คุยเรื่องสามัคคีธรรมกับคุณขันธ์

ตอบเมื่อ: 17 ส.ค. 2008, 1:14 pm

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

ผมคิดว่า ท่านกรัชกราย และ คุณคามินหางานเองมากกว่านะครับ

เพราะทั้งคู่ ต่างตั้งกระทู้ขึ้นเอง แถมเอ่ยชื่อขันธ์เสียด้วย

ดิ้นกันอยู่ไม่สุขเอง ส่วน นาย mes คุณเป็นฝ่ายเดียวกับ คามินและคุณ guest ได้อย่างไร ในเมื่อคุณ กล่าวหาพระหลวงตา ส่วน คามินและคุณ guest บอกว่า หลวงตาเป็นพระอรหันต์

แต่สุดท้าย คุณ กรัชกรายมาบอกผมว่า ไม่ควรไปเอ่ยชื่อพระอริยะ
แต่ดันไปกระทบ เข้ากับ สามคนเลย คือ คามิน guest และ mes แต่แปลกนะ ไม่ยักกะเถียงกัน

แถม คุณ guest มาบอกผมว่า ระวังเอ่ยชื่อหลวงตาไม่ดี และ คุณ คามินมาสนับสนุน แต่คุณ mes ออกมาว่าหลวงตาในเชิง เสียหาย กลับไม่มีใครพูด

โธ่ ผมหละไม่รู้จะตลกพวกคุณอย่างไรแล้ว นี่แหละครับคนมีธรรม อีรุงตุงนังกันเอง จะมาด่าผมว่าผม กลายเป็นด่ากันเองไปในตัว 555

คุณกรัชกาย คุณguest ท่านทั้งสองไม่เกี่ยวครับ

เป็นเรื่องของน้องคามินธรรมกับผม

ผมกับคุณguest คุณคามินธรรม มีความคิดเห็นแตกต่างกัน

เราต่างมีวุฒิภาวะเคารพในเสรีภาพ และสิทธิทางความเชื่อของกันและกัน

เป็นภาพอันสวยงามของสังคมเวป

เป็นภาพอันสวยงามของสหายธรรม ของกัลยณมิตร

คุณขันธ์ต้องการให้ผมต้องทะเลาะกับท่านทั้งสองจึงจะเป็นธรรม

ผมว่าสามัคคีเภทไม่ใช่ธรรม เป็นอกุศล

การสนทนาธรรมต้องฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน

ดังบทความท่านกุหลาบสีชานำมาเตือนสติ

ต้องถามคุณขันธ์ว่าที่

ผมไม่ทะเลาะกับคุณคามินธรรม กับ คุณguestนั้นผิดด้วยหรือครับ

คุณศึกษาธรรมะประเภทไหนกันแน่

ตอบเมื่อ: 17 ส.ค. 2008, 1:18 pm

55555555
ท่านพี่พูดตรงใจจริงๆ คนมีธาตุใกล้เคียงกัน
พูดอะไรมันก็เข้าใจกันง่ายๆ น่ะนะคับ
มีแต่ความสงบสุขอยู่ร่ำไป

แต่กระทู้นี้ ผมไม่เอาด้วยนะ 555
เพราะผมเข็ดแล้ว นี่ยังเลียแผล หงิงๆ อยู่บ้าน

"เหลิกกกกกแล้วค่ะ .....หนูเลิกกกกะเขาแล้วค่ะ
อ๋อยังหรอกค่ะ ....ไม่คิดยุ่งใหม่หรอกค่ะ"

5555555555

ท่านพี่อย่าสนุกจนเพลินนะฮะ

ตอบเมื่อ: 17 ส.ค. 2008, 1:50 pm

นั่นมันการตีความสุดโต่งของคุณเอง

ผมชี้ให้เห็นว่า ถ้าคุณมองตามธรรมจริงๆ คุณก็ต้องมองว่า สิ่งที่คุณขัดแย้งกันนั้นผิด คุณก็ต้องเตือนกันเอง ไม่ใช่ มาเตือนผม ข้อนี้แสดงให้เห็นว่า คุณกำลัง ไม่ได้ถือธรรมธิปไตย แต่เป็นอัตตาธิปไตย

ตอบเมื่อ: 17 ส.ค. 2008, 4:16 pm

อ้างอิงจาก:

นั่นมันการตีความสุดโต่งของคุณเอง

ผมชี้ให้เห็นว่า ถ้าคุณมองตามธรรมจริงๆ คุณก็ต้องมองว่า สิ่งที่คุณขัดแย้งกันนั้นผิด คุณก็ต้องเตือนกันเอง ไม่ใช่ มาเตือนผม ข้อนี้แสดงให้เห็นว่า คุณกำลัง ไม่ได้ถือธรรมธิปไตย แต่เป็นอัตตาธิปไตย

ผมบอกว่าความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันไม่ใช่ความขัดแย้ง จึงไม่ต้องเตือนกัน

ที่ต้องเตือนกันคือวิวาทะ

ธรรมาธิปไตยหมายความถึงไม่มีความขัดแย้งหรือ

ไม่น่าจะใช่

ธรรมาธิปไตยหมายถึงการเคารพซึ่งกันและกันด้วยหลักธรรมมากกว่า

ต้องเข้าใจธรรมก่อนถึงเป็นผู้สอนได้

ในนิกายเซ็นผู้สอนด้วยการกระแทกอารมณ์อาจารย์จะมีภูมิธรรมสูง

เมื่อถูกสวนกลับท่านก็อุเบกขา

เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติของแรงคือ

แรงกระแทก = แรงสวนกลับ

แต่ถ้าหากผู้สอนมีภูมิธรรมต่ำกว่าผู้ถูกสอน

กิเลสของผู้สอนก็ดิ้นน่าดู เหมือนผีเข้าเลยหละ

ตอบเมื่อ: 17 ส.ค. 2008, 11:28 pm

ก็ ที่ดิ้นอยู่นี่ คืออะไรหละ mes ดิ้นทั้งสามสี่คนเลยนี่

คนหนึ่งอดรนทนไม่ไหว ต้องมาขอปวารณาตัวกับผม
คนหนึ่งอดรนทนไม่ไหว มาขอเจรจา แทบจะแจ้งความ
คนหนึ่งอดรนทนไม่ไหว มาขอคุยเรื่องสามัคคีธรรม

แต่ผมอยู่เฉยๆ คนเดียว นี่เรียกว่า ใครดิ้น หละ mes

นี่ไปตาม guest อีกคนหนึ่งมา ก็พอดี สี่สหาย แต่ขานั้นคงเข้ากับคุณไม่ได้หรอก เพราะว่า เขาต่างถิ่นต่างธาตุกับพวกคุณ ก็คงแต่จะมีสามสหายนี้แหละ ที่ดิ้นอยู่

ผมจะแนะให้นะครับ หากว่า จะคุยกับผม จะขอธรรมจากผม ก็
ให้ถามสิ่งที่ ติดจากการปฏิบัติ อย่าเอาเรื่องโง่ เรื่องขยะ ที่อยู่ในหัว หรือแค่ความทรงจำอันเปล่าประโยชน์มาถาม แล้วจะได้ของดีไปเอง

ถ้าเอาเรื่องในหัวตัวเองมาถาม มันก็ถามไปไม่ได้เรื่องได้ราว ตอบไปมันก็ฟังผ่าน เพราะสันดานกิเลสนั้น ต้องการอะไรแค่ ลาภยศ สรรเสริญ นินทา
สุขทุกข์ แค่นั้น ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ การควานหากิเลส ความโง่ ความหลงในตัวเอง กี่ปีผ่านไป มันได้มาก็แค่ความจำ หาได้มีปัญญาเกิดไม่ อ่านมากจำมากรู้มาก ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร

นี่จำเอาไว้

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 12:29 pm

อ้างอิงจาก:

ผมจะแนะให้นะครับ หากว่า จะคุยกับผม จะขอธรรมจากผม ก็
ให้ถามสิ่งที่ ติดจากการปฏิบัติ อย่าเอาเรื่องโง่ เรื่องขยะ ที่อยู่ในหัว หรือแค่ความทรงจำอันเปล่าประโยชน์มาถาม แล้วจะได้ของดีไปเอง

ไปตอบปัญหาตรงนี้ให้ได้ก่อน

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=17188&start=40&sid=aa38dadb7a47f683c81a8ffe0650d05e

เอาให้เคลียร์ อย่าวิ่งหนีดื้อๆ อีกละ

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 12:38 pm

ครับ ไม่ได้วิ่งหนี แต่ไม่ตอบ
เพราะเป็นคำถามเด็ก ป 1 คนอ่านไม่รู้เรื่องก็เด็กป 1

คุณ mes กรุณาไปอ่านให้ดีๆ ก่อนว่า อะไรคืออะไร

คนที่วิ่งหนีคือ คนไม่ยอมรับความจริง เวลาผมพูดเรื่องจริงแล้ว ไม่มีใครออกมายอมรับ การกระทำของตนเองนั่นแหละ เขาเรียกว่า วิ่งหนี
แต่ถ้า ไม่ตอบคำถาม เพราะคำถาม ไม่ได้เป็นไปเพื่อ ประโยชน์ ผมก็จะไม่ตอบ

เช่น ว่า กรรม เป็นอย่างไร บารมีเก่าคืออะไร

นี่โตจนป่านนี้ ศึกษาธรรมมาจนป่านนี้ ไม่รู้จักสองคำนี้ แกล้งโง่ ถามทำไม

ทีคนอื่นถามเรื่อง อภิธรรม อวดดี ไปตอบกัน แต่ตัวเองโง่ แกล้งไม่รู้ว่า สิ่งเหล่านี้หมายถึงอะไร แล้วมาถามผม

ตัวคุณ mes เอง ก็ทำเป็นโง่ ไม่รู้จักหรือ ว่า กรรมเก่า บารมีเก่าหมายถึงอะไร หรือ ว่า ถ้าจะให้ผมอธิบายให้ ก็ต้องทำจิตให้หายโง่ คือ ถามเหมือนคนต้องการคำตอบ ไม่ใช่ถามลองภูมิ ถามเพื่อจับผิด

ทำเป็นอ่านไม่รู้เรื่อง แบบนี้พอบอกว่า โง่ ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แล้วมันโง่จริงไหม แค่นี้ไม่รู้เรื่อง

เลิกเสียที ไอ้นิสัย เอาความไม่พอใจมาปนกับธรรมเนี่ย ตื่นเสียที
ลองไปพิจารณาตามความเป็นจริง ก่อน

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 2:32 pm

ตอบ ขันธ์ - ตอบเมื่อ: 17 สิงหาคม 2008, 11:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน
ก็ ที่ดิ้นอยู่นี่ คืออะไรหละ mes ดิ้นทั้งสามสี่คนเลยนี่

คนหนึ่งอดรนทนไม่ไหว ต้องมาขอปวารณาตัวกับผม
คนหนึ่งอดรนทนไม่ไหว มาขอเจรจา แทบจะแจ้งความ
คนหนึ่งอดรนทนไม่ไหว มาขอคุยเรื่องสามัคคีธรรม

แต่ผมอยู่เฉยๆ คนเดียว นี่เรียกว่า ใครดิ้น หละ mes

นี่ไปตาม guest อีกคนหนึ่งมา ก็พอดี สี่สหาย แต่ขานั้นคงเข้ากับคุณไม่ได้หรอก เพราะว่า เขาต่างถิ่นต่างธาตุกับพวกคุณ ก็คงแต่จะมีสามสหายนี้แหละ ที่ดิ้นอยู่

==============================
คุณ ขันธ์

คุณจะพาดพิงผมเพื่อประโยชน์อะไร

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 2:37 pm

ขออนุญาต คุณ mes และคุณขันธ์
ขอนำธรรมเรื่อง "อนุสัย" เครื่องดองในสันดานมาฝาก

"..........
เรื่องของกิเลสนั้นมันมีอยู่อย่างนี้ ว่า ......
ถ้าเกิดโทสะหรือโกธะทีหนึ่ง มันก็เหลือ เป็นปฎิฆานุสัยไว้ในสันดานหน่วยหนึ่ง เกิดทีหนึ่งเหลือไว้หน่วยหนึ่ง ในสันดาน จึงเต็มไปด้วยปฎิฆานุสัยคือพร้อมที่จะโกรธ

แล้วอนุสัยนั้นก็เก็บไว้มาก แล้วมันก็อัดๆ อัดมากอัดตัวมากพร้อมที่จะไหลออกมา ที่พร้อมที่จะไหลออกมา นี่เรียกว่าอาสวะ พร้อมที่จะดันออกมาเป็นกิเลสตามชุดของมัน .....

ปฎิฆานุสัย มันก็สำหรับจะให้ดันไหลออกมา เป็นกิเลสประเภทโทสะ ...

ถ้าเราบังคับไว้ได้ เช่น เช่น มันจะเกิดราคะนี่ บังคับไว้ได้ไม่ให้เกิด
ก็จะลดราคานุสัยเสียหน่วยหนึ่ง ทุกทีที่บังคับไว้ได้
นี่อนุสัยนั้นจะลดลง,ลดลง ทุกครั้งที่บังคับไว้ไม่ให้เกิดกิเลสใดๆ ได้
บังคับไว้ไม่ให้เกิดราคะก็ลดราคานุสัย
บังคับไว้ไม่ให้เกิดโทสะก็ลดปฎิฆานุสัย
บังคับไม่ให้เกิดโมหะ ไม่ให้โง่ มันก็ลดอวิชชานุสัยนี่.....

ทีนี้เราจะต้องรอบรู้ว่า กิเลสนี้เป็นอย่างไร จะเกิดอย่างไร จะไม่เกิดอย่างไร อะไรเป็นสมุทัยของกิเลส รอบรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับกิเลส นี่ด้วยอำนาจของปัญญา ก็สามารถที่จะจัดจะทำ ให้อนุสัยลดลง ลดลง ลดลง
จนไม่ไหลออกมาเป็นกิเลส ก็คือความสิ้นไปแห่งกิเลส
สิ้นไปแห่งราคะ สิ้นไปแห่งโทสะ สิ้นไปแห่งโมหะ
นี้เรียกว่าปริญญาแปลว่าสิ่งที่ควรรอบรู้อย่างยิ่ง.."

คัดลอกตัดทอนมาจาก
http://202.44.204.76/cgi-bin/kratoo.pl/002125.htm

เราต่างก็เป็นมิตรสหายในทางธรรม
ร่วมเดินบนหนทางเพื่อการหลุดพ้น เพื่อความสิ้นไปของกิเลส

ขออย่าได้ประมาท อย่าเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยเลย
อย่าให้กิเลสสั่งสมนอนเนื่องพอกพูนอีกเลย รังแต่จะเนิ่นช้าไปเปล่า

ด้วยความปรารถนาดี
ขอทุกท่านเจริญในธรรมค่ะ
สาธุ

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 5:54 pm

คุณขันธ์กล่าวได้งดงาม

นับเป็นธรรมะที่น่าฟัง

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 6:59 pm

คุณ คามินธรรม ครับ

ขอคุณโปรดเข้าใจผมด้วยครับ

เมื่อผมแสดงอะไรออกไป
ต้องคำนึงถึงผู้เป็นครูบาอาจารย์ครับ

ถ้าลูกศิษย์ไม่ดี ถึงแม้จะไม่เกี่ยวกับครูบาอาจารย์
แต่มันอาจส่งผลให้เค้าตำหนิถึงครูบาอาจารย์ได้ครับ

ด้วยความที่ผมยังมีกิเลสอยู่อาจจะหลุดไปบ้าง
จึงจำเป็นต้องทบทวนตนเองครับ

ขอให้ผู้เป็นมิตรโปรดเห็นใจครับ

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 7:08 pm

guest พิมพ์ว่า:

คุณ คามินธรรม ครับ

ขอคุณโปรดเข้าใจผมด้วยครับ

เมื่อผมแสดงอะไรออกไป
ต้องคำนึงถึงผู้เป็นครูบาอาจารย์ครับ

ถ้าลูกศิษย์ไม่ดี ถึงแม้จะไม่เกี่ยวกับครูบาอาจารย์
แต่มันอาจส่งผลให้เค้าตำหนิถึงครูบาอาจารย์ได้ครับ

ด้วยความที่ผมยังมีกิเลสอยู่อาจจะหลุดไปบ้าง
จึงจำเป็นต้องทบทวนตนเองครับ

ขอให้ผู้เป็นมิตรโปรดเห็นใจครับ

คุณพี่ทั้งหลาย อย่าเข้าใจผมผิด
พึงระลึกไว้เลยว่า ผมกับนายขันธ์คนละธาตุอย่างสิ้นเชิง
- ก่อนหน้านี้ ผมกับนายขันธ์ หย่าขาดกันไปแล้ว ดังทราบ
- แต่นายขันธ์ ไม่หยุดที่จะเลียบเคียง แอบด่า แอบยั่ว
ผมก็ไม่ถืออะไร ไม่สนใจ
- ต่อมาผมตั้งกระทู้ ตั้งนิทานขึ้นมาเพื่อคุยกับพี่ๆทั้ง 4 โดยตรง
เรื่องประชุมนายกอง ท่านพี่ก็คงได้อ่านข้อความ
ซึ่งเป็นข้อความที่พูดกับเพื่อนว่า เตือนเพื่อถ้าเราเลิกขานรับนายขันธ์ นายขันธ์ก็จะสงบไปเอง

ในเนื้อกระทู้ผมเอง แทบจะไม่แตะต้องนายขันธ์ตามคำสัตย์ที่ให้ไว้
ท่านพี่ guest ก็อ่านแล้ว

วิธีแตะต้องนายขันธ์ ผมก็กระทำอย่างเบาที่สุด
็หลีกเลี่ยงที่สุด หน่อมแน๊มที่สุด เบาที่สุด
ที่จะเอ่ยถึงนายขันธ์เอาแต่ที่จำเป็น
ผมแค่แตะต้องเพียงเล็กน้อยเพื่อสื่อให้ครบองค์ความเท่านั้น

ปรากฏว่า เทวดาของนายขันธ์ ลบกระทู้ผมหมดสิ้นทั้งยวง
นายขันธ์มีเทวดาปกป้องอยู่

- ต่อมาผมลองใช้วาจาหยาบๆ คายๆ ด่านายขันธ์
ข้อความทั้งหมดของผมก็ถูกเทวดาของนายขันธ์แปลงสารไปหมด

- ผมจึงหันมาเล่นวิธีการชมเชย ยกย่อง เลียขานายขันธ์ดู
ว่าเทวดานายขันธ์จะทำอย่างไร ... กะลังดูผล
ซึ่งการเลียขานายขันธ์ ดูจะเป็นที่พออกพอใจเจ้าของเว็บ
เขายังไม่เห็นจัดการอะไรผม

- ผมยังอยากรู้ต่อไปว่า เมื่อผมใช้ภาษาเหมือนนายขันธ์
ผมจะโดนลบหรือไม่

ทั้งหมดที่คุณ guest เห็น และพี่ๆ ทั้ง 4 เห็น
โปรดสังเกตุรู้ไปเรื่อยๆ

ผมแค่หมดศรัทธาเจ้าของเว็บ
ที่มาจัดการผมข้างเดียวอย่างเด็ดขาด
นิดไม่ได้ หน่อยไม่ได้

โดยแทบไม่ทำอะไรนายขันธ์
ที่กระทำกับผมตรงไปตรงมา อย่างรุนแรง และต่อเนื่อง

ผมกำลังทดสอบมาตรฐานการ censor ของเข้าของเว็บ

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 7:40 pm

ตอนนี้เป็นปรากฏแล้วว่า นายขันธ์ ไม่ใช่พระอริยะ

ทุกท่านหากสังเกตพฤติกรรมนายขันธ์ตั้งแต่ต้น

จะเห็นว่า นายขันธ์พยายามแสดงตนให้คนอื่นเข้าใจว่าตนเองบรรลุโสดาบัน

ผมจึงขอเรียนชี้แจงให้ทุกท่านทราบครับ

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 8:40 pm

ที่คุณขันธ์พยายามบอกก็คือ ที่พลังจิตเขายึดได้ทั้งหมดแล้ว

ที่นั่นมีแต่สาวกเขา

ใครกล้าดีลองเข้าไปที่เวปพลังจิต ห้องลึกลับดู

ดูเหมือนว่าเขากำลังจะมาทำธรรมจักรอีกเวปหนึ่ง

ต้องดูกันต่อไป

แต่ไม่เป็นไร

สรรพสิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 8:44 pm

มากำหนดมาตรการคว่ำบาตรนายขันธ์กันเถอะ!

1. คือ ... !

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 8:49 pm

ประกาศรับสมัครสมาชิก

P. A . A .K

People Alliance of Anti - Khuun

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 9:08 pm

สหายธรรมทุกท่าน

ถ้าเข้าใจสิ่งที่เขาเหล่านั้นปฏิบัติกันอยู่แล้ว น่าสงสารครับ

ยิ่งปฏิบัติธรรมกันแล้วไม่ได้ช่วยให้ดับทุกข์เย็นใจแต่ประการใด

แต่ดูประหนึ่งว่าหลุดออกจากโลกของความจริงซึ่งเป็นปัจจุบัน

เข้าสู่แห่งโลกจินตนาการ

น่าเห็นใจครับ

หากอภัยกันได้ก็ดีครับ

เลือกเอาที่เรียบๆมาลองอ่านดูเล่นๆ ครับ

ถอดจิตไปดูสวรรค์ และได้กราบหลวงพ่อ....ครั้งแรก

เป็นประสบการณ์ครั้งแรกเลยค่ะ เรื่องเป็นดังนี้

-คืนวันที่26 ก.พ. 2549 เวลา ประมาณ เที่ยงคืนข้าพเจ้าง่วงมาก
-ได้เข้านอน ก่อนนอนภาวนาพุทโธ ปลงกับร่างกายว่าไม่สะอาดเอาเสีย
เลยจนหลับหมดความรู้สึกไป
-รู้สึกตัวอีกทีพบว่ากำลังเหาะอยู่เหนือพื้น ข้างล่างเป็นสะพาน ทุ่งหญ้า
ถนน ต้นไม้ ลอยไปเรื่อยๆจนมาถึงที่แห่งหนึ่ง
-สภาพเป็นบ้านเรือนสีสันงดงามแปลกตาหลายหลัง ข้าพเจ้าขึ้นไปบนบ้าน
หลังหนึ่งชึ่งมีคนอยู่บนนั้นก่อนแล้ว3-4คน
-ซักพักปรากฎร่างหลวงพ่อ....ข้าพเจ้าปิติยินดีมาก ก้มลงกราบท่าน-
(เคยอธิษฐานก่อนนอนว่าขอขึ้นไปกราบท่าน)
-ปรากฎร่างพระสงฆ์อีกองค์ แก่แล้ว หัวหงอกด้วยข้าพเจ้าไม่รู้จักว่าคือ
ใคร
(ข้าพเจ้านับถือสมเด็จโตด้วย)
-ท่านนี้เอาเครื่องหมายบางอย่างมาติดตรงกึ่งกลางระหว่างคิ้วของข้าพเจ้า
และทุกๆคนบนนั้นรู้สึกปวดตึงเสียวไปทั้งหัว
-ท่านบอกว่านี่คือสัญลักษณ์ให้รู้ไว้ว่าถ้าขึ้นมาก็มาดูได้ทุกภูมิที่อยากดู
-ข้าพเจ้าก็กราบท่าน และได้ทดลองดูมือตัวเอง ปิดจมูก เอาหน้ามุดทราย
แต่ก็ไม่อึดอัด ยังหายใจได้แปลก หยิกตัวเองก็ไม่เจ็บ
-เกิดเครื่องหมายที่อก มีให้เลือกเป็นนรก สวรรค์ แต่ละชั้น
-ลองเลือกสวรรค์ดู ปรากฎว่าสภาพบ้านเรือน สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป
เรื่อยๆ แต่ก็สวยงามแปลกตาดี
-ได้เดินดูตามถนน ลองกระโดดเหาะ สามารถเหาะได้บังคับทิศทาง
ได้
-เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินสวนรู้สึกคุ้นเลยทักแต่เหมือนเขามองไม่เห็นเรา
นึกไม่ออกว่าเคยรู้จักเขาตอนไหน และไม่รู้จักชื่อด้วย
-สักพักทุกอย่างเริ่มมืด ความรู้สึกเหมือนลอยวืดดดดด มาที่ร่างกาย
ที่หลับอยู่ รู้สึกตัวตลอด ตื่นแต่ยังไม่ลืมตา หายใจลึกๆ 3 ครั้งแล้วลืม
ตา
-ดูนาฬิกา เป็นเวลาตี 3.45 นาที

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 9:12 pm

คุณขันธ์เที่ยวด่าคนนั้นคนนี้ไปหมด
ทำตัวเหมือนคนเกเร
ไม่ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง

กระทำการอันเป็นการละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของผู้อื่น

หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ คงไม่มีใครอยากแสดงความคิดเห็นต่อไป

ท่านผู้บริหารเวปโปรดพิจารณา

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 9:18 pm

คุณขันธ์เมื่อรับรู้ความในใจของเพื่อนๆแล้ว ก็ต่างคนต่างแสดงความเห็น

กันไปนะครับ ปล่อยให้ผู้อ่านเขาพิจารณาเลือกสรรสิ่งที่เป็นประโยชน์

ต่อเค้ากันเอง

กรัชกายคงไม่โต้ตอบหรือแสดงความเห็นอะไรกับคุณแล้ว

บอกว่าสงสารและเห็นใจมาตั้งแต่แรกแล้ว สาธุ

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 9:32 pm

ขันธ์ออกไป !! ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

คุณ admin คงจะตัดสินใจง่ายขึ้น
ถ้าผมเสนอว่า
ถ้าคุณ ban นายขันธ์ออกไป
ผมจะแถมตัวผมให้ด้วย
เพราะผมก็ไม่สัปปายะแล้วล่ะ

ทำตัวเป็นนามิกาเซ่.... ลากนายขันธ์ไปด้วย

เอามั๊ย
น่าจะชอบนะ ปกครองด้วยศีลน่ะ