Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ผลมะม่วงทิพย์ (สมหวัง วิทยาปัญญานนท์) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 05 ก.พ.2006, 11:10 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



mango.jpg


ผลมะม่วงทิพย์
Spirit Mango


สมหวัง วิทยาปัญญานนท์
19 พฤศจิกายน 2548


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีต้นมะม่วงต้นหนึ่งที่ออกผลดก มีลูกเหลืองอร่ามน่ากิน ที่โคนต้นไม้มีหมูป่า ดุนโคนต้น พรวนดิน และใส่ปุ๋ยด้วยน้ำปัสสาวะ และอุจจาระ พอมะม่วงสุกก็จะหล่นลงมาพอให้ได้กินบ้าง

มีฝูงไก่ป่าอยู่ฝูงหนึ่ง 4-5 ตัว หากินอยู่ที่โคนต้นมะม่วง จิกลูกมะม่วงที่หล่นลงพื้นบ้างบางครั้ง

บนต้นไม้มีฝูงลิง ที่ปีนป่าย คอยเก็บมะม่วงสุกกิน และบางส่วนเอาไปมอบให้ราชากวาง ที่ปลายทุ่งไกลออกไป ราชากวางเป็นเจ้านายของฝูงลิงนี้ด้วย ดังนั้น ลิงจึงมักทำความดีความชอบเอาใจราชากวางอยู่เสมอ เพื่อสร้างผลงาน

เมื่อปีใดต้นมะม่วงเกิดผลดก มีรสอร่อย ความสมดุลระหว่าง หมูป่า ไก่ป่า ลิงป่า และราชากวางก็อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เพราะยังไม่มีปัญหาเรื่องปริมาณและคุณภาพของผลมะม่วง

มีอยู่ปีหนึ่ง ฝนแล้งติดต่อกัน ทำให้ผลมะม่วงออกผลน้อย รสชาติก็ไม่อร่อย ลิงที่เก็บผลมะม่วงกินก็มาโทษหมูป่าว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้มะม่วงออกผลน้อยลง หาว่าไปขุดสะดุดราก ทำพื้นแฉะเป็นหนองน้ำ เวลานำผลมะม่วงไปมอบให้ราชากวาง ก็บอกว่าปีนี้ผลมะม่วงน้อยลงและก็ไม่อร่อย เพราะฝูงหมูป่าทำไม่ดีต่อต้นมะม่วง ราชากวางก็เลยสั่งการให้ลิงป่าไปตักเตือนหมูป่า อย่าขุดคุ้ยโคน อย่าทำหนองน้ำแฉะและให้จัดการกลบพื้นที่ให้เรียบร้อย

หมูป่าก็ว่าตนเองไม่ใช่สาเหตุ ก็เลยโต้เถียงกับลิงป่า ในขณะที่การโต้เถียงดำเนินการไป ไก่ป่าก็เฝ้าสังเกตการณ์ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะมีผลกระทบน้อย ไปกินแมลง หรืออื่นๆ ก็ได้ หมูป่าก็เลยทำตามที่ลิงป่าบอกบ้างไม่ทำบ้าง ลิงเห็นดังนั้นจึงนำเรื่องไปฟ้องราชากวาง ราชากวางโกรธมากจึงนำฝูงกวางประมาณ 20 ตัว เคลื่อนทัพมาเพื่อแสดง แสนยานุภาพ หมูป่าก็เลยกลัว และยอมทำตาม

ปีต่อมามะม่วงก็ออกผลน้อย หมูป่าก็ไม่ได้ทำอะไรกับต้นมะม่วง และก็เห็นว่าไปหากินที่ใต้ต้นตะขบบ้าง เพราะรำคาญที่ลิงป่ามาโทษตนผิดอยู่เรื่อยๆ ลิงป่าก็เอาผลมะม่วงที่รสชาติไม่อร่อยเหมือนปีที่แล้วไปให้ราชากวางอีก คราวนี้ราชากวางเฝ้าดูอยู่ มาคุมกำลังเอง เรียกลิงป่ามาต่อว่า ว่าเป็นเหตุให้ต้นมะม่วงออกผลน้อยลง จากการวิ่งเล่น กระโจนไปมาตามกิ่งไม้ เขย่ากิ่งทำให้ผลร่วงหล่นง่าย ดอกหล่นขณะเกิดผล ราชากวางกล่าว และเห็นว่าหมูป่าเกี่ยวข้องน้อย ก็เลยบังคับไม่ให้ลิงวิ่งไปมาบนต้นมะม่วง ให้เดินและปีนเบาๆ สิ่งนี้ทำให้ลิงป่าอึดอัดมาก

การปรับตัวของลิงป่า โดยการเดินและปีนเบาๆ และหลีกเลี่ยงการปีนป่ายที่ต้นมะม่วงต้นนี้ และออกให้ห่างๆ จาก ดอกและผลมะม่วงที่กำลังเติบโตอยู่ อย่างไรก็ตามเนื่องจากปีนี้ลมแรง และมีฝนกระหน่ำ ทำให้ผลมะม่วงออกลูกติดผล ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว แต่ก็ยังน้อย ได้ปริมาณแค่ครึ่งหนึ่ง รสชาติก็ดีกว่าปีที่แล้ว แต่ก็ไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมานานแล้ว

ราชากวางเรียกประชุมกลุ่มลิงป่า รวมทั้งเรียกไก่ป่าและหมูป่ามาด้วย ว่าทำไมผลมะม่วงทิพย์ที่มีรสชาติอันโอชะ จึงมีปัญหา ทั้งๆ ที่ลิงป่าก็ใช้มาตรการเดินเบาๆ และออกห่างๆ จากดอกผลมะม่วงแล้ว

ลิงป่าก็บอกว่าตนเองทำดีแล้ว แต่หมูป่ายังทำไม่ดี เพราะไม่มีการดูแลพื้นที่โคนใต้ต้นมะม่วง ทำให้ต้นมะม่วงมีอาหารขาดแคลน ส่งผลให้มะม่วงไม่แข็งแรง มีสุขภาพไม่ดี ฝ่ายหมู่ป่าก็ว่าสาเหตุจากลิงป่า ก็เลยเป็นสิ่งโต้เถียงกัน ขัดแย้งกันทางความคิด ราชากวางก็เลยสั่งให้ทั้งสองฝ่ายไปดำเนินการดังนี้ ฝูงลิงป่าห้ามเข้าใกล้กิ่งที่ติดผลน้อยกว่า 5 ช่วงตัว และหมูป่าต้องทำความสะอาดกิ่งไม้ใบหญ้าใต้โคนต้นทุกๆ วัน

จากผลการกระทำดังกล่าว ปีต่อมา ผลมะม่วงออกลูกดีขึ้น ปริมาณก็เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ราชากวางกำหนด คือปริมาณต้องมากเหมือน 10 ปีที่แล้ว รสชาติก็ต้องอร่อย กินไม่รู้อิ่ม

ราชากวางจึงเรียกประชุมอีก คราวนี้ทุกฝ่ายต่างก็ว่าของตนทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว และเริ่มสงสัยว่าน่าจะมีเหตุปัจจัยที่สาม หรือสมมติฐานใหม่ น่ามีเหตุจากไก่ป่าด้วยหรือเปล่า เพราะก็เคยมาหากินคุ้ยเขี่ยตามโคนต้นมะม่วง บางครั้งก็บินขึ้นมานอนบนกิ่งไม้ บนต้นมะม่วงด้วย

ไก่ป่าผู้ทรงปัญญา เพราะเดินบนพื้นก็ได้ ไปยืนอยู่บนที่สูงก็ได้ บางครั้งก็บินไปมาได้ ก็เลยเห็นความเป็นไปของธรรมชาติหลายๆ อย่าง ในป่าใหญ่แห่งนี้ แต่ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะปัญหายังไม่ได้กระทบต่อวิถีชีวิตของตน และชี้แจงในที่ประชุมว่า ปีนี้ฝูงไก่ไม่ได้มาแถวๆ ต้นมะม่วงต้นนี้มานานแล้ว คิดว่ากิจกรรมอาชีพหากิน ไม่น่าจะมีผลกระทบถึงการออกผลมะม่วง

หลังเลิกประชุม ไก่ป่าได้ไปคุยกับหมูป่านอกรอบว่า สาเหตุใหญ่ที่ทำให้ผลมะม่วงออกลูกไม่ดกและรสชาติไม่ดีนั้น เราจะต้องมีการพิสูจน์ ไปดูหน้างานหน้าพื้นที่จริง อย่าเอาแต่ประชุมที่ทุ่งหญ้า และคิดๆ เอง จะไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงและการแก้ปัญหาก็ไม่ตรงจุด เหนื่อยเปล่า เสียเวลาเปล่า และเสียอารมณ์อีกด้วย ซึ่งหมูป่าก็เห็นด้วย ไปดูที่ต้นมะม่วงสถานที่เกิดเหตุจะดีกว่า

เพื่อให้เกิดผลการดำเนินการที่ดีก็เลยเชิญหมาป่า ซึ่งมีอำนาจมาเป็นหัวหน้าทีม เพื่อป้องกันคนครหา สร้างความเป็นกลางของข้อมูล การทดลองพิสูจน์เริ่มจาก แนวคิดที่ไก่ป่าเคยเห็นมนุษย์เขาทำกัน ว่ามีการพรวนดิน ใส่ปุ๋ย ก็เลยวางแผนการทดลอง โดยหมูป่าใช้จมูกพรวนดิน ใส่ปุ๋ยอุจจาระ และปัสสาวะ ในสัดส่วนที่เหมาะสม ลิงป่าก็ห้ามขึ้นต้นมะม่วง แล้วสังเกตความสดชื่นของใบมะม่วง ก็พบว่าดีขึ้น สดขึ้น ในช่วงที่ทดลอง พวกกระรอกป่าก็แอบดูอยู่ ซุบซิบ แต่ก็ไม่กล้าโวยวาย ประท้วงว่าตนเองเดือดร้อนจากการทำงาน หมูป่าที่พรวนดินขรุขระไปหมด เพราะมีหมาป่าคุมเชิงเป็นหัวหน้าทีม ผลการทดลองจึงผ่านไปด้วยดี

ผลปลายปี ผลมะม่วงออกผลดกมาก ทั้งๆ ที่ฝนตกหนัก ลมก็พัดแรง รสชาติก็อร่อย ฝูงลิงป่าเห็นดังนั้นก็รีบนำผลมะม่วงไปมอบให้ราชากวาง พอราชากวางชิมม่วงดู รู้สึกรสชาติดีมาก และฟังลิงป่ารายงานผลงาน ราชากวางก็เลยชมเปราะว่าลิงป่าเก่งมาก ที่ทำให้ผลมะม่วงออกผลดี มีรสชาติอร่อย คิดว่าทำมาถูกทางแล้ว และผลงานของราชากวางเองด้วยที่มีการเรียกประชุมบ่อยๆ จึงดำริที่จะฉลองชัยชนะ ราชากวางจึงนำเรื่องเสนอราชาช้างเพื่อประกาศเกียรติคุณให้กับราชากวางและฝูงลิง โดยการมอบผลมะม่วงให้ฝูงลิงและราชากวาง และประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

ในขณะที่ไม่พูดถึงการกระทำของหมูป่าและไก่ป่าแต่อย่างไร สำหรับไก่ป่านั้นไม่เท่าไรเพราะหากินไกล ไม่ต้องพึ่งต้นมะม่วงต้นนี้ก็ได้ แต่หมูป่าซิ นั้นต้องทำงานหนักต่อเนื่องทุกวัน ทั้งพรวนดิน ใส่ปุ๋ยตามที่ไก่ป่าแนะนำ เหนื่อยก็เหนื่อย ใครๆ ก็ไม่ให้ความสำคัญ ไม่มีการยกย่อง ผลมะม่วงก็ไม่ได้กิน

ช่วงที่ผลมะม่วงตกลูกเหลืองอร่ามนั้น ราชากวางและลิงป่าก็ทำแผนประชาสัมพันธ์โฆษณา หลายอย่าง เพื่อให้ข่าวสารขจรขจายออกไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นกระต่าย หนู แมว ก็ยังรู้ไปทั่ว มีกิจกรรมปลูกต้นไม้มะม่วงใหม่ จากเมล็ดพันธุ์ การพาฝูงสัตว์นาๆ ชนิด รวมทั้งราชาช้าง มาเยี่ยมชม ต้นมะม่วง ผลมะม่วง

เหนื่อยนักก็พักก่อน หมูป่าเริ่มท้อ เหนื่อย เพราะทำดี ก็มีแต่เหนื่อย มะม่วงก็ไม่ได้กิน แต่ก็ต้องพรวนดิน ใส่ปุ๋ยทุกวัน แม้นว่าช่วงหลังนี้จะได้เครื่องมือพิเศษเป็นผานไถ ที่มนุษย์ทิ้งไว้ มาลดงานลง แต่ก็ยังเหนื่อยอยู่ดี หมูป่าจึงทำงานน้อยลง ทำบ้างไม่ทำบ้าง

จากผลการทำงานดี ที่ไม่ส่งผลดีต่อผู้กระทำ ย่อมไม่ยั่งยืน และไม่เป็นไปตามหลักของการสมดุล ทำให้ผลลัพธ์เป็นเพียงแค่ดีชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งสังเกตว่า หมูป่าไม่ได้รับการยกย่อง และก็ไม่ได้ผลประโยชน์จากมะม่วง และจากผลการทำงานของผู้มีอำนาจเหนือกว่า คือราชากวาง และลิงป่า ที่ทำการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด แต่กลับได้รับผลดี ได้รับการยกย่อง ก็เลยเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ยั่งยืน ที่ฟลุคมีไก่ป่าผู้ชาญฉลาดและหมูป่าผู้ขยัน เป็นคนแก้ไขปัญหาไหว้ ผลปรากฏว่าปีนี้ ผลมะม่วงออกลูกไม่ดก และรสชาติเริ่มออกเปรี้ยวๆ ไม่อร่อย แสดงว่าปัญหานี้ เริ่มเกิดซ้ำแล้ว

ปีนี้ผลมะม่วงไม่ดีอีกแล้ว ราชากวางร้อนใจมาก เพราะรู้สึกเสียหน้า ลิงป่าก็ทำตัวเงียบๆ เพราะเป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนัก ราชากวางทำการเรียกประชุมอีก โดยเชิญทุกฝ่ายเข้ามาประชุม ประกอบด้วย หมูป่า ลิงป่า ไก่ป่า และหมาป่า เพื่อมาสอบถามว่า ทำไมปีที่แล้วก็ดีแล้ว แล้วปีนี้มีอะไรเกิดขึ้น ผลมะม่วงจึงไม่ดี ทุกฝ่ายก็ต่างว่าคนเองทำดีที่สุดแล้ว โทษฝ่ายอื่น หลายฝ่ายก็ไม่กล้าพูดความจริง

จากเหตุการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้ ราชาช้างได้มีคำถามว่า ราชากวางทำอะไรอยู่ ผลมะม่วงจึงไม่ดีอีกแล้ว ราชากวางก็ตอบไม่ค่อยได้ เพราะไม่ค่อยให้ความสำคัญ ต่อการแก้ปัญหาที่เหตุรากเหง้า อย่างไรก็ตามราชากวาง ก็พยายามส่งลูกฝูงกวางที่เป็นกวางหนุ่มสาวไฟแรง มาตรวจการณ์ จ้องจับผิดฝูงลิง หมูป่า และไก่ป่า อย่างเข้มข้นอีก

ไก่ป่าและหมูป่าก็ได้แต่เฝ้ารอว่า เมื่อไรหนอที่ราชากวางจะเริ่มมีการมองปัญหาที่ความเป็นจริง และทุ่มเทมาที่เหตุปัจจัยที่แท้จริง ทั้งในเชิงกำลังทรัพยากร เชิงกำลังใจ เชิงการปกครอง กันเสียที ปัญหาจะได้จบ และไม่เกิดซ้ำอีก

นิทานเรื่องนี้แสดงให้เห็น การเวียนว่ายตายเกิดของปัญหา ที่เวียนเกิดซ้ำ หาทางฟันฝ่าให้พ้นทุกข์ได้ยาก เนื่องจากไม่แก้ที่เหตุรากเหง้า

บทเรียนเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า

1. การที่จะทำดี แล้วก่อให้เกิดผลดี นั้นต้องใช้ปัญญา

2. การค้นหาสาเหตุก่อนการแก้ปัญหาจริง นั้นเป็นสิ่งจำเป็น

3. ความสามัคคียังเป็นกุญแจสำคัญ ในการแก้ปัญหาของงานส่วนรวม

4. ระบบการให้รางวัลหรือยกย่อง หากไม่สะท้อนต่อคนที่ทำความดี ก็จะไม่ยั่งยืน

5. พยามแก้ปัญหาให้ตรงจุดเพราะทุกชีวิตมีเวลาจำกัด ทรัพยากรจำกัด ทำมากก็เหนื่อยมาก

6. การหาความรู้จากที่อื่นมาประยุกต์ใช้แก้ปัญหาก็เป็นวิธีการหนึ่งที่ดีๆ ในการลดเวลาการแก้ปัญหา

7. การโต้แย้ง การไม่ไว้วางใจ จากทุกฝ่าย ทำให้ไม่ทราบความจริงที่จำเป็นต่อการแก้ปัญหา

8. การมุ่งหาคนผิด จับผิด แล้วประจาน ไม่ควรใช้เป็นวิธีการแรกที่ใช้ แต่ความเป็นวิธีสุดท้ายที่หลีกเลี่ยงแล้วก็ยังไม่พ้น ควรใช้จิตที่มุ่งจับผิด มามุ่งหาข้อบกพร่องของงานจะดีกว่า

9. บางครั้งก็ต้องหาผู้มีอำนาจมีบารมี มาเป็นหัวหน้าทีม เพื่อป้องกันการโวยวายจากปากหอย ปากปูปากปลา ที่มาบั่นทอนกำลังใจ ของคนที่จะทำงานแก้ปัญหา

10. การประชุมกันนับว่าเป็นเรื่องดี แต่หากเอามาเป็นเครื่องมือหาคนผิด หรือติดตามงานอย่างเดียว ก็จะนำเครื่องมือนี้มาใช้ในทางที่ผิด


หวังว่านิทานเรื่อง ผลมะม่วงทิพย์ จะสอนแง่คิดในเรื่องการบริหารงาน ที่มุ่งแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี


.................................................

คัดลอกจาก
http://www.budmgt.com/lifeways/tale/spirit-mango.html

ตกใจ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
tiger36
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 06 ก.ย. 2007
ตอบ: 18

ตอบตอบเมื่อ: 28 ต.ค.2007, 7:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 11 มิ.ย.2008, 4:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปรบมือ เป็นเรื่องที่ดีมากเลยครับ ยิ้มขยิบตา
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 26 ส.ค. 2008, 11:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หมายถึงแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ใช่เปล่า ขอบคุณจ้า สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 7:46 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง