Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 วิจัยเรื่อง " ธรรมกาย " อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่หัวข้อนี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไข หรือตอบได้
ผู้ตั้ง ข้อความ
เฉลิมศักดิ์1
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 17 เม.ย. 2007
ตอบ: 272
ที่อยู่ (จังหวัด): ระยอง

ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2008, 6:33 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทธวิทยาน่ารู้(๑๘)
โดย พระครูศรีโชติญาณ (พระมหาแสวง โชติปาโล)

http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew&topic=10156


ปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง "ธรรมกาย" นี้ เป็นปัญหาที่ชาวพุทธเคยยกขึ้นวิพากย์วิจารณ์ กันมานานพอสมควร และก็เป็นแนวที่สร้างความเชื่อถือให้แก่ชาวพุทธอย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้ ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์อีกด้วย ข้อสำคัญที่น่าสังเกตอีกอันหนึ่งก็คือ มิใช่แต่บรรพชิตธรรมดาสามัญเท่านั้น แม้บรรพชิตระดับมหาเปรียญตลอดถึงพระเถระผู้ใหญ่ก็สนใจกันมาก โดยที่สุดแม้ตัวของผู้วิจัยเองก็เคยได้เป็นศิษย์ของพระคุณท่านมาแล้ว


เรื่องที่น่าอัศจรรย์ที่สุดก็คือ สมัยที่พระคุณท่านยังมีชีวิตอยู่แนวปฏิบัติวิธีนี้ ก็ยังไม่เจริญรุ่งเรืองเท่าใดนัก ครั้นมาสมัยที่พระคุณท่านมรณภาพแล้ว ก็ยิ่งสร้างความมหัศจรรย์มากยิ่งขึ้น จนชาวพุทธและมิใช่พุทธก็ยอมรับกันว่า ยิ่งใหญ่จริง ๆ ถ้าพูดกันในเรื่องของลาภผลแล้ว ก็ต้องยอมยกถวายให้ทีเดียว


ในส่วนตัวของพระคุณท่านจะได้พบธรรมแค่ไหนเพียงไรนั้นจะไม่ขอออกความคิดเห็นในที่นี้ เพราะสุดปัญญาของผู้วิจัยที่ยกเอาขึ้นมาพูดกันได้ แต่ในความรู้สึกก็คาดว่า มิใช่สามัญชนอย่างเรา ๆ จะพึงทำกันได้ ถ้าพูดกันแบบนี้ก็พอจะฟังกันง่าย


ครั้นต่อมาสมัยชั้นศิษย์ผู้สืบทอดจะยังทรงแนวและเดินตามถึงท่านหรือไม่ อันนี้ก็ไม่อาจที่จะวิจัยได้เช่นกัน

แต่สำหรับผู้วิจัยเองได้เคยถูกมีผู้มาถามว่า "เดี๋ยวนี้พระพุทธเจ้ายังอยู่หรือไม่มีแล้ว"


เมื่อถูกถามเข้าอย่างนี้ก็จำต้องตอบกันไปตามแบบปริยัติเท่าที่ได้เคยเรียนมาว่า "ไม่มีแล้วเสด็จปรินิพพานไปนานตั้ง ๒๕๔๕ พรรษาเข้านี่แล้ว"


แต่แทนที่ผู้ถามจะเชื่อถือหรือคล้อยตามกับถูกค้านว่า "ไม่จริงดอกท่าน"


ผู้วิจัยจึงย้อนถามเขาว่า "อ้าวทำไมล่ะ"


"ก็ท่านยังไม่ถึงธรรมกายนี่ ท่านจะไปรู้อะไรเล่า เดี๋ยวนี้ คนที่เข้าถึงธรรมกายแล้วน่ะ เขาเห็นกันว่าวันอุโบสถ ขึ้นหรือแรม ๑๔-๑๕ ค่ำ ถ้าไปนั่งให้ถึงขั้นธรรมกาย เขาเห็นพระพุทธเจ้ามาลอยอยู่ที่หลังคาโบสถ์...แสดงว่าพระพุทธเจ้ายังอยู่ แล้วท่านจะว่าไม่มีอย่างไรเล่า"


ผู้วิจัยก็ตอบเข้าไปว่า "มิได้ ที่พูดว่าไม่มี เสด็จปรินิพพานนานแล้วนั้น พูดกันตามหลักของพระปริยัติศาสนาเท่าที่มีมาในมหาปรินิพพานสูตร


เพราะเมื่อตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ณ ควงไม้มหาโพธิในวันเพ็ญวิสาขปุณณมีติถีเพ็ญเดือน ๖ ก็ทรงดับสรรพกิเลสเป็นสมุจเฉทปหาน เป็นสอุปาทิเสสนิพพานไปแล้วยังเหลืออยู่แต่เบญจขันธ์ ที่พระพุทธองค์


ทรงใช้เทศนาโปรดสรรพสัตว์อยู่ถึง ๔๕ พระพรรษาแล้ว จึงเสด็จดับขันธปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพาน ไม่มีเหลือสิ่งใดอยู่เลย นอกจากพระบรมสารีริกธาตุ ๓ ขนาด เท่าที่ชาวพุทธยังสักการะบูชากันอยู่เท่านั้น

แล้วจะยังมีพระพุทธยังสักการะบูชากันอยู่เท่านั้น แล้วจะยังมีพระพุทธเจ้าอะไรอีกเล่าที่เสด็จมาล่องลอยอยู่ที่หลังคาโบสถ์"

แทนที่เขาจะหยุดเพียงแค่นั้น ยังปรักปรำผู้วิจัยอีกว่าท่านนี่เรียนและปฏิบัติกันมาอย่างไงนี่ ก็พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้กับพระวักกลิมิใช่หรือว่า โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส มํ ปสฺสติ. ผู้ใดเห็นธรรมก็ได้ชื่อว่าผู้นั้นเห็นเรา ก็ท่านยังไม่ได้ธรรมกาย ก็เที่ยวพูดส่งเดชไปได้ "


เมื่อโดนเข้าอย่างนี้ก็เลยไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีกต่อไป เพราะถ้าขืนพูดแล้วเรื่องมันยาว แต่ทว่าอยากจะนำเอาเรื่องเหล่านี้มาวิจัยกันดูสักหน่อย จะผิดหรือถูกจะตรงกับคำสอนหรือไม่ ก็ขอให้ผู้ที่เปิดอ่านได้โปรดพิจารณาดูด้วยวิจารณญาณด้วย


ก่อนอื่น ที่จะพูดถึงเรื่องของ "ธรรมกาย" ก็อยากจะพูดถึงเรื่องบาลีว่า "ผู้ใด เห็นธรรม ได้ชื่อว่า ผู้นั้นเห็นเรา" เสียก่อน


อันที่จริงบาลีนี้ มิใช่เป็นบาลีที่พระพุทธเจ้าตรัสเป็นคาถาโดยตรงดอก แต่เป็นเพียงพระพุทธโฆษาจารย์ได้ยกเอามาพูดไว้ในท้องนิทานธรรมบท ภาค ๘ หน้า ๘๕ มีข้อความเต็มว่า โยโข วกกลิ ธมมํ ปสสติ โส มํ ปสสติ, โย มํ ปสสติ โส ธมมํ ปสสติ.


ซึ่งแปลเป็นความไทยก็ว่า ดูกรวักกลิ ผู้ใดแลเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าเห็นเรา ผู้ใดเห็นเราก็ชื่อว่าผู้นั้นเห็นธรรมฯ แล้วท่านก็มิได้อธิบายอะไรไว้ในเรื่องของความหมาย แต่ก็พอจะยกเอาข้อความที่ท่านได้อธิบายไว้ในอรรถกถามาตีความได้ว่า


"ภิกษุผู้มากไปด้วยความปราโมทย์แม้โดยปกติ ก็ย่อมปลูกความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ภิกษุนั้น เลื่อมใสแล้วอย่างนั้น พึงบรรลุพระนิพพานในพุทธศาสนา อันได้ชื่อว่าสันตบท เป็นที่เข้าไปสงบสังขารเป็นสุข"



จากข้อความตามที่ได้ยกเอามาเป็นหลักยืนยันนี้ จะเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่า คนที่ได้เห็นธรรมนั้นก็คือ คนที่ได้บรรลุพระนิพพานนั่นเอง เมื่อข้าพเจ้ายกเอาหลักมาแสดงกับเขาแล้ว ก็เลยถือโอกาสถามเขาไปเลยว่า "แล้วคุณเล่าได้เห็นพระพุทธเจ้าที่หลังคาโบสถ์...กับเขาหรือเปล่า"


เขาก็ทำเป็นกระอักกระอ่วนอย่างไรพิกลจะรับก็ไม่เชิงจะปฏิเสธก็ไม่ใช่ เมื่อเห็นเขาเงียบ ๆ อยู่เข้าพเจ้าก็เลยพูดกับเขาไปว่า "ใครจะได้เห็น หรือไม่เห็น ข้าพเจ้าไม่ทราบได้ แต่ตัวข้าพเจ้าเองบวชมาก็หลายพรรษาเต็มทีแล้วและแต่ละพรรษาก็อยากจะได้เห็นพระพุทธเจ้าจนตัวสั่น แต่ก็ไม่ได้เห็นกับเขาสักที บาปของข้าพเจ้ามันจะหนาอย่างที่เขาว่ากัน หรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้"


จึงขอฝากความข้องใจไว้กับผู้อ่านเพียงแค่นี้ก่อน




สำหรับเรื่องของ "ธรรมกาย" นั้น เราจะแปลกันอย่างฟังง่าย ๆ ว่า กายธรรม กายทิพย์ กายพรหม ธรรมภูต พรหมภูต ชื่อต่าง ๆ เหล่านี้เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะ


ได้ตรัสแก่วาเสฎฐะและภารัทวาชะในทีฆนิกายปาฏิกวรรค อัคคัญญูสูตรที่ว่าด้วยเรื่องอานิสงส์ของการบวชว่า


"ถ้าเกิดมีใครเขาถามเธอว่าเธอเป็นอะไร?" ก็ควรจะตอบเขาว่า "จะเป็นใครก็ตามมีศรัทธาตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวในพระตถาคตเจ้าแล้ว จะเป็นสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร หรือ พรหมก็ตามก็ควรเรียกได้แล้วว่า เป็นบุตรเป็นโอรสในพระผู้มีพระภาคเจ้าได้


เป็นผู้ที่เกิดแล้วจากพระโอษฐ์ เกิดจากธรรม อันพระธรรมเนรมิตให้เป็นทายาทแห่งธรรม เพราะเหตุไรเล่า เพราะคำว่า "ธรรมกาย" ก็ดี พรหมกายก็ดี ธรรมภูตก็ดี พรหมภูตก็ดี คำที่เป็นชื่อต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นชื่อของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น"


(จาก ที. ปา. ข้อ ๑๑๘ หน้า ๖๙ มีแก้อยู่ในอรรถกถาทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ฉบับ ฉัฎฐะ หน้า ๔๙ ข้อ ๑๑๘ ฎีกาทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค หน้า ๔๑ ข้อ ๑๑๘)



ตามที่ได้ยกเอามาแสดงนี้ ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่าผู้ที่จะได้ธรรมกายเป็นต้น จะมีได้เฉพาะพระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้น นอกนั้นจะเป็นได้ก็เพียงบุตร โอรส ผู้เกิดจากพระโอษฐ์เกิดจากธรรมพระธรรมเนรมิตให้ และเป็นทายาทของธรรมเท่านั้น


แต่ผู้ที่พูดว่าได้ธรรมกายนั้น อาจพูดไปตามมโนภาพเท่าที่ตนเห็นในนิมิตของสมาธิมากกว่า อันการจะตีความอะไร ก็ควรจะใคร่ครวญให้ถ่องแท้ มิฉะนั้นจะพลาดไปโดยความเขลารู้เท่าไม่ถึงการณ์


เหมือนอย่างที่อาจารย์บางท่านพูดว่า "พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติสิกขาบทห้ามภิกษุพรากของเขียว ที่มีชีวิตเกิดอยู่กับที่ต้องอาบัติปาจิตตีย์"


ความจริงแล้วมิใช่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติสิกขาบทนี้ เพราะเหตุที่ต้นไม้มีชีวิตแต่ทรงบัญญัติเพื่อรักษาศรัทธาของชาวบ้านต่างหาก เพราะต้นไม้มีอุตุเป็นสมุฎฐาน ไม่ได้เกิดมาจากกรรมเหมือนกับมนุษย์และสัตว์โดยทั่วดอก


แต่อาจารย์บางท่านไม่รู้เรื่อง ก็เลยไปอุปโลกน์ให้เป็นเรื่องของพระพุทธเจ้าไป อย่างนี้ไม่สมควรเลย เพราะพระพุทธเจ้าไม่เคยตรัสไว้ในที่ใดเลยว่า ต้นไม้มีชีวิต แต่ที่พูดเป็นเรื่องของลูกศิษย์ที่ตั้งตนเป็นอาจารย์ แล้วอุปโลกน์ให้พระองค์ท่านต่างหากฯ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2008, 9:55 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ เฉลิมศักดิ์ครับ เรื่องธรรมกายนี้ เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดสำหรับผม ไม่ต้องวิจัยอะไรเลย
คำตอบก็คือว่า องค์ความรู้ของธรรมกาย ในปัจจุบัน ไม่ใช่ธรรม เพราะไม่เป็น สัจจธรรม

ยกตัวอย่างเช่น กายพระอรหันต์เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ สูงเท่านี้ใหญ่เท่านี้

สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้อิงปรมัต เนื่องจากยังเป็นความสัมพัทธิ์ ต้องอิงสิ่งอื่นในการอธิบาย ไม่ได้อธิบายให้เป็นไปด้วยลักษณะไตรลักษณ์

ก็ถือเป็น มารในศาสนาครับ
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2008, 12:55 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2008, 2:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พระธรรมของตถาคต

คือแนวทางปฏิบัติเพื่อการสิ้นอาสวะกิเลสเท่านั้น

นอกนั้นเป็นสัทธรรมจอมปลอม

รู้ไปก็จักไม่เกิดประโยชน์อะไร
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
dd
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 17 มิ.ย. 2008
ตอบ: 179
ที่อยู่ (จังหวัด): overseas

ตอบตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2008, 5:32 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาครับคุณเฉลิมศักดิ์1 ที่กรุณาชี้ทางที่ไม่ถูกต้องให้ปรากฏในที่นี้ ยังคงมีผู้ที่ไม่รู้อีกมากมายที่จะได้ประโยชน์ นับว่าเป็นการเกื้อกูลผู้อื่นในทางธรรม ในขณะเดียวกันก็ต้องวางใจว่ายังมีชนที่มิได้มีบุญที่ทำไว้แต่ปางก่อน จึงไม่สามารถรับคำชี้แนะของกัลยาณมิตรได้ เพราะสัตว์โลกทั้งมวลมีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ เมื่อเขาสั่งสมสันดานที่จะเกิดในเผ่าพันธ์ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิจนแน่นแฟ้น แม้พระพุทธเจ้าก็ช่วยเขาไม่ได้แน่นอน สาธุ
 

_________________
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2008, 9:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
อนุโมทนาครับคุณเฉลิมศักดิ์1 ที่กรุณาชี้ทางที่ไม่ถูกต้องให้ปรากฏในที่นี้ ยังคงมีผู้ที่ไม่รู้อีกมากมายที่จะได้ประโยชน์ นับว่าเป็นการเกื้อกูลผู้อื่นในทางธรรม ในขณะเดียวกันก็ต้องวางใจว่ายังมีชนที่มิได้มีบุญที่ทำไว้แต่ปางก่อน จึงไม่สามารถรับคำชี้แนะของกัลยาณมิตรได้ เพราะสัตว์โลกทั้งมวลมีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ เมื่อเขาสั่งสมสันดานที่จะเกิดในเผ่าพันธ์ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิจนแน่นแฟ้น แม้พระพุทธเจ้าก็ช่วยเขาไม่ได้แน่นอน


คุณdd กรุณาขยายเป็นความรู้ด้วยครับ

ผมอ่านกระทู้นี้ยังไม่พบอย่างที่คุณว่ามาเลย

ร้ายแรงขนาดนั้นเชี่ยวหรือ

ใครเป็นผู้พิพากษาครับ

แล้งใครจะรู้ว่าข้อแนะนำใดผิด

ข้อแนะนำใดถูกครับ

พระพุทธเจ้ายังไม่บังคับใครเลย

ทรงให้ใช้ปัญญาคือ โยนิโสมนสิการ

คือสัมปชัญญะ

เรากำลังทำเกินพระพุทธเจ้าหรือเปล่าที่ไปบังคับใครให้เชื่อหรือไม่เชื่อ

ลองอ่านพระสูตรที่พระองค์ทรงตรัสไว้เรือง

ผู้ใดตำหนิธรรม ผู้ใดตำหนิเราดูซิ

หรืออ่านตอนพระองค์ทรงแสดงธรรมให้ผู้ที่ยังไม่ได้นับถือศาสนาใดๆดูซิ

ที่ทักท้วงเพราะกลัว

พระสัทธรรมเบี่ยงเบน

สัทธรรมคือ ความจริง ความถูกต้อง ความเป็นธรรม

พระพุทธเจ้าเน้นโยนิโสมนสิการครับ

กาลามสูตรคุณและทุกคนคุ้นเคยดีใช่ไหมครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
dd
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 17 มิ.ย. 2008
ตอบ: 179
ที่อยู่ (จังหวัด): overseas

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 1:51 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
คุณdd กรุณาขยายเป็นความรู้ด้วยครับ

ผมอ่านกระทู้นี้ยังไม่พบอย่างที่คุณว่ามาเลย


จะให้คนอื่นเห็นอย่างคุณงั้นสิ?อันธพาลหรือเปล่า คุณ "Mess" ?

ยิ้ม ขอให้เป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรภัยแก่กันและกันเลย ยิ้ม
 

_________________
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เฉลิมศักดิ์1
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 17 เม.ย. 2007
ตอบ: 272
ที่อยู่ (จังหวัด): ระยอง

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 5:16 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

dd พิมพ์ว่า:
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาครับคุณเฉลิมศักดิ์1 ที่กรุณาชี้ทางที่ไม่ถูกต้องให้ปรากฏในที่นี้ ยังคงมีผู้ที่ไม่รู้อีกมากมายที่จะได้ประโยชน์ นับว่าเป็นการเกื้อกูลผู้อื่นในทางธรรม ในขณะเดียวกันก็ต้องวางใจว่ายังมีชนที่มิได้มีบุญที่ทำไว้แต่ปางก่อน จึงไม่สามารถรับคำชี้แนะของกัลยาณมิตรได้ เพราะสัตว์โลกทั้งมวลมีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ เมื่อเขาสั่งสมสันดานที่จะเกิดในเผ่าพันธ์ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิจนแน่นแฟ้น แม้พระพุทธเจ้าก็ช่วยเขาไม่ได้แน่นอน สาธุ



สาธุ สาธุครับ คุณ dd

ขอให้ได้พบสัตตบุรุษ ได้ฟังพระสัทธรรม ได้ปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ต่อไปเทอญ


เพราะเป็นการยากเหลือเกิน ที่เหล่าสัตว์ทั้งหลาย จะได้ฟังพระสัทธรรม

ส่วนมากก็เกิดจาก อาจาริยวาท หรือ อัตตโนมติ ดังเรื่อง ธรรมกายนี้เป็นต้น

ซึ่งนับวันก็เผยแพร่ ออกไปมากเรื่อย ๆ ดูในหนังสือแล้ว ขยายไปยังสาขาต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้ง ยุโรป ด้วย


-----------------------------------------------

สัตว์ที่ได้ฟังพระธรรมวินัย ที่พระตถาคตเจ้าประกาศไว้
มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ไม่ได้ฟังพระธรรมวินัย
ที่พระตถาคตเจ้าประกาศไว้ มีประมาณมากกว่า
โดยแท้

สัตว์ที่ได้ฟังธรรมแล้ว ทรงจำไว้ได้ มีเป็นส่วนน้อย
สัตว์ที่ได้ฟังธรรมแล้ว ทรงจำไว้ไม่ได้
มีประมาณมากมาก โดยแท้

สัตว์ที่ไตร่ตรองอรรถแห่งธรรมที่ตนทรงจำไว้ได้
มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ไม่ไตร่ตรองอรรถแห่งธรรม
ที่ตนทรงจำไว้ได้ดี มีประมาณมากกว่า โดยแท้

สัตว์ที่รู้ทั่วถึงอรรถ รู้ทั่วถึงธรรมแล้ว ปฏิบัติธรรม
สมควรแก่ธรรม มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ไม่รู้ทั่วถึงอรรถ
ไม่รู้ทั่วถึงธรรม ปฏิบัติธรรมตามสมควรแก่ธรรมนั้น
มีประมาณมากกว่า โดยแท้

สัตว์ที่สลดใจ ในฐานะเป็นที่ตั้งแห่งความสลดใจ
มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ไม่สลดใจ ในฐานะเป็นที่ตั้ง
แห่งความสลดใจ มีประมาณมากกว่า โดยแท้

สัตว์ที่สลดใจ แล้วเริ่มตั้งความเพียรโดยแยบคาย
มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่สลดใจแล้ว ไม่เริ่มตั้ง
ความเพียรโดยแยบคาย มีประมาณมากกว่า
โดยแท้

สัตว์ที่กระทำพระนิพพานให้เป็นอารมณ์แล้ว
ได้สมาธิ ได้เอกัคคตาจิต มีเป็นส่วนน้อย
สัตว์กระทำพระนิพพานให้เป็นอารมณ์แล้ว
ไม่ได้สมาธิ ไม่ได้เอกัคคตาจิต มีประมาณมากกว่า
โดยแท้

สัตว์ที่ได้อรรถรส ธรรมรส วิมุตติรส มีเป็นส่วนน้อย
สัตว์ที่ไม่ได้อรรถรส ธรรมรส วิมุตติรส
มีประมาณมากกว่า โดยแท้

เปรียบเหมือนในชมพูทวีปนี้ มีสวนที่น่ารื่นรมย์
มีป่าที่น่ารื่นรมย์ มีภูมิประเทศที่น่ารื่นรมย์
มีสระโบกขรณีที่น่ารื่นรมย์ มีประมาณเพียง
เล็กน้อยเท่านั้น แต่ในชมพูทวีปนี้ มีที่ดอน
ที่ลุ่ม เป็นลำน้ำ เป็นที่ตั้งแห่งขวากตอและหนาม
เป็นที่มีภูเขาระเกะระกะ
มีประมาณมากกว่า โดยแท้ฉะนั้น

เพราะเหตุฉะนี้แล เธอผู้เห็นภัยในวัฏสงสารทั้งหลาย
พึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า
"เราจักเป็นผู้ได้อรรถรส ธรรมรส วิมุตติรส ให้จงได้"

ดูกรเธอผู้เห็นภัยในวัฏสงสารทั้งหลาย!
ขอให้เธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกดังนี้เถิด


-------------------------------------------------------

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒
อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต

http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=20&A=1003&Z=1058
-----------------------------------------------------
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 9:00 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณใช้คำไม่เหมาะสม กรุณาระมัดระวังการใช้ถ้อยคำให้สุภาพด้วยครับ

ทีมงาน
1 ส.ค.2551
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 9:04 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
จะให้คนอื่นเห็นอย่างคุณงั้นสิ?อันธพาลหรือเปล่า คุณ "Mess" ?


ครับคนที่เที่ยวบังคับใครให้เกลียดผู้อื่นตามตน หรือต้องเชื่อตามตนนั้น

ทั้งmess ทั้งอันธพาลทั้งนั้นครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
dd
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 17 มิ.ย. 2008
ตอบ: 179
ที่อยู่ (จังหวัด): overseas

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 2:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
ครับคนที่เที่ยวบังคับใครให้เกลียดผู้อื่นตามตน หรือต้องเชื่อตามตนนั้น
ปรบมือ

หุหุ สงสัย
 

_________________
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
dd
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 17 มิ.ย. 2008
ตอบ: 179
ที่อยู่ (จังหวัด): overseas

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 2:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณใช้คำไม่เหมาะสม กรุณาระมัดระวังการใช้ถ้อยคำให้สุภาพด้วยครับ

ทีมงาน
1 ส.ค.2551
 

_________________
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 3:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณใช้คำไม่เหมาะสม กรุณาระมัดระวังการใช้ถ้อยคำให้สุภาพด้วยครับ

ทีมงาน
1 ส.ค.2551
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 3:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยู่ดีๆก็อยากเป็นวีรบุรุษแปลงกายขึ้นมาด่าว่าใส่ร้ายท่านพุทธทาส

ตัวเองอาจปริยัติมาแต่ขาดปฏิบัติจึงขาดปฏิเวช

ท่านพุทธทาสเป็นที่เชื่อถือของคนทั่วไปทั้งโลก

ต่างชาติจำนวนมากหันมานับถือพุทธศาสนาก็เพราะท่าน

แต่ท่านก็มิได้ให้ยึดตัวท่าน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 9:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณใช้คำไม่เหมาะสม กรุณาระมัดระวังการใช้ถ้อยคำให้สุภาพด้วยครับ

ทีมงาน
1 ส.ค.2551
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 10:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรื่อง ลานธรรม นี่ผมขอพาดพิงหน่อยครับ

ลานธรรมนี่ ไม่ใช่มีแต่คนภูมิธรรมสูงหรอกครับ สมัยก่อน มีคนที่มีภูมิธรรมสูงจริง แต่ภายหลัง เปลี่ยนไป

ผมก็เลิกเล่นจากที่นั่น เพราะว่า คนดูแลที่นั่น มากด้วยโมหะจริต ครับ

ส่วนคุณ mes การที่จะทำให้คุณก้าวหน้าได้ คุณต้องปฏิบัติจริงจัง โจทย์อะไรที่คุณเจอ มันอยู่ในใจคุณทั้งสิ้น แล้วระลึกรู้ตัว เมื่อมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นในใจ แล้วอย่ามองผ่าน แต่ให้แก้ไข ฝืนมัน แล้วคุณจะก้าวหน้า
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
dd
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 17 มิ.ย. 2008
ตอบ: 179
ที่อยู่ (จังหวัด): overseas

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 1:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ :b8

ขอบคุณครับทีมงานที่ช่วยเตือนสติผม ขอน้อมรับครับ สาธุ สาธุ สาธุ

ขออโหสิกรรมครับคุณ mes สาธุ
 

_________________
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่หัวข้อนี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไข หรือตอบได้
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง