Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 สนทนาวิธีปฏิบัติกรรมฐานกับคุณ natdanai อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 13 ต.ค.2008, 11:35 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
กระผมใช้วิธีภาวนา พุทธ โธ อยู่ครับ แต่ก็ไปไม่ถึงความสงบเย็นอย่างที่เคยได้ยินได้ฟังมาซะที นั่งพิจารณาเรื่องของสติปัฏฐาน ก็เริ่มเห็นบางอย่าง จับเวทนาได้ก่อนแฮะ เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์(เยอะหน่อย) เดี๋ยวเฉยๆ กลับไปกลับมาอยู่ตลอดเวลา สักพักกระผมก็ฉุกคิดถึงปฏิจสมุปบาท เวทนาเป็นปัจจัยให้เกิดตัณหา เลยคิดย้อนไปถึงผัสสะเป็นปัจจัยให้เกิดเวทนา เลยตั้งสติจดจ่ออยู่สักพักก็เริ่มเห็น ธาตุ 18 กระทบกันอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวหู เดี๋ยวจมูก เดี๋ยวกาย เดี๋ยวความคิด (แต่ตากับลิ้นไม่เห็นครับเพราะหลับตานั่งอยู่เฉยๆ) มาถึงตรงนี้ก็เริ่มไม่รู้สึกถึงเวทนาแล้ว(ไม่ใส่ใจกับเวทนาเลย) บันเทิงอยู่กับการไล่จับผัสสะอยู่....เช้าซะละเลยต้องเลิกก่อนเดี๋ยวไปทำงานสาย

ทีนี้กระผมจะต้องทำอะไรต่อไปครับกรุณาแนะนำที

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?p=83743#83743


จองพื้นที่ไว้ก่อนแล้วค่อยๆว่ากันต่อไปนะครับ ยิ้ม

แนะนำบอร์ใหม่

http://fws.cc/whatisnippana/index.php
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา

แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 23 พ.ย.2010, 6:19 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 13 ต.ค.2008, 8:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หากจะบันเทิงเริงรมย์ไล่จับผัสสะเป็นต้น ควรไล่หลังจากเลิกฝึกกรรมฐานตามแบบแล้ว
พักแล้วจะนั่งไล่อย่างที่ว่าก็ได้
แต่ขณะที่ใช้ลมหายใจเป็นสนามฝึก ลมเข้า พุท ลมออกโธ พุทโธๆๆ อยู่นั่น
ไล่จับอารมณ์อย่างนี้ เป็นต้น
อ้างอิงจาก:
(….คิดถึงปฏิจสมุปบาท เวทนาเป็นปัจจัยให้เกิดตัณหา เลยคิดย้อนไปถึงผัสสะเป็นปัจจัยให้เกิดเวทนา เลยตั้งสติจดจ่ออยู่สักพักก็เริ่มเห็น ธาตุ 18 กระทบกันอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวหู เดี๋ยวจมูก เดี๋ยวกาย เดี๋ยวความคิด)
ไม่เข้ากับสถานการณ์ คือสถานการณ์ตอนนั้นไม่ใช่ให้คิดให้ทำเช่นนั้น
สิ่งที่ควรทำตอนนั้นคือยึดลมเข้าออกไว้ครับ หายใจเข้า พุท ลมหายใจออก ก็โธ พุทโธๆๆ ตามลมเข้าและออก เป็นหลักยึดภาวนาไป

ส่วนอารมณ์อื่นที่แว็บๆ มา แว้บไป รู้สึกตัว ก็ทำความรู้สึกในใจว่า ...มันเป็นอย่างนั้น แล้วจบ รู้แล้วจบ ไม่ต้องตามไล่อารมณ์นั้นไปอีก
กลับไปพิจารณาลมหายใจต่อ ลมเข้า พุท ลมออก โธ ฯลฯ

แนะนำให้อ่านคำตอบที่แนะนำคุณฌาน คห.วันนี้เพิ่มเติมครับ
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 14 ต.ค.2008, 10:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมื่อวานนั่งพิจารณาอยู่ถึงผัสสะที่เกิด เห็นอยู่ว่ามันมีอยู่ตลอดเวลา เหมือนเวทนาที่จองจำเราอยู่ทุกอิริยาบท ตอนที่ไม่ได้นั่งปฏิบัติอยู่ก็มี (เมื่อก่อนไม่ยักรู้สึกแบบนี้ ) เลยคิดได้ว่ามันเป็นธรรมดาของมันอย่างนี้นี่เอง ทีนี้พอตอนปฏิบัติก็เริ่มต้นเหมือนปกติ กำหนดลมหายใจ ภาวนาพุทธโธไปเรื่อย แต่ทีนี้เอาจิตมาจ่ออยู่ที่ลมที่ไหลเข้า ไหลออก แล้วก็ภาวนาไปเรื่อยๆ ผัสสะมันก็มีอยู่เหมือนเดิม เวทนาก็มีอยู่เหมือนเดิม คือรู้สึกอยู่ว่ามันมีแต่ทีนี้ไม่สนใจมันปล่อยมันเป็นไปตามธรรมดาของมัน สักพักนึงก็เริ่มรู้สึกเหมือนลมที่จ่ออยู่มันหายไป แต่พอรู้สึกแบบนี้ปั๊ป มันก็กลับมาอีก เหมือนตอนเริ่มเลย แต่ก่อนจะกลับมานี่มันรู้สึกเหมือนหล่นลงมาจากที่นั่ง(เหมือนกับว่าพื้นมันหายไป...ตกใจเลย ) ตื่นเต้น
แล้วทีนี้ก็เอาใหม่ แต่ยังไม่เท่าไหร่เลย เช้าอีกแล้ว เลยต้องเลิกก่อน วันออกพรรษาด้วยตั้งใจจะไปวัดทำบุญ... ยิ้ม

รบกวนท่านช่วยวิเคราะห์ทีครับ แล้วก็กรุณาแนะนำให้ด้วยนะครับว่ากระผมควรจะต้องทำยังไงต่อ.... สาธุ
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 14 ต.ค.2008, 12:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บอร์ดใหม่เปิดใช้งานแล้วครับ คุณ natdanai มะมามะมะ นะโมพุทธายะ
มะมะมามา เราไปสนทนากันที่ ยิ้ม

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=18324
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง