ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
สายลม
บัวเงิน
เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
16 ก.พ.2005, 7:01 pm |
|
กฏแห่งกรรม : ตอน...ข้าวต้มลูกหมา
..............................................
เรื่องนี้เป็นเรื่องของกรรมที่ต้องชดใช้ในเวลาอันรวดเร็ว ดังที่โบราณกล่าวไว้ว่าภายใน 3 วัน 7 วัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว !!
เรื่องนี้ ท่านดร.พระราชวรมุนี รองเจ้าคณะภาค 17 และรองเจ้าอาวาสวัดดุสิดาราม กทม. ได้นำมาเล่าให้ฟังอีกต่อหนึ่ง ท่านเจ้าคุณเล่าว่า วันหนึ่งท่าน ได้รับนิมนต์ให้ไปสวดศพแม่ครัวที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แม่ครัวคนนี้ถึงแก่กรรมด้วยอุบัติเหตุที่ ไม่น่าเชื่อ คือตกหม้อข้าวต้มตาย แล้วท่านเจ้าคุณก็ขยายความต่อไปว่า แม่ครัวผู้นี้เป็นมารดาของข้าราชการระดับสูงท่านหนึ่ง เธอเป็นแม่ครัวรับจ้างทำอาหารเลี้ยงแขกที่มาในงานศพที่วัดแห่งนี้แบบผูกขาดมานานจนร่ำรวย สามารถส่งเสียลูกๆ เรียนจบมหาวิทยาลัย ได้ดีไปหลายคน
กรรมที่ทำให้เธอต้องมาพบอุบัติเหตุจนถึงแก่ความตายนั้น เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่ง แม่ครัวผู้นี้เห็นว่า เนื้อหมูจำนวนมากที่นำมาสับ เพื่อเตรียมทำข้าวต้มหมูเลี้ยงแขกที่มาในงานศพนั้น หายไปอย่างผิดปกติ ทั้งๆ ที่เพิ่งสับเสร็จไม่นาน แค่หันไปหยิบเครื่องปรุง หรือไปทำอย่างอื่นแค่ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว พอหันกลับมาอีกครั้ง เพื่อจะนำเนื้อหมูที่สับวางทิ้งไว้บนเขียงใส่ลงหม้อข้าวต้ม ปรากฏว่าเนื้อหมูอันตรธานหายไปหมด โดยไม่มีร่องรอย พอถามคนโน้นคนนี้ก็ไม่มีใครรู้เรื่อง เพราะต่างก็วุ่นกับงานของตัวเอง แรกๆ เธอก็คิดว่าไม่เป็นไร แต่ครั้นเป็นอย่างนี้ติดต่อกันบ่อยครั้งเข้าใน ทุกครั้งที่เผลอ เธอจึงอดรนทนไม่ได้ ดังนั้นจึงได้วาง แผนที่จะจับเจ้าขโมยตัวดี
เธอทำทีเป็นสับเนื้อหมูวางไว้บนเขียงไม้เหมือนเดิม แล้วก็แสร้งหันไปทำอย่างอื่นเหมือนเคย แต่ทว่าตาคอยแอบจับจ้องอยู่ที่เขียงไม้ตลอดเวลา ทันใดนั้นก็มีลูกสุนัขผอมโซตัวหนึ่ง ซึ่งแอบซ่อนอยู่ใต้โต๊ะทำกับข้าวนั่นเอง ปีนขึ้นมากินเนื้อหมูสับจนหมดอย่างรวดเร็ว แล้วก็กระโดดวิ่งหนีไป เมื่อเห็นว่าเจ้าหัวขโมยเป็นลูกสุนัข เธอจึงรู้สึกโกรธแค้นมาก จึงได้วางแผนที่จะจัดการเจ้าลูกสุนัขตัวนี้ ดังนั้น ในวันรุ่งขึ้นเธอก็ทำทีสับเนื้อหมูทิ้งไว้บนเขียงไม้เหมือนเช่นเคย แต่คราวนี้เธอไม่ได้วางเขียงไม้ไว้ที่เดิม แต่กลับนำเขียงไม้ไปพาดกับปากหม้อข้าวต้มใบใหญ่ที่กำลังเดือดพลั่กๆ อยู่ แล้วเอาปลายไม้ข้างหนึ่งพาดหมิ่นๆ ไว้ที่ปากหม้อข้าว
จากนั้นเธอจึงเดินออกไปแอบดูอยู่ใกล้ๆ ฝ่ายเจ้าลูกสุนัขเมื่อเห็นไม่มีคนอยู่ตรงนั้น มันจึงกระโดดเต็มแรงเพื่อขึ้นมากินเนื้อหมูสับอย่างเคย แต่ทว่าปลายไม้ที่วางหมิ่นๆ พาดกับปากหม้อข้าวไว้นั้นได้กระดกขึ้นมา ทำให้เจ้าลูกสุนัขตกลงไปในหม้อข้าวต้มที่กำลังเดือดพลั่กๆ ทันที ผลคือตายคาที่ โดยไม่มีโอกาสได้ร้องเลยสักแอะเดียว อนิจจา..เจ้าหมาน้อย
เมื่อจัดการกับเจ้าลูกสุนัขได้แล้ว เธอก็รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจเป็นอันมาก เพราะไม่ต้องมาคอยกังวลว่าเนื้อหมูสับจะหายไปอีก เพียงไม่กี่วันเธอก็ลืมเรื่องนี้เสียสนิท ประกอบกับหลังจากนั้นไม่มีงานศพที่วัด เธอจึงไม่มีงานที่ต้องมาทำอาหารเลี้ยงแขก
เวลาผ่านไป 7 วัน ครบวันที่ลูกสุนัขตายพอดี วันนั้นเผอิญมีงานศพที่วัด แม่ครัวคนนี้ก็เข้าไปรับงานจัดเลี้ยงเหมือนเดิม วันนั้นเป็นวันแรกของงานศพ เธอจึงได้ต้มข้าวต้มหมูเหมือนทุกครั้งที่ผ่านๆ มา ขณะที่ข้าวต้มกำลังเดือดพลั่กๆ อยู่นั้น เธอก็บอกคนงานให้มาช่วยยกหม้อข้าวลงจากเตาไฟ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น หูหิ้วหม้อข้าวต้มข้างที่เธอถือนั้นเกิดหักหลุดจากมือ ตัวเธอจึงถลำลื่น หัวทิ่มลงไปในหม้อข้าวต้มใบใหญ่ที่กำลังเดือดพลั่กๆ นั้น ตายทันที โดยไม่ทันได้ร้องสักแอะเดียว เป็นชะตากรรมเดียวกับที่เธอทำกับเจ้าลูกสุนัขตัวนั้นอย่างไม่ผิดเพี้ยน !!
ชะรอยลูกสุนัขกับแม่ครัวคนนี้คงจะเคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาหลายภพหลายชาติ ผูกพยาบาทอาฆาตกันไม่จบสิ้น ในชาตินี้จึงมาสร้างกรรม ทำเวรซึ่งกันและกันเพิ่มเข้าไปอีก
ผู้เขียนขอย้ำว่ากฏแห่งกรรมนั้นมีจริง เป็นจริงได้ตลอดเวลาโดยไม่คาดฝัน สุดแท้แต่ว่าจะให้อโหสิกรรมต่อกัน เลิกอาฆาตพยาบาทจองเวรกันและกันหรือไม่ หากไม่ได้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เจริญสติปัฏฐาน 4 ก็จะไม่รู้ซึ้งถึงกฏแห่งกรรม จะไม่รู้ถึงการให้อภัยทาน การเลิกอาฆาตพยาบาทกันและกัน กฏแห่งกรรมนั้นนอกจากจะมีจริง เป็นจริงแล้ว ยัง เกิดขึ้นได้โดยไม่เลือกกาลเวลาและสถานที่อีกด้วย
ดังนั้นคงไม่มีอะไรประเสริฐเท่ากับความมีเมตตา ให้อภัยต่อกัน ไม่ว่ากับคนด้วยกัน หรือกับสรรพสัตว์ เพราะต่างก็มีชีวิต มีความรู้สึกเจ็บปวด ทุกข์ทรมานเหมือนๆ กัน
..............................................
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 กุมภาพันธ์ 2548 14:35 น. |
|
_________________ "อย่าลืมตัว อย่าลืมปัจจุบัน อย่าลืมปฏิบัติ" |
|
|
|
raad
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
12 มี.ค.2005, 3:36 am |
|
|
|
|
อ.ส.ม.ฝึกหัด
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 20 มี.ค. 2005
ตอบ: 14
|
ตอบเมื่อ:
20 มี.ค.2005, 9:02 pm |
|
....................เอวัง............................. |
|
|
|
|
|
เทพผู้กล้า
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
28 มี.ค.2005, 5:51 pm |
|
ต่างไม่ยอมอโหสิกรรม แล้วมันจะสิ้นสุดเมื่อไร |
|
|
|
|
|
นานา
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
01 ก.ย. 2005, 12:27 pm |
|
มันไม่ใช่การอาฆาตแค้น แต่มันเป็นกรรมที่จะต้องชดใช้ในชาตินี้และชาติหน้าอีก ไม่มีจิตที่เป็นกุศล ฆ่าได้แม้ลูกหมาตัวน้อยที่ไม่รู้เรื่อง (เวรกรรมไม่เดินตามใครแล้ว แต่จะติดจรวดแทน) |
|
|
|
|
|
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
15 ก.พ.2007, 7:21 pm |
|
|
|
|
ไลลารินทร์
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 14 ก.ค. 2006
ตอบ: 64
|
ตอบเมื่อ:
13 มี.ค.2007, 1:21 pm |
|
เมตตาธรรมค้ำจุนโลก |
|
_________________ เชื่อ ศรัทธา และเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ด้วยหัวใจอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ |
|
|
|
ไม้อ่อน
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2007
ตอบ: 62
|
ตอบเมื่อ:
28 เม.ย.2007, 12:26 am |
|
อนุโมทนา |
|
_________________
|
|
|
|
yo
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
01 พ.ค.2007, 8:16 am |
|
|
|
|
suvitjak
บัวบาน
เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen
|
ตอบเมื่อ:
30 พ.ค.2008, 12:52 pm |
|
ถ้าไม่เลิกจงเวรกัน ก็จะไม่มีวันดับทุกข์ได้ |
|
_________________ ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน |
|
|
|
chill
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 22 ก.พ. 2008
ตอบ: 85
|
ตอบเมื่อ:
13 ส.ค. 2008, 8:11 pm |
|
อนุโมทนานะคะ
น่าสงสารจังเลยอ้ะน้องหมา ไม่น่าเลย จงเปนสุขๆนะ |
|
_________________ มีชีวิตอยู่เพื่อทำความดี.. |
|
|
|
บัวหิมะ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
|
ตอบเมื่อ:
15 ส.ค. 2008, 11:22 am |
|
อ่านแล้ว สงสารเจ้าลูกสุนัข ที่สุด ปกติเป็นคนรักสุนัขมาก เลี้ยงเหมือนลูกเลย เวลาเห็นใครรังแกสุนัข จะรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที ระงับอารมณ์ไม่อยู่ เรียกว่าหลุดเลย เพราะฉะนั้น ขอให้ทุกท่านโปรดเมตตาสัตว์ทั้งหลาย ด้วยเถิด ในฐานะเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกัน ทั้งหมด ทั้งสิ้น เจริญในธรรมจ้า สาธุ |
|
_________________ ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ |
|
|
|
|