ประวัติพระธาตุในไทย

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 11:30 am

• เท่าที่รู้มา หินพระธาตุที่พบตามภูเขาในเขตจังหวัดประจวบฯ และนำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปนั้นมีประวัติ ความเป็นมา คือ เมื่อก่อนนี้ ไม่มีใครรู้จัก ต่อมาบังเอิญมีพรานล่าเนื้อไปเจอเข้า ลองกระเทาะออกมา แล้ว เอามายิงดูปรากฏว่ายิงไม่ออก จากนั้น กลางคืนก็เห็นดวงไฟดวงใหญ่ หลายๆดวง ลอย ออกมาทั่วทั้งภูเขา สว่างทั่วทั้งหมู่บ้าน จากนั้น มีคนนำไปถาม หลวงพ่อฤาษี ว่าเป็นอะไร หลวงพ่อฤาษีพอเห็น ยกมือท่วมหัว บอกว่า เป็น พระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า เลยเรียกกันว่าเป็นพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้านับแต่นั้นมา และ มีคนนำไปให้ครูบาอาจารย์ทางสายเหนือ เช่น ครูบาชัยยะวงศา ครูบาผัด เป็นต้น อธิฐานจิต ครูบาอาจารย์บอกว่าไม่ต้อง แล้วเป็นของสูง ไม่ต้องปลุกเสกอีก แล้ว บางคนเอาไปถามคนทรง คนทรงบอกว่า อย่าเอาเข้ามา แสบตา เห็นเป็น แสงสว่างจ้าแสบตามาก และครูบาอาจารย์ต่างๆ ก็ยืนยันตรงกันว่าเป็นพระธาตุที่มีพลังมาก
หินพระธาตุที่คุณเรวัต ถามมานั้นเป็น พระธาตุของพระปัจเจกพุทธเจ้า ดังรูป จากในเวบไซต์ และในหนังสือ มาตาบูชา ปิยารำลึก ของคุณหญิงสุรีพันธุ์ ได้กล่าวไว้เช่นกัน
ลักษณะของพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า มีลักษณะคล้ายๆ พระอรหันตธาตุ คือ องค์จะใหญ่กว่าพระบรมสารีริกธาตุ มีหลายลักษณะ เช่น กลม รี มน พรรณมีมสีเหลืองนวล สีแดง สีส้ม สีขาวสีสังข์ สีพิกุลแห้ง สีแดงอิฐ ลักษณะเป็นชั้นๆ สามารถแบ่งได้ ออกเป็น 2 ยุค
พระปัจเจกพุทธเจ้ายุคแรก ลักษณะสีขาว
พระปัจเจกพุทธเจ้ายุคหลัง ลักษณะเหมือนพระอรหันตธาตุ

พระเกจิอย่างหลวงพ่อยิดซึ่งมรณะภาพไปแล้วก็บอกกล่าวตรงกันว่าเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องนำมาปลุกเสกอีกแล้ว ท่านครูบาวงศ์เองก็ได้มีการรวบรวมหินพระธาตุไว้ที่วัดของท่านจำนวนหนึ่งตั้งให้คนบูชา
คนไต้หวันเองก็ศรัทธาหินพระธาตุกันมากมีการจ้างชาวบ้านละแวกนั้นนำมาแกะเป็นองค์เจ้าแม่กวนอินนำกลับไปบูชาที่ประเทศเขาเป็นจำนวนมาก ต่อมาทางอุทยานเกรงชาวบ้านจะไปนำหินลงมาหมดเลยประกาศห้ามนำหินนี้ออกมาแล้วครับ เมื่อไม่นานมานี้สักสองปีทางวัดไตรมิตรที่กรุงเทพก็มีการนำพระแกะจากหินพระธาตุมาให้คนบูชาเช่นกันโดยเรียกชื่อว่าเป็นหินสะท้านฟ้า ปัจจุบันราคาพระที่แกะจากหินนี้ค่อนข้างสูงครับ