Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 แสวงหาธรรม (หนังสือธรรมะรอบกองไฟ) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เด็กยาง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2004, 12:31 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แสวงหาธรรม

หนังสือธรรมะรอบกองไฟ
โดย ขวัญ เพียงหทัย


แสงแดดทอดตัวบนพื้นหญ้า
ดูเจิดจ้า ทว่าสงบ
หญ้าเปลี่ยนสีที่ใต้เงาต้นมะม่วง
ใบมะม่วงพลิกพลิ้วเบา ๆ
คุยกับสายลม
ลูกของมันระย้าย้อยเต็มต้น
บ้านเงียบสงบ
ไม่มีเสียงรถรารบกวน
ฟังเพลงเก่า ๆ ที่เคยชอบ
แล้วก็นอนพัก
ดอกผักบุ้งริมรั้วกำลังบาน

กลอนเปล่าบทนี้ชื่อ “วันอาทิตย์” ฉันเขียนขึ้นในสมัยที่วันอาทิตย์เป็นวันนอน อย่างขี้เกียจ ต่อมาเมื่อศึกษาธรรมะ ก็เลยเลิกกิจการการนอนเช้าๆวันอาทิตย์ อากาศดี ถนนเงียบเพราะผู้คนยังไม่ตื่น หิ้วตะกร้าไปซื้อกับข้าวถุงๆแล้วก็ไปวัดชลประทานฯ ที่วัดนี้มีสวนร่มรื่น เป็นต้นไม้ใหญ่มากเหมือนป่า ทำให้มีความสุขมาก พอ 9 โมงเช้าก็มีการสวดมนต์ เขาจะติดลำโพงจาก ห้องประชุมมาไว้ตามสวนด้วย ปัจจุบันพื้นสวนได้ปรับใหม่จากลานดินที่เหมือนอยู่สวนป่าจริง ๆ มาเป็นลานอิฐ มีการจัดสวนตามสมัย ก็ดีไปอีกรูปแบบหนึ่ง แต่บรรยากาศก็เปลี่ยนไปบ้าง

สมัยก่อนหลวงพ่อปัญญานันทะ ท่านเทศน์ทุกวันอาทิตย์ ก็นั่งฟังอยู่ใต้ต้นไม้บ้าง ในศาลาริมสระบ้าง สุดแสนจะสบายใจดีกว่านอนหง่าวอยู่บ้านเยอะเลย

พอท่านเทศน์เสร็จก็มีการตักบาตร พระนั่งล้อมเป็นวงที่ลานหินโค้ง ดูแล้วประทับใจนัก ก่อนกลับบ้านก็แวะไปยืมเทปจากห้องสมุดศาลาจำปีรัตน์ที่มีหลายตู้ เอากลับไปฟังที่บ้าน ที่ยืมมาประจำก็คือเทปของหลวงพ่อปัญญา และหลวงพ่อพุทธทาส นานปีก็จับได้ว่าตัวเองฟังเทปได้มากกว่าอ่านหนังสือ แต่จริง ๆ แล้วหนังสือก็ถอดมาจากเทปบรรยายธรรมของหลวงพ่อนั่นเอง

ฟังมาก็พอสมควร มองเห็นผังภูมิของพุทธศาสนาว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องอะไร ผังภูมินี้ก็เหมือนกับตัวบ้าน เรายืนดูก็รู้ได้ว่า ประตูบ้านอยู่ไหน ตัวบ้าน ประตู หน้าต่าง หลังคา แค่มีบ้านก็เดินเข้าไปหลบฝนหลบแดดได้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ นั้นเป็นรายละเอียด ใครชอบก็ค่อย ๆ ตามเก็บตามแคะเอา

วันหนึ่ง น้องคนหนึ่งก็มาพูดคุยเรื่องจะเข้าบ้านศาสนายังไงดีให้ช่วยแนะนำด้วย ทำให้คิดย้อนกลับไปถึงตัวเองเมื่อแรกเริ่มก็เจอปัญหานี้เหมือนกัน เลยชวนมาเล่าให้ฟัง น้องอีกคนหนึ่งก็มาสบทมด้วย รวม 3 คน เป็นธรรมสัญจรไปคุยกันที่สวนรถไฟบ้าง เขาดินบ้าง เพลิดเพลินดี

ก่อนจะไปก็ต้องทำโน้ตสั้น ๆ ว่าจะคุยเรื่องอะไร กลับมาก็เก็บไว้ ตั้งใจว่าจะเอามาเล่าให้ลูกชายฟัง
 
เด็กบ้านยาง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2004, 12:35 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เท่าที่เคยถาม ๆ มา ก็พอจะอนุมานได้ว่า คนที่ไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไรมีเยอะ และนึกเข้าหาศาสนาพุทธ ก็หาประตูไม่เจอก็มีเยอะ พอเห็นใครอยากรู้ก็เล่าให้เขาฟัง เลยคิดว่าเขียนเป็นหนังสือเลยท่าจะดีกว่า จะได้เผื่อไปถึงคนอื่น ๆ ที่อาจจะสนใจด้วย แต่ใครจะคิดว่าฉันตั้งตนเป็นอาจารย์นั้นก็ไม่ใช่ ฉันเป็นเพียงคนรวบรวมเอาคำเทศน์ที่ได้ฟังมาเล่าให้ฟังสั้น ๆ และรวมไว้ในที่เดียวกันเท่านั้นเอง และอยากจะเล่าให้ฟังเพลิน ๆ ประสาเพื่อนคุยกัน พอเป็นพื้นฐานแบบเตรียมอนุบาล เพื่อว่าท่านจะได้ใช้เป็นทางลัดให้เข้าไปศึกษาธรรมด้วยตัวเองต่อไปได้เลยไม่ต้องแวะเวียนค้นหาไปตามจุดต่าง ๆ ให้เสียเวลาเหมือนกับที่ฉันเคยเป็นมา

แต่ในชั้นแรกนี่ ก็จะเล่าถึงช่วงที่ยังหาธรรมะไม่พบด้วย เพื่อท่านจะได้ทราบว่า ความรู้สึกบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นนั้น มันเกิดขึ้นกับคนอื่นด้วย อาจทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น

แรกเริ่มเมื่อมีความทุกข์ใจหนัก แต่ละวันผ่านไปเหมือนเรือลำเล็ก ฝ่าอยู่กลางคลื่นยักษ์ในมหาสมุทรอย่างกับในหนังฝรั่งก็ได้ไปหาน้องคนหนึ่ง ซึ่งมีท่าทางเป็นนักวิชาการดี และถามเขาว่า

“พุทธศาสนาสอนว่าอะไร”

เขามองหน้าเหมือนกับว่าเรายวน แต่พอเห็นความโง่ในดวงตาของฉัน ก็กลับเปลี่ยนใจ วันรุ่งขึ้น ก็หอบหนังสือมาให้เกือบ 10 เล่ม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางศาสนา ปรัชญาลัทธิต่าง ๆ และหนังสือธรรมะหนา ๆ พอเห็นตั้งหนังสือฉันก็เริ่มหาว และอุ้มเอากลับไปหนุนหัวนอน

วันหนึ่ง จึงออกกำลังกายเดินไปวัดเบญจมบพิตร เพราะอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก ไปถึงก็ไปนั่งกราบพระพุทธชินราชที่แสนจะงดงามประทับใจ นั่งรำพึงรำพันฟ้องเรื่องราวต่าง ๆ กับท่านอยู่ในใจไกด์ตัวท้วมพาฝรั่งเที่ยวก็เดินเกือบจะสะดุดเท้าของฉันที่พับเพียบแนบอยู่กับตัว หัวเข่าเฉี่ยวไหล่ไปเส้นยาแดงผ่ายี่สิบแปด อะไรวะ! ยังไม่บรรลุเลย ตัวฉันใสจนมองไม่เห็นรึไง นึกแล้วก็หันไปกราบพระ ท่านยังยิ้มให้อยู่เหมือนเดิม อยากให้พระท่านพูดได้จังเพราะบ่นแล้วมันยังไม่หายกลุ้มใจ

เป็นเครียดอยู่นาน มีคนชวนไปถวายสังฆทานให้สบายใจ ก็ไปซื้อข้าวของเตรียมสังฆทาน แล้วก็ไปวัดด้วยความยินดี ไปถึงกุฏิเจ้าอาวาส ท่านก็ใจดีสวดมนต์ให้ยาวหลายบท และยังแถมบทสวดให้พรประจำวันเกิดด้วย ฟังจนขาเป็นเหน็บ ย้ายพับเพียบซ้ายไปขวา ขวาไปซ้าย ระหว่างนั่นท่านก็ซัดน้ำมนต์ให้เพื่อเป็นสิริมงคล กว่าจะสวดเสร็จ ก็เปียกไปทั้งตัวยังกะฝ่าฝนตกหนักมา ก็ชุ่มฉ่ำหัวใจ แจกทิชชู่มาเช็ดหัวหูกันเพลิน
 
เด็กบ้านยาง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2004, 12:38 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แต่พอกลับมาถึงโต๊ะทำงาน ก็หน้าหงิกกันต่อไป เหมือนไม่ได้ไปไหนมา

อย่ากระนั้นเลย จึงวันหนึ่งก็หอบมาลัยร้อยประณีตอย่างสวย ซื้อที่ท่าช้าง ไปไหว้พระนอนวัดโพธิ์ พระองค์นี้ฉันรักนักรักหนาด้วยงามประใจ ไปถึงก็วางดอกไม้ลงในพานทองที่เขาเตรียมไว้ให้ไปถวายท่าน แล้วก็จุดธูปเทียนสวดนต์ขอพรท่านตามระเบียบ แล้วก็เสี่ยงเซียมซีมาใบหนึ่งด้วย ตั้งจิตอธิษฐานถามท่านว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร จะไปรอดมั้ยเนี่ย

ในเซียมซีบอกว่าสาหัสนักลูกเอ๋ย ลำบากไปอีกนานนะเจ้าให้ทิ้งพระเสีย เอ! อ่านแล้วก็งง เลยไปถามคนขายดอกไม้ว่าทิ้งพระแปลว่าอะไร

“อ๋อ ก็ให้ซื้อพระองค์เล็ก ๆ นี่ ไปทิ้งไว้ใต้ต้นโพธิ์หลังโบสถ์ เป็นการสะเดาะเคราะห์”

ก็เลยซื้อพระหน้าตู้นั่นเอง องค์ละ 20 บาท แล้วก็ออกไปเดินหาต้นโพธิ์ โอ้โฮ! ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ พระถูกทิ้งอยู่เต็มเลย สงสารท่านนะ

เรื่องเสี่ยงเซียมซีนี่ ก็ไม่ได้เสี่ยงบ่อย เพราะมันเสี่ยง

ปกติไปไหนจะไม่เสี่ยงที่จะเสี่ยงเซียมซี เพราะถ้าเสี่ยงบ่อย ๆ นอกจากจะเสี่ยงกับใจความที่ค้านกันเองจนงงแล้ว ความน่าเชื่อถือก็ไม่มี

(จริง ๆ ทางศาสนาพุทธบอกว่าไม่มีเลยอยู่แล้ว) และ บางคนที่คิดว่าเสี่ยงใบแรกแล้วไม่ชอบ ลงไปนั่งเสี่ยงใหม่ อันนี้เลิกเลย เดินไปเลือกเองที่ตู้เลยแล้วกัน

ที่ทำอยู่ก็คือ เสี่ยงเซียมซีที่พระนอนนี่องค์เดียว ปีละครั้งเดียว คือวันเกิด ที่เสี่ยงก็เพราะรักท่าน อยากคุยกับท่านนั่นแล ใบเซียมซีเป็นทางเดียวที่ท่านจะคุยกับเราได้ อันนี้ดูจะเป็นความสัมพันธ์ทางใจของลูกเกเรอย่างฉันที่มีกับพระนอนองค์นี้มากกว่าก็รวมสมาธิอย่างดี อธิษฐานขอให้ท่านแนะนำว่าปีหน้าเป็นอย่างไรพอแอบเป็นกำลังใจเล็ก ๆ เพราะตอนนั้นไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร มันเศร้า

ในระหว่างปีเหล่านั้น ก็ได้หนังสือธรรมะมาจากงานศพบ้าง จากร้านหนังสือบ้าง ยอมรับว่าอ่านแล้วง่วงมาก ไม่ค่อยรู้เรื่องเลยว่ากล่าวถึงอะไร ทำให้เบื่อการอ่าน เคยลองไปเปิด ๆ ดูหนังสือพระศักดิ์สิทธิ์นิยมที่คนชอบอ่านเขาซื้อมาวางๆไว้ แล้วก็มีแต่เรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ อ่าน 2 – 3 เรื่องแรก ก็แปลกหูแปลกตาดีหรอก อ่านๆ ไปรู้สึกว่าสมองมันมืดลง ๆ มันซึมเซา คล้ายกับว่าเป็นเรื่องที่เราจะไปจับต้องหรือเอามาทำอะไรก็ไม่ได้ สมมุติว่าปาฏิหาริย์นั้น ๆ มีจริง มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับเรา และจะให้เกิดก็ไม่ได้ อ่านแล้วก็ฟุ้งซ่าน ทำให้เกิดคำถาม เกิดความสงสัย ลังเลมากมาย อ่านแล้วก็เบื่อ ๆ เลยเลิกไป
 
เด็กบ้านยาง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2004, 12:44 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ครั้งหนึ่งไปช่วยงานศพญาติที่วัดลาดพร้าวอยู่ 7 วัน ได้เห็นว่าเมรุเผาศพทำงานไม่ทัน ตอนนั้นปลงไปได้เยอะเลย นึกสังเวชขึ้นมาว่าคนเราก็ตายกันเป็นใบไม้ร่วง งานศพก็ชุลมุนมากทำข้าวต้มเลี้ยงทุกคืน มีชามให้ล้างเป็นร้อย กิจกรรมของคนที่ยังไม่ตายก็ทำกันไป วนเวียนกันไปอย่างนี้ทุกศาลา หรือนี่จะเป็นกลอุบาย ให้เจ้าภาพงานยุ่งจะได้ไม่มีเวลาโศกเศร้า จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ญาติคนนี้ก็โศกเศร้าจนกินไม่ได้ และรับแขกตามหน้าที่ไปด้วยจนหมดแรงเป็นลมไปหลายครั้ง



วันสุดท้าย พอเก็บของหมดแล้ว ได้นั่งพัก พระที่คุ้นเคยก็มานั่งคุยกับเจ้าภาพ ซึ่งก็ถามว่า ที่ทำไปนั้นถึงคนตายไหม พระก็พยักหน้า



“ ถึงนะโยม ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ทำใจให้สบาย “



ฉันซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ฟังแล้ว ก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับพระ





เมื่อไปที่ร้านหนังสือ เราจะพบหนังสือธรรมะเยอะมาก โดยเฉพาะในปีสองปีมานี้ มีเพิ่มเป็นกิจจะลักษณะ แต่กระนั้นก็ตาม คนที่ไม่รู้มาก่อนและอยากจะเริ่มต้นรู้ ก็เลือกไม่ถูกว่า ในบรรดาหนังสือเต็มตู้ยาว ๆ นั้น ควรจะอ่านเล่มใดก่อนหลัง จะบอกว่าอ่านเล่มไหนก่อนก็ได้ ก็ไม่เชิงนัก บางเล่มก็สำหรับผู้ที่เริ่มต้น แต่บางเล่มก็สำหรับคนที่รู้มาแล้วพอสมควรเหมือนกัน แต่เมื่อไปยืนเลือกอยู่ลำพัง ใครเล่าจะบอกเราว่าควรจะเริ่มที่เล่มใด แต่ละเล่มก็หนา ๆ ทั้งนั้นเลย



อีกประเภทหนึ่ง ก็เป็นเล่มบาง ๆ มีแจกที่วัด ก็คือถอดเทปมาจากที่หลวงพ่อเทศน์ 1 ชั่วโมง อันนี้อ่านง่าย ได้ใจความดี แต่ก็มีปัญหาสำหรับคนทุกข์ร้อน ๆ คือ ไม่ค่อยตรงกับปัญหาคาใจตอนนั้น



ครั้นจะเข้าไปหาหลวงพ่อสักองค์ ก็คงประสบผลคล้าย ๆ กันเพราะคนทุกข์แบบร้อน ๆ จะเหมือนมีปัญหาเยอะ จนไม่รู้จะเล่ายังไง และอยู่ ๆ หลวงพ่อจะมาแจกธรรมะทั้งศาสนาใน 5 นาทีก็คงไม่ได้ เพราะฉะนั้น ทั้งโยมทั้งพระ ต่างก็มีข้อมูลฝ่ายตัวเองอยู่คนละ 1 กระบุง ที่ไม่อาจเทให้แก่กันได้ สรุปก็คือ รดน้ำมนต์ดีกว่า





วันหนึ่ง เพื่อนสาวจอมซี้ก็โทรมาหา มาเล่าให้ฟังว่า ไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งไกลกันดาร พอจอดรถขนของลงมา พระเณรเคลื่อนไหวกันพึ่บพั่บ เพราะไม่ค่อยมีคนมาถวายของ เล่นเอาตกอกตกใจ พลางสอนฉันว่า วันหลังจะไปทำบุญวันไหน ดูให้ดี เพราะที่ทางในวัดก็ไม่รู้จัก ไม่รู้ทางไหนเลี้ยวไปไหนมั่ง ใครอยู่ที่ไหนมั่ง



ฉันก็เลยปรารภเรื่องหาศาสนาไม่เจอให้เจ้าหล่อนฟัง พลางถามว่า รู้จักวัดชลประทานฯไหม ได้ยินว่าเป็นแนวเดียวกับสวนโมกข์น่าจะมีอะไรดี เจ้าหล่อนก็เลยนัดพาไปทัวร์



ไปถึงก็ชอบบรรยากาศมากเลย มีต้นไม้สูงใหญ่สสวย มีศาลาริมสระตรงสเปคเปี๊ยบ แค่นั่งดูเงาไม้ในน้ำก็สุดคุ้ม



 
เด็กบ้านยาง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2004, 12:47 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แล้วก็มาเจอศาสนาพุทธที่นี้เอง ห้องสมุดศาลาจำปีรัตน์ เทปธรรมะของท่านพุทธทาสกว่า 400 ม้วน หลวงพ่อปัญญาอีกกว่า 400 ม้วน

ดังนั้น ท่านผู้อ่านที่เริ่มต้นค้นหา หรือค้นหามานานแล้วยังไม่ถูกใจ หรือไม่พบแก่นของศาสนาพุทธ ลัดทางมาตรงนี้เถิดเทปฟังฟรีด้วย

ร่อนเร่มานาน ถึงบ้านเสียที
มีเทปฟังฟรี อยู่ดีสบายใจ
เลิกเที่ยวค้นหา ไขว่คว้าอยู่ได้
ของอยู่ไม่ไกล ชื่นใจพบธรรม
 
สายลม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2004, 12:55 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน







ใช้ได้ครับ



ตอนนี้ปรับระบบให้โพสได้ไม่จำกัด ลองโพสดูน่ะครับ



 
ninja2000
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2004, 9:28 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอชื่นชมเด็กบ้านยาง ด้วยคนครับ

ที่มาร่วมด้วยช่วยกันนำเสนอธรรมะ ให้กว้างขวางขึ้น

ทำให้คนที่เข้ามาเวปแห่งนี้ ได้ดวงตาเห็นธรรม ไม่มากก็น้อย

ขอให้เด็กบ้านยาง บรรลุโสดาบัน เป็นอย่างน้อย ในชาตินี้นะครับ
 
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2008, 1:40 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แสวงหาธรรม ก็ขอให้เจริญในธรรมนะจ๊ะ สาธุ สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2008, 10:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง