Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 คนที่ไม่ใช่พุทธ ตกนรกหรือเปล่า อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
undalus
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 16 ม.ค. 2007
ตอบ: 3

ตอบตอบเมื่อ: 16 ม.ค. 2007, 6:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากรู้ว่า คนที่ไม่ใช่พุทธแต่ว่าไม่ทำผิดตามข้อห้ามของพุทธ โดยไม่รู้ว่านั่นคือแนวทางของคนพุทธ เขาคนนั้นจะตกนรกหรือเปล่า และคนพุทธที่เชื่อตามความเชื่อของศาสนาอื่น โดยเชื่อศาสนาพุทธเป็นหลัก และเชื่อทุกความเชื่อที่ได้ยินมา เช่น ความเชื่อของพราหมณ์ ความเชื่อของคริสต์ เขาคนนั้นยังเป็นพุทธอยู่หรือไม่ครับ อยากรู้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 16 ม.ค. 2007, 9:50 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดี คุณundalus

ทุกคนเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไร ล้วนแล้วแต่เป็นมนุษย์ด้วยกันทั้งสิ้น นรก สวรรค์เป็นเพียงการสาธิตธรรมให้มนุษย์เกิดหิริโอตัปปะที่กล่าวไว้ในศาสนา หากกล่าวว่า ศาสนาอื่นเป็นเพียงความเชื่อ แล้วจะหาผู้ศรัทธามาจากไหน แม้ความศรัทธาก็ตาม หากมิได้ประกอบด้วยปัญญา ก็กลายเป็นความหลงในที่สุด เรา เขา ไม่แตกต่าง ยังอยู่ตรงความคิด ก็แบ่งแยกไปตามความคิด ทุกศาสนามีหลักปฏิบัติ ของเรายังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ จะไปเข้าใจผู้อื่นได้อย่างไรเล่า

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา


ผีเสื้อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 17 ม.ค. 2007, 10:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10087
 
undalus
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 16 ม.ค. 2007
ตอบ: 3

ตอบตอบเมื่อ: 18 ม.ค. 2007, 5:18 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สวัดดีครับคุณปุ๋ย

ก่อนต้องขอขอบคุณครับที่ตอบกระทู้ให้ผมครับ แต่ผมคิดว่าคุณยังไม่ได้ตอบให้ตรงคำถามเลย ตัวผมเองพยายามตั้งคำถามให้ตอบได้ง่ายที่สุดจึงถามว่าใช่หรือไม่ นะครับ เพราะผมต้องการเข้าใจทีละขั้นนะครับ คำคมของคุณนั้นยอมรับว่าคม แต่ว่าในเชิงความเข้าใจแล้วเป็นการใช้ภาษาที่ไม่ค่อยเกิดประโยชน์สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ลึกซึ้งสำนวนศาสนาครับ กล่าวก็คือ วกวนครับ ขอโทษนะครับไม่ได้จะว่าคุณนะครับ ในประโยคบอกเล่าเชิงคำสอนเนี่ย ผมว่าน่าจะเป็นประโยคที่ง่ายต่อความเข้าใจครับ ขอบคุณครับ ยังไงก็ขอให้ท่านตอบให้ตรงกับคำถามผมได้ไหมครับ หรือว่าคำถามผมมันไม่ชัดเจนผมยินดีที่ใช้สำนวนใหม่ให้ง่ายขึ้นครับ

สวัดดี
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
aek
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 18 ม.ค. 2007, 6:01 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ศาสนาอื่น ที่ผมพอรู้จักคือคริสต์ (เพื่อนรักผมเอง)

เค้าก็ดีนะคับ แต่ยังเป็นศรัทธาที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา ยังคงอยู่ในวัฎสงสารอยู่

แต่ในพื้นฐานก็ไม่ต่างกับเราเช่น ศีล ๕ เค้าก็ปฏิบัติเหมือนกันแต่ไม่ได้เรียกศีล ๕

มีพรหมวิหาร ๔ เหมือนกัน

แต่อย่างที่บอกครับ ผมมองว่าเป็นโลกียธรรม มิได้ก้าวไปถึงโลกุตระธรรม
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 18 ม.ค. 2007, 1:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดีอีกครั้ง undalus

ต้องกราบขออภัยที่ตอบไม่ตรงความคิดที่คุณต้องการ หากจะให้ตอบว่าใช่หรือไม่ใช่ ก็ตอบว่า ไม่ใช่ ความเข้าใจในเรื่องศาสนาก็เข้าใจไปตามภูมิธรรม แต่หากเข้าใจในศาสนาอย่างลึกซึ้งภาษาก็ไม่มีความหมาย หากตอบไม่ตรงความเชื่อ ความศรัทธา ไม่ตรงคำตอบที่ยังอยู่ตรงความคิด ก็คงพบข้อโต้แย้งมากมายตามความคิด ความเข้าใจตามภูมิธรรม ไม่ว่าศาสนาใดล้วนแล้วสรุปลงที่กายและจิต แตกต่างกันโดยภาษา เหมือนกันด้วยความรู้สึกแห่งสงบ และสันติ

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา

ผีเสื้อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
undalus
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 16 ม.ค. 2007
ตอบ: 3

ตอบตอบเมื่อ: 18 ม.ค. 2007, 8:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จากคำตอบของคุณ aek ต้องขอบคุณครับที่ให้ความคิดเห็น แต่ผมสงสัยครับว่า อะไรคือปัญญา ที่คุณบอกว่าศาสนาคริสต์ยังไม่ได้ประกอบด้วยปัญญา ขอบคุณครับ และยินดีมากที่ท่านทั้งหลายเข้ามาตอบคำถามผม ทำให้ผมได้มีความรู้มากขึ้นครับ

สวัดดีทุกท่านครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ปิงปอง ม.ราม
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 22 ม.ค. 2007
ตอบ: 6
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 22 ม.ค. 2007, 4:08 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บุคคลที่จะไปนรกนั้นเพราะทำผิดหลักกุศลกรรมบถ10 ไม่ว่าเขาจะนับถือพุทธหรือไม่ถ้าทำเหตุให้ไปนรกก็ต้องไปนรกครับ ส่วนบุคคลที่เชื่อพุทธ เชื่อพราหม เชื่อคริสต์ คือเชื่อหมดนั้นเต้องดูว่าเขาปฎิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาพุทธรึเปล่าถ้าไม่ ก็แสดงว่าเป็นพุทธแต่ในทะเบียนบ้านครับ
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เจ๊เป็นตุ๊ด
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 29 พ.ย. 2006
ตอบ: 60
ที่อยู่ (จังหวัด): ร้อยสอง

ตอบตอบเมื่อ: 22 ม.ค. 2007, 2:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรื่องหลังความตาย เอาไว้ตายเองแล้ว จะรู้เองว่า จะได้ไปนรกของศาสนา ไหน

โดยมากหลักคำสอนของศาสนาใหญ่ 3 ศาสนาบนโลกแล้ว สอนให้เป็นคนดีครับ ฉะนั้นการประพฤติปฏิบัติก็ส่วนมาก จะตั้งอยู่บนหลักของความดีงาม

ความขัดแย้งกันเรื่องคำสอนและความเชื่อของแต่ละศาสนา อาจมีบ้าง เพราะเห็นเชื่อไม่เหมือนกัน ควรเอาไว้ไปตัดสินกันในโลกหลังความตาย ส่วนโลกปีจจุบันขณะนี้ อยู่กันอย่างสงบ ไม่เบียดเบียนกันและกันดีกว่าครับ

สาธุ สวัสดี
 

_________________
ปัญญาอยู่ไหน ที่ไหนมีขายบ้าง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
unseen191
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ม.ค. 2007, 1:14 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมอ่านกระทู้นี้แล้วน่าสนใจมากๆ
กระผมขออนุญาติเรียนถามเจ้าของกระทู้ว่า
1. อะไรคือนรก
2. นรกมีจริงมั้ย
3. ถ้าจริงพิสูจน์อย่างไร
 
ผ่านมา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ม.ค. 2007, 3:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอนนี้ผมฝึกสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ พอออกจากสมาธิ แล้วก็เข้านอน พอหลับไปฝันว่าไปเห็นนางฟ้า พื้นที่โล่งกว้างท้องฟ้าสีเหลืองทอง สว่างไปทั่ว แต่ไม่มีดวงตะวัน ไปพบนางฟ้า น่าจะเป็นนางฟ้าครับเพราะว่าสวยมาก ถ้าเป็นมนุษย์น่าจะประมาณ อายุ 16 ปี พอไปพบ ท่านเข้ามาถามว่า เริญมาทำไรที่นี่ คือผมชื่อเริญนะครับ ผมก็ถามว่ารู้จักผมได้ยังไง ท่านก็ตอบว่าจำอุ้ยไม่ได้เหรอ อุ้ยขันแก้วไง ผมก็ถามว่าก็อุ้ยนะ ตายที่อายุ 84 นะครับ ท่านก็ตอบว่า วันนี้ท่านได้หมด เวรกรรมที่จะต้องชดใช้ในนรก เลยได้มาเกิดที่ตรงนี้ และที่นี่ไม่มี่คนแก่ ทุกคนจะหนุ่มสาวทั้งหมด ในใจผี่มก็นึกเอานะครับว่านี่คงเป็นสวรรค์แน่ทีเดียว แต่ท่านกลับตอบทั้งที่ผมไม่ได้พูดออกปากเลย ว่าถ้าหมดกรรมที่ต้องใช้เขาแล้วก็จะได้มาอยู่ที่นี่ ท่านแต่งตัวคล้ายคนโบราณ ประมาณยุค รัชกาลที่ 5 ที่ 6 นะครับ เสื้อผ้าเหมือนจะแปล่งแสงได้ และชุดสี่ออกขาว อมเหลือง ผมอยู่ที่นั้นได้สักครู่แล้วก็ตื่น พอตื่นแล้วผมก็สวดมนต์ อยากจะสอบถามท่านที่รู้นะครับว่าสิ่งที่ผมไปเห็นมา มันเป็นอะไรครับ และตอนที่ผมนั่งสมาธิ มีอยู่ช่วงนึงผมหายใจเข้าออก เบามากๆ และรู้สึกดีและดูเหมือนจะมีลมดูด ให้ผมหลุดไปจากร่างมันคืออะไรกครับ ถ้าผมตามลม หรือความรู้สึกนั้นไป ผมจะเป็นอะไรหรือเปล่า แบบว่าก็จะตายนะครับ ก็ว่าจะหมดลมหายใจ ท่านผู้รู้แจ้งท่านได้พอจะเสนอแนะได้บ้างครับ
 
ผ่านมา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ม.ค. 2007, 3:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

และขออภัยทุกท่านนะครับที่โพสต์ไม่ตรงคำถาม ถ้าท่านผู้รู้แจ้งทั้งหลายมีข้อปฏิบัติในการนั่งสมาธิยังไง เมล์มาที่ JAROEN_1@hotmail.com นะครับ จักขอบพระคุณยิ่งครับ
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 26 ม.ค. 2007, 3:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

นรก ความหมายก็คือ สถานที่รับความผิดที่เราได้กระทำมา
ซึ่งนรกตรงนี้มีทุกศาสนาและความเชื่อ

โดยส่วนตัวแล้วมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า คนเราทุกคน มีสติรู้ผิดชอบชั่วดี
อยากมีความสุข ไม่ต้องการความทุกข์ การเห็นคนอื่นได้รับความทุกข์ก็จะเป็นความไม่สบายใจอย่างหนึ่ง เป็นความทุกข์อย่างหนึ่ง

โดยหลักของศีล 5 เนื้อความล้วนๆ คือการละเมิดผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นมีความทุกข์
แม้แต่ข้อ 5 ที่ดื่มสุรา คือปากทางที่นำไปสู่ความเป็นทุกข์ทั้งของตัวเองและของผุ้อื่น

การทำผิดที่ละเมิดผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นได้รับความทุกข์ ความไม่สบายใจ ก็เป็นพื้นฐานอย่างหนึ่งที่ทุกคนรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แม้คนนั้นจะมีศาสนา หรือไม่ก็ตาม

ผลที่รับจากการทำผิดนั้นมีอยู่จริง ในใจของคนที่กระทำนั่นเอง

เคยอ่านคำเทศนาของท่านสุเมโธ ที่ว่าคนส่วนมากไม่สามารถอยู่กับตัวเองได้อย่างนิ่งๆ เพราะมันจะทำให้เรานึกไปถึงความผิดที่ได้เคยกระทำมา(สรุปประมาณนี้)

เพราะฉะนั้น การลงนรก คือความทุกข์จากความผิดของตัวเอง มีทุกชาติ ศาสนา ความเชื่อ
แล้วแต่ว่าจิตใจของตัวเองจะตัดสินลงโทษตัวเองอย่างไร (จิตเป็นใหญ่ จิตเป็นประธาน)

สำหรับที่เจ้าของกระทู้ถามนะคะ
อยากจะออกความเห็นว่า เหมือนกับคุกตะรางที่ขังนักโทษ
คนต่างชาติมาทำผิดในไทยก็ต้องได้รับโทษ แต่อาจมีข้อตกลงว่าไปรับโทษที่ประเทศของเขา หรือของเรา
หรือคนที่จะมาอ้างว่าทำไปเพราะไม่รู้ว่าต้องได้รับโทษ ก็ไม่มีข้อยกเว้น
ต้องเข้าคุกเหมือนกันค่ะ
 
ต้องตัดตัวตนตอนตอบ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 ม.ค. 2007, 8:06 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตามความคิดเห็นแล้วศีลข้อปฏิบัติที่มีอยู่นั้นพระพุทธเจ้าไม่ทรงเน้นว่าเป็นเพียงข้อปฏิบัติของพุทธศาสนิกชน แต่หมายถึงหลักธรรมมะหรือธรรมชาติอันเป็นเครื่องประคองจิตของมนุษย์ทุกคนให้สะอาดบริสุทธิ์มากขึ้น ดังนั้นไม่ว่าผู้ใดจะอยู่ลัทธิศาสนาใด พุทธ คริสต์ พราหม เต๋า ขงจื้อ ฮินดู วูดู ฟาหลุนกง หากปราถนาจะให้ฐานจิตใจตนเองมั่นคงบริสุทธิ์มีกำลัง ก็สามารถนำไปปฏิบัติได้ทันทีเพราะศาสนาพุทธไม่ได้ประกาศห้ามเลียนแบบหรือจดลิขสิทธิ์ไว้ แต่ยืนยันว่าทำแล้วให้ผลถึงจิตทุกคนทุกหมู่เหล่าเหมือนกันหมดถ้าหากรักษาการปฏิบัติกันสำเร็จได้อย่างต่อเนื่องถาวร ดังนั้นนรกสวรรค์ จะตกจะขึ้น หรือไม่ได้ขึ้นไม่ได้ตก ก็ไม่ใช่เนื้อหาสาระสำคัญในหลักของการเสริมสร้างฐานกำลังจิตใจให้กับตนเอง แต่เป็นเพียงผลพลอยได้จากการที่ตนมีจิตใจอันบริสุทธิ์จากการถือศีลเท่านั้น หวังว่าคำตอบคงเฉียดคำถามบ้าง สรุปก็คือหลักของพุทธไม่ว่าจะเป็นใครจะอยู่สถานะใด หากทำดีก็จะได้ดี ทำชั่วก็จะได้ชั่วลงนรกได้ทุกเวลาเช้าวันยันค่ำ ไม่มีการให้อภิสิทธี์ ว่าฉันเป็นลูกท่านหลานเธอ หรือเป็นสาวกเทพเจ้าองค์ใดใดหรือฉันไม่รู้เพราะหูเบาเชื่อคนอื่นง่ายแล้วจะได้รับการละเว้นหรือลดกรรมให้ฐานที่จำเลยรับสารภาพช่วยให้คดีบาปง่ายขึ้น สาเหตก็เพราะมันเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ของมันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วพระพุทธเจ้าทรงค้นพบเหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบว่าโลกมีแรงดึงดูดคนจึงบินไม่ได้เหมือนนกนั่นเอง แท้จริงแล้วแม้นคนทั่วไปไม่ได้รู้จักศีลในพุทธศาสนาแต่หากมีจิตใจมั่นคงที่จะไม่ทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่นทั้งคนและสัตว์ทุกวิถีทาง ก็จะยกระดับจิตใจตัวเองได้ก็คือหลักของศีลในศาสนาพุทธอยู่นั่นเอง ที่ไม่ใช่เป็นเพียงความเชื่อแต่เป็นกฏธรรมชาติที่ครอบคลุมทั้งหมด
ส่วนการถือศีลปฏิบัติธรรมตามพุทธแต่มีความรู้และปฏิบัติกิจวัตรตามศาสนาอื่นอีกเช่นกัน คิดว่าไม่เคยเห็นธรรมมะใดว่าจะถูกตัดขาดจากการเป็นพุทธหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าคนที่ปฏิบัติธรรมยังไม่เคยใส่ใจด้วยซ้ำว่าฉันเป็นพุทธแท้หรือไม่ในขณะที่ปฏิบัติ เพียงแต่ขอให้หนทางเข้าถึงธรรมของตนนั้นถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนก็พึงพอใจแล้ว เพราะผู้ปฏิบัติต่างก็ปราถนาให้จิตตนบรรลุเห็นธรรมกันจนไม่รู้สึกถึงความมีตัวตนของตัวเองอยู่เลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่พึงระวังก็คือข้อปฏิบัติใดของศาสนาใดอันมีผลกระทบให้จิตสั่นคลอนเช่นการฆ่าสัตว์บางจำพวกเพื่อการบูชา การทรมานตน หรืออะไรก็ตามที่เป็นการเบียดเบียนย่อมนำไปสู่จิตที่ลดต่ำลงได้ อีกทั้งการปฏิบัติอันไม่จำเป็น เช่นอดอาหาร หรือแต่งตัวตามระเบียบจนเกินไปเช่นกัน อาจจะสร้างความอึดอัดให้กับจิตตนทำให้จิตยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งภายนอกเกินไป ก็จะทำให้การปฏิบัติธรรมให้จิตเห็นความจริงยากขึ้นเท่านั้นเอง
สำหรับปัญญาความเข้าใจแบบมั่วมั่วของตัวเองอีกแล้ว น่าจะหมายถึงระดับความสามารถของจิตในแต่ละคนที่จะระลึกรู้เท่าทันถึงสภาวะจริงที่มีอยู่รายรอบจิตตนเองได้ นั่นคือจิตใครระลึกรู้ถึงความจริงหรือธรรมได้ชัดเจนมากจิตผู้นั้นก็มุ่งลงไปยังผลที่จิตต้องการได้แม่นยำฉับไวแบบที่สมองตัวเองอาจยังไม่ทันคิดเสียด้วยซ้ำไปทั้งภาพในสัญญาหรือความรู้สึกก็ถูกกลั่นกรองออกมาเป็นคำตอบให้เรียบร้อยเสียแล้ว จนปัญหาใดใดทั้งทางโลกทางธรรมก็มิอาจหยุดยั้งความสามารถในการรู้ความจริงอันหลากหลายของมันได้ เหตที่ศาสนาบางศาสนาบางท่านว่ายังไม่กอรปด้วยปัญญาก็อาจด้วยเหตดังที่ผมกล่าว เพราะในแบบแผนวิธีการยังไม่มีข้อปฏิบัติที่มุ่งเน้นพัฒนาความสามารถทางจิตของตนเองจนเห็นผลภายในตรงตรงด้วยตนเองเหมือนการปฏิบัติธรรมของศาสนาพุทธ แต่จะเน้นระเบียบแบบแผนการปฏิบัติที่เห็นผลได้จากภายนอกทางกายในรูปแบบของการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมมวลมนุษย์ด้วยความสันติสุขมั่นคงเสียมากกว่า สาธุ
 
ตัวตนเต็มเปี่ยม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 ม.ค. 2007, 9:38 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ซึ้ง
 
วรา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 ม.ค. 2007, 10:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผู้ใดเกิดมาแล้ว ถึงจะนับถือศาสนาต่างกัน แต่ จับเหล็กร้อน ก็มีความเจ็บปวดเหมือนกัน
แล้วนรกจะต่างกันได้อย่างไร

ความเชื่อกับความจริงบ้างครั้งก็ไม่ตรงกัน แล้วแต่บุคคลนั้น
แต่ความจริงก็ย่อมเป็นความจริงวันยังค่ำ ต่อให้ใครก็ตามไม่เชื่อว่าจริง

ความเชื่ออย่างมีเหตุมมีผล ย่อมส่งผลต่อผู้ที่เชื่อ ไม่ว่าคำสอนนั้นจะมาจากใคร หากสิ่งนั้นปฏิบัติแล้วจิตใจสงบ มีความสุข โดยไม่ต้องอาศัยวัตถุสิ่งของมาเกี่ยวของ คำสอนนั้นย่อมมีคุณค่า

แต่หากคำสอนนั้นนำไปปฏิบัติแล้วไม่ได้ผลที่ดีกลับมา ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นคำสอนที่ไม่ควรกระทำ

เราเป็นผู้ปฏิบัติ ควรจะใช้สติ ปัญญา พิจารณาหาเหตุผลให้ถูกต้อง
 
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 29 ส.ค. 2008, 12:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บางคนยังไม่ทันตาย ก็ได้รับผลกรรมที่ตนกระทำ(ชั่ว) ไว้ อย่างนี้ก็น่าจะเรียกตกนรกทั้งเป็นไปนะ สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง