Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 อาการที่เกิดขณะนั่งสมาธิ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
น้ำ
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 11 ก.ย. 2008
ตอบ: 1

ตอบตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 12:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

รบกวนสอบถามผู้รู้ คือว่า

1. เวลานั่งสมาธิแล้ว เกินอาการมีน้ำลายออกมามาก จะแก้ไขอย่างไรดีค่ะ เพราะว่าทำให้ต้องกลืนน้ำลายอยู่เรื่อยเลย แล้วอาการแบบนี้เค้าหมายถึงอย่างไรหรือเปล่า

2. ใช้วิธีภาวนา ยุบหนอ พองหนอ แล้วรู้สึกขัดๆ ก็เลยใช้วิธีภาวนา คำว่าพุธ ตอนท้องป่อง โธ ตอนท้องแฟบ แทนจะได้หรือเปล่า

3. เวลาถ้าเกิดเวทนา กับ เกิดอาการคิดฟุ้งซ่าน พร้อมกัน เลือกกำหนดอย่างใดอย่างหนึ่งใช่ หรือเปล่า

4. เวลากำหนดลมหายใจ ทำไม่บางที่มันรู้สึกอึดอัด เหมือนมีอะไรมีจุกที่คอ แล้วท้องมันก็รู้สึกว่ามันเกร็งๆ ก็ไม่ทราบ แล้วก็เหมือนอยากจะเลออยู่เรื่อยเลย

(เคยไปปฎิบัติที่วัดอัมพวัน มานานมากแล้ว ตอนนี้ได้แต่นั่งสมาธิอยู่ที่บ้านก่อนนอน ก็จะสวดมนต์ก่อน แล้วค่อยนั่งสมาธิ เป็นประจำเกือบทุกวันๆ ละครึ่งชม.)

ขอขอบคุณทุกท่านไว้ล่วงหน้าค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 3:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
1. เวลานั่งสมาธิแล้ว เกิดอาการมีน้ำลายออกมามาก จะแก้ไขอย่างไรดีค่ะ เพราะว่าทำให้ต้องกลืนน้ำลายอยู่เรื่อยเลย แล้วอาการแบบนี้เค้าหมายถึงอย่างไรหรือเปล่า


1. เป็นและถามเหมือนกระทู้นี้เลย

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16808

เป็นธรรมดาครับคุณน้ำ เราจะนั่งสมาธิหรือไม่น้ำลายก็ไหลเป็นปกติของมัน แต่...ตอนที่ไม่นั่งสมาธิไหลเราก็กลืนบ้าง บ้วนทิ้งบ้างตามโอกาส แล้วก็ไม่รู้สึกรำคาญ เพราะเรายังไม่มีเป้าหมาย
แต่พอมีจุดหมายคือการทำสมาธิภาวนา พอน้ำลายไหล (ซึ่งก็ไหลอยู่แล้วดังกล่าว) จึงเกิดความรำคาญ เพราะเราคิดจะทำสมาธิ แต่น้ำลายมาขัดขวาง แล้วไม่รู้จะทำอย่างไรกะมันดี

อ้างอิงจาก:

จะแก้ไขอย่างไรดีค่ะ เพราะว่าทำให้ต้องกลืนน้ำลายอยู่เรื่อยเลย


กลืนครับ แต่ขณะกลืนให้กำหนด “กลืนหนอ” กลืนๆ แล้วก็กำหนดกรรมฐาน
ที่ใช้ต่อไป แค่นี้เอง

การภาวนาท่านให้กำหนดรู้ทุกๆ อย่างที่กายใจนี่ ทางตาบ้าง ทางหูบ้าง ฯลฯ ทางความรู้สึกบ้าง ใช้เป็นกรรมฐานสำหรับฝึกสติได้ทั้งหมดครับ

อ้างอิงจาก:

2. ใช้วิธีภาวนา ยุบหนอ พองหนอ แล้วรู้สึกขัดๆ ก็เลยใช้วิธีภาวนา คำว่าพุธ ตอนท้องป่อง โธ ตอนท้องแฟบ แทนจะได้หรือเปล่า



2. ในเมื่อพอง-หนอ ยุบ-หนอ แล้วรู้สึกขัดๆ จะใช้พุท ตอนท้องพอง ใช้ โธ ตอนท้องยุบ ก็พออนุโลมได้ เมื่อลมหายใจเข้า-ออกเร็ว-สั้น (เทียบกับผู้ที่ใช้พอง-หนอ ยุบ-หนอ เมื่อพอง-ยุบ สั้น-เร็ว ตัดหนอออกภาวนา พอง-ยุบ คำเดียวได้)

แต่เมื่อลมเข้า-ออกยาว พุท หรือ โธ คำเดียวจะสั้นไป
ควรพิจารณาเองได้ว่าจะใส่คำใด เพื่อให้พอดีที่สุดพองสุดยุบ
วิธีปฏิบัติยืดหยุ่นปรับได้ครับ

อ้างอิงจาก:

3. เวลาถ้าเกิดเวทนา กับ เกิดอาการคิดฟุ้งซ่าน พร้อมกัน เลือกกำหนดอย่างใดอย่างหนึ่งใช่ หรือเปล่า


3. อารมณ์ใดชัด ก็กำหนดอารมณ์นั้นในขณะนั้นก่อน เช่น เวทนาปรากฏชัดก็กำหนดเวทนา (ตอนนั้นเวทนาเป็นกรรมฐาน ก็กำหนดตามอาการ) เมื่อฟุ้งซ่านรู้สึกตัว “ฟุ้งซ่านหนอ” (ตอนนั้น อาการฟุ้งก็เป็นกรรมฐาน คนละขณะกัน) กำหนดแล้วปล่อยวางอารมณ์นั้น แล้วกำหนดกรรมฐานหลัก คือ พอง-ยุบ เป็นต้นต่อไป

อ้างอิงจาก:

4. เวลากำหนดลมหายใจ ทำไมบางที่มันรู้สึกอึดอัด เหมือนมีอะไรมีจุกที่คอ แล้วท้องมันก็รู้สึกว่ามันเกร็งๆ ก็ไม่ทราบ แล้วก็เหมือนอยากจะเลออยู่เรื่อยเลย


4. พึงทราบแนวทางการปฏิบัติกรรมฐานกว้างๆ ดังนี้ ครับ
กรรมฐาน แปลว่า ที่ทำงานของจิต หรือ ที่ให้จิตทำงาน
สติปัฏฐาน แปลว่า ที่ตั้งของสติ หรือที่ฝึกสติ ฯลฯ

ในขณะนั้น อารมณ์ หรือ อาการใดเกิดขึ้นเรารับรู้ รู้สึกได้ นั่นแหละครับ คือกรรมฐาน หรือ ที่ฝึกสติสัมปชัญญะ ตั้งสติกำหนดรู้ตามเป็นจริง เป็นอย่างไรกำหนดอย่างนั้น ขณะที่กำหนดนั่นแหละครับ กุศลธรรม เช่น สติสัมปชัญญะหรือปัญญาเกิดแล้วทุกๆครั้งที่เรากำหนดอารมณ์นั้นๆ
เช่น รู้สึกอึดอัด “อึดอัดหนอๆ” รู้แล้วปล่อยวางอารมณ์นั้น
รู้สึก จุกที่ตรงไหนก็แล้วแต่ “จุกหนอๆๆ” รู้แล้วปล่อยวาง...
รู้สึกเกร็งๆที่ท้องเป็นต้น “เกร็งๆๆ” รู้แล้ววางอารมณ์นั้น
รู้สึกว่าจะเรอ “จะเรอหนอๆ” รู้แล้วปล่อยวาง อารมณ์นั้นแล้วกำหนดกรรมฐานที่ใช้เป็นหลักต่อไป
อย่างอื่นอีกก็ใช้วิธีปฏิบัติลักษณะเดียวกันนี้

เห็นไหมครับสิ่งดังกล่าวเป็นอารมณ์กรรมฐานได้หมดเลย เป็นประโยชน์ทั้งนั้น
แล้วต่อไปสิ่งที่เรากำหนดรู้แล้วนั้นๆจะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป

อ้างอิงจาก:

(เคยไปปฎิบัติที่วัดอัมพวัน มานานมากแล้ว ตอนนี้ได้แต่นั่งสมาธิอยู่ที่บ้านก่อนนอน ก็จะสวดมนต์ก่อน แล้วค่อยนั่งสมาธิ เป็นประจำเกือบทุกวันๆ ละครึ่งชม.)


เดินจงกรมมั่งครับ สมมุติว่า สวดมนต์เสร็จ ยังพอมีเวลา 30 นาที วันนี้นั่ง (แล้วนอน) พรุ่งนี้จงกรม (แล้วนอน) สลับกันแบบนี้ก็ได้ ตามเวลาและโอกาส หรือจะจงกรม 15 นาที นั่ง 15 นาที ก็ได้
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 19 ก.ย. 2008, 8:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สู้ สู้ เยี่ยมครับอาจารย์กรัชกาย

สาธุ สาธุครับเยี่ยมมากครับ สาธุ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง