Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต พระอริยเจ้าผู้เป็นบิดาของพระกรรมฐาน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ทัพหลวง
บัวเริ่มพ้นน้ำ
เข้าร่วม: 28 มิ.ย. 2008
ตอบ: 161
ตอบเมื่อ: 06 ก.ค.2008, 9:14 am
ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
วัดป่าบ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
พระอริยเจ้าผู้เป็นบิดาของพระกรรมฐาน
พระเดชพระคุณท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ท่านเป็นสุดยอดพระอรหันต์แห่งยุค เป็นบิดาของพระกรรมฐานตำนานชีวิตและปฏิปทาของท่านถูกกล่าวขานกันไม่รู้จบ ท่านสำเร็จปฏิสัมภิทานุศาสน์ ๔ อย่าง คือ
๑. ธัมมปฏิสัมภิทา คือแตกฉานในธรรม
๒. อัตถปฏิสัมภิทา คือ แตกฉานในอรรถ
๓. นิรุตติปฏิสัมภิทา คือ แตกฉานในภาษา
๔. ปฏิภาณปฏิสัมภิทา คือ แตกฉานในปฏิภาณ
ในปีพุทธศักราช ๒๔๗๘ ท่านบรรลุธรรมชั้นสูงสุดที่
ถ้ำดอกคำ ตำบลน้ำแพร่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
จากนั้นท่านได้เดินธุดงค์ไปดอยมะโน ท่านได้พูดกับลูกศิษย์คือหลวงปู่ขาวว่า
ผมหมดงานที่จะทำแล้ว ก็อยู่สานกระบุงตระกร้า พอช่วยเหลือพวกท่านและลูกศิษย์ลูกหาได้บ้างเท่านั้น
ท่านเป็นอาจารย์ใหญ่ เป็นครู เป็นพ่อ และเป็นต้นแบบของพระกรรมฐานที่ยึดมั่นในหลักพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด ท่านถือธุดงค์และทรงผ้าบังสุกุลตลอดชีวิต ท่องเที่ยวธุดงค์ทางภาคอีสาน กลางเหนือ ในประเทศไทย ประเทศลาว ประเทศเขมร ประเทศพม่า ชอบอยู่ตามถ้ำและป่าลึก อาศัยบิณฑบาตกับชาวป่าชาวเขา เป็นผู้สมถะสันโดษ มักน้อยในลาภสักการะ มีชีวิตเป็นอยู่ด้วยพระธรรมวินัยทุกอิริยาบถ
ในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ยังไม่มีพระมหาเถระรูปใดจะยิ่งใหญ่ด้วยวัตรปฏิบัติ ปฏิปทา ถึงพร้อมด้วยศีล มีอำนาจจิตยิ่งใหญ่ครอบโลกธาตุ เป็นที่เคารพบูชาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายได้ถึงเพียงนี้
พระอรหันต์ในประเทศไทยล้วนเป็นศิษย์ของท่านแทบทั้งนั้น เดิมท่านปราถนาพุทธภูมิ แต่ด้วยเห็นว่าจะเป็นการเนิ่นช้า จึงถอนความปราถนานั้น มุ่งเป็นพระอรหันต์ในปัจจุบันชาติ
ท่านเป็นคนร่างเล็ก ผิวขาวบาง แข็งแรงว่องไว สติปัญญาดีมาแต่กำเนิด ฉลาด เป็นผู้ว่าง่ายสอนง่ายในทางที่ถูก ไม่ยอมทำตามในทางที่ผิด
ท่านเกิดวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๑๓ ที่บ้านคำบง ตำบลโขงเจียม อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นบุตรของ
นายคำด้วง และนางจันทร์ แก่นแก้ว
เมื่อท่านอายุ ๑๕ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรในสำนักวัดบ้านคำบง พออายุได้ ๑๗ ปี บิดาขอร้องให้ลาสิกขา จิตยังหวนคิดถึงร่มผ้ากาสาวพัสต์อยู่เสมอ เพราะติดใจในคำสั่งของยายว่า
เจ้าต้องบวชให้ยาย เพราะยายก็ได้เลี้ยงเจ้ายาก
ครั้นอายุได้ ๒๒ ปี มีความอยากบวชเป็นกำลัง ได้เข้าศึกษาพระธรรมในสำนัก
หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล
วัดเลียบ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้อุปสมบท ณ
วัดศรีอุบลรัตนาราม
อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธสนี เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๓๖ โดยมี
พระอริยกวี (อ่อน)
เป็นพระอุปัชฌาย์
พระครูสีทา ชยเสโน
เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระครูประจักษ์อุบลคุณ (สุ่ย)
เป็น พระอนุสาวนาจารย์
อุปสมบทแล้วได้กลับมา ศึกษากรรมฐานภาวนาในสำนักหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ณ วัดเลียบ จังหวัดอุบลราชธานี ใช้คำบริกรรมภาวนาว่า
พุทโธ
อยู่มาวันหนึ่งท่านเกิดสุบินนิมิตว่า
ได้เดินออกจากหมู่บ้านๆหนึ่ง มีป่า เลยป่าออกไปก็ถึงทุ่งเวิ้งว้าง จึงเดินตามทุ่งไป ได้เห็นต้นชาติต้นหนึ่งที่บุคคลได้ตัดให้ล้มลงแล้ว ปราศจากใบ ตอของต้นชาติสูงประมาณ ๑ คืบ ใหญ่ประมาณ ๑ คนโอบ ท่านขึ้นสู่ขอนชาตินั้น พิจารณาดูอยู่ว่าผุพังไปบ้าง และจักไม่งอกขึ้นได้อีก ในขณะที่กำลังพิจารณาอยู่นั้น มีม้าตัวหนึ่งไม่ทราบว่ามาจากไหน มาเทียมขอนชาติ ท่านจึงขี่ม้าตัวนั้น ม้าพาวิ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออย่างเต็มฝีเท้า ขณะที่ม้าพาวิ่งไปนั้นได้แลเห็นตู้ใบหนึ่ง เหมือนตู้พระไตรปิฎก ตั้งอยู่ข้างหน้า ตู้นั้นวิจิตรด้วยเงินสีขาววาววับเป็นประกายยิ่งนัก ม้าพาวิ่งเข้าไปสู่ตู้นั้น ครั้นถึงม้าก็หยุดและหายไป ท่านลงตรงมายังตู้พระไตรปิฎกแต่มิได้เปิดตู้ดู ไม่ทราบว่ามีอะไรอยู่ ในนั้น แลดูไปข้างหน้าเห็นเห็นเป็นป่าชัฏเต็มไปด้วยขวากหนามต่างๆ จะไปต่อไม่ได้
เลยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
เมื่อท่านพิจารณาสุบินนิมิตนั้นจึงได้ความว่า การที่ท่านออกบวชในพระพุทธศาสนาและปฏิบัติตามอริยมรรคนั้น ชื่อว่าออกจากบ้าน บ้านนั้นคือความผิดทั้งหลาย และป่านั้นคือกิเลส ซึ่งเป็นความผิดเหมือนกัน
ขอนชาติ
ได้แก่
ชาติความเกิด ม้า
ได้แก่
ตัวปัญญาวิปัสสนา
จักมาแก้ความผิด การขึ้นสู่ม้าแลัวม้าพาวิ่งไป สู่ตู้พระไตรปิฎกนั้น คือ เมื่อพิจารณาไปแล้วจักสำเร็จปฏิสัมภิทานุศาสน์ ฉลาด รู้อะไรๆ ในเทศนาวิธี ทรมานแนะสั่งสอนลูกศิษย์ทั้งหลายให้ได้รับความเย็นใจในข้อปฏิบัติทางจิต แต่จะไม่ได้ในจตุปฏิสัมภิทาญาณ เพราะไม่ได้เปิดดูตู้นั้น
สุบินนิมิตนี้เป็นบุพพนิมิตบอกความมั่นใจในการทำความเพียรของท่าน ท่านจึงตั้งหน้าทำความเพียรประโยคพยายามมิได้ท้อถอย มีการเดินจงกรมบ้าง นั่งสมาธิบ้าง ข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ ก็มิได้ทอดทิ้ง คงดำเนินตามข้อปฏิบัติอันท่านโบราณบัณฑิตทั้งหลาย มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ทรงบำเพ็ญตามทางแห่งอริยมรรค
ท่านได้แสวงหาวิเวกบำเพ็ญสมณธรรมในที่ต่างๆ ตามราวป่า ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง หุบเขา ซอกเขา ห้วยธาร เงื้อมผา ท้องถ้ำ เรือนว่าง ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงบ้าง แล้วลงไปศึกษากับเจ้าพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนโท) ๓ พรรษาแล้วออกแสวงหาวิเวกในถิ่นภาคกลางคือ ถ้ำสาริกา เขาใหญ่ นครนายก ถ้ำไผ่ขวางเขาพระงาม และถ้ำสิงห์โตจังหวัดลพบุรีขึ้นไปทางภาคเหนือจำพรรษาที่วัดเจดีย์หลวง ๑ พรรษาได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงและเป็นพระอุปัชฌาย์ แต่ท่านไม่รับตำแหน่ง หนีเข้าป่าไปอาศัยอยู่ตามดอยมูเซอ ถ้ำเชียงดาว ฯลฯ แล้วออกไปพักตามที่วิเวกต่างๆ ในเขตภาคเหนือหลายแห่งเพื่อสงเคราะห์สาธุชนในที่นั้นๆ นานถึง ๑๑ ปี จนได้รับความรู้แจ่มแจ้งในพระธรรมวินัย สิ้นความสงสัยในสัตถุศาสน์ บรรลุพระอรหันตผลที่ถ้ำดอกคำ ต.น้ำแพร่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ จึงกลับมาภาคอีสาน
วาระสุท้ายท่านจำพรรษาที่ วัดป่าบ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ท่านละสังขารเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพาน ที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษจิกายน พ.ศ.๒๔๙๒ เวลา ๐๒.๒๓ น. สิริอายุ ๘๐ ปี ๕๖ พรรษา
จากหนังสือ พระธุตังคเจดีย์ เจดีย์แห่งพระอรหันต์
วัดอโศการาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
บัวหิมะ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
ตอบเมื่อ: 12 ก.ย. 2008, 5:06 pm
อนุโมทนาสาธุ เจ้าค่ะ
_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ฌาณ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
ตอบเมื่อ: 17 ก.ย. 2008, 11:27 pm
_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
บัว
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 28 ต.ค. 2007
ตอบ: 33
ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 11:47 am
_________________
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทางแห่งความสำเร็จ ขยัน อดทน ไม่ประมาท มีน้ำใจ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th