน ผมไม่ได้ทะเลาะกันนะครับ เพียงอยากชี้แจงให้คุณผู้รู้ได้เข้าใจ ว่าพระนิพพานมีที่อยู่จริง อย่างในสมัยพระพุทธองค์ มีคนถามว่า พระอรหันต์เมื่อมรณะภาพแล้ว ต้องไปเกิดที่พระนิพพานใช่มั๊ย พระท่านตอบว่า จะใช้คำว่าไปเกิดก็ไม่ใช่ เพราะเกิดก็ต้องมีตาย ใช้ว่าไปอยู่ที่พระนิพพาน เป็นทิพย์พิเศษ ไม่มีการเคลื่อนไปไหนอีก อย่างนี้ครับ

แต่ยังไงเราก็มาตัดกิเลสกันดีกว่าครับ ถึงเมื่อใดก็เมื่อนั้นได้รู้เองเห็นเองแน่ๆครับ

ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 22 เม.ย.2007, 9:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สภาวะนิพพาน มีลักษณะแบบไหน ?
แม้แต่พระพุทธเจ้าเองยังไม่ทรงตอบเลยครับ
แต่ที่ครูบาอาจารย์พูดบ้าง ก็เพื่อฉลองศรัทธาญาติโยมเท่านั้น จริงๆแล้วภาวะนิพพานอยู่นอกเหนือคำพูดครับ

แล้วพระอรหันต์มีกิเลสหรือไม่ ?
ไม่มีครับ
 
สมพร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 เม.ย.2007, 9:46 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ก็ต้องมาฝึกดูไงครับ เดี๋ยวนี้เขาดูกันได้ง่ายๆ แล้ว มามั๊ยครับจะพาไปดู แต่ต้องถือศิล 5 ให้ครบก่อนนะครับ ค่อยไปดูกัน
 
ศิษย์วัดป่า
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 23 เม.ย.2007, 10:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมว่าอย่าถามเลยนะมันไม่ใช่เรื่อง
การจะรู้แจ้งเห้นจริงนั้นจะอยู่จิตของตัวเอง
เห้นเอง เข้าใจเอง ฝึกปฎิบัติไปครับ จนถึงที่สุดนั่นแหละก็จะเข้าใจไป
เอง ว่าที่ท่านถามเป้นอย่างไร อย่าเสียเวลาถามแบบนี้ ให้ขยันเพียรภาวนาเข้าไปครับ
แล้วถึงจุดนั้นแล้วจะได้รู้เอง เป้น ปัตจัตตัง ครับ
 
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121

ตอบตอบเมื่อ: 24 เม.ย.2007, 3:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกคนที่รู้ธรรมในที่นี้ ล้วนอยากจะมั่นภาวนากันทั้งนั้นแหละครับ

แต่บางทีมันก็มี ปัจจัยแห่งความไม่แน่นอนควบคุมไม่ได้ เข้ามาทำให้เราต้องไม่มีเวลาอยู่กับการภาวนาอย่างการนั่งเจริญสติ สมาธิ และบางทีก็ทำให้เราเกิดอยากถามนู้นอยากถามนี้ ซึ่งเป็นธรรมดาของจิตที่ไม่เป็นไปตามอำนาจของใคร ควบคุมไม่ได้ ไหลเลื่อนเคลื่อนตัวอยู่ตลอด หากไม่ใช่อรหันต์ก็ต้องมีบ้างที่จิตเผลอทำลงไป หรือยอมรับว่าเราเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้

แต่เราสามรถที่จะรู้ทันสภาวะต่างๆที่เกิดขึ้น ว่าเราไม่อาจจะอยู่เหนือสภถาวะแห่งความเป็นจริงที่เราอยากจะทำอะไรแล้วมันจะเป็นตามเราไปตลอดมันก็ไม่ใช่

ใช่ไหมครับ

May the Dhamma be with you. ขอธรรมจงสถิตอยู่กับท่าน
 

_________________
ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง