Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 สิ่งควรรู้ก่อนการเจริญวิปัสสนา (มมร.) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 26 พ.ค.2007, 11:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

๏ หลักธรรมในการเจริญวิปัสสนา

ผู้ปฏิบัติหรือผู้เข้าฝึกอบรมวิปัสสนากรรมฐาน ควรทำความเข้าใจ หรือควรทราบธรรมะที่ เกี่ยวข้องกับการเจริญวิปัสสนา เพื่อการไม่หลงทาง ไม่ออกนอกทาง เพื่อความเข้าใจชัดในการปฏิบัติของตนเอง ให้การเจริญวิปัสสนาได้ผลดีเพิ่มขึ้น เพราะ ปริยัติ ย่อมส่องการปฏิบัติ แล้วการปฏิบัติที่ถูกต้องย่อมนำผลคือ ปฏิเวธ มาให้

หัวข้อธรรมที่ควรทราบในการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ได้แก่ โพธิปักขิยธรรม ๓๗ คือ ธรรมที่เป็นองค์ตรัสรู้ หมายความว่า การที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ธรรม หรือพระอรหันต์ทั้งหลายได้ บรรลุธรรม ก็ได้ใช้โพธิปักขิยธรรมทั้ง ๓๗ ประการนี้ เข้ามาประกอบเกื้อหนุน โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ นั้นประกอบไปด้วย

๑. สติปัฏฐาน ๔ คือ

(๑) กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือ การตั้งสติกำหนดพิจารณากาย ให้รู้เห็นความเป็นจริงว่า กาย ก็สักว่ากาย ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา

(๒) เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือ การตั้งสติกำหนดพิจารณาเวทนา ให้รู้เห็นความความเป็นจริงว่า เวทนา ก็สักแต่ว่า เวทนาไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา

(๓) จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือ คือ การตั้งสติกำหนดพิจารณาจิต ให้รู้เห็นความความเป็นจริงว่า จิต ก็สักแต่ว่า จิตไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา

(๔) ธรรมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือ การตั้งสติกำหนดพิจารณาจิต ให้รู้เห็นความความเป็นจริงว่า ธรรม ก็สักแต่ว่า ธรรม ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา

๒. สัมมัปปธาน ๔ คือ

(๑) สังวรปธาน คือ การเพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในตน

(๒) ปหานปธาน คือ การเพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว

(๓) ภาวนาปธาน คือ การเพียรให้กุศลเกิดขึ้นในตน

(๔) อนุรักขนาปธาน คือ การเพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ไม้ให้เสื่อม

๓. อิทธิบาท ๔ คือ

(๑) ฉันทะ คือ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น

(๒) วิริยะ คือ ความเพียรหมั่นประกอบในสิ่งนั้น

(๓) จิตตะ คือ ความเอาใจฝักใฝ่ในสิ่งนั้น ไม่ทอดทิ้งธุระ

(๔) วิมังสา คือ การใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองหาเหตุผลในสิ่งนั้น

๔. พละ ๕ คือ

(๑) สัทธา คือ ความเชื่อ

(๒) วิริยะ คือ ความเพียร

(๓) สติ คือ ความระลึกได้

(๔) สมาธิ คือ ความตั้งมั่น

(๕) ปัญญา คือ ความรอบรู้

พละทั้ง ๕ ประการนี้ จัดเป็นอินทรีย์ด้วย เพราะเป็นใหญ่ในหน้าที่ของตน

๕. โพชฌงค์ ๗

หมายถึง ธรรมที่เป็นองค์ตรัสรู้ หรือเป็นองค์ในการบรรลุธรรม มี ๗ ประการ คือ

(๑) สติ คือ ความระลึกได้

(๒) ธัมมวิจยะ คือ ความสอดส่องธรรม

(๓) วิริยะ คือ ความเพียร

(๔) ปีติ คือ ความอิ่มใจ

(๕) ปัสสิทธิ คือ ความสงบสบายใจ

(๖) สมาธิ คือ ความตั้งมั่น

(๗) อุเบกขา คือ ความวางเฉย

๖. มรรคมี องค์ ๘ ได้แก่

(๑) สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ คือ เห็นอริยสัจ ๔

(๒) สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ คือ ดำริในการออกจากกาม ดำริในการไม่พยาบาท และดำริในการไม่เบียดเบียน

(๓) สัมมาวาจา เจรจาชอบ คือ เว้นจากวจีทุจริต

(๔) สัมมากัมมันตะ ทำการงานชอบ

(๕) สัมมาอาชีวะ ทำอาชีพชอบ คือ เว้นจาก การเลี้ยงชีพในทางที่ผิด

(๖) สัมมาวายามะ เพียรชอบ คือ เพียรใน ๔ สถาน (สัมมัปปธาน ๔)

(๗) สัมมาสติ ระลึกชอบ คือ ระลึกในสติปัฏฐาน ๔

(๘) สัมมาสมาธิ ตั้งใจมั่นชอบ คือ เจริญฌาน ๔


(มีต่อ >>> พระสูตรสำคัญในการเจริญวิปัสสนา)
 


แก้ไขล่าสุดโดย กุหลาบสีชา เมื่อ 29 พ.ค.2007, 11:42 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 26 พ.ค.2007, 11:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

๏ พระสูตรสำคัญในการเจริญวิปัสสนา

ในการเจริญวิปัสสนานั้น มีพระสูตรสำคัญที่ควรศึกษาเข้าใจ เพื่อนำมาปฏิบัติให้เกิดผลดีต่อการปฏิบัติวิปัสสนา ซึ่งในที่นี้ขอนำมากล่าวไว้เพียงบางสูตร เช่น อานาปนสติสูตร สติปัฏฐานสูตร ธรรมนิยามสูตร รถวินีตสูตร โพชฌงค์ ๗ อริยสัจ ๔

พระสูตรเหล่านี้มีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนาโดยเฉพาะอานาปนสติสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรที่มีความสำคัญมาก และเป็นได้ทั้งสมถะและวิปัสสนา


(มีต่อ >>> ผู้เจริญวิปัสสนา ๒ ประเภท)
 


แก้ไขล่าสุดโดย กุหลาบสีชา เมื่อ 29 พ.ค.2007, 11:47 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 26 พ.ค.2007, 11:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

๏ ผู้เจริญวิปัสสนา ๒ ประเภท

ในการเจริญวิปัสสนา ท่านแยกออกเป็น ๒ ประเภท คือ

๑. สมถยานิกะ คือ ผู้เจริญสมถะมาก่อน
๒. วิปัสสนายานิกะ คือ ผู้เจริญวิปัสสนาล้วน

สมถนายิกะ

คือ ผู้ที่ฝึกสมาธิมาก่อนจนใจสงบถึงฌาน แล้วมาเจริญวิปัสสนา ผู้เจริญวิปัสสนาแบบนี้ บางท่านก็จะได้อำนาจจิต มีพลังจิตสูง คือบรรลุอภิญญา เช่น ตาทิพย์ หูทิพย์ หรือได้เจโตปริยญาณ รู้ใจคนอื่น เป็นต้น ถ้าบรรลุพระอรหันต์ท่านเรียก พระอรหันต์ประเภทนี้ว่า เจโตวิมุตติ คือหลุดพ้น หรือบรรลุอำนาจใจ

วิปัสสนายิก

คือ ผู้เจริญวิปัสสนาล้วน โดยใช้เพียงขณิกสมาธิเป็นพื้นฐานแล้วเจริญวิปัสสนา เช่น ภาวนากรรมฐานบทใดบทหนึ่ง พอใจสงบแล้วก็เจริญพระไตรลักษณ์ หรือแม้แต่พบเห็นอะไรนำมาพิจารณาโดยความเป็นไตรลักษณ์ บางท่านที่ทำเช่นนี้ได้พบความสงบและความอิ่มใจอย่างยิ่ง นั่งเสวยความสุขเต็มเป็นเวลานานเป็นชั่วโมง หรือบางท่านนั่งอยู่ได้เป็นวันโดยไม่ต้องลุกขึ้นก็มี ผู้เจริญวิปัสสนาแบบนี้ถ้าได้บรรลุอรหันต์ ท่านเรียกในทางวิชาการว่า สุกขวิปัสสก หรือผู้เจริญวิปัสสนาแห้งแล้ง ไม่ได้อำนาจจิตพิเศษหรือได้บรรลุอภิญญาใดๆ แต่ก็หมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ถึงความสิ้นทุกข์เช่นกัน เรียกพระอรหันต์ประเภทนี้ว่า “ปัญญาวิมุตติ หลุดพ้นด้วยอำนาจปัญญา”


(มีต่อ >>> ประโยชน์ของการเจริญวิปัสสนา)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 26 พ.ค.2007, 11:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

๏ ประโยชน์ของเจริญวิปัสสนากรรมฐาน

ประโยชน์ของเจริญวิปัสสนากรรมฐานนั้นมีมาก แต่เมื่อกล่าวโดยสรุป ก็คือ

๑. สามารถกำจัดกิเลสต่างๆ อันเป็นต้นเหตุของความทุกข์ ความเดือดร้อนต่างๆ ลงได้

๒. มีความทุกข์น้อยลง และมีความสุขมากขึ้น

๓. คลายความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวงลงได้ ไม่วุ่นวายเดือดร้อนไปตามกระแสโลก

๔. มีจิตใจมั่นคง รู้เท่าทันความจริงของสิ่งทั้งหลาย ไม่ฟูขึ้นหรือยุบตัวลงด้วยอำนาจของโลกธรรม

๕. มีความเห็นแก่ตัวน้อยลง และบำเพ็ญประโยชน์เพื่อผู้อื่นมากขึ้น

๖. จิตใจมีคุณธรรมหรือมีคุณภาพสูงขึ้นตามการปฏิบัติ

๗. สามารถเข้านิโรธสมาบัติ อันเป็นความสุข ขึ้นสูงในปัจจุบันภพได้

๘. สามารถบรรลุความเป็นอริยบุคคล อันเป็นบุญเขตของโลก

๙. ย่อมได้ดื่มรสแห่งอริยผล อันเกิดจากการพ้นจากอำนาจของกิเลสได้

๑๐. สามารถบรรลุพระนิพพานได้


สาธุ สาธุ สาธุ


ที่มา : เอกสารประกอบการสอบเข้าศึกษาต่อ หลักสูตรพุทธศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต
สาขาวิชาพุทธศาสน์ศึกษา : วิชาทฤษฎีและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน,
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=38504
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
โมกข์ป่า
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 10 ม.ค. 2008
ตอบ: 22

ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.พ.2008, 3:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ...

ขอบคุณสำหรับความรู้แก่ผู้เริ่มต้นค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ณัฐวรางคณ์
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 20 ก.พ. 2008
ตอบ: 23
ที่อยู่ (จังหวัด): 1/11 ถ.หน้าวัดเกต ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000

ตอบตอบเมื่อ: 07 มี.ค.2008, 11:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ อนุโมทนาบุญเจ้า สาธุ ยิ้มแก้มปริ
 

_________________
ธรรมะคือคุณากร ขอให้ชีวิตนี้มีสัมมาทิฏฐิ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailตำแหน่ง AIMหมายเลข ICQ
ตามรอย
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
ตอบ: 109
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 15 พ.ค.2008, 7:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุกระทู้นี้ขจัดความเขลาโดยแท้

ข้าพเจ้าก็คิดเอาเองก่อนเปิดกระทู้ว่า สิ่งที่ควรรู้ก็คือ อยากทำก็ทำ
แต่เปิดแล้วได้ความหมายต่างกันโดยสิ้นเชิง

สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
อย่าประมาทลืมตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
สติ สัมปชัญญะ
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 28 พ.ค. 2008
ตอบ: 2

ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ค.2008, 10:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ........... ยิ้มแก้มปริ
 

_________________
ไม่มีคติ...มีแต่สติ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 10:44 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
อิชิคาว่า
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 24 ส.ค. 2008
ตอบ: 94
ที่อยู่ (จังหวัด): กำแพงเพชร

ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.ย. 2008, 4:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณพี่โรสครับ เทียน สาธุ เทียน
 

_________________
สังขารไม่เที่ยงหนอ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง