Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ข้อคิดจากคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง (ผู้แต่งหนังสือเข็มทิศชีวิต) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กิตติพันธ์
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 48

ตอบตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 12:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

มนุษย์เป็นเพียงเศษธุลีของจักรวาล
เรื่อง : ฐิตินาถ ณ พัทลุง


มนุษย์เป็นเพียงเศษธุลีของจักรวาล

คุณฐิตินาถคะ
ดิฉันทำงานเป็นผู้บริหารระดับกลางของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ได้มีโอกาสทำงานเป็นมือขวาของเจ้านายใหญ่ รับผิดชอบงานมากกว่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหลายท่าน

เรายังอายุน้อยก็ลุยลูกเดียว มองแต่เป้าหมายของงานเห็นคุณค่าของงานเหมือนคุณฐิตินาถสอนในหนังสือ "เข็มทิศชีวิต" แต่ปรากฏว่าผู้ใหญ่บางคนขวางหูขวางตา ยุยงนายใหญ่บีบทุกวิถีทาง จนดิฉันต้องกลับมาทำงานธรรมดา

นายใหญ่เข้าใจดี และยังคงเห็นคุณค่าเรา แต่ต้องระมัดระวังสายตาของผู้บริหารระดับสูงเหล่านั้นมาก

ดิฉันไม่ท้อมาก แต่บางครั้งมันรู้สึกอายว่าคนจะมองว่าเราตกกระป๋อง ไม่มีอำนาจ ไม่สำคัญ บางวันไม่อยากลุกไปทำงาน

ดิฉันควรวางใจอย่างไรดี


สวัสดีค่ะ
ตลอดเวลาที่ดิฉันตอบจดหมายในอิมเมจ รวมทั้งหนังสือ "เข็มทิศชีวิต" ดิฉันจะพูดอยู่เรื่องเดียว คือให้เราคอยหมั่นตามรู้ ตามดูความรู้สึกเช่นสุข ทุกข์ ชอบ ไม่ชอบ และการทำงานของจิตใจเราที่ส่งไปดู ฟัง คิด ให้เห็นว่าทุกความรู้สึกที่มีขึ้น เป็นขึ้น ล้วนหายไปทั้งนั้น จิตใจเราเดี๋ยวก็แวบไปดู ไปฟัง ไปคิดสลับไปมา อ่านหนังสืออยู่ใจก็แฉลบไปคิดตลอดเวลา ผู้อ่านบางคนตามรู้ตามดูเก่งๆ บอกว่าเห็นใจแวบไปคิด ใจลอยไปแทบจะทุก 2-3 วินาที

การหมั่นตามเห็นความรู้สึก และการทำงานของจิตใจที่ไหลไปรับอารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กายสัมผัส และใจรู้สึกนึกคิด ก็เพื่อให้เราเห็นว่าทุกอย่างเป็นของชั่วคราว

ทุกความรู้สึกที่มีขึ้นเป็นขึ้น อยู่ได้ชั่วขณะก็หายไป การที่ใจเราเห็นความจริงซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเริ่มยอมรับความจริง ใจจะค่อยๆ คลายความยึดถือในความรู้นึกนึกคิด ที่เราเคยยึดอย่างแน่นแฟ้นเป็นจริงเป็นจัง

ความทุกข์ทั้งหลายที่เรามีเกิดจากการยึดถือความรู้สึก ความคิด ความเห็น ความอยาก ความต้องการของเราอย่างแน่นแฟน พอสิ่งต่างๆ หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุตามธรรมชาติ ไม่เป็นอย่างใจเรา ก็เดือดร้อนทุกข์ทรมานแสนสาหัส

รู้ทันความอยาก ความยึดถือ ความต้องการฝืนความจริง วางความอยาก ความยึดถือลง ใจก็พ้นจากความทุกข์ไปทีละขณะ

ความจริงของชีวิตก็มีแค่นี้ อยากมีชีวิตที่มีความทุกข์น้อยๆ ก็คอยหมั่นรู้ทันใจ วางความยึดถือลงทีไร ใจก็พ้นทุกข์ได้ชั่วคราว

ปัญหาในชีวิตคนมีมากมายไม่รู้จบ แต่คำตอบมีแค่นี้ ความทุกข์เกิดขึ้นที่ใจ ก็ดับลงที่ใจ ด้วยการ "รู้ทัน" เห็นความจริง ทุกความรู้สึกผุดขึ้นชั่วคราวแล้วก็หายไป เราต่างหากที่ไม่เคยมีสติรู้ทัน ถลำไปช่วยมันสร้างความทุกข์ต่อเติมความทุกข์ขึ้นมามากมาย จนแทบเอาตัวไม่รอด

ความทุกข์ ความกังวล ความไม่สบายใจ เป็นส่วนเกิน ไม่ได้ช่วยให้เราแก้ปัญหาได้ดีขึ้น การรู้ทันความรู้สึก จนใจสงบตั้งมั่น จะช่วยให้เราทำหน้าที่มองปัญหา แก้ปัญหาได้ดีกว่า ที่สำคัญคือไม่ได้แปลว่า ให้รู้ทันใจอย่างเดียว แล้วงอมืองอเท้า ไม่ทำหน้าที่ ไม่จัดการกับสิ่งที่ต้องทำ

ไอน์สไตน์เคยบอกว่ามนุษย์เป็นเพียงเศษธุลีของจักรวาล ดิฉันเองก็มักจะรู้สึกเสมอว่า ถ้าเรามองมาจากนอกโลก ไม่ต้องไกลมาก มนุษย์ก็มีขนาดเล็กกว่าเชื้อโรคเสียอีก เชื้อโรคเหล่านี้ก็สำคัญผิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ อะไรเกิดขึ้นเล็กๆ น้อยๆ แค่ลมผ่านหู ใครจะพูด จะมอง จะคิดยังไงก็เป็นเรื่องสำคัญไปหมด

ที่จริงแล้วในมิติแห่งเวลาที่หาต้นไม่ได้หาปลายไม่เจอ ชีวิตเราและคนอื่นๆ สั้นนัก แต่ละคนก็มีปัญหาในชีวิตตัวเองจนแทบรับมือไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้าเขาจะเจียดเวลามานินทาคุณ ไม่ใช่เรื่องของคุณสำคัญ แต่เป็นเพียงแค่เพราะเขาอยากเอาใจออกจากปัญหาของตัวเอง ลืมมันชั่วคราว ปลอบตัวเองว่าชีวิตคุณแย่กว่าเขาอีก สบายใจ สนุกปากชั่วครู่ก็ต้องกลับไปเผชิญหน้ากับความจริงของชีวิตตัวเองอีก

ชีวิตเราทุกคนก็เหมือนหนอนในส้วมหลุม ดิ้นรนสนุกสนานอยู่กับกองอุจจาระว่าเป็นของดี ของวิเศษ กินดื่ม เสพ สนุกสนานเพลิดเพลินไปวันๆ แก่งแย่งชิงดี ทำร้ายกันอย่างไรก็อยู่ในเหวอุจจาระอยู่ดี ไม่รู้หนทางที่จะหลุดออกมาได้

ความตาย ความทุกข์ ความเจ็บปวดพลัดพรากอยู่ตรงหน้าเราทุกขณะ แต่เราพยายามปิดหูปิดตาตัวเอง ไม่ดูไม่มอง ทำใจให้เคลิบเคลิ้มเพลิดเพลินไปวันๆ

มีความทุกข์มาเยี่ยมเยียนในชีวิตก็ดีแล้ว จะได้คอยย้ำเตือนให้เราไม่ประมาท ใช้ชีวิตเพียงกิน ดื่ม สนุก สืบพันธุ์ แล้วก็ตายจากโลกนี้ไป เสียโอกาสที่จะมาเรียนรู้ความจริง ลืมเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต

จนต้องจมอยู่ในเหวอุจจาระไปอีกนานแสนนาน

จากหนังสือ IMAGE พฤษภาคม 2550


http://www.ee43.com/content/topic/340.html
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 2:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความทุกข์เกิดเพราะเราไปคิด จะให้มันเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ พอได้สิ่งที่ไม่ตรงกับที่เราต้องการ ที่เราคิด มันก็ทุกข์
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 3:20 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

อ้างอิงจาก:
มนุษย์เป็นเพียงเศษธุลีของจักรวาล : ฐิตินาถ ณ พัทลุง
เรื่อง : ฐิตินาถ ณ พัทลุง


ชีวิตเราทุกคนก็เหมือนหนอนในส้วมหลุม ดิ้นรนสนุกสนานอยู่กับกองอุจจาระว่าเป็นของดี ของวิเศษ กินดื่ม เสพ สนุกสนานเพลิดเพลินไปวันๆ แก่งแย่งชิงดี ทำร้ายกันอย่างไรก็อยู่ในเหวอุจจาระอยู่ดี ไม่รู้หนทางที่จะหลุดออกมาได้

ความตาย ความทุกข์ ความเจ็บปวดพลัดพรากอยู่ตรงหน้าเราทุกขณะ แต่เราพยายามปิดหูปิดตาตัวเอง ไม่ดูไม่มอง ทำใจให้เคลิบเคลิ้มเพลิดเพลินไปวันๆ

มีความทุกข์มาเยี่ยมเยียนในชีวิตก็ดีแล้ว จะได้คอยย้ำเตือนให้เราไม่ประมาท ใช้ชีวิตเพียงกิน ดื่ม สนุก สืบพันธุ์ แล้วก็ตายจากโลกนี้ไป เสียโอกาสที่จะมาเรียนรู้ความจริง ลืมเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต

จนต้องจมอยู่ในเหวอุจจาระไปอีกนานแสนนาน

สาธุ สู้ สู้
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2008, 10:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุครับ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 19 ก.ย. 2008, 8:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ซึ้ง ร้องไห้ สู้ สู้ สาธุ แลบลิ้น สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง