Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เพ็ญเดือน ๓ - ต๋ามหน้าบุญเต๊อะ ณ วัดพระพุทธบาทสี่รอย อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 22 มี.ค.2008, 4:48 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

คืนนี้นี้วัดประหยัดไฟ
เพราะญาติโยมส่วนใหญ่ทะยอยกลับไปหมดแล้ว

กลับเข้ามาที่พระวิหารจึงพบว่า
เหลือเพียงแสงสว่างที่บันไดทางเดินขึ้นพระวิหาร
และรอบๆ ลานหินอ่อนด้านล่างอยู่พอให้ให้เห็นทางเท่านั้น

ดังนั้น...ที่หอเทวดา.....จึงมืดสนิท

ก่อนขึ้นไปกรรมฐานที่นั่น
เราตั้งจิตอธิษฐานบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อารักษ์ดูแล ณ ที่นั้นว่า


“ข้าแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลอภิบาลรอยพระพุทธบาทอยู่ ณ ที่นี้
ข้าพเจ้าทั้งสามได้ตั้งใจขึ้นมาถือศีล เจริญภาวนา ปฏิบัติธรรมที่นี่
เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ในวันมาฆบูชา...ด้วยความศรัทธายิ่ง

หากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ข้าพเจ้าทั้งสามได้กระทำการอันใด
อันเป็นการมิบังควรด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
อันเป็นการล่วงเกินแก่รอยพระพุทธบาท และท่านทั้งหลาย
ทั้งที่ตั้งใจและรู้เท่ามิถึงการณ์

ข้าพเจ้าก็ต้องขออภัย
และขอให้ท่านได้อโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย


และด้วยบุญบารมีใดใดที่ข้าพเจ้าทั้งสาม
ได้เคยสั่งสมมาบ้างในทุกภพ ทุกชาติ
ทั้งจากการทำทาน ถือศีล และเจริญภาวนา
และบุญกิริยาวัตถุทั้งหลาย

ส่วนหนึ่งของบุญกุศลดังกล่าว

ข้าพเจ้าขอถวาย และมอบให้ท่านทั้งหลาย
ทั้ง อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ จตุโลกบาล นาค นาคา
รุกขเทวดา ภูมิเทวดา อากาศเทวดา เจ้าป่าเจ้าเขา
และสัมภเวสี
ที่วนเวียนอยู่ ณ ที่นี้

หากท่านยังเป็นทุกข์อยู่....ก็ขอให้ท่านคลายทุกข์ลง
หากท่านเป็นสุข....ก็ขอให้ท่านเป็นสุขยิ่งๆ ขึ้นไป...ด้วยเทอญ”


แล้วเราทั้งสามก็เดินขึ้นไปจุดเทียนนั่งกรรมฐานกันท่ามกลางความมืดสลัว

Image

กราบพระ....
และระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
และคุณของคุณครูบาอาจารย์ที่สอนสั่งอบรมมาทุกท่าน
แล้วก็เข้ากรรมฐานตามแต่ที่แต่ละคนถนัด สาธุ สาธุ สาธุ

เฉพาะคืนนี้...ทีแรกเราตั้งใจเจริญสมถะสมาธิ
โดยใช้วิธีเจริญอานาปนสติ
พิจารณาลมหายใจเข้าออก...ให้รู้ปัจจุบันขณะ

แต่เมื่อได้รับการชี้แนะจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้
จะรอช้าอยู่ใย....ก็เลยภาวนาคำบริกรรมดังกล่าว
พร้อมกับตามดูลมหายใจเข้าออกของตนเองไปด้วยพร้อมกัน....น่าจะดี


สักพักขณะที่จิตกำลังเข้าสู่สมาธินั้น
หูก็ได้ยินเสียงกุกกักๆ อยู่รอบๆ หอเทวดา
เราก็พิจารณาว่าเป็น “เสียง”
ก็สักแต่ว่าได้ยินไม่ได้โน้มนำมาใคร่ครวญว่า
“เสียงอะไร” แล้วบริกรรมต่อไป


อีกสักพักนึงก็มีเสียงตึงตังดังขึ้น
ประหนึ่งของชิ้นหนึ่งขนาดใหญ่หล่นลงมาจากโต๊ะหมู่บูชา
ที่เรากำลังนั่งประจันหน้าอยู่
แต่เราก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมามอง

ได้แต่พิจารณาและรับรู้ว่าเป็น “เสียง”
แล้วก็อุเบกขาเจริญภาวนาต่อไป...อีกเช่นกัน

(เพิ่งทราบมาภายหลังว่า โชเฟอร์กิตติมศักดิ์กลัวว่าจะเป็นงูเลื้อยขึ้นมา
เพราะที่หอเทวดานี้อยู่ติดชิดกับหินผาซึ่งเป็นป่ารกขนาดเอื้อมมือแตะถึงกัน)


เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่ทราบ
ขณะที่จิตกำลังเป็นสมาธิดำดิ่งอยู่นั้น
เราเองก็รู้สึกประหนึ่งว่า
หอเทวดานี้กำลังถูก “อะไร” บางอย่างโยกคลอน
ประหนึ่งพสุธากำลังสะเทือน
ด้วยแรงเหยียบของผู้กำลังมหาศาลที่ขึ้นมาเรือนนี้....!!!


สภาวะในขณะนั้น
เราประคองจิตไว้ด้วยสติไม่ตกใจ
แต่รับรู้ได้ว่า จิตขณะนี้กำลังเกิดวิจิกิจฉาเต็มกำลังมากกว่า
ถามตัวเอง....ว่า


Image

“แผ่นดินไหวหรืออย่างไร....
ถ้าไม่ใช่...!
ก็ต้องเป็นใครที่มีกำลังมหาศาลขึ้นมาเหยียบบนนี้...
ขนาดทำให้ที่นี่ซึ่งปูพื้นด้วยกระเบื้องและซีเมนต์...สะเทือนได้ !!!”
ตกใจ

“จะเป็นใคร....แล้วจะรู้ไปทำไมล่ะ
รู้ไปแล้วได้อะไรขึ้นมา
บางทีเขาอาจจะมาทักทาย
และทดสอบจิตของเราอยู่ก็ได้”


คิดได้ดังนั้น
เราก็ละวางวิจิกิจฉา
อยากสะเทือน...ก็สะเทือนไป
เราก็เจริญภาวนาต่อไป....ด้วยความสงบ


เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ
รู้แต่ว่าจิตขณะนี้...เป็นสุขสงบมาก
รู้ตัวอีกทีคำบริกรรมหายไป
และได้ยินเหมือนเสียงกระดิ่งแก้ว
ดังกังวานใสเป็นจังหวะ กิ๊งๆๆๆ...อยู่รอบๆ บริเวณหอเทวดา

ทีแรกไม่ได้ใส่ใจ
เพราะคิดว่าคงเป็นเสียงใบโพธิ์
บนหลังคาพระวิหารที่กระทบกับสายลม

แต่เมื่อพิจารณาอีกที
ไม่น่าใช่เเสียงใบโพธิ์โลหะที่สันไหวเพราะสายลม

เพราะเสียงที่ได้ยินนี้
มีกังวานใสเหมือนใครมาเคาะกระดิ่งแก้ว
ดังเป็นกังวานเป็นจังหวะ....นานติดต่อกันราวครึ่งนาที
และหยุดนิ่งสักอึดใจ

แล้วดังขึ้นใหม่
แล้วหยุดสลับกันจนครบ ๓ ครั้ง
จนในที่สุดก็เงียบหายไป


แล้วเราทั้งสามก็ถอนออกจากสมาธิ

Image

มองหน้ากัน....แล้วยังไม่พูดอะไร
มานั่งกรรมฐานกันต่อที่พระวิหารครอบรอยพระพุทธบาทอีกพักใหญ่
แล้วก็ลงจากพระวิหารไปราวตีสอง

ระหว่างทางที่เดินกลับที่พัก
เราคุยแลกเปลี่ยนกันถามว่า

“ได้ยินเสียงอะไรมั้ยที่หอเทวดา” สงสัย สงสัย

แล้วเราก็รู้ว่า....ในขณะที่อยู่ในสมาธิ
สิ่งที่เรา ๓ คนได้ยิน ได้สัมผัสนั้นไม่เหมือนกันเลย นั่นคือ

ความรู้สึกว่าเรือนไหวโยก...ที่กุหลาบสีชาสัมผัสได้
เสียงเหมือนใครลุกขึ้นสะบัดผ้าข้างหลังเรา....ที่โชเฟอร์กิตติมศักดิ์ได้ยิน
ในขณะที่คุณแม่ได้ยินเสียงเหมือนมีคนมานั่งคุยกันที่หอเทวดา


อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนยืนยันว่า
ได้ยินตอนกำลังจะถอนออกจากสมาธิตรงกัน...นั่นก็คือ

เสียงกระดิ่งแก้วที่ดังกังวานใส.....๓ รอบ....นั่นเอง!!! ตื่นเต้น

เพื่อนๆ หรือผู้รู้ท่านใดจะเมตตา
ช่วยไขปริศนาให้กุหลาบสีชาได้หรือไม่คะว่า

เสียงที่เราได้ยินนั้นคือ...เสียงอะไร???
อืมม์ สงสัย

Image

(มีต่อ : อำลาพระพุทธบาทสี่รอย)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 22 มี.ค.2008, 6:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

อำ ล า พ ร ะ พุ ท ธ บ า ท สี่ ร อ ย

ไม่มีงานเลี้ยงใด...ไม่มีเลิกรา
หลังจากตักบาตร
อาบน้ำอาบท่า เก็บข้าวของ

สายของวันรุ่งขึ้น
เราก็ต้องอำลา...วัดพระพุทธบาทสี่รอยกันแล้วค่ะ
เพื่อกลับไปปฏิบัติหน้าที่ทางโลก
ตามบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายกันต่อไป....

อนึ่ง....จุดมุ่งหมายที่กุหลาบสีชานำภาพและเรื่องราวต่างๆ
เกี่ยวกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มาเผยแผ่เป็นธรรมวิทยาทาน
และแบ่งปันประสบการณ์ทางธรรม
แก่สาธุชนผู้เป็นพุทธศาสนิกชน
ก็เพื่อให้ได้ตระหนักว่า....


วัดพระพุทธบาทสี่รอยแห่งนี้เป็นพุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์
และเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ที่ซึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงประทับรอยพระบาทไว้
ให้ปรากฏอยู่ชั่วนิรันดร์กาล
เป็นสักขีพยานในการได้เสด็จมา

และเพื่อให้เป็นที่ระลึกนึกถึงพระกรุณาธิคุณแห่งพระองค์
ที่มีต่อสัตว์โลกในวัฏฏสงสาร
และพระธรรมที่ทรงประทานไว้ให้แก่โลก

รวมทั้งยังเป็นเครื่องหมายประกาศความยั่งยืนของพระพุทธศาสนา
อันจะมีสืบไปชัวนิรันดร
สมควรอย่างที่เราชาวพุทธ
จะได้มีโอกาสได้ไปกราบไหว้สักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิต


ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้า “กุหลาบสีชา” จึงขอตั้งจิตอธิษฐาน.....

สาธุ สาธุ สาธุ

ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ
แห่ง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์
คุณพระธรรมเจ้า และคุณพระสังฆเจ้า ด้วยเศียรเกล้า

ขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อ-คุณแม่ ที่ให้ชีวิต
และอัตภาพของความเป็นมนุษย์แก่ข้าพเจ้า
ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการสั่งสมบุญบารมีในภพภูมินี้....เป็นอย่างยิ่ง

ขอกราบขอบพระคุณ คุณครูบาอาจารย์ทุกท่าน ทั้งที่เป็นสมณะ และฆราวาส
ทั้งที่ล่วงลับไป แล้ว และที่ยังดำรงสังขารอยู่
ซึ่งได้อบรมสั่งสอน ชี้แนะแนวทางการศึกษา
และปฏิบัติธรรมเป็นบาทฐานสืบมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ขอขอบคุณ คุณลองภูมิ : กัลยาณมิตร โชเฟอร์และช่างภาพกิตติมศักดิ์
ผู้อุทิศเวลาแรงกาย แรงใจในการส่งเสริมและสนับสนุนในทุกกาล ทุกสถาน
เมื่อปรารถนาจะศึกษาปฏิบัติธรรม.....
รวมทั้งในโอกาสนี้ที่มาปฏิบัติธรรมที่วัดพระพุทธบาทสี่รอย....เป็นอย่างยิ่ง

และสุดท้าย...

ขอขอบคุณ ลานธรรมจักร พื้นที่ธรรมแห่งนี้ที่เปิดโอกาสให้
กุหลาบสีชามีโอกาสได้สั่งสมกุศล....เป็นธรรมทาน....จนถึงทุกวันนี้ด้วยค่ะ


สาธุ สาธุ สาธุ

และด้วยผลานิสงส์แห่งการกราบไหว้สักการะพระพุทธบาทสี่รอย
และกุศลคุณความดีทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาในครั้งนี้
ทั้งการทำทาน ถือศีล และเจริญภาวนา
รวมทั้งการเผยแผ่ธรรมวิทยาทานจากประสบการณ์ในโอกาสดังกล่าวนี้


จงเป็นพลวปัจจัยให้ข้าพเจ้า
ตลอดจนกัลยาณมิตร และเพื่อนๆ สาธุชนทุกท่าน
ที่แวะเวียนกันเข้ามาอ่านบทความเรื่องนี้ในเว็ปธรรมจักร

จงประสบแต่ความสุข สงบร่มเย็น
และมีความเจริญทั้งทางโลก และทางธรรม
ได้เข้าถึงสมบัติอันพึงปรารถนา
คือ คติสมบัติ อุปธิสมบัติ กาลสมบัติ และ ปโยคสมบัติ

อันหมายถึง ได้เกิดในภพภูมิที่ดี
มีอวัยวะครบถ้วนบริบูรณ์
ตั้งอยู่ในกาสมัยที่มีคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และมีการประกอบความเพียรในทางที่ชอบ
ขอให้มีสติปัญญา และมีดวงตารู้แจ้งเห็นธรรมของพระพุทธองค์
ตราบจนเข้าถึงสมบัติที่สูงสุด คือ “พระนิพพาน”.... เทอญ


สาธุ สาธุ สาธุ นิ พ พ า นั ง.....ปั จ จ โ ย......โ ห ตุ สาธุ สาธุ สาธุ

Image

สาธุ สาธุ สาธุ

โปรดติดตาม : ตำนานพระพุทธบาทสี่รอย (ฉบับล้านนา) :
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14761
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
คนสองศอ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 26 ก.ย. 2007
ตอบ: 19
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 26 มี.ค.2008, 10:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขออนุโมทนาบุญกุศลในกาลครั้งนี้ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
คนเรา...อิ่มเดียว หลับเดียวก็เพียงพอแล้ว
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
pveep
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 05 ก.พ. 2007
ตอบ: 9
ที่อยู่ (จังหวัด): สุพรรณบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 11:05 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนาบุญกับคุณกุหลาบสีชาด้วย และขอความกรุณาโหลดแผนที่ทางไปวัดพระพุทธบาทสี่รอย ให้ใหม่ ขอชัดๆ นะครับ เพราะที่โพสต์ไว้ไม่ชัดเลย ขอบคุณล่วงหน้าครับ
 

_________________
มองดูตัวเองให้มากกว่ามองดูหรือตำหนิผู้อื่น
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 11 ต.ค.2008, 1:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ธรรมสวัสดีค่ะคุณ pveep สาธุ

ได้โพสต์ภาพแผนที่การเดินทางไปวัดพระพุทธบาทสี่รอย
ให้ใหญ่ขึ้นแทนภาพเดิมเรียบร้อยแล้วค่ะ

ทั้งนี้เพื่อความสะดวกแก่กัลยาณมิตรและสาธุชน
ผู้ปรารถนาจะได้ขึ้นไปกราบสักการะและปฏิบัติธรรม ณ ที่นี้
ขออนุโมทนาบุญไว้ล่วงหน้านะคะ

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง