Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 กรรม (หนังสือธรรมะรอบกองไฟ) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2004, 11:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กรรม

หนังสือธรรมะรอบกองไฟ
โดย ขวัญ เพียงหทัย


กรรมคือการกระทำของเรา เราทำสิ่งใด ๆ ลงไปเรียกว่าสร้างกรรม มีทั้งดีและชั่ว ทำดีก็เป็นกรรมดี ทำชั่วก็เป็นกรรมชั่ว เมื่อทำกรรมแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือผลของกรรม

เรื่องเกี่ยวกับกรรมมีดังนี้

1. สัตว์โลกมีกรรมเป็นของตนคือ เป็นของเราคนเดียว ไม่มีทางเป็นของคนอื่น ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วได้ชั่ว คนอื่นจะมาทำแทนให้ไม่ได้ และจำทำแทนคนอื่นก็ไม่ได้

สมบัติอะไรที่เป็นของเรา เมื่อเราตายไป ก็เอาไปไม่ได้ มันจึงไม่เป็นของเราอย่างแท้จริง แต่กรรมที่เราทำนั้นเอาติดตัวไปได้ทุกชาติ จึงนับว่าเป็นของเราจริง ๆ ถ้าไม่ชอบ ทิ้งมันไว้ มันก็ยังตามไปเอง

ถ้าเราทุกบุญมาก ๆ ผลกรรมดีก็จะติดตามเราไปตลอดทั้งชาตินี้ชาติหน้า ถ้าทำชั่ว ผลกรรมชั่วก็ติดตามไปตลอดเช่นกัน

กรรมของใครก็เป็นของคนนั้น ยกให้กันก็ไม่ได้

เฉลยศรีเป็นคนฉลาดมากตามกรรมดีที่ส่งมา เธออยากแบ่งความฉลาดไปให้น้องคนเล็กที่สมองทึบ แต่เธอก็แบ่งไม่ได้

ฉลองศักดิ์เป็นคนแข็งแรงมาก เขาอยากแบ่งความแข็งแรงให้กับน้องชายที่เป็นโปลิโอ เขาก็แบ่งไม่ได้

คุณยายพรักพริ้ง ตื่นเช้ามาใส่บาตรทุกวัน แล้วสวดมนต์
 

_________________
สายลมเริ่มเปลี่ยนทิศแล้ว
ลมหนาวกำลังมาเยือนแล้ว

จันทร์ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๑
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2004, 11:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ฟังธรรมะตลอด คุณยายบอกพิมลลูกสาวว่า คุณยายต้องใส่บาตรเอง เพื่อจะได้พาบุญไปด้วยตอนตาย ถ้าพิมลทำแทนคุณยายก็ไม่มีบุญจะพาไปด้วย เพราะบุญนั้นก็เป็นของพิมล พิมลบอกว่า ทำแทนให้ก็เหมือนกัน คุณยายยิ้มก่อนจะพูดว่า

“งั้นเวลาหล่อนหิว แม่กินข้าวแทนนะ ทำบุญก็เหมือนกินข้าวแหละลูกเอ๊ย ใครกินใครก็อิ่ม กินแทนกันไม่ได้หรอก”

ความที่มันแบ่งกันไม่ได้ รับแทนกันไม่ได้นี้ เมื่อเราเห็นใครได้ดี เห็นใครทุกข์โศก หรือตัวเราเองได้รับสิ่งดีสิ่งร้ายก็เป็นกรรมเก่าที่เราเคยสร้าง มาส่งผลให้เราได้รับรู้ทั้งนั้น สิ่งที่เราควรจะทำในตอนนี้ก็คือ ทำใจยอมรับกรรมเก่าของเราเอง และพยายามสร้างกรรมใหม่ที่ดีงาม เพื่อที่เราจะได้กะเตงไปแต่สิ่งดี ๆ สู่อนาคตของเรา

2. มีกรรมเป็นกำเนิด คือกรรมเป็นผู้สร้างสรรค์ให้เกิดกรรมของเราเองที่เคยทำไว้ มันส่งมาเกิด ถ้าเคยทำกรรมดี ก็ส่งมาเกิดในที่ดี มีครอบครัวดี มีชีวิตที่ดี มีสติปัญญาดี ถ้าเคยทำกรรมชั่วมาก ก็เกิดที่แห้งแล้ง ยากจน กินดินกินทรายไปตามเรื่อง ท่านว่าพวกมีโมหะมาก ๆ ก็เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ทำให้ไม่มีโอกาสศึกษาธรรม ส่วนคนไม่มีกรรมแล้ว ท่านก็ไม่มาเกิดอีก

3. เราเป็นทายาทของกรรม คือเราเป็นผู้รับมรดกกรรม เราเคยทำกรรมอันใดไว้ ชีวิตนี้เรามาเป็นผู้รับมรดกกรรมของเราเอง

ในชีวิตนี้เราอาจได้รับมรดกมาเป็นเงินทองหรือบ้าน แต่ก็อาจไม่ได้รับจริง เพราะถูกโกงไปบ้าง แต่มรดกกรรมนี่ใครก็โกงไม่ได้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2004, 11:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เราได้รับของเราเต็ม ๆ ถ้าเป็นมรดกดีก็สบายไป ถ้าเป็นมรดกไม่ดีอันนี้ก็ตัวใครตัวมันนะจ๊ะ ยกตัวอย่างนิดหน่อย พอขู่ไว้ให้กลัวบาปกลัวกรรมกันมั่ง เช่น

คนที่ชอบขโมยของคนอื่น ก็จะเกิดมาลำบากยากจนไปตลอด อยากได้อะไรก็ไม่สมหวังไปเสียหมด

ตรงข้ามกับคนเคยทำบุญให้ทาน ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อคนอื่นมามากมาย เกิดมาชาตินี้ไม่เคยติดขัดอะไร อยากได้อะไรก็มีคนหามาให้หมด

4. มีกรรมเป็นพี่น้องเผ่าพันธุ์ ท่านอธิบายว่า พี่น้องของเราอาจช่วยเราได้บ้าง ช่วยไม่ได้บ้าง ในบางเรื่องบางเวลา แต่กรรมอยู่กับเราตลอดเวลา สิ่งที่พี่น้องช่วยไม่ได้ กรรมจะช่วยได้ อย่างคนที่จากบ้านไปทำงานที่อเมริกาอยู่คนเดียว แล้วเกิดปวดท้องไปทำงานไม่ได้ ในวันที่ตึกที่ทำงานถูกถล่ม ทำให้รอดชีวิตมาได้แสดงว่ากรรมดีของเขาได้ช่วยไว้ให้ปลอดภัย

5. มีกรรมเป็นที่พึ่งพาอาศัยคือ กรรมของเราเองนั่นแหละที่เป็นที่พึ่งพาของเราตลอดชีวิต และพึ่งได้ทุกชาติ คนอื่นเรายังพอพึ่งได้บางเวลา แต่พอไปพึ่งเขาบ่อย ๆ เขาก็อาจจะรำคาญไม่พอใจ แต่กรรมดีของเรา เราพึ่งได้ แต่ก็อีกนั่นแหละ กรรมชั่วของเราก็มี ถ้ากรรมชั่วมาถึงเมื่อใด มันก็จะขัดขวางไม่ให้ใครเข้ามาช่วยเราเหมือนกัน มันจะติดขัดคับข้องไปเสียหมด เพราะกรรมไม่ยอมให้พึ่ง จะให้เราชดใช้กรรมเสียให้เข็ด ฉะนั้นถ้าอยากพึ่งกรรม ก็ต้องทำแต่กรรมดีเอาไว้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2004, 11:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หมอนสมัยกำลังเดินกลับบ้านกับน้องสาว พบหญิงชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งกำลังมีปัญหาเรื่องหาทางไปโรงแรมไม่ถูก หมอนสมัยพาหญิงสาวขึ้นรถแท็กซี่ แล้วนั่งไปเป็นเพื่อน ส่งนักท่องเที่ยวคนนั้นจนถึงโรงแรอย่างเรียบร้อย

หลายปีต่อมา หมอนสมัยไปตกระกำตกรถอยู่ในตำบลเปลี่ยว รถโดยสารก็หมดเวลาทำการกะทันหัน ทำให้เธอต้องเดินยาวไกล แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือ ใกล้จะมืดค่ำเต็มทีแล้ว และยังเหลือทางอีกไกลมากกว่าจะถึงเมืองอันเป็นที่พัก เธอโบกรถหลายคันก็ไม่จอดรับ เธอจึงเดินต่อไป ในใจเริ่มร้องไห้ นึกขึ้นว่า

“แหม ทีเวลาคนอื่นลำบาก เราตามไปส่งถึงที่เลยนิ พอเราลำบาก ไม่เห็นมีใครช่วยเราเลย”

ทันใดนั้น กรรมที่กำลังนอนเกาหลังอยู่ก็นึกขึ้นได้ จึงให้รถตู้คันหนึ่งเบรกกึ๊ก แล้วถอยหลังมารับหมอนสมัยไปส่งถึงในเมืองทันก่อนลำแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์จะโบกมือลา (ขออภัย ลิเก ไปหน่อยนะ)

เนี่ย มีกรรมเป็นที่พึ่ง บางทีกว่าจะพึ่งได้ ก็กรรมเหมือนกันแหละ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2004, 11:32 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เวลาที่ผลกรรมไม่ดีของเราวิ่งตามมาถึง มันจะให้ผลกับเราได้ โดยที่กรรมดีอื่น ๆ ก็จะแตะเบรกไว้ก่อน เปิดไฟเขียวให้กรรมไม่ดีได้ทำงานเต็มที่ เหมือนระบบจราจรที่มีไฟเขียวไฟแดง

รัศมีจันทร์อยากกลับบ้านนอนแต่หัวค่ำ เพราะพรุ่งนี้เช้าต้องตื่นตี 5 ไปต่างจังหวัดตามคำสั่งเจ้านาย และตอนนี้ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืนแล้ว ไม่รู้ทำอะไรมา เมื่อกี้ดูนาฬิกายังเพิ่ง 2 ทุ่มเอง เร็วจริง ๆ

รัศมีจันทร์ซิ่งรถผ่านแสงไฟสวยงามของกรุงเทพฯ เลี้ยวเข้าหมู่บ้าน ผ่านซอยไปหลายซอย และผ่านหมาตัวหนึ่งแถวสะโพกของมัน

เธอรีบจอดรถลงไปดูหมาแปลกหน้า เห็นดวงตาที่น่าสงสารกับสะโพกเดี้ยง ก็รีบอุ้มมันขึ้นรถ ขับไปควานหาสัตวแพทย์สักคน เอ อยู่ไหนละเนี่ย ขับไปไม่นานก็เจอพอดี บุญของหมา ไม่ใช่ของเธอ ฝากหมาไว้กับหมอแล้วรีบกลับบ้านนอนตอนตี 2

เช้ามาตี 4 ครึ่ง นาฬิกาไม่ปลุก ถ่านหมดตอนตี 4 บุญช่วยที่เจ้าอั้งโล่ หมาของหล่อนโดนแม่ครัวข้างบ้านสาดน้ำร้อนใส่โดยไม่ตั้งใจ ร้องเอ๋ง ๆ เข้ามาปลุกให้ตื่น จึงลุกขึ้นรีบแต่งตัวงัวเงีย เพราะนอนไม่ถึง 8 ชั่วโมงตากกฎสุขภาพ คว้าอะไรได้ก็หอบ ๆ ไปเต็มกอดเพื่อไปที่รถ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2004, 11:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ประตูเปิดไม่ออกอยู่นาน โมโหเตะประตูทีหนึ่ง เป็นการลงโทษประตู ประตูงอน แตกเพล้ง เฉือนเนื้อที่ขา เลือดโกรก

วันนี้รัศมีจันทร์ไม่ได้ไปต่างจังหวัด เพื่อนข้างบ้านมาหามส่งโรงพยาบาล เธอยังมีสติดีอยู่ ตอนที่รู้ว่าบัตรเครดิตหาย และฝากเพื่อนข้างบ้านว่า กลับบ้านแล้ว ช่วยโทรฯบอกแม่ของหนูด้วยว่าแม่กลับจากทำบุญแล้ว ช่วยมารับลูกสาวด้วยค่ะ

กรรมเก่าไม่ดีของรัศมีจันทร์ ที่มาเยี่ยมตั้งแต่เมื่อคืนวานนั่งหัวเราอยู่แถวปลายเตียง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2004, 11:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หน้าที่ของกรรม

กรรมก็เหมือนคน ต้องมีหน้าที่การงานเหมือนกัน หน้าที่ของกรรม ก็คือจัดการกับเจ้าของกรรมนั่นแล กรรมใครกรรมมันแต่กรรมมีหลายตัว ถ้าเรามองเห็นได้เหมือนในการ์ตูน จะเห็นมันห้อยโหนอยู่ตามหัวหู หรือนั่งไขว่ห้างอยู่บนหัวไหล่ของเรา มันก็ดีดนิ้ว เปรี๊ย เปรี๊ย แล้วเวลาเราทำอะไร มันก็คอยจดไว้ ที่แย่เอามาก ๆ เลยก็คือ มันไม่เคยลืมจด และจดแล้วก็ไม่เคยลืมที่จดอีกต่างหาก

ตัวที่ 1 ท่านเรียกว่า ชนกกรรม ชนกที่แปลว่าพ่อนั่นแหละ แปลสลวยก็คือผู้ให้กำเนิด ตัวนี้เองที่เป็นผู้คอยจัดแจงเรามาตั้งแต่ก่อนเกิด เลือกแม่ให้เรา ว่าให้เรามาเกิดเป็นลูกใคร ยากดีมีจนแค่ไหน จัดแจงให้เราฉลาดหรือโง่หรือปัญญาอ่อนหรือเปล่าสวยไหม หล่อไม่เสร็จ หรือว่า หล่อยังไม่เสร็จ เป็นหน้าที่ของท่านชนกกรรมนี้ทั้งนั้น เขาคือใคร เขาก็คือสิ่งที่เราทำไว้ในชาติก่อน ๆ น่ะเอง เช่น ถ้าชาติก่อนทำบุญมากชาตินี้ก็ได้เกิดมามีกะตังค์หน่อย ทำนองนั้น ถ้าชาติก่อนถือศีล สวดมนต์ สงบจิตใจ ก็ได้เกิดมาสวย และถ้าชาติก่อนเรียนธรรมะมีปัญญามา ก็เกิดมาฉลาด

ตัวที่ 2 ท่านเรียกว่า อุปถัมภกกรรม คือกรรมที่คอยอุปถัมภ์ ฝรั่งเรียกนางฟ้าแม่ทูลหัว คอยช่วยเหลือการให้ผลของกรรมอื่นที่ยังไม่มีโอกาสส่งผล ให้ส่งผลได้ หรือถ้ากรรมอื่นกำลังส่บผลอยู่ก็ให้ส่งผลได้มากขึ้น เช่น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2004, 5:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เช้าวันนี้ ฤดีมาศดำรง ออกไปใส่บาตรด้วยจิตใจอันสงบ อย่างยิ่งจนอุปถัมภกกรรมชื่อฤดีน้อยยิ้มแก้มปริอยู่ข้าง ๆ ตุ้มหู

มันเป็นวันที่เธอจะได้ขึ้นเงินเดือน เพราะกรรมดีที่เคยทำมาจะให้ผล และเมื่อไปถึงสำนักงาน เธอได้พบว่านอกจากจะได้ขึ้นเงินเดือนแล้ว ยังได้เลื่อนตำแหน่งอีกด้วย ซึ่งอันหลังนี้เป็นผลงานของฤดีน้อย

ตัวที่ 3 ท่านเรียกว่า อุปปีฬิกกรรม (อ่านยากหน่อยนะคะ) ชื่อเล่นว่ากรรมเบียดเบียน ถ้าเรามีกรรมดี มันจะคอยกันไม่ให้กรรมชั่วส่งผล ถ้าเรามีกรรมชั่ว มันก็คอยกันไม่ให้กรรมดีส่งผล

ว่ากันจริง ๆ แล้ว ตัวที่ 2 กับ ตัวที่ 3 ก็อาจจะเป็นตัวเดียวกันได้ คือ เมื่อ นาย ก จะไปตี นาย ข กรรมไปกั้นกลางอยู่คือกันนาย ก จะไปตี นาย ข. กรรมไปกั้นกลางอยู่คือนาย ก. ไว้ไม่ให้ตี (กรรมเบียดเบียนไว้) และช่วยนาย ข ไม่ให้ถูกตี (คอยอุปถัมภ์ไว้)

ท่านชายพจน์เดินอารมณ์ดีออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปทำงาน พอพ้นรั้วมา เจ้าดิ๊กกี้หมาในหมู่บ้านก็กระดิกหางดิ๊ก ๆ อารมณ์ดีเดินมาเหมือนกัน ท่านชายพจน์เลยทักทายด้วยการเตะมันเล่นไปเหน็บไว้บนรั้ว แล้วไม่เอามันลงมา

พอพ้นปากซอย กรรม (เก่าชาติก่อน) มาสะกิดไหล่ให้มอเตอร์ไซด์วิ่งมาเฉี่ยว ความจริงก็กรรมนิดเดียว แค่ขาเคล็ด

แต่ความที่ท่านชายพจน์เหน็บเจ้าดิ๊กกี้ไว้ที่รั้ว เลยทำให้แทนที่จะขาเคล็ด กลายเป็นขาหัก

เอาใหม่ ฉายหนังถอยหลังไปตั้งต้นใหม่

ท่านชายพจน์ตื่นแต่เช้าออกมาตักบาตรหน้าบ้านแล้ว เดิน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2004, 5:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อารมณ์ดีออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปทำงาน พอพ้นรั้วมาเจอเจ้าดิ๊กกี้ก็ลูบหัวมันด้วยมือแทนตีน เอ๊ย เท้า

พอพ้นปากซอย มอเตอร์ไซค์วิ่งมาเฉี่ยว ความจริง (กรรมเก่า) หนักถึงต้องขาหัก แต่อุปปีฬิกกรรมเบียดเบียน (กางกั้น) กรรมเก่านี้ไว้ ท่านชายพจน์เลยแค่ขาเคล็ด

ตัวที่ 4 อุปฆาตกรรม มีหน้าที่ไปตัดรอนกรรมอื่นให้ไม่ให้ผล เช่นสั่งสมความดีมากขึ้น ๆ ตัดรอนผลแห่งกรรมชั่วจนหมดไป และในทางชั่วก็เหมือนกัน

ดังนั้น ท่านจึงสอนว่า ให้เราพยายามทำดีอยู่เสมอ เพื่อสะสมบุญไว้ หากมีกรรมเก่าใดตามมาสะกิด จะได้มีบุญไว้คุ้มตัวหรือผ่อนหนักเป็นเบา

ส่วนเกิดมาแล้วเป็นอย่างไร ก็ไม่ใช่จะแก้ไขไม่ได้ เช่น เกิดมาจน ก็อุตสาหะเข้า อาจจะมีฐานะดีขึ้นได้ ไม่ใช่งอมืองอเท้ายอมรับกรรมอย่างเดียว เพราะคนเราพัฒนาได้

กรรมบางอย่าง เราทำโดยไม่เจตนาก็จริง แต่ไปก่อผลสุขทุกข์ให้คนอื่นเข้า เราคนทำก็จะได้ผลตอบแทนมาในทำนองเดียวกัน คือได้รับสุขทุกข์จากคนอื่นโดยที่เขาไม่เจตนา

เช่น เราโมโหเหวี่ยงรองเท้าไปโดยไม่ได้ดู ไปโดนหัวหมาสลบเหมือด หลายวันต่อมาคนข้างบ้านทะเลาะกับเมีย เหวี่ยงตะหลิวออกจากหน้าต่างครัวข้ามรั้วมาโดนหัวเราสลบโดยไม่ได้ตั้งใจ

ในศาสนาพราหมณ์ ถือว่าชีวิตเราที่เกิดมา เกิดจากพรหมลิขิต ทุกอย่างพรหมกำหนดไว้ให้แล้ว
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2004, 5:54 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มีนิทานเล่าว่า ตายายยากจน ชีวิตลำบาก มีความก็เขาเก แกก่นด่าพระพรหมทุกวัน บอกว่าไม่ยุติธรรมที่ลิขิตมาให้แกลำบากอย่างนี้ วันหนึ่ง พระพรหมทนไม่ไหว เหาะลงมาหาพาตายายไปที่ต้นสายของชีวิตของทุกคน แล้วให้ตายายเลือกเอาเองเลยว่า จะเลือกเส้นชีวิตเส้นไหนตามใจชอบ

ตายายก็เลือกเส้นชีวิตที่ดีที่สุด พอใจที่สุด แล้วก็ไล่เรียงมาทุกเส้น ๆ เรื่อยมา

ในที่สุด ตายายก็มาตื่นขึ้นในกระท่อมหลังเดิม มีควายก็ตัวเดิม คือมันดีที่สุดแล้วสำหรับตากับยาย

ในศาสนาพุทธ ไม่มีพรหมลิขิต แต่เป็นกรรมลิขิต กรรมคือสิ่งที่เราทำ ดังนั้น เราจึงเป็นคนกำหนดชีวิตเราเอง ที่เราทำดีได้ไปเกิดที่ดี เราเลือกทำมาเอง ที่เราทำชั่วได้รับผลกรรมชั่ว เราเลือกที่จะทำกรรมชั่วเอง บางคนอาจจะเถียงว่า ใครจะอยากทำชั่วแต่มันจำเป็น แต่ในความจริงที่บางทีเราก็ไม่รู้นั้น เป็นเพราะความไม่รู้ทั่ว ไม่อยากขัดใจตัวเอง ไม่อยากถูกต้องแต่อยากถูกใจ หรืออะไรอีกมากมายที่เราสรรหามาเพื่ออ้างเข้าข้างตัวเอง แต่ถ้าเป็นคนมีศีลธรรมแล้วในความจำเป็นนั้น มีทางออกด้วยกรรมดีเสมอ

ในการเอาความรู้เรื่องกรรมมาใช้ในชีวิตประจำวันก็คือ ถ้าเราประสบทุกข์ ก็ให้นึกว่าใช้หนี้ไป หนี้ของเราจะได้เบาบางลง ถ้าเราประสบสุข ก็ให้นึกว่า เขาใช้หนี้เรา แต่ก็ต้องระมัดระวังมันจะหมดไปถ้าเราไม่ทำดีเพิ่มขึ้น เราควรจะหมั่นทำบุญ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อบุญ ที่มาเกื้อกูลให้เรามีความสุข พระพุทธเจ้าสอนว่า “เมื่อใดที่บุญสิ้นไป ทุกอย่างก็จะพินาศหมด”
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2004, 5:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ลำดับการให้ผลของกรรม

การให้ผลของกรรม จัดลำดับตามแรงหนักเบามี 4 อย่าง คือ

1. กรรมหนัก ถ้าทางกรรมดี ก็หมายถึง ฌาน วิปัสสนา มรรคผล ถ้าฝ่ายชั่ว หมายถึง กรรมหนัก 5 อย่าง ฆ่าพ่อ, ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำพระพุทธเจ้าให้ห้อโลหิต, ทำพระสงฆ์ให้แตกสามัคคีกัน

2. กรรมที่ทำจนเคยชิน หรือทำมาก ทำบ่อย ๆ ทำประจำ เช่น ตักบาตรทุกวัน สวดมนต์ทุกวัน ฟังธรรมทุกวัน อันนี้ฝ่ายดี ถ้าฝ่ายไม่ดี เช่น เตะหมาทุกวัน ซิ่งมอเตอร์ไซด์ทุกคืน หนีหนี้ทุกเดือน กรรมข้อ 2 นี้ ท่านว่าจะให้ผลยั่งยืนมาก ฮึ่ม

3. กรรมก่อนตาย คือ สิ่งที่จิตใจคิดถึงก่อนตาย หรือการกระทำก่อนตาย มีอานุภาพให้คนนั้นไปสู่สุคติหรือทุคติได้ ถ้าเขาคิดถึงสิ่งนั้นก่อนตาย สมัยโบราณเมื่อคนแก่รู้ตัวว่าจะตายจึงมักขอดอกไม้ธูปเทียน บูชาพระก่อนตาย

4. กรรมทำโดยไม่เจตนา คือ สิ่งที่เราทำแล้วลืม ไม่ได้ใส่ใจ เช่น เดินเจอขอทานก็ให้ตังค์แล้วก็ลืม ใครให้ซองกฐินมา ก็ใส่ ๆ ไปตามธรรมเนียมไม่ได้สนใจ ไม่ได้บุญได้บาปอะไร
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2004, 6:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เวลาของการให้ผล

การให้ผลของกรรม ไม่อาจที่ใครจะรู้รายละเอียดได้เพราะมีความสลับซับซ้อนมาก ประกอบด้วยเงื่อนไขหลายอย่าง พระพุทธเจ้าตรัสว่า “วิสัยแห่งกรรมและผลของกรรม เป็นสิ่งที่คิดเอาไม่ได้” เป็นข้อหนึ่งในหลายข้อของอจินไตย คือปัญหาที่พระพุทธเจ้าไม่ให้ถาม เพราะเกินกำลังคนอย่างพวกเราจะเข้าใจพระพุทธเจ้าท่านเข้าใจ แต่ไม่อยากเล่า

ในตำราอธิบายเรื่องเวลาของการให้ผลไว้ดังนี้

1. ให้ผลในชาตินี้

2. ให้ผลชาติหน้าต่อจากชาตินี้

3. ให้ผลเรื่อยไป สบโอกาสเมื่อใด ให้ผลเมื่อนั้น ไม่รู้ชาติไหน

4. อโหสิกรรม กรรมไม่ให้ผล เลิกแล้วต่อกัน

เรื่องลำดับความหนักเบาและเวลาการให้ผลของกรรมนั้นท่านว่ามีความสัมพันธ์กันมาก คือกรรมหนัก (ทั้งฝ่ายดีและชั่ว) จะให้ผลในปัจจุบันทันตาเห็น ส่วนกรรมที่ทำบ่อย ๆ ถ้ายังไม่ให้ผลชาตินี้ก็ยกยอดไปชาติอื่น แล้วแต่โอกาส ท่านเปรียบเหมือนสุนัขไล่เนื้อ ทันเข้าเมื่อใดกัดเมื่อนั้น

ส่วนกรรมที่ทำใกล้ตาย มักให้ผลก่อนกรรมอื่น เพราะใจมันคิดอยู่กับเรื่องนั้น แม้บางคราวจะมีกำลังน้อย แต่ก็ให้ผลก่อน อันนี้ท่านเปรียบให้ฟังว่า เหมือนวัวที่ขังรวมกันอยู่ในคอก พอตอนเช้าเปิดประตูคอก วัวตัวที่อยู่ใกล้ประตูที่สุด ก็ต้องออกก่อน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2004, 6:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แต่พอออกมากันหมดแล้ว วัวที่แข็งแรงกว่าก็แซงหน้าไป ผลกรรมใกล้ตาย อาจจะให้ผลก่อน แต่ก็ให้ผลสั้น หลังจากนั้น ก็เป็นผลของกรรมอื่น ๆ เข้ามาจัดแจงต่อไป

ส่วนกรรมที่ทำโดยไม่เจตนา ให้ผลน้อยที่สุด

กรรมใดคอยโอกาสให้ผลอยู่ แต่ไม่มีโอกาสเลย ก็เลิกแล้วกันไปเป็นอโหสิกรรม อันนี้มีเหตุ 3 ประการ

1. หมดแรง คือให้ผลจนสมควรแก่เหตุแล้ว เหมือนคนติดคุก 2 ปี เมื่อถึงกำหนดก็พ้นโทษ นอกจากว่าตอนอยู่ในคุก ทำผิดอีก ก็ติดคุกต่อ แต่ถ้าทำดีมาก ๆ ก็พ้นโทษก่อน

2. กรรมหยุดให้ผลเมื่อกรรมอื่นเข้ามาแทรกแซงเป็นครั้งคราวคือ

กรรมดีจะหยุดให้ผลชั่วคราว เมื่อคนนั้นเขาทำชั่วมาก เพื่อเปิดโอกาสให้กรรมชั่วส่งผลก่อน หรือกลับกัน ถ้ากรรมชั่วกำลังให้ผลอยู่แล้วเขาทำดีมาก มันก็จะหยุดเพื่อให้กรรมดีให้ผลก่อน

3. ผู้นั้นได้สำเร็จเป็นอรหันต์ ไม่เกิดอีก กรรมก็เลยหมดโอกาสให้ผล แต่จะยังให้ผลได้ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เช่น องคุลีมาล เมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ยังถูกชาวบ้านทุบตีอยู่แต่เมื่อดับขันธ์ก็ไม่ต้องเกิดอีก หรือพระโมคคัลลานะ ถูกโจรทุบตีจนตาย ทั้งที่ท่านมีอิทธิฤทธิ์มากมาย แต่เมื่อท่านตายแล้วไม่เกิดอีก กรรมใด ๆ ที่ยังเหลืออยู่ก็เป็นอโหสิกรรมไป
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2004, 6:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เราเลือกเกิดได้

เมื่อเรารู้จักกรรมตัวนี้แล้ว ก็จงวางใจในผลของกรรมว่าถ้าเราทำดี เราย่อมมีผลของกรรมดีรอเราอยู่ข้างหน้าในอันที่จะพาเราไปเกิดในที่ดี คอยอุปถัมภ์เรา เป็นที่พึ่งแก่เรา อีกอย่างคือจงวางใจในผลของกรรม ถ้าใครทำอะไรเรา เป็นหน้าที่ของกรรมจะชำระเขา ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะต้องไปจัดการเขา หน้าที่ของเราคือทำดีอยู่เสมอ ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น

ในขณะเดียวกัน ด้วยความรู้อันนี้ ถ้าเรามองไปในอนาคตว่าเราอยากไปเกิดที่ดี มีชีวิตที่ดี เราก็ต้องสร้างเหตุดี สร้างกรรมดีวันนี้ไว้ อยากได้ผลดีวันหน้า วันนี้ก็สร้างเหตุดีเข้า เรียกว่า เลือกเกิดได้ แต่ท่านเตือนว่าต้องเป็นความดีที่มีคุณภาพและปริมาณที่พอเพียง

พระพุทธเจ้าตรัสสอนเอาไว้ว่า เกิดได้ตามที่ต้องการ แต่ต้องมีคุณธรรม 5 อย่าง คือ ศรัทธา ศีล สุตะ (ฟังธรรมมาก) จาคะ (เสียสละบริจาค) และปัญญา เมื่อมีคุณธรรม 5 อย่างนี้สมบูรณ์ ตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าอยากไปเกิดที่ใดก็จะได้ตามนั้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2004, 6:11 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การให้ผลของกรรม

มีคนเคยถามถึงเรื่องการให้ผลของกรรมว่า ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น ทำไมไม่เป็นอย่างนี้ เช่น คนไปทำบุญกฐินกลับมาประสบอุบัติเหตุบนถนน ดูเหมือนกับทำบุญแล้วไม่ได้บุญ

คำตอบคือ มันไม่ใช่วาระ การทำบุญวันนั้นอาจจะยังไม่ส่งผล เพราะมันเป็นวันที่กรรม (เก่าชาติไหนก็ไม่รู้) ได้มาถึงและแสดงผลทันที มันเป็นกรรมคนละตัวกัน

ครั้งหนึ่ง เมื่อชาววัดผู้ศรัทธาผู้หนึ่งถึงกาลล้มละลาย เขายืนดูวัดและผู้คนกำลังทุกบุญกันมากมายหลายร้อยหลายพันคน แล้วก็รำพึงว่า “ฉันทำบุญไปตั้งหลายแสน ไม่เห็นบุญช่วยอะไรเลย”

นี่เป็นเรื่องวาระอีกเช่นกัน บุญที่เราทำอาจจะยังไม่สามารถส่งผลได้ในขณะที่เราต้องการ เพราะกรรมอื่นที่เขาถึงวาระเขากำลังให้ผลอยู่

การให้ผลกรรมยังมีเงื่อนไขอื่นอีกมาก เคยมีคนเล่าว่าแม่ค้าขายขนมจีนคนหนึ่ง แกถวายพระด้วยขนมจีนทุกวัน พอตายไป อาหารทิพย์ที่รอแกอยู่ก็คือขนมจีน แกบ่นว่า โอ๊ย เบื่อจะตายอยู่แล้ว อยากกินอย่างอื่นบ้าง ด้วยเรื่องเล่าทำนองนี้แหละ ที่พอชาวเราอยากได้อะไรหรือชอบอะไร ก็เลยจะเอาของอย่างนั้นถวายพระ คล้าย ๆ ฝากตู้เซฟไว้ จะได้ถอนคืนเอาตอนตาย

ความจริงบุญคือเจตนาในการทำดี ผลบุญจึงน่าจะเป็นของทิพย์ ที่จะทำให้เราได้ในสิ่งที่เราต้องการมากกว่า โดยไม่ต้องไปตรงกับของที่เราเคยทำบุญหรอก

เราสอนกันมาว่า ทำกรรมอะไรได้ผลอย่างนั้น เช่นปลูก ข้าวก็ได้ข้าว แต่เราสอนกันเพียงเท่านั้น จึงทำให้เราเข้าใจการให้ผลของกรรมได้ยาก ท่านอาจารย์วศิน อินทสระ ได้สอนเพิ่มเติมให้เข้าใจเสียใหม่ว่า

การให้ผลของกรรมมีเงื่อนไข แล้วแต่เหตุปัจจัยที่มาประกอบ บางทีปลูกข้าว ไม่ได้ข้าวก็มี ถ้าปลูกข้าวลงในดินไม่ดี หรือดินดี แต่น้ำไม่พอ ฝนไม่ตก ข้าวก็ได้น้อย หรือถ้าน้ำท่วม ข้าวก็เสียหายไปหมด ไม่ได้ข้าว ถ้าทุกอย่างดีหมด ดินดี น้ำดี เมล็ดพันธุ์ดีก็ได้ข้าวดี กรรมก็เหมือนกัน

และเหตุนี้ ถ้าเคยทำไม่ดีมา จึงทำให้เราสร้างเงื่อนไขเพื่อเข้าปรับเปลี่ยนผลกรรมได้ด้วยการทำดี เป็นโอกาสให้คนกลับตัวได้ และพัฒนาได้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305

ตอบตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2004, 6:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บุญละลายบาปได้

คนเราย่อมต้องเคยทำดีและชั่ว แต่ถ้าเรารู้ตัวว่าได้ทำชั่วไปแล้ว ท่านสอนว่าให้หยุดทำความชั่วเสีย แล้วทำความดีต่อไปให้มาก ๆ และมาก ๆ

เปรียบเหมือนเกลือช้อนหนึ่ง เมื่อใส่ลงไปในตุ่มใหญ่ที่มีน้ำเต็ม แม้เกลือจะยังคงมีอยู่ แต่ก็ไม่สามารถแสดงความเค็มได้ น้ำเปรียบเหมือนความดีที่มากจนความชั่วไม่อาจแสดงผลได้

แต่ก็ไม่ใช่คิดว่างั้นก็ทำชั่วไปได้ เดี๋ยวค่อยทำดีมาแก้เพราะถ้าเราคิดอย่างนั้น เราจะทำความชั่วต่อไปเรื่อย ๆ ผัดวันประกันพรุ่งต่อไปและไม่มีวันได้ทำดี เพราะความชั่วเป็นเรื่องทำง่าย และถูกกับกิเลสของคนเรา เช่น กินเหล้า เล่นการพนัน เที่ยวเตร่ สนุกสนาน เพราะฉะนั้น การคิดว่า ทีหลังไว้ค่อยทำดีมาแก้ จึงยากจนเรียกว่าเป็นไปไม่ได้

ดังนั้น เมื่อตั้งใจแล้วก็ควรหยุดความชั่ว และเริ่มทำดีทันที
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ลูกโป่ง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2005, 11:14 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขออนุโทนาบุญในสิ่งดีดี ที่คุณมอบให้นะคะ
 
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2008, 1:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอให้เจริญในธรรมจ้า สาธุ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น สู้ สู้ สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง