Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
เจ้ากรรมนาวเวรสิงอยู่ในพระ
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ผู้ตั้ง
ข้อความ
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 12 ธ.ค.2004, 4:38 pm
เจ้ากรรมนายเวรนี่อาจเรียกว่า"ผีกรรม"ก็ได้ แต่อาจจะไม่เป็นการยกย่องเขา
เมื่อหลายปีก่อนตอนผมบวชเป็นพระ ตอนนั้นมีพระหนุ่มๆบวชพร้อมกันหลายคน เด็กหนุ่มเหล่านั้นเป็นเครือญาติกันสี่คน ในสี่คนนั้นมีเด็กหนุ่มที่กำลังเรียนปริญญาโทอยู่ที่ออสเตรเลียคนหนึ่ง อีกคนหนึ่งเป็นนักกีฬาถีบรถจักรยาน มีความแข็งแรงมาก
ผมนั้นไปบวชโดยไม่ได้บอกให้ใครทราบ คือซื้อผ้าไตรจีวรไม่ได้จัดงานบวชอะไรเลย และไม่รู้จักกับเด็กหนุ่มทั้งสี่ มารู้ใกล้งานวันบวชแล้วว่าพวกเขาจะบวชที่เดียวกัน
เมื่อบวชแล้วก็อยู่ในวัดซึ่งเป็นวัดป่า มีกุฎิอยู่ในวัดที่เป็นป่า พวกพระเด็กหนุ่มเรียกผมว่าหลวงพี่ เพราะมีอายุมากกว่าพวกเขามากเป็นผู้ใหญ่แล้ว
พวกพระเด็กหนุ่มนั้นจะมีญาติมาเยี่ยมทุกวันเอาชากาแฟ เครื่องดื่มมาให้ และอยู่กุฎิใกล้ๆมีหลายห้อง เกือบจะรวมกันอยู่ก็ว่าได้ ดังนั้นจึงเป็นการคลุกคลีในหมู่คณะอยู่บ้าง
ผมแยกไปอยู่รูปเดียวที่กุฏิชายป่าเป็นที่สงบ พระใหม่มาดูแล้วถามว่าท่านไม่กลัวผีหรือ ทั้งที่ผียังไม่หลอกใครในตอนนั้น แต่พระบวชใหม่มักจะรู้สึกกลัวผีเมื่ออยู่คนเดียว
ที่วัดนั้นก็มีการปฏิบัติธรรมทำวัตรเช้าเย็นเหมือนปรกติ และนั่งสมาธิตอนเย็นประมาณสี่สิบนาที ตอนเช้าสี่สิบนาที ไม่รวมสวดมนต์และฟังเทศน์จากหลวงปู่
ในวัดแห่งนั้นจะมีพระมาบวชไม่มาก หลวงปู่จะใช้เวลาตอนเย็นอบรมพระสงฆ์ แต่ท่านก็ไม่ค่อยได้อยู่ที่ต่างจังหวัด เพราะมักเดินทางเข้ากรุงเทพ เพื่อไปเทศน์โดยเฉพาะที่หลักสี่ ศาลาลุงชิน มีคนฟังเทศน์จำนวนมาก ที่นั่นหลวงปู่เหรียญท่านได้ไปเทศน์และทำให้มีคนรวมตัวกันมาก แต่หลวงปู่เหรียญท่านอายุเก้าสิบกว่าแล้ว หลวงปู่ซึ่งเป็นเพื่อนสหธรรมมิกและเคารพหลวงปู่เหรียญก็ยังไปเทศน์ แม้ในปัจจุบันนี้
ผมเป็นพระบวชใหม่ แต่จะลงทำวัตรก่อนพระเก่าทั้งเช้าและเย็น เพราะว่าเวลาสี่สิบนาทีในการนั่งสมาธินั้นผมเห็นว่าน้อยมาก ถ้าเราไปนั่งก่อนก็จะมีเวลาภาวนาได้มากกว่า อย่างน้อยตอนเย็นก็มีเวลากว่าสองชั่วโมง
พระที่วัดนั้นฉันมื้อเดียว ไม่เคร่งครัดมากเท่าไร แต่พระใหม่ที่บวชนั้นต่างต้องการให้ได้บุญ ทุกรูปจึงเคารพวินัยกันเป็นอย่างดี ทำกิจอะไรพร้อมเพรียงกันหมด พระพี่เลี้ยงพูดว่าตั้งแต่พระบวชใหม่มาหลายปีแล้ว ไม่เคยเห็นพระบวชใหม่ปฏิบัติอย่างนี้เลย
ทำอะไรตรงเวลาหมด และดูแลเสนาสนะในวัดอย่างดี มีความสำรวมพอสมควร แต่ที่วัดนั้นในศาลาที่ปฏิบัติธรรมอันเป็นที่นั่งสมาธินั้น เหมือนเป็นที่ลองของพระบวชใหม่และพระเก่าอยู่เสมอ
เพราะถ้าไม่เตรียมตัวให้ดี ไม่มีใครสามารถจะนั่งสมาธิได้ แม้เวลาสี่สิบนามีก็ตาม ต้องมีเหตุอันทนไม่ได้ และทนลองว่าพระนั้นจะมีขันติ ความอดทนสู้กับนิวรณ์ได้ขนาดไหน
ผมไปนั่งสมาธิแล้วจะไม่เปลี่ยนท่า อยู่ในอริยาบถเช่นนั้นตลอด ไม่บอกใครว่ามีอาการอะไรเกิดขึ้น แต่นั่งแล้วระลึกรู้ลมหายใจโดยไม่ให้หลง จึงสามารถนั่งได้ตลอด แต่พระหนุ่มนั้นผุดลุกผุดนั่ง เพราะทนไม่ไหวในทุกวัน พอทำวัตรเสร็จอาการทุกอย่างหายเป็นปลิดทิ้ง
เหตุการณ์เป็นอย่างนี้นานหลายวัน วันหนึ่งพระที่เป็นนักถีบจักรยานเข้ามาถามผมว่า"หลวงพี่ ผมไม่รู้เป็นอะไร พอนั่งภาวนาแล้วมีอาการแพ้อากาศอย่างรุนแรง น้ำหูน้ำตาไหล คัดจมูก มีน้ำมูกออกมายังกะคนเป็นหวัด"
ผมเห็นอาการที่พระรูปนั้นเล่ามานานแล้ว แต่ไม่ได้สนใจ นึกว่าเป็นเรื่องปรกติ แต่พระทั้งสี่รูปนั้นเขาเล่ากันเองแล้ว และไปถามพระพี่เลี้ยงก็ไม่สามารถบอกได้ ผมฟังไว้แล้วเมื่อเขามานั่งภาวนาเริ่มจาม
ผมภาวนาแล้วเพ่งดูเขาในใจ เห็นภาพนกสีดำตัวหนึ่งเกาะอยู่บนหัวพระนั้น เพ่งดูสองสามครั้งก็ยังเห็นนก แต่ก็ไม่ได้บอกพระรูปนั้นว่าเห็นอย่างนั้น
จนกระทั่งวันต่อมาก็เห็นนกตัวเดิมยังอยู่บนหัวพระ หลังจากนั้นจึงเข้าไปบอกพระรูปนั้นว่า "ท่านยิงหัวนกตายตัวหนึ่งใช่ไหม? แล้วนกตัวนั้นมาขอบุญจากท่าน ท่านภาวนาแล้วอุทิศส่วนบุญหรือเปล่า"
พระรูปนั้นบอกว่า "ผมไม่ได้ยิงนกตายนะ ผมใช้ปืนลมยิงนกเขาเข้าที่หัว ตอนแรกนึกว่าตาย พอฟื้นผมก็ยังนำมาเลี้ยงแล้วก็ปล่อยไปแล้ว"
ผมเลยรู้ว่านกไม่ตาย แต่ก็ถือว่าได้ทำกรรมกับเขามาขอส่วนบุญ พระรูปนั้นได้อุทิศส่วนกุศลให้นกตัวนั้นหลายครั้ง ต่อมาอาการจามเขาลดลง ผมแอบเพ่งดูเขาอีก เห็นนกนั้นลอยอยู่ในอากาศห่างจากข้างหน้าเขาเกือบ 1 วา
ต่อมาพระนั้นนั่งภาวนาได้ ส่วนพระหนุ่มที่เป็นนักเรียนนอกจากออสเตรเลียอีกคน ได้มีอาการป่วยเป็นไข้หวัด วันนั้นผมไปเยี่ยมเขาที่กุฏิตอนบ่าย พระทั้งสี่มาประชุมพร้อมกัน ผมไปถามว่าเขาคุยเรื่องอะไร เขาบอกว่าจะพาพระนักเรียนนอกไปหาหมอ
ผมถามว่าท่านเป็นอะไร เขาบอกว่า หลวงพี่ครับผมป่วย ผมสุขภาพดี ไม่เคยป่วยรุนแรงอย่างนี้เลย นี่อาการหนัก ชักช้าไม่ได้โทร.หาญาติให้พาไปหาหมอ
ผมถามว่าแล้วท่านไม่สบายบริเวณไหนของร่างกาย เขาบอกว่าที่ศีษะมึนไปหมดเลย
ผมขอโทษนิดหนึ่งเข้าไปเอามือแตะหน้าผากพระนั้น ทำจิตให้สงบ ผมพบว่ามีอะไรเต้นและสั่นอยู่ภายในกระโหลกของพระนั้น
ผมว่าขอเวลาเดี๋ยวท่านทำจิตให้สงบนะ ส่วนผมนั้นหันหน้ามองตรงพระ หลับตาและเพ่งไปที่หน้าผากที่ผมวางมืออยู่ซึ่งมีความสั่นสะเทือน
ผมเห็นผีตนหนึ่งขนาดใบหน้าเท่าหัวแม่มือ แสยะยิ้มอยู่ในหน้าผากของพระนั้น ผมเอามือวางตั้งจิตทำนิมิตให้มือข่มเข้าไปข้างใน เพื่อจะจับผีตนนันออกมา ผีนั้นสู้ทำขนลุกซู่ เอาไม่ออก ผมคิดว่าทำยังไงดีนะ แต่พระที่ดูไร้ว่าผมเห็นอะไร เพราะผมไม่บอก ผมลองใหม่คราวนี้แผ่เมตตา ผีที่สิงอยู่ในหน้าผากพระ ออกมาอยู่บนหลังทือของผม ผมเห็นใบหน้านั้น ก็รีบดึงเอามืออกจากหน้าผากพระนั้นทันที
แล้วผมพูกกับพระรูปนั้นว่าก็ท่านหายหมดแล้ว ท่านไม่ได้ป่วยอะไรจะไปหาหมอทำไม
พระรูปนั้นยังคิดว่าตัวเองป่วยอยู่ พอได้ยินผมพูดอย่างนั้นก็นิ่งตรึกอาการของตน แล้วพูดว่าเอ๊ะหายหมดแล้วจริง ไม่เป็นไรแล้ว ทำไมมันหายไปได้ละหลวงพี่ แปลกจังทำไมมันหายไปได้เร็วอย่างนี้ พระอื่นก็งงถามว่าตกลงไม่ต้องไปหาหมอแล้วใช่ไหม
ผมบอกพระนั่นว่าท่านทำวัตรเสร็จแล้วมากรวดน้ำที่กุฏิอีกครั้ง อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรทุกวัน ท่านอาจป่วยอีกนะ
พระนั้นยังไม่สบายนิดหน่อยอยู่ประมาณสองครั้งเห็นจะได้ แล้วไม่มีอาการไม่สบายอีกเลย ผมคิดว่าวิญญาณที่เห็นขนาดย่อเท่าหัวแม่มือเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขา
สายลม
บัวเงิน
เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
ตอบเมื่อ: 13 ธ.ค.2004, 6:28 pm
สาธุครับ คุณโอ่
สำหรับเรื่องเล่าดีๆ และยังได้ฟังจากผู้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 13 ธ.ค.2004, 11:42 pm
ยังมีพระอีกรูปหนึ่งบวชสองพรรษาแล้ว มาจากอีสาน เพราะเคยอยู่ภาคใต้มาก่อนแล้วขอพักที่วัด อาศัยกุฏิตรงข้ามผม
ตอนพระรูปนี้มา ผมจำวัด(นอน)กลางวัน คือทำสมาธิแล้วก็เผลอหลับไป(นอนภาวนา) เมื่อรู้สึกตัว ผมจะรวมสมาธิเสียก่อนก่อนจะลุกขึ้นเป็นนิสัยอย่างนี้มาหลายสิบปีแล้ว ก็รวมสมาธิแล้วเพ่งดู ทันใดนั้นภาพกุฏข้างนอกปรากฏค่อนข้างชัดมาก ผมเห็นเปรตรูปร่างผอมประมาณสามสิบกว่าตัว ยืนอยู่ข้างรั้วที่เป็นกำแพงอิฐบล็อกข้างกุฏิ ก็นึกว่าเอ๊ะวันนี้ทำไมมีเปรตมาอยู่ที่นี่มาก
ก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะผมเห็นวิญญาณต่างๆจนชินแล้ว ลุกขึ้นออกมาพระรูปหนึ่งมาไหว้ ความจริงผมต้องไหว้เพราะพรรษาอ่อนกว่า แต่ไม่รู้ และเขาเป็นพระอาคันตุกะ บอกว่ามาพักกุฏิใกล้ๆ เมื่อปฏิสันถารกันพอสมควรเขาเล่าว่าที่มาบวชเพราะป่วยเป็นงูสวัด หมอรักษาก็ไม่ดีขึ้น หลวงน้าที่อีสานเป็นพระหมอดูบอกว่า ถ้าไม่บวชแล้วจะตาย
จึงบวชแล้วเอาใจใส่ภาวนา อาการก็ดีขึ้น แล้วพระนั้นเล่าว่าสาเหตุป่วยเพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งทำเสน่ห์เขา และใช้คุณไสย์จะให้เขาหลงรัก จึงทำให้ป่วย
อย่างไรก็ตามผมคิดว่าพระนั้นคงเข้าใจผิดก้ได้ เพราะอาการป่วยนั้นเป็นเพราะกรรม และมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นเปรตติดตามมาด้วย อยู่ข้างกุฏิของเขา ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมจึงมีเปรตมากันมากเช่นนี้ แต่ไม่แสดงความเห็นอะไร บอกเขาว่าดีและเห็นด้วยที่เขามุ่งมั่นปฏิบัติธรรมรักษาตนเองเช่นนั้น
พระรูปนั้นเอาใจใส่ในการภาวนาและเดินจงกรมพอสมควร คือเดินจงกรมวันหนึ่งครึ่งชั่วโมงทุกวัน แต่การนั่งภาวนาทำไม่มากเท่าไร แม้จะมีเวลาควรทำให้มากกว่านั้น ท่านก็เลือกจะเดินจงกรมแค่วันครึ่งชั่วโมง ก็ไม่ทราบว่าทำไมท่านจึงปล่อยให้เวลาว่างมีมาก ทั้งที่สามารถภาวนาได้อีก ท่านคงคิดวาเท่านี้ก็พอแล้วก็ได้
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th