Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
หลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ผู้ตั้ง
ข้อความ
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
ตอบเมื่อ: 12 ก.ย. 2006, 12:28 am
ประวัติและปฏิปทา
หลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร
วัดป่าเลิงจาน (วัดโพธิชัยวราราม)
ต.แก่งเลิงจาน อ.เมือง จ.มหาสารคาม
๏ อัตโนประวัติ
หลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร หรือ พระครูสุนทรธรรมโฆษิต
เป็นพระป่ารูปหนึ่งที่ครองตนอยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์อย่างสันโดษสมถะเสมอต้นเสมอปลาย และเป็นที่เลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนในวงกว้าง ท่านเป็นศิษย์สายพระกัมมัฏฐานที่ได้ศึกษาแนวทางปฏิบัติมาจาก
ท่านเจ้าคุณพระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
แห่งวัดหินหมากเป้ง ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
หลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร มีนามเดิมว่า สุรเสียง แซ่เตี๋ย เป็นคนไทยเชื้อสายจีน เกิดเมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ.2483 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง ณ ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี โยมบิดาชื่อ นายเป็งติ่ง แซ่เตี๋ย เกิดที่เมืองจีน โยมมารดาเป็นคนไทยชื่อ นางเปี่ยม มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 7 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 3 ปัจจุบัน สิริอายุได้ 71 พรรษา 27 (เมื่อปี พ.ศ.2554) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าเลิงจาน ต.แก่งเลิงจาน อ.เมือง จ.มหาสารคาม และเจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย (ธรรมยุต) จ.มหาสารคาม
๏ อาชีพและการอุปสมบทครั้งแรก
ชีวิตในวัยเด็กเป็นคนที่ต่อสู้ชีวิตดิ้นรน เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ท่านจึงจบการศึกษาเพียงแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนในหมู่บ้าน ในขณะที่มีอายุได้เพียง 11 ปี
หลังจากนั้นก็ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาพักอาศัยอยู่กับญาติพี่น้อง และได้ไปฝึกงานซ่อมรถที่อู่เคาะพ่นสีรถ ย่านสีลม ทำงานอยู่ได้นานถึง 20 ปี จนอายุย่างเข้าเลขสี่ จึงได้เดินทางกลับมายังบ้านเกิดเพื่อเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ซึ่งเป็นการบวชตามประเพณีเท่านั้น บวชอยู่ได้ 5 เดือนก็ลาสิกขา ไปทำงานเกี่ยวกับซ่อมรถต่อ โดยทำงานอยู่ในฐานะเจ้าของอู่ดำเนินการซ่อมรถด้วยตนเอง
ในปี พ.ศ.2512 ขณะที่กิจการกำลังเจริญรุ่งเรือง อู่ก็ถูกไฟไหม้จนหมดเนื้อหมดตัว แต่ท่านก็ไม่ยอมย่อท้อ ได้ต่อสู้หาเงินมาลงทุนใหม่ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้หันเหชีวิตเปลี่ยนอาชีพมาทำงานด้านรับเหมาถมดินถมทราย แต่มีคู่แข่งขันแย่งชิงกัน ท่านจึงถูกคุกคามข่มขู่จะเอาชีวิตจากผู้ที่เสียผลประโยชน์จึงต้องหนี หลังจากที่ท่านครุ่นคิดว่าจะหนีไปไหน ก็ได้คิดว่านอกจากวัดก็คงไม่มีที่ใดดีไปกว่านี้ซึ่งมีความสงบ
พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) พระอุปัชฌาย์
ในคราวที่หลวงพ่อสุรเสียงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ครั้งที่ 2
๏ การอุปสมบทครั้งที่ 2
อุปนิสัยของท่านเป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม ชอบศึกษาหาเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา รวมทั้งแนวทางปฏิบัติของพระภิกษุสายกัมมัฏฐาน โดยเฉพาะท่านให้ความศรัทธาในวัตรปฏิบัติ
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ดังนั้น วัดที่ท่านหนีไปพักก็คือ วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย
การไปปฏิบัติธรรมในครั้งนั้น ทำให้ท่านได้สัมผัสกับรสชาติแห่งความสงบ จึงได้ตัดสินใจสละทางโลกมุ่งหน้าเข้าสู่ร่มเงาผ้ากาสาวพัสตร์ เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุอีกครั้ง ณ พัทธสีมาวัดหินหมากเป้ง เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2527 โดยมี
พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
เป็นพระอุปัชฌาย์,
พระครูวิชัยวัฒนกิจ
เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ
พระชุมพล อภิพโล
เป็นพระอนุสาวนาจารย์
๏ สายธรรมหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
หลักจากอุปสมบทแล้ว หลวงพ่อสุรเสียงได้พำนักจำพรรษาแรกอยู่กับ
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ที่วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย เพื่อฝึกปฏิบัติภาวนาจากบรมครูหลวงปู่เทสก์ ซึ่งท่านเมตตาคอยให้คำชี้แนะแนวทางการปฏิบัติธรรมแก่หลวงพ่อสุรเสียงมาโดยตลอด
หลวงพ่อสุรเสียงเล่าว่า ระหว่างที่ปฏิบัติภาวนาอยู่ก็เกิดโอภาสเป็นแสงสว่างสุกใส เย็นตาเย็นใจ กว้างไกลไม่มีประมาณ ครั้นเมื่อท่านไปเล่าให้หลวงปู่เทสก์ฟัง หลวงปู่ท่านก็บอกว่าบางคนปฏิบัติเป็นสิบๆ ปีก็ยังไม่เกิดแบบนี้เลย ฉะนั้นโอภาสที่ได้จึงถือว่าเป็นวาสนาบารมีเก่าอย่างหนึ่งซึ่งเคยบำเพ็ญมา ตลอดเวลาถึงแม้หลวงพ่อสุรเสียงจะเพิ่งบวช แต่ท่านก็ใส่ใจต่อการเจริญภาวนาอย่างเต็มที่ จนเกิดผลเป็นความสงบแก่จิตใจ จากความคิดที่จะบวชเพียงชั่วคราวจึงหมดไป กลายเป็นความคิดที่อยากจะอุทิศชีวิตให้กับพระศาสนาต่อไป
หลวงพ่อสุรเสียงเมื่อได้รับถ่ายทอดอุบายธรรมจากหลวงปู่เทสก์ จนกระทั่งมีภูมิปัญญาพอที่จะรักษาตัวได้แล้ว ท่านก็เริ่มออกจารึกธุดงค์ ท่านไปมาหลายแห่งหลายที่ แต่ที่ประทับใจมากที่สุดเป็นสถานที่ที่
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
เคยไปอยู่คือ
ถ้ำยูงทองหรือน้ำตกยูงทอง
อ.นายูง จ.อุดรธานี โดยท่านเดินด้วยเท้าจาก จ.หนองคาย ไปด้วยกัน 3 รูป ต่างแยกกันอยู่คนละภูเขา องค์หนึ่งอยู่ที่ถ้ำน้ำทิพย์คือ
พระอาจารย์นิรันดร
อีกองค์หนึ่งคือ
พระอาจารย์ทองพูน ปุญญกาโม
วัดป่าอภัยวัน ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น (ปัจจุบันมรณภาพแล้ว)
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
พระอาจารย์ทองพูน ปุญญกาโม
(มีต่อ)
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
ตอบเมื่อ: 08 มี.ค.2011, 9:30 am
พระครูสุนทรธรรมโฆษิต (หลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร)
๏ สร้างวัดกกไม้แดงและวัดประชาบำรุง
หลังจากนั้นหลวงพ่อสุรเสียงก็กลับมายังวัดหินหมากเป้ง หลวงปู่เทสก์ก็ได้ให้หลวงพ่อสุรเสียงไปช่วยงานที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งในขณะนั้น
พระอาจารย์ทองพูน ปุญญกาโม
ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่ป่าช้าบ้านหนาด อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ก่อนแล้ว ครั้นเมื่อหลวงพ่อสุรเสียงเดินทางไปถึง พระอาจารย์ทองพูนซึ่งตั้งใจจะไปเรียนฝึกอบรมเป็นพระธรรมกถึก ที่ศูนย์ฝึกอบรมพระธรรมกถึกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ศ.ธ.ภ.) วัดบึงพระลานชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ก็ได้ชวนหลวงพ่อสุรเสียงไปเรียนฝึกอบรมเป็นพระธรรมกถึก รุ่นที่ 15 ด้วยกัน
หลังจากนั้น หลวงพ่อสุรเสียงกลับมาจำพรรษาที่ป่าช้าบ้านหนาด และได้ร่วมกันสร้าง
วัดสีลวรรณ
ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น
“วัดกกไม้แดง”
ซึ่งเป็นวัดแรกที่หลวงพ่อสุรเสียงได้สร้างไว้ในพระศาสนา ด้วยเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จึงทำให้ท่านเริ่มมีชื่อเสียงเลื่องลือ แม้ว่าอายุพรรษาจะยังน้อยก็ตาม
หลวงพ่อสุรเสียงได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม จนสามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ในปี พ.ศ.2528 ถึง พ.ศ.2530 ตามลำดับ แล้วได้สร้างวัดที่ 2 ขึ้น คือวัดประชาบำรุง ซึ่งเป็นวัดกรรมฐาน จากคุณงามความดีของหวงพ่อสุรเสียง ต่อมาพระราชวินยาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม ฝ่ายธรรมยุต ได้มีหนังสือไปขอตัวหลวงพ่อสุรเสียงจากหลวงปู่เทสก์ มาสร้างวัดป่าโนนแท่น ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม
๏ สร้างวัดป่าโนนแท่น
หลวงปู่เทสก์จึงได้บอกกับหลวงพ่อสุรเสียงว่า สมควรจะไปช่วยงานเพราะเป็นพระฐานานุกรม ดังนั้น ท่านจึงได้สร้างวัดป่าโนนแท่นขึ้น เนื่องมากจากได้มีโยมท่านหนึ่งมอบที่ดินให้จำนวน 7 ไร่ 3 งาน 69 ตารางวา หลวงพ่อสุรเสียงร่วมกับบรรดาคณะศรัทธาญาติโยมช่วยกันก่อสร้าง
“วัดป่าโนนแท่น”
จนแล้วเสร็จใช้เวลา 3 ปี ต่อมาท่านได้รับตราตั้งเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดป่าโนนแท่น
หลวงพ่อสุรเสียงได้พยายามทุ่มเทพลังกายพลังใจพัฒนาวัดป่าโนนแท่น จนเจริญรุ่งเรืองในเวลาอันรวดเร็ว ตลอดจนปรับปรุงภายในบริเวณวัดให้มีแต่ความร่มรื่นสวยงามจนกลายเป็นลานธรรม
หลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร
-หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
๏ พัฒนาวัดป่าเลิงจาน
หลังจากพัฒนาวัดป่าโนนแท่นจนเจริญรุ่งเรืองแล้ว หลวงพ่อสุรเสียงได้ย้ายไปพำนักจำพรรษาอยู่ที่
วัดโพธิชัยวราราม
อยู่ริมแก่งเลิงจาน บ้านโนนหัวฝาย ต.แก่งเลิงจาน อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นวัดร้าง ในอดีตมีพระธุดงค์มานักอยู่ชั่วคราวแล้วก็จากไป จนทำให้บางครั้งที่วัดแห่งนี้ว่างขาดพระภิกษุสงฆ์พำนักจำพรรษา
หลวงพ่อสุรเสียงจึงเริ่มพัฒนาวัดขึ้นใหม่ สร้างเสนาสนะต่างๆ ขอซึ้อที่ดินจำนวน 7 ไร่จากชาวบ้าน ซึ่งที่เดิมเป็นเขตป่าช้าของวัด แต่ถูกชาวบ้านจับจองจนเหลือเนื้อที่เพียง 18 ไร่ ท่านสร้างกุฏิพร้อมห้องน้ำห้องส้วม รวมทั้ง จัดหาพระพุทธรูปปางต่างๆ มาประดิษฐานไว้ตามมุมต่างๆ ในวัด ให้พุทธศาสนิกชนที่มาปฏิบัติธรรมได้สักการบูชา และในเวลาต่อมา
“วัดโพธิชัยวราราม”
ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น
“วัดป่าเลิงจาน”
๏ ลำดับงานปกครองและสมณศักดิ์
พ.ศ.2532 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระฐานานุกรมที่ พระครูปลัดสุรเสียง
พ.ศ.2538 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ “พระครูสุนทรธรรมโฆษิต”
พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม และได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย ฝ่ายธรรมยุต จ.มหาสารคาม
นอกจากนี้แล้ว หลวงพ่อสุรเสียงได้ไปเรียนหลักสูตรครูสอนปริยัติชั้นต้น ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ศึกษาต่อจนจบพระสังฆาธิการ ชั้นต้น-ชั้นสูง รุ่น 16 ที่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ และจบหลักสูตรครูสอนปริยัติธรรมชั้นกลาง ที่วัดศรีษะเกษ อ.เมือง จ.หนองคาย เป็นต้น
๏ สร้าง “เจดีย์เทสรังสี”
ตลอดเวลาของชีวิตภายใต้ร่มกาสาวพัตร์ หลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร ได้ยึดแนวทางการปฏิบัติจากพระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) อย่างเคร่งครัด สมกับเป็นเนื้อนาบุญของพุทธศาสนาโดยแท้ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2548 ท่านได้มีโครงการก่อสร้าง
“เจดีย์เทสรังสี”
ขึ้น ณ วัดป่าเลิงจาน (พร้อมกับอุโบสถ 3 ชั้นและศาลา โดยจะก่อสร้างอยู่ภายในหลังเดียวกัน) เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงพระบูรพาจารย์ คือ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ซึ่งภายในเจดีย์ทั้ง 4 ทิศ จะบรรจุอัฐิธาตุของพระบูรพาจารย์สายกรรมฐานที่มีชื่อเสียงทั้ง 4 ภาคของประเทศไทย ปัจจุบันการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ประกอบกับหลวงพ่อสุรเสียงมีความตั้งใจจะสร้างและพัฒนาให้
“วัดป่าเลิงจาน”
เป็น
“สถานที่ปฏิบัติธรรม”
สำหรับสาธุชนทั่วทุกสารทิศอีกด้วย
พระครูสุนทรธรรมโฆษิต (หลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร)
.............................................................
♥ รวบรวมและเรียบเรียงมาจาก ::
(1)
http://www.surasieng.org/
(2) หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 31
คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6 โดย เชิด ขันตี ณ พล
วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 15 ฉบับที่ 5589
♥ ขอกราบขอบพระคุณ...ภาพหลวงพ่อสุรเสียง
จากเว็บไซต์
http://www.baanruenthai.com/
_________________
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
ตอบเมื่อ: 08 มี.ค.2011, 9:42 am
กระทู้ในบอร์ดใหม่
ประวัติและปฏิปทาหลวงพ่อสุรเสียง ปัญญาวชิโร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=26719
_________________
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th