Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ศีลธรรมและสัจจธรรม (หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 03 ก.พ.2007, 5:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความคิดของเรานี้เหมือนกัน
ถ้าเราคิดเรื่องใดกลุ้มใจ เราควรจะหยุดคิดจากเรื่องนั้น
แต่ว่าการหยุดคิดไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน
ต้องค่อยทำค่อยไป ค่อยคิดปัญหาเหล่านี้
ต้องค่อยสอนตัวเอง ค่อยบอกตัวเองไว้ตลอดเวลา
อย่าให้เกิดความร้อนอกร้อนใจที่มีความทุกข์มากเกินไป
จากปัญหาเหล่านั้น ไม่กี่วันก็พ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อนได้
ไม่ต้องตรมตรอมใจมากเกินไป
เพราะได้ธรรมะ คือ ได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรถูกต้องตามความเป็นจริง
อันนี้เรียกว่าช่วยแก้ได้ ธรรมช่วยแก้ปัญหาได้ในชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้เราได้ศึกษาสัจธรรม อันเป็นคำสอนชั้นสูงในทางศาสนา
มองเห็นสิ่งทั้งหลายทั้งปวง ว่ามีการเกิดขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงไป
แล้ว ผลที่สุดก็แตกดับด้วยกันทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นคนหรือเป็นสัตว์ เป็นต้นไม้
แม้โลกของเรานี้ วันหนึ่งมันอาจจะแตกไปก็ได้
แต่ว่ามันจะแตกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไม่ต้องไปนั่งกลัวว่าโลกมันจะแตก
หรือไม่ต้องกลัวว่าดาวพระอังคารมาชนโลกแหลกลาญไป
ไม่ต้องหวาดกลัวถึงขนาดนั้น


เหมือนกับพวกที่เชื่อโหรเมื่อ ๓ ปีก่อนโน้น
เขาเชื่อกันว่าอย่างไร แล้วก็ตกใจกัน
ไม่กล้าอยู่ในบ้านในช่อง หอบลูกหลานไปนั่งกันอยู่ในสนามหญ้า
เพราะกลัวว่ามีเหตุเกิดขึ้นในโลกกลัวจนไม่สบาย
ไปนั่งอยู่ในสนามมันก็ยังเป็นทุกข์อยู่นั่นเอง
แต่เมื่อเราคิดได้ว่าถ้ามันมีจริง ไม่ใช่เราคนเดียวที่ต้องรับสิ่งนี้
หลายคนร่วมรับกับมัน เป็นธรรมดา
ธรรมชาติลงโทษมนุษย์ที่ทำบาปมานานแล้ว ให้รู้สึกตัวเสียบ้าง
เราก็ยินดีจะรับสิ่งนั้นด้วยหน้าชื่นตาบาน
มันก็ไม่มีเรื่องอะไร ไม่มีความทุกข์ความเดือดร้อน
แต่ถ้าคิดปฏิเสธหนีเรื่อยไป มันก็ทุกข์เรื่อยไป
อันนี้เป็นข้อคิดที่น่าคิดอยู่เหมือนกัน
จึงนำมาพูดฝากญาติโยมทั้งหลายที่ได้มาประชุมกันในวันนี้
เพื่อฟังธรรมะ จะได้รู้ว่า

ชีวิตของเรานี้จะต้องใช้ธรรมะอย่างไร
และควรจะปฏิบัติอย่างไร เพื่อแก้ไขสถานการณ์
อันเกิดขึ้นกับวิถีชิวิตในวันหนึ่งๆ
เราก็จะอยู่ได้โดยปลอดภัยมีความสบายอกสบายใจตลอดเวลา

ดังที่กล่าวมาเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจญาติโยมทั้งหลาย
ขณะนี้ก็สมควรแก่เวลา ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้

ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้


จบบริบูรณ์
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
I am
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.พ.2007, 8:17 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

...ถ้าเราเพ่งมองอย่างนี้เราก็จะเกิดปัญญาขึ้นมาได้ว่า
อ้อร่างกายเราก็เหมือนกับดอกไม้
เราเกิดมาเป็นเด็กๆ น้อยๆ แล้วค่อยเจริญเติบโตขึ้นโดยลำดับ...


ในที่สุดก็ต้องเหี่ยวแห้งล่วงหล่นลงพื้น

สาธุ..โมทนาครับ คุณลูกโป่ง สาธุ ยิ้มเห็นฟัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง