Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ถามเรื่องการถอดกายทิพย์ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
alpha349
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 20 ก.ย. 2008
ตอบ: 21

ตอบตอบเมื่อ: 02 ต.ค.2008, 1:45 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เพิ่งจะผ่านประสพการณ์มาเมื่อสักครู๋นี้ เริ่มปฎิบัติเวลา เที่ยงคืน สิ้นสุด ตีหนึ่ง
โดยปรกติจะภาวนา พุทธโธ จับลมหายใจ เมื่อเวลาผ่านไปรู้สึกตัวหนักก็เลยพยายามลุกออกมา ลุกได้ลำบากมาก แต่ก็ลุกออกมาได้ ตอนนั้นจิตเที่ยงอยู๋มองเห็นรอบๆทั้งห้องได้โดยสว่างทั้งๆที่ห้องค่อนข้างมืดเพราะปิดไฟ เดินรอบๆได้แต่ไม่ไกลมาก สักครู่ก็รู้สึกว่ากลับมาอยู๋ที่เดิมอีก แล้วจึงค่อยรู้สึกตัว ขยับได้จริงๆ
คำถาม
1. นี่เป็นอาการของการถอดกายทิพย์หรือไม่ครับ
2. ถ้าถอดออกมาแล้วควรทำอย่างไรต่อ
3. ควรจะปฎิบัติอย่างไรต่อจึงจะถูกต้อง
ขอบคุณครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
kokorado
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 12 ก.ค. 2008
ตอบ: 104
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 03 ต.ค.2008, 4:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สอบถาม ท่าน พ.ธรรมรังสี ศิษย์เอกหลวงปู่ทวดได้ที่เบอร์ 086-989-5355 รู้สึกว่าปัจจุบันท่านจะจำพรรษาอยู่ที่เชียงใหม่ ท่านได้อภิญญา อ่านใจคนได้
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 03 ต.ค.2008, 7:20 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใช่แล้ว คุณถอดจิตออกไปโดยไม่รู้ตัว

ถอดจิตเป็นการเอากายในฝันออกไป

การเอากายในฝันออกไป ต้องทำสมาธิจนได้ฌาน 4 ในจะหวะที่ครึ่งหลับครึ่งตื่น อย่าหลงเคล้มหลับไป ตั้งสติทันที จิตจะถอดออกไป

พูดง่าย ทำยาก ต้องหัดฝึกไปเรื่อยๆ
ในกรณีของคุณ วิญญาณของคุณมีสติขึ้นมา ในขณะที่ร่างกายหลับไปแล้ว แต่คุณ
ไม่รู้ว่า ร่างกายหลับไปแล้ว และไม่รู้ว่า ที่ออกมาคือ วิญญาณของคุณ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 03 ต.ค.2008, 7:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เวลาในปรโลกเดินไปไวกว่าในโลกมนุษย์ ผมยังไม่กล้าออกไปนานๆเลย
กลัวเที่ยวเพลิน ไปแค่ 20 นาที กลายเป็นหนึ่งวัน คนที่บ้านจะคิดว่าคุณตายแล้ว
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
alpha349
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 20 ก.ย. 2008
ตอบ: 21

ตอบตอบเมื่อ: 03 ต.ค.2008, 9:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณครับคุณ Kokorado แต่ไม่กล้าโทรไปรบบกวนท่าน พรุ่งนี้ว่าจะไปบ้านสายลมไปเรียนให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที หัดเองมันติดๆขัดๆอย่างไรก็ไม่ทราบ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณพลศักดิ์ด้วยครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 03 ต.ค.2008, 9:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ชอบอภินิหาร ต้องลิงค์นี้ครับ

http://www.palungjit.com/

คุณ alpha ทำกรรมฐานเพื่อประสงค์ใดครับ
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
alpha349
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 20 ก.ย. 2008
ตอบ: 21

ตอบตอบเมื่อ: 04 ต.ค.2008, 1:40 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณกรัชกาย
เป็นเพราะสนใจครับ อยากทราบว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ อ่านประวัติพระอริยสงฆ์มาหลายองค์ ล้วนแต่พิศดารทั้งนั้น ส่วนตัวผมน่ะเชื่อว่าจริง แต่อยากรู้ก็เลยสนใจ อีกอย่างประสพการณ์นี้ไม่ได้เกิดกับผมหนแรก เกิดมาหลายหนแล้วครับ แต่เป็นตอนหลับแล้วจิตเผอิญตื่นและพยายามออกจากร่างมีอาการอย่างนี้ปีละประมาณ 4-5 ครั้ง เป็นมา 20 ปีแล้ว แต่เห็นไม่ค่อยเห็นชัดเจนเหมือนครั้งนี้ ก็เลยอยากรู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อดีครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
walaiporn
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ

ตอบตอบเมื่อ: 04 ต.ค.2008, 11:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

alpha349 พิมพ์ว่า:
เพิ่งจะผ่านประสพการณ์มาเมื่อสักครู๋นี้ เริ่มปฎิบัติเวลา เที่ยงคืน สิ้นสุด ตีหนึ่ง
โดยปรกติจะภาวนา พุทธโธ จับลมหายใจ เมื่อเวลาผ่านไปรู้สึกตัวหนักก็เลยพยายามลุกออกมา ลุกได้ลำบากมาก แต่ก็ลุกออกมาได้ ตอนนั้นจิตเที่ยงอยู๋มองเห็นรอบๆทั้งห้องได้โดยสว่างทั้งๆที่ห้องค่อนข้างมืดเพราะปิดไฟ เดินรอบๆได้แต่ไม่ไกลมาก สักครู่ก็รู้สึกว่ากลับมาอยู๋ที่เดิมอีก แล้วจึงค่อยรู้สึกตัว ขยับได้จริงๆ
คำถาม
1. นี่เป็นอาการของการถอดกายทิพย์หรือไม่ครับ
2. ถ้าถอดออกมาแล้วควรทำอย่างไรต่อ
3. ควรจะปฎิบัติอย่างไรต่อจึงจะถูกต้อง
ขอบคุณครับ


ไม่ต้องไปสนใจหรือให้ค่าความหมายต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ให้ฝึกเจริญสติให้มากขึ้นเท่านั้นเอง
 

_________________
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 06 ต.ค.2008, 7:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
พรุ่งนี้ว่าจะไปบ้านสายลมไปเรียนให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที หัดเองมันติดๆขัดๆอย่างไรก็ไม่ทราบ



คุณ alpha ไปบ้านสายลมมาหรือยังครับ เล่าหน่อยครับเป็นไงบ้าง แล้วได้พบเจอ อาจารย์เล็กไหมครับ เห็นทีบอร์ดดังกล่าวพูดถึงกันว่า อ. นี้ไปสอน
มโนมยิทธิที่นั่น
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
alpha349
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 20 ก.ย. 2008
ตอบ: 21

ตอบตอบเมื่อ: 06 ต.ค.2008, 9:45 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไปมาแล้วครับ แต่แนวทางปฏิบัตินั้นค่อนข้างต่างกับหนังสือที่หลวงพ่อท่านเล่าเอาไว้ ปฏิบัติง่ายๆครับ แต่จะเห็นหรือไม่เห็นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แล้วแต่คนครับ สำหรับผมเองนั้นสารภาพว่าไม่ค่อยเห็น เพราะการเห็นนั้นเป็นการเห็นทางใจ คือการรับรู้ด้วยใจ เอาความรู้สึกแรกเป็นหลักว่าเห็นหรือไม่เห็น ผมไปฝึกกับอาจารย์ปู ท่านเป็นผู้หญิง ผมไม่ได้เจอ กับ อ.เล็กครับ
การฝึกนั้นคนเยอะมาก ตอนแรกท่านให้ภาวนา นะมะภะทะ จนใจสงบ จิตเป็นสมาธิแล้วท่านจะถาม การฝึกแบบนี้อาจจะไม่ถูกจริตกับผมก็ได้เลยไม่ค่อยเห็นอย่างที่คนอื่นเห็น แต่หลายคนก็ตอบว่าเห็นเป็นฉากๆ ท่านเหล่านั้นอาจจะมีบารมีเพียงพอ ส่วนผมนั้นการเห็นมันแตกต่างออกไป เพราะทุกครั้งที่ทำสมาธิ ถ้าเห็นก็จะเห็นชัดๆเป็นภาพเสมือนเห็นด้วยตาตนเอง แต่ครั้งนี้มันเห็นแวบไปแวบมาวูบเดียวก็หายไปแล้ว แต่ครูท่านบอกว่าให้เอาจิตรับรู้ ท่านว่าไม่เห็นภาพชัดๆหรอกครับ เป็นสมาธิอย่างอ่อนๆเท่านั้น
ผมเลยไม่ค่อยเห็นอะไรนัก คงต้องหาที่ฝีกใหม่น่ะครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 06 ต.ค.2008, 10:29 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:

ปรกติจะภาวนา พุทโธ จับลมหายใจ เมื่อเวลาผ่านไปรู้สึกตัวหนักก็เลยพยายามลุกออกมา ลุกได้ลำบากมาก แต่ก็ลุกออกมาได้ ตอนนั้นจิตเที่ยงอยู๋มองเห็นรอบๆทั้งห้องได้โดยสว่างทั้งๆที่ห้องค่อนข้างมืดเพราะปิดไฟ


ช่วยเล่าตรงนี้ซ้ำอีกทีสิครับ

คุณนั่งดูลมเข้าออกอยู่พร้อมภาวนาพุทโธๆ ตามลมเข้าออกอยู่

แล้วจึงรู้สึกตัวหนักๆ (พยายามลุกออกมา ลุกลำบาก แต่ก็ลุกขึ้นเดินมาได้)
คำพูดคุณในวงเล็บ ขอถามว่า คุณได้ลุกขึ้นเดินจากจุดที่นั่งไปแล้ว คือไม่ได้นั่งสมาธิแล้ว ใช่ไหมครับ

แล้วก็เห็นรอบๆห้องสว่างไสวทั้งที่หลับตา ถูกไหมครับ


อ้างอิงจาก:

เดินรอบๆได้แต่ไม่ไกลมาก สักครู่ก็รู้สึกว่ากลับมาอยู๋ที่เดิมอีก แล้วจึงค่อยรู้สึกตัว ขยับได้จริงๆ


แสดงว่าลุกขึ้นเดินแล้ว ถูกไหมครับ เดินๆแล้วจึงกลับมานั่งที่เดิม แล้วจึงรู้สึกตัว แสดงว่าตอนนั้นคุณเดินไปแบบเคลิ้มๆ แต่ก็รู้สึกตัว พอลงนั่ง จึงขยับตัวได้ ใช่ไหมครับ

ช่วยเล่าชัดๆอีกสักทีครับ อยากรู้ ยิ้ม
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
alpha349
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 20 ก.ย. 2008
ตอบ: 21

ตอบตอบเมื่อ: 06 ต.ค.2008, 11:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ลุกขึ้นเดินออกมาแล้วครับ เดินไปดูรูปภรรยาผมที่แขวนอยู่ตรงผนัง
ผมเล่าละเอียดอีกทีแล้วกันครับ คือว่าผมมีความรู้สึกว่าอยากจะลุกครับ แล้วก็ขยับตัวลุกออกมาออกมาลำบากนิดหน่อยเหมือนมีอะไรมารั้งเอาไว้ เห็นรอบตัวสว่างดุจกลางวัน แต่ในตอนแรกไม่ทันได้คิดว่ามันเป็นกลางคืน รู้สึกตัวว่าแปลกๆ แล้วมาจำได้ว่าเราเองนั่งสมาธิอยู่ แต่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นการตื่นอยู่หรือไม่(ตื่นแล้วลุกขึ้นออกมาเดินธรรมดา) เดินสำรวจรอบๆห้องก็สว่างไสวแต่เดินออกไปไกลไม่ได้ รู้สึกหมดแรง แล้วก็รู้สึกว่าเรารู้ว่าจิตเราแยกออกจากร่างกายแล้ว ก็เลยอฐิฐานจิตว่า ถ้าจิตของข้าพเจ้าออกจากร่างมาขอร่างนี้ให้ลอยขึ้นได้ แล้วก็กระโดดขึ้นก็พบว่าไม่ตกลงมา ลอยอยู่เหนือพื้นประมาณสัก 2 ฟุต แล้วก็เลยอยากจะไปดูข้างนอก ก็เลยอฐิฐานขอออกไปข้างนอกกะว่าอยากจะขึ้นไปดูกรุงเทพมุมสูงจากท้องฟ้าลงมา แล้วก็รูสึกว่าร่างของผมพุ่งวูบออกไปปะทะหน้าต่างแล้วออกไปไม่ได้กระเด้งกลับมา หลังจากนั้นแล้วก็เริ่มจิตตกครับ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรก็เลยควานหาลมหายใจตัวเอง เพราะปรกติทำแต่อานาปานะสติอยู่อย่างเดียว เท่านั้นเองก็กลับมานั่งอยู่ที่เดิม คราวนี้ขยับตัวไม่ได้เลยไปกันใหญ่เลย เกิดการกลัวขึ้นมาเฉยๆ พยายามลุกขึ้น กลิ้งตัว โยกตัวเองไปมา แล้วสมาธิก็คลายตัวออก(เป็นความรู้สึกนะครับเหมือนอะไรที่แน่นๆมันคลายตัวออกมา แต่ตอนแรกไม่รู้สึกว่าแน่นๆ มารู้ตอนเริ่มคลายตัวออก) แล้วก็ค่อยๆมีสติเริ่มขยับแขนขาได้ ก็ปรากฏว่านั่งอยู่ที่เดิมแหละครับแล้วผมก็ลุกขึ้นเดินไปเปิดไฟ สิ่งของรอบตัววางอยู่ตำแหน่งเหมือนที่เห็นทุกอย่าง พวกรายละเอียดปลึกย่อยนะครับ จากนั้นก็มานั่งทบทวนรายละเอียดต่างๆที่พบ
รู้ตัวว่าไม่ได้ฝันไปเพราะสามารถนึกคิดกระทำทุกอย่างได้ตามที่คิดอยู่(ตอนที่ผมอฐิฐานจิคแล้วลองกระโดด) ก็เลยลองมาถามท่านผู้รู้ทั้งหลายดูว่าท่านใดมีประสพการณ์คล้ายกันบ้าง แล้วควรจะฝึกต่ออย่างไรดีเพื่อให้ควบคุมได้ แต่ตอนนี้นิวรณ์อยากรู้มันเยอะเหลือเกิน พอเห็นแล้วมันอยากทำให้ได้อย่างนั้นอีก ตอนนั่งเดี๋ยวนี้ใจมันคิดอยู่ไปเรื่อยว่าอยากจะเห็นอีกเลยไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไรนัก ผมเลยเจริญสติแทนอยู่ครับ


ปล.คุณกรัชกายครับ ตอนแรกไม่กล้าเล่ารายละเอียดมาก ว่าได้ลองทำอะไรไปบ้างครับ กลัวเดี๋ยวจะว่าผมบ้าไปแล้ว ตอนเดินนั้นไม่ได้เคลิ้มๆครับ รู้ตัวตลอดว่าอยากจะทำอะไร แต่มันรู้สึกแปลกๆเท่านั้นเอง ความรู้สึกเป็นอย่างไรไม่สามารถอธิบายได้ครับ แล้วตอนนั้นก็รู้ว่าไม่มีลมหายใจแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร การที่จิตตื่นในขณะที่หลับอยู่ผมเป็นบ่อยครับ คล้ายๆกันกับอาการนี้แต่มันจะออกเคลิ้มๆเสียมากกว่า จะจดจำอะไรไม่เด่นชัด แต่ตอนหลุดออกมาอาการจะคล้ายๆกัน อาการจิตตื่นตอนหลับนี้ผมเป็นครั้งแรกเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว เป็นมาประมาณปีละ 4-5 ครั้ง เป็นบ่อยมากในปีแรกๆเป็นจนทนไม่ได้ พอใกล้หลับก็จะเป็น(ปีแรกเป็นประมาณ อาทิตย์ละ 3 ครั้ง และตอนนั้นผมเรียนอยู่เมืองนอกไม่เคยอ่านหนังสือกรรมฐานเลย) มันกลัวจนทนไม่ใหว พอแต่งงานก็ค่อยๆหายไปเป็นไม่บ่อยนัก ตอนหลังมาเริ่มมีสติคิดอะไรได้ระหว่างที่เป็น ตอนที่นั่งสมาธิแล้วเป็นนี้ผมเลยมีสติพอสมควรครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 06 ต.ค.2008, 4:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป็นปีติชนิดหนึ่งเรียกว่า อุพเพงคาปีติ- ปีติโลดลอย เป็นอย่างแรง ให้รู้สึกใจฟู ทำให้แสดงอาการหรือทำอะไรบางอย่างโดยมิได้ตั้งใจ เช่น เปล่งอุทาน หรือรู้สึกตัวเบาลอยขึ้นไป

คือในขณะนั้นคุณ alpha ทิ้งอารมณ์กรรมฐานปัจจุบัน คือลมหายใจ โดยเพลินไปกับความรู้สึกนั้น

ไม่มีอะไรน่าวิตกครับ ขอแนะนำว่า เมื่อจะทำกรรมฐานอีก เช่น พุทโธๆ
ตามจังหวะลมเข้าออก เมื่อมีอารมณ์อื่นแทรกมา เช่น รู้สึกว่าอยากเห็นอยากเป็นอย่างนั้นเป็นต้นอีก ให้วางลมเข้าออกก่อน แล้วกำหนดสติที่ความรู้สึกนั้น หรือที่อาการนั้น รู้สึกอย่างไรกำหนดอย่างนั้น เป็นอย่างไรกำหนดอย่างนั้น
เมื่อปฏิบัติแบบว่าแล้วปล่อย มาจับลมเข้าออกต่อไปใหม่ ลมเข้าพุท ลมออกโธ ฯลฯ
ที่สำคัญเดินจงกรมร่วมด้วยครับ

หากมีอาการอย่างที่ผ่านๆมาอีก ขณะกำลังหลับตามภาวนาอยู่ จะค่อยๆ ลืมตาดูก็ได้ แต่ให้กำหนดรู้ทันความคิดนั้นๆก่อน

ก็เท่านี้เองครับ ยิ้ม
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
alpha349
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 20 ก.ย. 2008
ตอบ: 21

ตอบตอบเมื่อ: 06 ต.ค.2008, 5:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อาการเท่าที่สังเกตุดู เหมือนกันกับไม่มีลมหายใจครับ จับลมตัวเองไม่ได้ถึงเกิดอาการกลัวชึ้นมา ต้องควานหาลมตัวเองอยู่พักใหญ่ถึงจะรู้สึกตัว
โดยปรกติถ้าผมหลงสติ ด้วยการเห็นนิมิตหรือเห็นภาพอะไรก็แล้วแต่ จะจับลมแล้วตั้งสติใหม่ได้ครับ ปรกติก็เห็นอะไรแปลกๆเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็จะรู้ว่าที่เห็นนั่นมันเป็นจิตเราที่ปรุงแต่งไปเอง เลิกคิดแล้วภาพมันก็หายไปครับ แต่อาการนี้เลิกคิดแล้วมันก็ไม่หาย กลัวจะหลงไปติดกับมันเข้า ความก้าวหน้าจะไม่มี อยากให้จิตสงบนิ่งเฉยๆ เคยทำได้อยู่หนเดียว ทุกอย่างมันนิ่งไปหมด จิตสว่างโพลงมีกำลังใจดีมาก รู้สึกสงบสุขมาก
ความรู้สึกมันบอกไม่ถูกหรอกครับว่าเป็นอย่างไร แต่รู้สึกดีจริงๆ
ตอนนี้เริ่มเดินจงกรมประกอปไปด้วยแล้วครับ
ขอบคุณ คุณกรัชกายนะครับสำหรับคำแนะนำ ถ้ามีอะไรอีกจะขอรบกวนปรึกษานะครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 06 ต.ค.2008, 5:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ลมหายไม่ต้องตามหาหรอกครับ แต่ไปยึดเอานาม หรือ ความคิดขณะนั้นๆเป็นอารมณ์ภาวนาควบกับกาย ส่วนกายเอาจุดไหนก็ได้ที่ปรากฏชัดขณะนั้น

เมื่อลมคืนแล้วค่อยตามดูรู้ทันลมต่อ โดยจะเสริมส่วนกายเพิ่มอีกจุดหนึ่งก็ได้ เพื่อเป็นหลักไว้

อนึ่ง พึงกำหนดรู้ความรู้สึกนึกคิดด้วย ไม่พึงปล่อยให้ล่วงไปเฉยๆ
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
alpha349
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 20 ก.ย. 2008
ตอบ: 21

ตอบตอบเมื่อ: 06 ต.ค.2008, 7:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง