Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 พระวรธรรมคติ (สมเด็จพระญาณสังวรฯ) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
I am
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972

ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.พ.2007, 8:22 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พระวรธรรมคติ
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


ประทานในพิธีประสาทปริญญา
ของมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ณ หอประชุมพุทธมณฑล
วันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๐


ขออนุโมทนา ในความมีวิริยะอุตสหะของท่านทั้งหลาย อันเป็นเหตุนำให้เกิดความรู้ความมีประโยชน์ ในพระพุทธศาสนา สามารถเป็นกำลังเทิดทูนพระพุทธศาสนาให้ปรากฏความรุ่งเรือง สว่าง

เสมอความเป็นจริงแห่ง คุณของพระศาสนาที่สุดประเสริฐในโลกคือ พระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาที่ผู้รู้จริง รู้ถูกต้องย่อมรู้ชัดว่า มีคุณสมบัติดั่งเพชรแท้ น้ำงามบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซนต์ ไม่มีวัตถุแปลกปลอมใด

ไม่มีความสกปรกเศร้าหมองใด จะสามารถแทรกซึมเข้าไปในเนื้อเพชรได้แม้แต่น้อย ได้แต่เพียงห้อมล้อมอยู่ภายนอกเท่านั้น ดังนั้นที่มีการกล่าวว่า พระพุทธศาสนาเศร้าหมองแล้ว เสื่อมแล้ว จึงเป็นการกล่าวผิดอย่างสิ้นเชิง

พระพุทธศาสนาไม่มีเศร้าหมอง พระพุทธศาสนาไม่มีเสื่อม ผู้แวดล้อมหรือพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ที่ประพฤติผิดศีลธรรมวินัย ขาดเมตตากรุณา เช่นนี้ที่เป็นผู้สกปรก เศร้าหมองและเสื่อม คือเสื่อมจากความดีงามความเจริญรุ่งเรืองความร่มเย็น

ผู้ทำความเสื่อมความเศร้าหมอง จึงจะเป็นผู้เสื่อมผู้เศร้าหมอง พระพุทธศาสนาไม่ได้ทำความเสื่อมความเศร้าหมองใดๆ แม้แต่น้อย พระพุทธศาสนาจึงไม่เสื่อมไม่เศร้าหมองแม้แต่น้อย ขอให้ช่วยกันถือหลักนี้ไว้

เมื่อมีผู้ทำบาปทำกุศล ทำความสกปรกเศร้าหมองผิดศีลผิดธรรมวินัยมีมากมายขึ้นเพียงไร ก็ให้รู้ว่าเขาเหล่านั้นทำตัวเขาเองให้สกปรกเศร้าหมอง มีความน่ารังเกียจ มีความเสื่อมจากสิริมงคลและความเจริญด้วยคุณงามความดีนานาประการ

ผู้ที่ทำความชั่วร้ายต่างๆ มีใจที่สกปรกด้วยอำนาจของกิเลสที่รุนแรง สามารถทำให้โลกนี้วุ่นวายเดือดร้อนได้ ดังที่กำลังเป็นอยู่ในทุกวันนี้ ความเดือดร้อนวุ่นวายน่าสะพึงกลัวที่พากันต้องเผชิญอยู่หนักหนาในขณะนี้

มีจิตใจที่สกปรกของผู้คนเป็นเหตุที่แท้จริง ถ้าต้องการให้กลับคืนสู่ความสงบร่มเย็นเป็นสุข ก็ต้องช่วยกันแก้ที่จิตใจ เริ่มที่จิตใจของตนเองก่อนให้เบาบางจากอำนาจของความโลภ ความโกรธ ความหลง ให้มีความสงบความเย็นเกิดขึ้นในใจตนเองก่อน

เพื่อให้เกิดกระแสแห่งความเย็นแผ่กระจายออกไปถึงผู้อื่น ครอบคลุมรอบตนได้ กว้างไกลมากน้อยเพียงไรอยู่ที่ความสงบเย็นแห่งจิตใจตน ถ้าพากันทำจิตใจให้มีความเย็นแผ่ออกไปรอบตัวได้เช่นนี้ มากคนเพียงไร ความเย็นของโลก ความเย็นของบ้านเมืองที่รักของเรา ก็จะมากได้เพียงนั้น นี้เป็นความจริงที่ไม่พึงสงสัย

กิเลสที่ท่วมใจผู้คนเป็นความร้อน ที่มีอำนาจเผาผลาญยิ่งกว่าอำนาจของพระเพลิง เพราะเผาได้ทั้งจิตใจและเผาได้ทั้งชีวิต ทั้งอาคารบ้านเรือนและทั้งประเทศชาติทั้งโลก ทั้งหมดนี้กิเลสเผาได้แน่ และกำลังเผาอยู่อย่างรุนแรงแล้วในขณะนี้

พระมีหน้าที่ที่ควรภาคภูมิใจที่สุด คือหน้าที่ช่วยแนะทางดับกิเลสในจิตใจของใครๆ ทั้งหลาย ขอให้ทำหน้าที่อันมีเกียรติยิ่งนี้ ให้เต็มปัญญาความสามารถ ความสำคัญที่สุดอยู่ที่ต้องทำกิเลสในใจตนให้มีกำลังอ่อนที่สุด

เตือนตนไว้เสมอว่า ชีวิตนี้น้อยนัก ชีวิตในภพภูมิข้างหน้ายาวนานนัก นับภพนับชาติไม่ได้จะได้เสวยชาติข้างหน้าที่เป็นสุขดีงาม ถ้ากำลังของกิเลสชาตินี้ไม่รุนแรงร้ายกาจ แต่ถ้ากำลังของกิเลสชาตินี้หนักนักหนา ทั้งโลภ ทั้งโกรธ ทั้งหลง ทำบาปทำกรรมอกุศลได้ต่างๆ นานา ภพภูมิข้างหน้าที่มากมายยาวนานย่อมไม่พ้นความทุกข์ความร้อนความทรมานแสนสาหัส

เตือนตนเอง และช่วยเตือนเพื่อนร่วมทุกข์ของเราทั้งหลายว่าอย่าประมาท อีกไม่นานก็จะต้องทิ้งร่างนี้ไปแล้ว อย่ามุ่งบำรุงบำเรอร่างนี้จนไม่รู้ผิดชอบชั่วดี จะทนทุกข์ทรมานอีกนับกัปนับกัลป์ไม่ถ้วนแน่นอน

ขอจงนำความเป็นบัณฑิตของท่านไปใช้ให้ถูกให้ชอบ เพื่อความสวัสดีของตนเอง ของเพื่อนร่วมทุกข์ทั้งหลาย ของชาติและของโลก ขอจงมีเมตตาต่อตนเอง ต่อเพื่อนร่วมทุกข์ ต่อประเทศชาติของเราและต่อโลกนี้ให้มากๆ

ขออำนวยพร

สาธุ เจริญธรรมครับ.. ยิ้มเห็นฟัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง