Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 หลวงปู่มหาปราโมทย์ ปาโมชโช อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา

ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 2:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หลวงปู่มหาปราโมทย์ ปาโมชโช
วัดป่านิโครธราม อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

ประวัติโดยย่อของหลวงปู่ คัดลอกจากหนังสือ ปราโมชโชนุสรณ์

ชาติภูมิ


ท่านหลวงปู่มหาปราโมทย์ ปาโมชโช ถือกำเนิดในตระกูล
วังสะจันทานนท์ ใ นวันพฤหัสบดี ที่ 10 เดือน กุมภาพันธ์
พ.ศ. 2466 ขึ้น 3 ค่ำ เพื่อน 3 ปีกุน ตำบลในเมือง
อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นามเดิมของท่านชื่อปราโมทย์
วังสะจันทานนท์ (หนูแดง) เป็นบุตรคนเดียวของพ่อ สิงห์คำ
วังสะจันทานนท์ และแม่ เพียร วังสะจันทานนท์

คุณพ่อสิงห์คำได้รับราชการทหารเป็นนายร้อยทหารบกที่จังหวัด
ปราจีนบุรี และสมรสกับคุณแม่ทองเพียร ที่บ้านหัวหว้า
จังหวัดปราจีนบุรี หลังจากสมรสแล้วได้ย้ายไปอยู่ที่จังหวัด
อุบลราชธานี และได้ให้กำเนิดเด็กชายปราโมทย์ ที่จังหวัด
อุบลราชธานี ซึ่งเป็นบุตรคนเดียวของคุณ่พอสิงห์คำ และ
คุณแม่ทองเพียร กาลต่อมาคุณพ่อสิงห์คำได้เสียชีวิตลง คุณแม่
ทองเพียร จึงได้พาเด็กชายปราโมทย์ กลับมาอยู่ที่บ้านหัวหว้า
อีกครั้ง และ เด็กชายปราโมทย์ ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนวัด
เกาะสมอ บ้านเกาะสมอ ปราจีนบุรี กาลต่อมา คุณแม่ทอง
เพียร เกิดล้มป่วยและได้เสียชีวิตลง คุณยาย (ผุย เพ็งทอง)
ได้รับอุปะการะ เด็กชายปราโมทย์ไว้ กาลต่อมาคุณยายผุย ได้
เสียชีวิตลง ด้วยโรคชรา เด็กชายปราโมทย์ และเด็กชายแก้ว
ดอนมอญ ได้บวชหน้าไฟ ให้คุณยายผุย ที่วัดหัวนา บ้านหัว
หว้า จังหวัดปราจีนบุรี หลังจากเสร็จงานศพคุณยายผุย เด็ก
ชายปราโมทย์ และเด็กชายแก้วได้ไปอาศัยอยู่กับน้า (นางคำ
สูรย์ สังอรดี) และได้ช่วยน้าประกอบอาชีพ คือทำนา ทำไร่
ด้วยความขยัน เนื่องจากเด็กชายปราโมทย์มีอุปนิสัย รักใคร่
ใฝ่เรียน จังได้ออกจากบ้านไปอยู่ที่วัดอุดมวิทยาราม (โรงเกวียน)
หลังสถานีรถไฟ ปราจีนบุรี เพื่อนเรียนหนังสือ แต่ต่อมา
ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดอุดมวิทยาราม และย้ายไปจำ
พรรษาอยู่ที่วัดมะกอก อำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี จากนั้น
ก็ได้ขาดการติดต่อ กับญาติพี่น้องเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่ง
ภิกษุปราโมทย์ได้ย้อนกลับมาที่บ้านหัวหว้าอีกครั้ง ทำให้
ญาติพี่น้องทราบว่าท่านศึกษาเล่าเรียนจนได้เปรียญธรรม
หลายประโยค เป็นภิกษุมหาปราโมทย์ ปาโมชโช


ลำดับญาติพี่น้องของคุณแม่ทองเพียร วังสะจันทานนท์
(เพ็งทอง) ทั้งหมด 8 คน ได้แก่
1 คุณแม่ทองเพียร
2. นายแพร
3. นางทอง
4. นางชื่น
5. นางคำสูรย์
6. นางเชื่อม
7. นางทองคำ
8. นางสีนวล


นายแก้ว ดอนมอญ เป็นบุตรนางสีนวล (น้องคนสุด
ท้องของคุณแม่ทองเพียร) เรียงลำดับแล้วนายแก้ว ดอน
มอญ มีลำดับญาติเป็นผู้พี่ผู้น้องของหลวงปู่มหาปราโมทย์
ปาโมชโช
ชีวิตวัยเยาว์ที่เจอกับ
หลวงปู่มั่นภูริทัตโต ครั้งแรก


ท่านหลวงปู่มหาโมทย์ ปาโมชโช เล่าว่าท่านได้เล่าว่าท่านได้
เจริญวัยเติบโตที่บ้านหัวนา จังหวัดปราจีนบุรี มีผิวพรรณดีมาก
ท่านหลวงปู่มหาปราโมทย์ ปาโมชโช ท่านได้ติดตามโย
โยมพ่อไปที่จังหวัดอุบลราชธานี เพราะโยมพ่อของท่านรับ
ราชการทหาร และในสมัยเมื่อยังเด็กนั้นเอง ท่านได้พบ
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดเลียบ และท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ได้เป่ากระหม่อมให้ พอรุ่งเช้าแม่ของหลวงปู่มหาปราโมทย์
ปาโมชโช ได้พาท่านไปใส่บาตรหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

อุนิสัยบำเพ็ญทานแม่เมื่อครั้งยังเด็กเมื่อครั้งที่มารดาายังมีชีวิต
เด็กชายปราโมทย์ได้ช่วยมารดาทำนาปลูกข้าว มารดาจึงได้
บอกกับเด็กชายปราโมทย์ให้ไปเฝ้าข้าวในนาที่ปลูกไว้ เพื่อ
ไม่ให้นกเข้ามากินข้าวในนา เด็กชายปราโมทย์ตอบมารดา
อย่างสำภาพว่า “ให้นกมันกันแหน่ นกมันบ่ได้เฮ็ดนา”
(ให้นกมันกินหน่อย นกมันไม่ได้ทำนา)
จำพรรษาที่วัดป่านิโครธาราม


หลวงปู่มหาปราโมทย์ ปาโมชโช ได้มีโอกาศฟังเทศน์
หลวงปู่อ่อน ญาณสิริที่วัดอโศการาม ในขณะนั้นวัดอโศการาม
ถือว่าเป็นศูนย์รวมกองทัพธรรมและหลวงปู่มหาปราโทย์
ปาโมชโช ได้ซาบซึ้งในธรรมปฎิปทาของหลวงปู่อ่อน
ญาณสิริ ได้อธิษฐานจิตว่าถ้ามีโอกาศขอให้ได้ไปพักที่วัด
ป่านิโครธาราม และอีกครั้งหนึ่งท่านได้เดินธุดงค์ไป
จำพรรษาที่วัดหลวงปู่ฝั้น อาจาโร พอดีหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
นั่งรถผ่านมาเจอท่านขณะเดินธุดงค์อยู่ริมถนน ท่าน
หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ได้ให้คนขับรถจอดรับท่านหลวงปู่
มหาปราโมทย์นั่งรถไปด้วย ท่านได้ปรารภอีกครั้งหนึ่ง ถ้ามี
โอกาศจะกลับไปบูรณปฎิสังขรณ์วัดป่านิโครธาราม เพราะ
ด้วยความระลึกถึงพระคุณของหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ รวมทั้ง
ได้ยินว่าที่วัดป่านิโครธรามได้สร้างอุโบสถสองชั้น คงจะ
งดงาม หลวงปู่มหาปราโมทย์ ปาโมชโช ได้มาพัก
จำพรรษาที่วัดป่านิโครธาราม ในครั้งแรกในปี พ.ศ. 2529
หลังออกพรรษาท่านได้ออกไปเที่ยววิเวกที่วัดป่าห้วยน้ำริน
ต่อมาหลวงปู่มหาปราโมทย์ ปาโมชโช ได้มาจำพรรษา ที่
วัดป่านิโครธารามในปีพ.ศ. 2537 หลังจากหลวงปู่อ่อน
ญาณสิริ ได้ มรณภาพแล้ว


ศาลาการเปรียญ วัดป่านิโครธาราม


หลวงปู่ได้จำพรรษาร่วมกับหลวงพ่อศรีนวล (อดีตเจ้าอาวาส)
หลวงปู่บุญรอด อธิปุญโญ จนกระทั่งในพรรษาที่พระอาจารย์
ศรีนวลได้ดำริว่าจะซ่อมแซมหลังคาศาลาการเปรียญ
ใหม่ โดยได้ขอให้หลวงปู่มหาปราโมทย์ ปาโมชโช ช่วยเมตตา
ในการซ่อมแซมครั้งนี้ หลวงปู่มหาปราโมทย์ ปาโมชโช
ได้รับนิมนต์ไปฉันท์ภัตตาหารที่บ้านโยนในกรุงเทพ ท่านได้
พูดถึงเรื่องที่จะซ่อมแซมหลังคาศาลาการเปรียญใหม่ให้โยมฟัง
โยมก็มีความศรัทธาที่จะช่วยซ่อมแซมหลังคา และได้รวบรวม
ปัจจัยในการซ่อมหลังคาครั้งนั้น โดยหลวงปู่ได้ส่งปัจจัยผ่านทาง
ธนาคารโดยเข้าที่บัญชีวัดป่านิโครธาราม ตั้งแต่นั้นมาคณะศิษย์ก็ได้นำกฐิน
มาทอดถวายหลวงปู่มหาปราโมทย์ ปาโมชโช ในการ
ซ่อมแซมหลังคาจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แล้วได้มีการฉลอง
ศาลาครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2537 และจักนั้นหลวงปู่มหา
ปราโมทย์ ปาโมชโช ได้จำพรรษาที่วัดป่านิโครธารามมา
โดยตลอด และได้เริ่มก่อสร้างปฏิสังขรวัดป่านิโครธารามดัง
ที่หลวงปู่มหาปราโมทย์ ได้อธิษฐานเมื่อครั้งพบกับ
หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ขณะเดินทางไปวัดหลวงปู่ฝั้น อาจารโร
และการก่อสร้างหลวงปู่ท่านจะมอบภาระให้หลวงพ่อ
ศรีนวลในภาระต่าง ๆที่หลวงปู่มอบให้ หลวงปู่จะเรียก
หลวงพ่อศรีนวลว่า “ท่านพระครู”


เมื่อปี พ.ศ. 2538 หลวงปู่ได้สร้างกุฎีรัตนมุณี ซึ่งใช้
เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต เพื่อไว้เป็นที่สักการะ
บูชาของญาติโยม และเริ่มการก่อสร้างวิหาร ปาโมชโช
อนุสรณ์ ตั้งแต่ปี 2540 และได้มีการฉลองวิหาร ปาโมชโช
อนุสรณ์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2547 หลังจากนั้น
หลวงพ่อศรีนวล ขันติธโร เจ้าอาวาสวัดป่านิโครธราม ได้
อาพาธหนักและถึงแก่มรณภาพในวัดที่ 28 มีนาคม 2547
หลวงปู่ได้ถวายเพลิงพระครูภาวนาสังวรคุณ (หลวงพ่อศรี
นวล ขันติธโร) ในเดือนพฤษภาคม 2547 เป็นที่เรียบร้อย
ในขณะเดียวกัน ที่วัดป่านิโครธรามได้แต่งตั้งหลวงพ่อ
ประสิทธิ์ ปุญญากโร เป็นเจ้าอาวาสแทน หลวงพ่อศรีนวล
ขันติโร หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร หลวงพ่อบุญรอด
อธิปุญโญ เป็นรองเจ้าอาวาสและท่านพระอาจารย์รื่น จิตธัมโม
เป็นผู้ดูแลรักษาการ ท่านหลวงพ่อบุญรอด อธิปุญโญ
มากราบเยี่ยมหลวงปู่อยู่เสมอเพราะกลัวหลวงปู่เหงา หลวงพ่อ
ประสิทธ์ ปุญญมากโร ท่านก็เดินทางมาเยี่ยมหลวงปู่อยู่เรื่อยๆ
ตลอดพรรษาหลวงปู่ไม่ได้ ลงฉันอาหารที่ศาลา เพราะ
หลวงปู่สุภาพท่านไม่แข็งแรงแต่หลวงปู่จะออกรับบิณบาติมิได้ขาด
หลวงปู่ท่านเมตตาเด็กนักเรียนและชาวบ้านหนองบัวบานมาก
หลวงปู่ท่านจะมีวิธีสอนเด็ก ๆ ให้รู้จักไหว้พระทำบุญตักบาตร
ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนแบบง่าย ๆ โดยหลวงปู่ให้
ค่าขนมสำหรับเด็กที่มาทำบุญตักบาตรอยู่เป็นประจำทำให้เด็กๆ
รู้จักทำบุญให้ทาน หลวงปู่ท่านเป็นผู้ที่มีความเมตตากรุณา
ในการเสียสละมาก ขณะเดียวกันร่างกายหลวงปู่ไม่แข็งแรง
ลูกศิษย์ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดไกลๆ หลวงปู่ก็ยังมี
เมตตาออกมากต้อนรับ หลวงปู่บอกว่า “สงการเค้าเขามาไกล”
และหลวงปู่ชอบนำขนมปังไปเลี้ยงปลาที่กุฎิรัตนมุณีใน
ยามบ่าย ๆ เป็นกิจวัตรประจำของท่าน


จนมาถึงต้นปี พ.ศ. 2548 ในวัดที่ 2 กุมภาพันธ์ 2548
หลวงปู่ได้อาพาธหนักมากคณะลูกศิษย์ได้นำหลวงปู่ส่ง
โรงพยาบาลเอกอุดร ขณะนั้นหลวงปู่มีอาการ หืด หอบ
ร่างกายช็อคจบเกือบหมดสติ หลวงปู่ได้พักรักษาตัวอยู่
โรงพยาบาลเอกอุดร ที่ห้อง ไอ ซี ยู หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร
มาเยี่ยมเป็นประจำ อาการของท่านหลวงปู่ดีขึ้น ได้ย้ายขึ้น
ไปพักที่ชั้น 7 ของโรงพยาบาลเอกอุดร และต่อมาอีกไม่
กี่วันอาการของหลวงปู่ได้ทรุดหนักลงไปอีก จนได้เข้ารับ
รักษาอาการที่ห้อง ไอ ซี ยู อีกครั้ง ไปจนถึงวันที่ 7 เดือน
มีนาคม พ.ศ. 2548 รวมอยู่รักษาอาการที่โรงพยาบาลเอก
อุดร เป็นเวลา 33 วัน และได้ย้ายหลวงปู่มาพักรักษา
อาการที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี โดยอาการของหลวงปู่
ทรุดหนักกว่าเดิม โดยมีอาการบวมตามร่างกาย หมอให้การ
รักษาจนอาการของหลวงปู่ดีขึ้น โดยสามารถพูดคุยกับพระ
เณร และ ญาติโยมที่ไปเยี่ยม ในช่วงระยะนี้สติของหลวงปู่
จะดีมาก พอมาถึงวันที่ 18 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2548
รวมเวลาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี 11 วัน
ขณะเดียวกันในวันที่ 18 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2548
ความดันหลวงปู่มหาปราโมทย์ ปาโมชโช ลดต่ำลงประมาณ
53: 27 หมอได้ให้นำเกลือ และ เลือด พร้อมทั้งยาเพิ่ม
ความดันหลวงปู่ จนความดันของหลวงปู่เพิ่มสูงขึ้น แต่ไม่
ถึงเกณฑ์ปกติประมาณ 90 หมอให้รอดูอาการอีกประมาณ 1
ชั่วโมง จากนั้นเห็นอาการหลวงปู่ดีขึ้น ช่วงแรกที่ความดันลดลง
หลวงปู่จะไม่รับรู้อะไร มีอาการตาลอด พอความดันเพิ่มขึ้น
ท่านก็ยกมือขึ้นลืมตาดู ได้เหมือนปกติ หลวงปู่รับรู้ดี สติดีมาก
นิมนต์ท่านกลับวัดท่านก็รับ โดยให้ท่านจับมือบีบมือ นิมนต์
2 ครั้ง ท่านก็รับ 2 ครั้ง จัดเตรียมสัมภาระเสร็จก็นิมนต์
ท่านขึ้นรถ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ช่วงที่อยู่ในรถ
ท่านก็มีสติบริบูรณ์ ดีทุกอย่าง พอคุยกับท่าน ท่านก็รับรู้ดี
มาตลอดระยะทาง พอมาถึงวิหารปาโมชโชอนุสรณ์ ณ วัด
ป่านิโครธารม ก็ได้นิมนต์ท่านพักที่เตียงพยาบาลที่เตรียมไว้
ท่านพักประมาณ 20 นาที จึงได้ละสังขารด้วยอาการอันสงบ
ที่วิหารปาโมชโชนุสรณ์ เวลา 19.25 น


หลวงปู่ได้ละสังขาร ด้วยโรคหัวใจโต ปอดติดเชื้อ ไตวาย
ถุงลมโป่งพอง ระยะเวลาที่หลวงปู่พักรักษาตัวที่โรง
พยาบาล 44 วัน รวม 61 สิริอายุ 82 ปี
 

_________________
ทำดีทุกทุกวัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
พลับ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2008
ตอบ: 24
ที่อยู่ (จังหวัด): ยโสธร

ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 8:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 9:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ย. 2008, 12:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ครับขอบคุณมากเลยครับ
 

_________________
ทำดีทุกทุกวัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง