อย่าตีกลองแข่งฟ้า

ตอบเมื่อ: 19 มี.ค.2007, 4:32 pm

อย่าตีกลองแข่งฟ้า

อย่าตีกลองแข่งฟ้า
อย่าขี่ม้าแข่งตะวัน
คติโบราณนั้น
ควรคิดพิจารณา

ตีกลองแข่งฟ้าร้อง
ให้กึกก้องเท่าฟ้าผ่า
มิมีจะเทียบตรา
เท่าฟ้าได้ให้ตรึกตรอง

ขี่ม้าวิ่งประชัน
ไล่ให้ทันตะวันส่อง
มิมีสมใจปอง
คนทั้งผองควรตรึกตรา

ท่านว่าทำสิ่งใด
ประมาณไว้ก่อนดีกว่า
ทั้งตนและเวลา
ให้สมค่าจึงคู่ควร

มีแรงแพงเท่ามด
ท้าสู้คชสารอ้วน
ตีตราเท่าตีตรวน
มาล่ามตนให้ต้องตาย

ยากจนข้นแค้นเข็ญ
อวดอ้างเป็นเศรษฐีใหญ่
ใช้เงินเหมือนใบไม้
มีหรือไม่ไม่จนนาน

รู้เหตุและรู้ผล
รู้จักตนรู้ประมาณ
รู้กาลที่สถาน
รู้คบคนจึงควรคน

สิริมงคล ๑๙/๐๓/๕๐

ตอบเมื่อ: 19 มี.ค.2007, 6:06 pm

อย่าตีกลองแข่งฟ้า

อย่าขี่ม้าแข่งตะวัน

ท่านเอยท่านผู้รอบคิด

แม้นรู้คิดรู้คบคน

รู้กาลใดควรไม่ควร

รู้เหตุแลรู้ผล

ก็ไม่อาจแยกจากสังคมเดรัจฉาน

ก็ไม่อาจแยกจากสังคมเปรตอสูรกาย

ด้วยคนนั้นต้องพึ่งพาคน

ชีวิตจึ่งมีอยู่รอดได้

ด้วยต้องพบเจอคนหลากหลาย

ชีวิตจึ่งมีอยู่รอดได้

ปราชญ์โบราณเคยกล่าวไว้

คนไม่อาจแยกจากคน

เราไม่เข้าหาเขาเขาก็เข้าหาเรา

ชีวิตคนจึงไม่อาจแยกจากคนเลวได้สิ้นเชิง

ชีวิตจึ่งมีอยู่รอดได้

ท่านเอยท่านผู้รอบคิด

ข้อกล่าวไว้รู้คบคนจึงควรคนนั้น

อาจใช้ได้เพียงการณ์เฉพาะเท่านั้น

ไม่อาจใช้รวมได้ทุกการณ์ในชีวิต

คนโดยมากจึงติดไม่รู้ควรทำอย่างไรดี

สาธุ

( แค่แสดงความคิดเห็นร่วมเท่านั้นครับ )

ตอบเมื่อ: 19 มี.ค.2007, 7:48 pm

ขอบคุณครับที่เข้ามาแสดงความเห็น

กวีบทนี้ต้องการสื่อ สัปปริสธรรมครับ
คือ รู้เหตุ รู้ผล รู้ตน รู้ประมาณ รู้กาล รู้สถานที่(ชุมชน)และรู้จักเลือกคบคนครับ

เจริญธรรม
สิริมงคล

ตอบเมื่อ: 20 มี.ค.2007, 6:07 pm

ยินดีที่ได้ชมคำทำนองธรรมจากผู้รอบรู้ ครับ

สาธุ

ขอบคุณที่ช่วยชี้แจงให้เข้าใจบทกลอนมากยิ่งขึ้นครับ สาธุ