อุทิศส่วนบุญให้เจ้ากรรมนายเวรเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำจริงหรือ

ผู้เยี่ยมชม

มีพระรูปนึงบอกว่า การที่เราทำบุญแล้วอุทิศส่วนบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะว่าเป็นการเพิ่มพลังอำนาจให้กับเจ้ากรรมนายเวรผู้นั้น ซึ่งเมื่อเขามีพลังอำนาจขึ้นมา เขาผู้นั้นจะกลับมาทำร้ายเราได้ ถ้าเขาไม่ยอมอโหสิกรรมให้เรา

ผู้เยี่ยมชม

เป็นความคิดเห็นส่วนของพระรูปนั้น ไม่ขอพูดว่าตัดสินลงไปว่าคำพูดนั้นถูกหรือผิด

จากการที่ได้รับคำสั่งสอนมา เมื่อได้บำเพ็ญบุญกุศลแล้ว ให้แผ่ส่วนกุศลให้กับครูบาอาจารย์ พ่อแม่ ผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง จิตวิญญาณทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวร สัตว์ดิรัจฉานทั้งหลาย เป็นต้น

เจ้ากรรมนายเวร ที่เราเข้าใจก็คือผู้ที่ผูกอาฆาตแค้นเรา สาเหตุที่ผูกอาฆาตแค้นคือเราได้ไปสร้างทุกข์ให้เราเขาในชาติก่อนๆ หรือชาตินี้ เจ้ากรรมนายเวรในปัจจุบันอาจจะอยู่ในรูปของวิญญาณ มนุษย์ สัตว์ ก็ได้แล้วแต่บุญกรรมของเจ้ากรรมนายเวรนั้นๆ บางครั้งเราอาจจะโดนคนที่รักจัก ไม่รู้จัก คอยเบียดเบียน รังแก ขัดขวาง โดยที่เราไม่เคยทำให้เค้าเหล่านั้นเดือนร้อนมาก่อน ตรงอาจจะเป็นได้ว่าเราเคยทำกับเค้ามาก่อนในชาติปางก่อน

ถ้าต้องการให้เหตุการณ์นั้นบรรเทา หายไป เราก็พยายามทำจิตใจให้สงบไม่โต้ตอบ และทำบุญอุทิศไปให้กับเขา (เจ้ากรรมนายเวร) เพื่อให้เขารับทราบว่าเราขออภัยกับสิ่งที่เราเคยทำไว้ในอดีตที่รู้ก็ดีไม่รู้ดี ระลึกได้หรือไม่สามารถระลึกได้ ขอให้เขาได้อโหสิกรรมให้กับเรา

การทำบุญอุทิศ แผ่ส่วนกุศล และการแผ่เมตตา ตรงนี้อาจจะได้ผลหรือไม่ได้ผล ขึ้นอยู่กับจิตของเราว่าเราต้องใจจริงใจในการทำ และที่สำคัญคือเจ้ากรรมนายเวรจะรับและอโหสิกรรมให้กับหรือเปล่า ? ถ้าเราพยายามทำอย่างเต็มที่แล้วแต่เจ้ากรรมนายเวรยังไม่อโหสิกรรม เราก็ต้องวางจิตใจเป็นอุเบกขา ยอมรับกรรม จนกว่าจะหมดเวรหมดกรรมที่เราเคยทำมา

ฉะนั้นการอุทิศส่วนกุศล และการแผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวรเป็นเรื่องที่ดี เป็นการยอมรับผิด และเป็นมิตรกับผู้ที่อาฆาตเรา ก็จะช่วยให้เหตุการณ์ที่ร้ายๆ ไม่ดี อาจจะดีขึ้นก็ได้

ผู้เยี่ยมชม

ผู้เยี่ยมชม

มีพระรูปนึงบอกว่า
การที่เราทำบุญแล้วอุทิศส่วนบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

ตอบ

การที่เราทำบุญแล้วอุทิศส่วนบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร เป็นสิ่งที่ "ควรทำ" การทำบุญผู้ที่ได้บุญก็คือ ผู้ทำ ถ้าเราไม่ทำก็ไม่ได้บุญ แล้วคุณจะทำหรือไม่ทำละ สาธุ

ผู้เยี่ยมชม

ผมอยากให้คุณพิจารณาตามนะครับ
เอาที่เห็นได้ง่ายๆ ไม่จำเป็นจะต้องตายจากกันหลอกครับ

ถ้าสมมติว่าคุณมีเพื่อนแล้วเพื่อนโกรธคุณ คุณอยากจะให้เขาอโหสิในการกระทำของคุณโดยทำทุกวิถีทาง แต่ว่าเพื่อนของคุณไม่ยอมอโหสิให้ ก็ทำกับว่าสิ่งที่คุณให้เขาตอนนั้นเขาไม่ยอมรับเอา แล้วคุณก็ไม่หยุดที่จะทำความดีเพื่อที่จะให้คุณนั้นเป็นคนที่ดีที่เหมาะสมแก่การให้อภัยจากเพื่อน แล้วถ้ามาวันหนึ่งคุณกับเพื่อนได้เจอกันอีกแล้วได้มีเหตุปัจจัยที่ดีต่อกัน แล้วคุณขอให้เพื่อนคุณอโหสิกรรมให้ เพื่อนคุณเห็นสิ่งที่คุณทำดีแล้วก็ยกโทษให้อโหสิให้ นี้ก็เท่ากับว่าคุณกับเขานั้นไม่ผูกเวรกัน แต่ว่าสิ่งที่คุณทำกับเพื่อนคุณนั้นย่อมส่งผลอยู่ ไม่ใช่ว่าเขาอโหสิแล้วจะไม่ได้รับผลของการกระทำนั้น การกระทำทุกๆ อย่างย่อมมีผล

สิ่งที่กล่าวไปนั้นเป็นเหตุการณ์สมมติขึ้น การที่เราจะอุทิศบุญหรือกุศลให้กับใครสักคนหนึ่งนั้นต้องอาศัยเหตุปัจจัยที่เหมาะสมกันอย่างมากจึงจะได้ผล ไม่แน่เสมอไปว่าที่เรานั้นอุทิศไปนั้นจะได้รับหรือไม่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนกว่าก็คือ คนที่ทำกุศลนั้นย่อมได้รับผลที่ตนเองกระทำ แล้วก็ทำแทนกันไม่ได้ด้วย อยากได้ตอ้งทำเอง

ขอให้อย่าหยุดทำความดีนะครับ
ขอให้เจริญในธรรมครับ

ลุงรินทร์

ตอบเมื่อ: 15 พ.ย.2005, 7:42 pm

ผมมีความคิดเห็นอย่างนี้นะครับ การที่เราปฏิบัติสมาธิภาวนาแล้วนำกำลังสมาธิมาแผ่เมตตาเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะอุทิศให้ใครก็เป็นผลเสียทั้งสิ้น แต่การแผ่เมตตาที่ว่านี้ ต้องทำด้วยจิตที่บริสุทธิ์เท่านั้น วิธีการง่าย ๆ คือนำกำลังสมาธิมาล้างสันดานที่ไม่ดีให้ค่อย ๆ หมดสิ้นไปในแต่ละรอบ โดยสังเกตได้จากว่าจิตของเราจะสงบนิ่งไม่คิดฟุ้งซ่าน ซึ่งอาจเป็นระยะเวลาเพียงสั้น ๆ แล้วค่อย ๆ

ตอบเมื่อ: 19 พ.ย.2005, 9:05 pm

ขอให้ระลึกอยู่เสมอครับ ว่านเมล็ดอะไรก้อย่อมได้พืชอย่างนั้นครับ เราเมตตาเขา เขาก้อย่อมเมตตาต่อเราเช่นกัน เหตุการณ์ภาคใต้ไม่สงบก้อคงเพราะเหตุอย่างนี้กระมัง เพราะรู้ไม่จริง ปฏิบัติไม่ถึงขั้น จึงถูกโมหะครอบงำ ปิดหู ปิดตา ปิดปาก นั่งดูจิตดูใจตัวเราเองดีกว่า กิเลสเข้ามาย่ำบ้านเลอะหมดแล้ว

สาธุ...สาธุ....สาธุ

ตอบเมื่อ: 20 พ.ย.2005, 1:23 am

เจ้ากรรมนายเวร โดย อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=283

ผู้เยี่ยมชม

ความคิดส่วนตัว สำหรับผู้ตั้งใจที่จะยกระดับจิตตัวเองจริงจริงในทางพุทธ เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะการที่ผู้ปฏิบัติสามารถแผ่ความดีภายในไปให้ผู้เป็นเจ้ากรรมนายเวรตนได้ย่อมหมายถึงขณะเวลานั้นผู้ปฏิบัติมีจิตที่บริสุทธิ์ขึ้น สามารถหลุดพ้นห่างไกลจากอาฆาตพยาบาทได้แม้นลึกลึกอาจรู้สึกว่าจะต้องได้รับทุกข์จากผู้ทำความเดือดร้อนก็ตามไม่ต่างจากแนวคำสอนของคริสต์ที่เน้นการให้อภัยกับศัตรูแต่ของเรามุ่งฝึกฝนตรงลงไปที่จิตภายในโดยไม่ต้องแสดงให้คนภายนอกรู้ก็ทำได้ ยิ่งทำบ่อยก็ยิ่งเสริมให้จิตผ่องใสเป็นประโยชน์ที่ได้รับโดยตรงจากการแผ่เมตตา มากกว่าการหลุดจากบ่วงกรรมของเจ้ากรรมนายเวรที่เราเองคงไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริงเท็จอย่างไร

ตอบเมื่อ: 03 พ.ย.2006, 12:02 am

อืมส์
การที่เราทำบุญแล้วอุทิศส่วนบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร เป็นสิ่งที่ "ควรทำ"

การทำบุญผู้ที่ได้บุญก็คือ ผู้ทำ ถ้าเราไม่ทำก็ไม่ได้บุญ
แล้วคุณจะทำหรือไม่ทำละ

สาธุ

ตอบเมื่อ: 20 มิ.ย.2008, 12:51 pm

ขอบคุณในความรู้ครับ

ตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2008, 12:40 am

หวัดดีคะ ขอตอบคำถามนะคะ

ท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยสอนว่า การทำบุญแล้วอุทิศให้เจ้ากรรม

นายเวรนั้น อาจมีผลถึงขนาดเป็นการตัดกรรมได้ ถ้าการอุทิศนั้นทำ

ด้วยความตั้งใจจริง แล้วเจ้ากรรมนายเวรนั้นรู้และได้อนุโมทนาด้วย

แต่การที่เจ้ากรรมนายเวรจะรู้หรือไม่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าขณะนั้นเขา

อยู่ภพภูมิใด เช่น นรกบางขุมอนุโมทนาไม่ได้คะ

ขอแนะนำให้ทำบุญด้วยความตั้งใจจริง คือ ทาน ศีล ภาวนาแล้ว

อุทิศให้เลยคะโดยเอ่ยชื่อด้วยอย่างน้อยแม้เจ้ากรรมนายเวรจะไม่รู้

หรือรู้แต่ไม่ให้อภัย คุณก็ยังได้บุญนะคะแล้วผลบุญนี้อาจจะเปลี่ยน

วิบากกรรมที่ร้ายแรงให้เบาลงได้คะ

ตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2008, 6:52 am

ตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2008, 8:36 pm

"เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร"

การอุทิศส่วนกุศล ก็เป็นแสดงให้เจ้ากรรมนายเวรได้เห็นว่าเราไม่ถึงจะจองเวรกับเค้าแล้ว เจ้ากรรมนายเวรออกจะเห็นใจแล้วก็เลิกจองเวรกับเรา ก็เป็นได้น่ะ ยิ้มแก้มปริ

ตอบเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 3:13 pm

อ้างถึง-มีพระรูปนึงบอกว่า การที่เราทำบุญแล้วอุทิศส่วนบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะว่าเป็นการเพิ่มพลังอำนาจให้กับเจ้ากรรมนายเวรผู้นั้น ซึ่งเมื่อเขามีพลังอำนาจขึ้นมา เขาผู้นั้นจะกลับมาทำร้ายเราได้ ถ้าเขาไม่ยอมอโหสิกรรมให้เรา

ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง น่าจะผิดหลักพุทธศาสนา
แค่ความเห็นหนึ่ง สาธุ

ตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2008, 3:56 pm

ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง.
ไม่เสมอไป บาง ตนก็ อโหสิ แล้วโมทนากับเรา
บางตนไม่ ก็ อาฆาต ไปอีก แต่ผลบุญไม่ค่อยถึงเพราะ จิต ไม่ผ่องใส
รับผลบุญ ไม่เต็นหน่วย ยิ้มแก้มปริ

ตอบเมื่อ: 27 ส.ค. 2008, 11:29 am

ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก - มากที่สุด

ไม่มีเจ้ากรรมนายเวรท่านใดที่ได้รับส่วนบุญส่วนกุศลจากผู้ที่อุทิศให้แล้ว มีอำนาจพลังเพิ่มขึ้น แล้วกลับมาทำร้ายผู้ที่อุทิศให้แน่นอนที่สุด แต่ที่รู้สึกว่าทำไมเจ้ากรรมนายเวรจึงไม่ยอมอโหสิกรรมให้แก่ต้วเรานั้น เนื่องจากเจ้ากรรมนายเวรของตัวเรายังมีอีกเยอะ (หลายเจ้า) มากกว่า ซึ่งต้องมีการเคลียร์กรรมเฉพาะเป็นรายๆ ไป แล้วเจ้ากรรมฯ ของเราก็จะได้รับส่วนบุญนั้น และสุดท้ายก็จะกลับมาให้ในสิ่งที่เราต้องการทุกประการ ขอให้ตั้งใจทำบุญกุศลต่อไป

เมตตา
*ศิษย์คนตาทิพย์*