Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 บั้นปลายของวายร้าย อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ผ้าขี้ริ้ว
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 07 ก.ย. 2005
ตอบ: 101

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 8:31 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วายร้าย
บั้นปลายของวายร้าย

นายดันแคน เจวอนส์ หนุ่มใหญ่วัย ๔๙ ปี เป็นนักขโมยหนังสือตัวยงแห่งเมืองผู้ดีอังกฤษ มีประกาศนียบัตรรับประกันฝีมือด้วยจำนวนหนังสือ ๔๐,๐๐๐ เล่ม ที่หมั่นเพียรขโมยมาในช่วงระยะเวลา ๓๐ ปี โดย ไม่เคยถูกจับได้เลย แต่แล้วผลกรรมก็ตามสนอง เมื่อขโมยฝีมือฉกาจพลาดท่าถูกจับได้เมื่อเร็วๆ นี้ ขณะพยายามขายหนังสือที่ "จิ๊ก" ชาวบ้านมาให้รถขายหนังสือเลหลัง
เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตามไปตรวจค้นบ้านของนายเจวอนส์ ซึ่งเป็นบ้านไร่ในเมืองซัฟฟอล์ก ทางตะวันออกของอังกฤษเล่าว่า พบหนังสือมากมายกองสูงเป็นภูเขาลูกย่อมอยู่ในบ้าน หนังสือส่วนมากเป็นหนังสือเกี่ยวกับศาสนาและปรัชญา ซึ่งเขาขโมยมาจากห้องสมุดต่างๆ โบสถ์ และวิทยาลัยหลายแห่ง ด้วยเหตุผลที่ศาลได้รับการบอกเล่าจากผู้ใกล้ชิดจำเลยว่า เป็นเพราะนายเจวอนส์ต้องการสร้างความประทับใจแก่ผู้คนด้วยความเป็นคนมีความรู้มาก และเพราะความรู้มากไม่ยอมควักเงินซื้อหนังสืออ่าน นายเจวอนส์เลยถูกตัดสินจำคุก ๑๕ เดือนไปแล้ว เมื่อเร็วๆ นี้
ที่เมืองบีโล โฮริซอนเต้ ในประเทศบราซิล ขโมยคนหนึ่งแอบดอดเข้าไปในร้านขายของแห่งหนึ่งได้เรียบร้อยแล้ว ขณะที่เดินใจเย็นอยู่ในร้าน ชั่งใจว่าจะขโมยอะไรดี ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นถังใส่กาวใบหนึ่ง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาจึงลองดมดู กลิ่นของกาวน้ำทำให้ขโมยดวงจู๋เป็นลมหมดสติอยู่ตรงนั้น
พอตอนเช้าเจ้าของร้านก็ลงมาพบแขกผู้ไม่ประสงค์ดีนอนสลบไร้สติกองอยู่กับพื้น เลยแจ้งตำรวจมาจับไปเข้าซังเตได้โดยละม่อม
(มติชนสุดสัปดาห์ ๑๗ มิ.ย. ๒๕๓๗)
เซ็นต์หลุยส์, สหรัฐ มือชักดาบถูกดาบที่ชัก ซัดเอาจนชักและเสียชีวิต นักดาบมือนี้คือ นายโรเบิร์ต ปูเอลโล ได้คว้าฮ็อทด็อคชิ้นเบ้อเริ่ม แล้วเดินลอยหน้าลอยตาออกจากร้านค้าโดยไม่จ่ายเงิน เมื่อพนักงานโทรเรียกตำรวจ เขาก็รีบยัดฮ็อทด็อคทั้งดุ้นเข้าคอไปอย่างรวดเร็ว แต่พอเดินพ้นร้านค้าไป เขาก็ล้มลงชักกระตุก หมดสติ ในที่สุดก็เสียชีวิต โดยมีฮ็อทด็อคชิ้นโปรดยาว ๖ นิ้ว ติดอยู่ในลำคอ
(น.ส.พ.สยามรัฐ ๑๔ ต.ค. ๒๕๓๗)
ขณะที่นายโตชิโร วาตานาเบ้ อายุ ๔๔ ปี พนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง พร้อมเพื่อนพนักงานธนาคารอีก ๒ ราย กำลังขนเงินจำนวน ๑.๒ ล้านดอลลาร์ จากสำนักงานสถานีรถไฟในเมืองโอซาก้า เพื่อนำกลับไปยังธนาคารสาขาที่เขาทำงานอยู่ โดยใช้บันไดซึ่งทางสถานีอนุญาตให้ใช้เฉพาะพนักงานรถไฟ เป็นเส้นทางลำเลียงเงิน ก็มีกระทาชายนายชูจิ โอตากะ อายุ ๓๒ ปี เกิดอาการสติเฟื่องอยากเป็นพระเอก เรื่องโรบินฮู้ด ใช้ธนูเป็นอาวุธปล้นเงินที่พนักงานกำลังขนอยู่
ผลการปล้นตามสไตล์ย้อนยุคครั้งนี้ ปรากฏว่า นายวาตานาเบ้ได้รับบาดเจ็บที่อกเพียงเล็กน้อย เพราะพิษธนูยาว ๔๐ เซนติเมตร ซึ่งยิงมาจากระยะห่าง ๕ เมตร ส่วนนายโอตากะ โรบินฮู้ดผู้ตกงาน หลังจากยิงนายวาตานาเบ้แล้ว ก็ฉกกระเป๋าซึ่งมีเงินอยู่ภายในประมาณ ๓๖๐,๐๐๐ ดอลลาร์ วิ่งออกไปโดยเร็ว แต่เมื่อวิ่งออกไปได้เพียง ๑๐๐ เมตร ก็ล้มกลิ้งอย่างไม่เป็นท่า เพราะดันเซ่อซ่าวิ่งตกบันไดเสียเอง จึงถูกพนักงานสถานีรถไฟช่วยกันจับตัวไว้ได้
(น.ส.พ.สยามรัฐ ๒๖ ต.ค. ๒๕๓๗)
เมื่อวันที่ ๒๘ ก.ย. ๒๕๓๖ เวลา ๕.๒๐ น. ตำรวจกองปราบพบศพนายหวง เหวยจี้ อายุ ๒๔ ปี ใช้เสื้อวอร์มผ้าร่มสีขาว ผูกคอขึงกับซี่ลูกกรงห้องขัง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ผู้ตายและเพื่อนคือนายลี อาเพ้ง และนายซือ จังแพ อายุ ๓๗ ปี หลบหนีคดีคอร์รัปชั่นเงินของรัฐบาลจีนจำนวน ๑๐ ล้านหยวน (ประมาณ ๔๐ ล้านบาท) มากบดานอยู่ที่ห้อง ๙๑๓ ไฮคลาสแมนชั่น ซอยอาลาดิน เขตจตุจักร และถูกตำรวจกองปราบจับกุมเมื่อวันที่ ๒๐ ก.ย. ๒๕๓๖ ในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ผู้ตายเกรงว่าจะถูกประหารชีวิตหากถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ประเทศจีน เพราะที่มณฑลไหหนาน มีการประหารชีวิตนักโทษคดีฉ้อโกงเงินรัฐบาลไปแล้ว เมื่อเพื่อนหลับสนิทจึงฉวยโอกาสผูกคอตาย
ต่อมาเวลา ๙.๓๐ น. นายลี อาเพ้ง เกิดอาการคลุ้มคลั่ง พยายามใช้ลวดแขวนเสื้อรัดกับลูกกรงเพื่อผูกคอตายหนีคดี ส่วนนายซือ จังแพ ใช้ศีรษะโขกกับพื้นห้องควบคุม เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไประงับเหตุ
(น.ส.พ.ไทยรัฐ ๒๙ ก.ย. ๒๕๓๖)
เนื่องจากมีการชิงทรัพย์และปล้นทรัพย์บนรถเมล์เกิดขึ้นบ่อยครั้งในเขต บก.น.เหนือ ผบช.น. จึงสั่งให้ตำรวจออกสืบตามโรงรับจำนำต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งที่คาดว่าคนร้ายจะนำทรัพย์สินไปจำนำ พบว่ามีผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง คือ นาย ฮ. อายุ ๓๓ ปี บ้านอยู่ที่หมู่บ้านทรัพย์เจริญ นำทรัพย์สินจำนวนมากมาจำนำบ่อยครั้งโดยไม่มีการไถ่ถอน
จากการสืบสวนทราบว่า นาย ฮ. ซึ่งติดการพนัน มักจะมาเล่นการพนันที่สนามมวยราชดำเนินเป็นประจำ ตำรวจจึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกต จนกระทั่งค่ำวันที่ ๒๘ มิ.ย. ๒๕๓๗ ก็พบนาย ฮ. มาเล่นการพนันที่สนามมวย โดยทำตัวเหมือนเซียนพนันรายใหญ่ ทั้งที่ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ตำรวจจึงเชิญตัวมาสอบสวนที่โรงพัก
ผลการตรวจลายนิ้วมือนาย ฮ. พบว่า ตรงกับรอยนิ้วมือของคนร้ายที่เคยก่อคดีลักทรัพย์ในท้องที่สน.พญาไทหลายครั้ง เมื่อถูกสอบสวน นาย ฮ. ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนร้ายที่เคยก่อคดีลักทรัพย์ทั่วกรุงเทพฯ โดยจะลักทรัพย์เฉพาะตามตึกแถวที่มีประตูเหล็กยืด ด้วยการใช้กุญแจผีเปิดประตูเข้าไปในบ้าน แล้วลักเฉพาะเครื่องเพชร ทองคำและเงินสดเท่านั้น ทรัพย์สินที่ได้มาจะนำไปเล่นการพนันจนหมด รวมทรัพย์ที่โจรกรรมมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๕ จำนวน ๗๔ ครั้ง คิดเป็นเงินประมาณ ๒๐ กว่าล้านบาท
(น.ส.พ.ไทยรัฐ ๓๐ มิ.ย. ๒๕๓๗)
ประเด็นที่ควรกล่าวถึงมีดังนี้
๑. การทำทุจริตเป็นสิ่งที่น่าละอาย เป็นการลดค่าตัวเอง จากคนดีมาเป็นคนชั่ว ทำให้จิตใจต่ำทรามลงทันที ทำให้จิตใจไม่เป็นสุขเพราะวิตกกังวลว่าความลับจะรั่วไหล ทรัพย์ที่ได้มาโดยทุจริตก็ต้องซุกซ่อนไว้ เมื่อจะใช้จ่ายก็กลัวคนรู้เห็นหรือสงสัย มีทรัพย์ก็เหมือนไม่มี ชีวิตที่อยู่ในสภาวะเช่นนี้จะมีความสุขได้อย่างไร
๒. บ้านเรือนที่สร้างไว้ไม่ดี ย่อมไม่ทนทาน พังทลายได้ง่าย ฉันใด ทรัพย์สินที่ได้มาโดยทุจริตก็ไม่ยั่งยืน มักมีเหตุให้ฉิบหายได้ง่าย ฉันนั้น นาย ฮ.ลักทรัพย์มาได้ถึง ๒๐ กว่าล้านบาท แต่ในที่สุดก็ไม่มีเหลือเลย ทั้งยังต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย
๓. ถ้าการหาเลี้ยงชีพด้วยการปล้น ขโมย ยักยอก หลอกลวง จะทำให้มีความเป็นอยู่สุขสบายไม่ลำบาก พระพุทธเจ้าจะทรงสอนให้หาเลี้ยงชีพโดยชอบให้เหนื่อยยากลำบากทำไม
๔. บั้นปลายที่วายร้ายกลัวที่สุดคือถูกประหารชีวิต การประหารชีวิตนักโทษมีขั้นตอนโดยย่อดังนี้
๔.๑ เบิกตัวนักโทษมาพิมพ์ลายนิ้วมือ เทียบกับตอนที่ถูกจับใหม่ๆ เพื่อไม่ให้ผิดตัว
๔.๒ อ่านคำสั่งประหารชีวิตแล้วให้นักโทษเซ็นรับทราบคำสั่ง
๔.๓ เขียนจดหมายลาตายถึงญาติและทำพินัยกรรม
๔.๔ ฟังพระเทศน์
๔.๕ กินอาหารมื้อสุดท้าย ซึ่งเรือนจำพยายามจัดอาหารที่ชอบมาให้ แต่นักโทษมักจะกินไม่ลง
๔.๖ ทำพิธีขอขมาและขออโหสิกรรมแก่เจ้าหน้าที่และพัศดี
๔.๗ นำนักโทษเข้าหลักประหาร เอาผ้าปิดตา มัดตัวกับหลักด้วยด้ายดิบในลักษณะพนมมือกำดอกไม้ธูปเทียน
๔.๘ กั้นด้วยฉากสีดำที่ติดเป้าสำหรับยิงไว้ตรงกลาง
๔.๙ แพทย์เข้าไปตรวจที่ตั้งของหัวใจเพื่อกำหนดจุดยิงให้ชัดเจน
๔.๑๐ เพชฌฆาตเข้าประจำแท่นยิงที่ติดตั้งด้วยปืนกล ขนาดกระสุน ๙ มม. ชุดละ ๑๐ นัด เตรียมไว้ ๒ ชุด
เมื่อทุกอย่างพร้อม ธงแดงจะถูกยกขึ้น เพชฌฆาตลั่นไกปืนปล่อยกระสุนชุดแรก ทะลุกลางเป้าของฉาก ไม่มีกำหนดว่ากี่นัด กำหนดเพียงว่า จนตาย เมื่อคณะกรรมการประหารพิสูจน์ว่านักโทษตายจริงก็จะลงชื่อในบันทึก และพิมพ์ลายนิ้วมือศพไว้เป็นหลักฐาน
(น.ส.พ.ไทยรัฐ ๘ พ.ค. ๒๕๔๒)

เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๔๒ ที่เรือนจำกลางบางขวาง มีการประหารชีวิตนักโทษถึง ๒ ราย เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๔๒ มีการประหารชีวิตนักโทษ ๑ ราย นับเป็นรายที่ ๘ ของปี
๕. บุคคลเหล่านี้ล้วนประสบกับบั้นปลายอันเลวร้ายในชาตินี้ ส่วนชาติหน้าก็มีหวังไปอบายภูมิ ดังนั้น ขึ้นชื่อว่าความชั่วแล้ว ไม่ทำเสียเลยดีกว่า หากคนเหล่านี้รู้ว่าจะได้รับผลตอบแทนทันตาเห็น เป็นความทุกข์ยากลำบากแสนสาหัสถึงเพียงนี้ คงไม่กล้าทำบาปเป็นแน่
 

_________________
คำพูดเพียงน้อยนิดอาจเปลี่ยนชีวิตของคนได้
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 03 ต.ค.2008, 8:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขึ้นชื่อว่าความชั่วแล้ว ไม่ทำเสียเลยดีกว่า สาธุ สาธุ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง