Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 มองชีวิต จากคติธรรมนำสุข อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ผ้าขี้ริ้ว
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 07 ก.ย. 2005
ตอบ: 101

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ย. 2008, 10:58 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อรุณรุ่งพุ่งส่องแสงทองสาด ฟ้าพิลาศปราศราคีสีสดใส
ลมหนาวโชยโบยสะบัดพัดทั่วไป ต้องพฤกษ์ใบไหวพลิ้วปลิวกระจาย
หยาดน้ำค้างหยดเหยาะเผลาะๆ ผล็อย ฟูทยอยฝอยกระเซ็นซ่านเป็นสาย
เมื่อแดดส่องละอองฟูดูแพรวพราย ดูละม้ายคล้ายเพชรเม็ดน้ำนวล
ฝูงวิหคนกกาจ้าจำเรียง ส่งสำเนียงเสียงเสนาะเพราะโหยหวล
ต่างโผผินบินจากรังสะพรั่งพรวน มิเรรวนด่วนบ่ายหน้าออกหากิน ฯ

แสงทองรับวันใหม่ มวลหมู่ไม้คลายเกษร
ภุมรินต่างบินจร ทั่วสิงขรยามอุทัย
ปักษิณต่างบินร่อน เหล่าวานรวิ่งขับไล่
บ้างโลดกระโดดไป ชิงลูกไม้หมายไว้กิน ฯ

ยืนพินิจคิดดูหมู่บุปผา จำเริญตางามสะพรั่งดังภาพศิลป์
ก้านดอกช่อกอพวงร่วงเกลื่อนดิน หอมรวยรินกลิ่นฟ้งจรุงมาลย์
แมลงภู่วู่ว่อนร่อนพากเพียร บินวนเวียนเปลี่ยนกันชิมลิ้มรสหวาน
เฝ้าชี้ชวนเกสรชื่นรื่นดวงมาลย์ อลหม่านเมื่อลมหนนาวพัดกราวมา ฯ

ไก่ขันกระชั้นแว่ว หอมดอกแก้วกรุ่นกำจาย
น้ำค้างพร่างพราวพราย แสงทองฉายที่ปลายฟ้า
ชีวิตเริ่มอีกครั้ง สิ่งที่หวังยังรอท่า
ความหมายอาจไกลตา แต่จะฝ่ามุ่งหน้าไป
และใช่อาจไม่ถึง แต่ก็ญึ้งและสุขใจ
ไม่ขอท้อต่อสิ่งใด แม้ทำได้แค่กรุยทาง ฯ

ก้าวต่อไปๆ อย่าได้หยุด แม้สะดุดล้มลงไปอย่าใจฝ่อ
เป็นนักสู้ต้องสู้สิอย่ารีรอ อย่าย่อท้อหนทางยาวที่ก้าวไป
โน่นจุดหมายปลายทางอยู่ข้างหน้า จะเหินฟ้าข้ามเขาเอาให้ได้
มิหวั่นพลาดมิหวั่นแพ้มิแคร์ใคร มิหวั่นใจมิหวั่นจิตสักนิดเดียว ฯ

สู้ต่อไปเถอะชีวิตอย่าคิดท้อ ความดีก่อต่อไปให้เหมือนเก่า
แม้ร่างกายจะชุบทองใช่ของเรา เดี๋ยวก็เน่าสาบสูญเป็นมูลดิน ฯ

กายเกิดก่อต่อร่างสร้างชีวิต แก่ตามติดชิดใกล้ให้แลเห็น
เจ็บป่วยไข้ได้ทุกข์คลุกประเด็น ตายไม้เว้นเหลือไว้ให้ใครเลย ฯ

ตื่นเถิดตื่นเถิดอย่าเพ้อ เพลินนอน
อาทิตย์ตย์เยี่ยมอัมพร พรุ่งแล้ว
ฝูงวิหคต่างบินจร หาเหยื่อ
ประโยชน์มักคลาดแคล้ว ผ่านพ้นคนนอน ฯ

เมื่อท่านหลับมีคนปลุกรีบลุกเถิด เมื่อท่านเตลิดมีคนสะกิดอย่าคิดหยา
เมื่อท่านช้ามีคนจูงรีบมุ่งตาม เมื่อท่านทรามมีคนช่วยน่าอวยพร ฯ

เมื่อชีวิตผิดหวังอย่านั่งท้อ จงคิดต่อสู้เถิดจะเกิดผล
ผิดเป็นครูรู้แก้ให้แก่ตน เกิดเป็นคนต้องต่อสู้จึงอยู่ดี ฯ

ล้มแล้วลุกอย่าท้อต้องต่อสู้ ให้มันรู้ว่าจะแพ้อีกแค่ไหน
ฟื้นแล้วลุกตื่นตัวด้วยหัวใจ ลุกมาสู้ต่อไปอย่าได้กลัว ฯ
อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน
อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา ฯ

นอนนานงานน้อย กินบ่อยเงินหมด
มีเงินหน้าสด หมดเงินหน้าแห้ง ฯ

ตื่นแต่เช้า ก้าวไปข้างหน้า ทำงานแข่งกับเวลา พัฒนาจิตใจ ฯ
ตื่นดึกได้งานหลาย ตื่นสายได้งานน้อย ฯ
ตื่นแต่ดึก ศึกษาแต่หนุ่มสาว ฯ

รีบถ่อรีบพาย ตะวันจะสาย
ตลาดจะวาย สายบัวจะเน่า ฯ

อย่าปล่อยให้วันเวลาคร่าชีวิต โดยไม่คิดทำสิ่งใดให้พูนเพิ่ม
สร้างความดีทวีไว้ไฝ่ต่อเติม ชั่วอย่าเสริมสร้างเลยเสวยกรรม ฯ

ประโยชน์ตนประโยชน์ท่านหมั่นอย่าพลาด พระจอมปราชญ์ตริสไว้ใจดื่มต่ำ
เป็นปัจฉิมโอวาทประกาศธรรม ให้สาวกจดจำก่อนนิพพาน ฯ

จงเตือนตนของตนให้พ้นผิด ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน
ตนเตือนตนไม้ได้ใครจะเตือน อย่าแชเชือนเตือนตนให้พ้นภัย ฯ

เตือนตนเองให้เกรงต่อความชั่ว ตนอย่ามั่วเรื่องกิเลสเหตุตัณหา
ด้วยอาศัยการคิดพิจารณา ตนรู้ว่าเป็นโทษโปรดอย่าทำ ฯ

วันไหนๆ ไม่สำคัญเท่าวันนี้ เป็นวันที่สำคัญกว่าวันไหน
ถึงพรุ่งนี้มะรืนนี้ดีอย่างไร ก็ยังไม่สำคัญเท่าวันนี้ ฯ

อันบุญกรรมทำไว้ในโลกนี้ ผลย่อมมีแก่สัตว์เช่นฉัตรฉาน
เป็นที่พึ่งในโลกหน้าสุขาบาล เมื่อวิญญาณย่อยยับกลับพึ่งบุญ ฯ

ควรทำบุญคุณหนุนเป็นทุนอ้าง อย่าเว้นห่างศีลธรรมควรสั่งสม
เป็นที่พึ่งร่มรื่นให้ชื่นชม เมื่อสิ้นลมรุ่งเรืองไปเมืองแมน ฯ

การสั่งสมก่อสร้างซึ่งทางบุญ คือสร้างคุณความดีไม่มีเน่า
ย่อมนำสุขมาให้สู่ใจเรา ใหม่หรือเก่าย่อมให้ผลดลบันดาล ฯ

อย่าดูหมิ่นบุญกรรมจำนวนน้อย จักไม่ต้อยตามต้องสนองผล
แม้ตุ่มนี้ที่เปิดหงายรับสายชล ย่อมเต็มล้นด้วยอุทกที่ตกลง ฯ
อันนักปราฃญ์สั่งสมบ่มบุญบ่อย ทีละน้อยทำไปไม่ไหลหลง
ย่อมเต็มด้วยบุญนั้นเป็นมั่นคง บุญย่อมส่งสบสถานวิมานทอง ฯ

การทำบุญทำทานหมั่นทำเถิด เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขทุกสถาน
อย่าท้อถอยศรัทธาหมั่นทำทาน ผลบุญนั้นตามสนองไม่หมองมัว
แม้แต่ในชาตินี้ก็มีสุข บุญจะปลุกให้เราตื่นจากความชั่ว
ใครทำดีได้ดีเป็นของตัว จงละชั่วทำดีเถิดประเสริฐเอย ฯ

บุญกุศลที่ตนสร้างถูกทางธรรม โจรไม่นำหนีเราเอาไปเสีย
เพราะหลักเกณฑ์บุญนี้ไม่มีเรี่ยไม่เสื่อมเสียเหมือนมีทรัพย์นับอนันต์ ฯ

อันศรัทธาความเชื่อเมื่อตั้งมั่น บุญอนั่นต์มากมายหลายสถาน
ย่อมสำเร็จประโยชน์รุ่งโรจน์นาน ศรัทธาท่านศรัทธาเราเขาเหมือนกัน ฯ

การทำบุญเหมือนนำน้ำที่สะอาด มาล้างราดเพื่อชำระอกุศล
จิตสกาวขาวผ่องไม่หมองมน เป็นบุญล้นควรทำเช้าค่ำเอย ฯ

อันบุญกรรมนำแต่งทุกแห่งหน เกิดเป็นคนชั่วดีชี้ให้เห็น
สุขและทุกข็ร้อยอย่างต่างๆ เป็น ก็ไม่เว้นบุญกรรมนำบันดาล ฯ

ทุกคืนทุกวัน ฉันถามตัวเอง
เมื่อใจวังเวง ว่าตัวเองเกิดมาทำไม
เราเกิดมานี้ ชีวิตต้องการสิ่งใด
เกิดมาทำไม อะไรคือจุดหมายปลายทาง
เห็นหญิงและชาย วุ่นวายสับสน
เห็นเขาบางคน วกวนชีวิตหม่นหมาง
แย่งกินกามเกียรติ เบียดเบียนกันไปพลาง
จุดหมายปลายทาง แค่นี้หรือคือคนเรา
เราเกิดมาเพื่อสร้างความดี ชีวิตเรานี้ต้องไม่มีทุกข์แผดเผา
สร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในจิตใจเราสันติภาพนั้นเล่าต้องสร้างให้แก่สังคม
วิธีหนทางใช้สร้างสุขสันต์ เราต้องช่วยกันไม่สร้างในสิ่งโง่งม
อบายมุขเราต้องไม่ยอมนิยม หมั่นอบรมปัญญาทำหน้าที่ตน ฯ

ฉากแรกเกิดปลอดคลอดจากแม่ ร้องอุแว้เสียงจ้าน่าสงสาร
มือทั้งสองกำแน่นอยู่แสนนาน ทำท่าหาญฮึกเหิมประเดิมชัย
ประหนึ่งว่าจะกอบกำขยำโลก ให้ชุ่มโชคบี้แบนแม้แสนใหญ่
สิ่งต่างๆ ในโลกนี้มีเท่าไร จะกำได้ครองครองด้วยสองมือ
ฉากต่อมาคราใหญ่วัยหนุ่มสาว สร้างก้าวหน้าได้ให้จึดถือ
สร้างความดีสือเลื่องคนเลื่องลือ สร้างชั่วชื่อเสียหายอายฟ้าดิน
ฉากต่อมาคราตกเมื่อตอนแก่ ร่างกายแย่ซูบเซียวหนังเหี่ยวย่น
ทั้งผมหงอกฟันหักชักพิกล หนีไม่พ้นอนิจจังสังขารา
ฉากต่อมาคราตกเมื่อตอนตาย มือกลับกลายแบหงายทั้งซ้ายขวา
เป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงสัญญา ว่าเกิดมาจะต้องวางทุกอย่างไป
เมื่อเจ้ามามีอะไรมาด้วยเล่า จะมัวเมาโกยตะบึงไปถึงไหน
เศรษฐีม่องเขาต้องเอาไปเผาไฟ ยิ่งเผาไปยิ่งล่อนจ้อนกว่าตอนมา
เมื่อเรามาก็มาแต่ตัวเปล่า ตรั้นตายเล่าจะเอาอะไรไปด้วยหนา
มาอย่างไรไปอย่างนั้นอย่าสงกา อย่ายึดว่าของของเราจะเศร้าใจ ฯ
เราจะต้องพลัดพรากจากของรัก ไม่ย้ายยักมั่นคงอย่าสงสัย
รีบรู้ตัวเสียก่อนไม่ร้อนใจ ถึงคราวไปก็ไปไปตามกาล ฯ

สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
คำพูดเพียงน้อยนิดอาจเปลี่ยนชีวิตของคนได้
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2008, 10:10 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง