เกี่ยวกับการอฐิษฐาน

ตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2008, 10:33 pm

ไม่รู้ว่าจะตั้งห้องไหน ขอตั้งห้องนี้ละกันค่ะ..เพราะว่าน่าจะเกี่ยวกับบุญหรือกรรม....

ถามว่าการที่คนเราอฐิษฐานขอพรอะไรแล้วบังเกิดสำเร็จขึ้นจริงๆ นั้น สามารถทำได้จริงหรือแล้วเพราะเหตุผลปัจจัยอะไรถึงทำให้ได้ในสิ่งนั้นอย่างง่ายดาย คือ จะว่าไม่เชื่อก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ว่ามันก็เกิดขึ้นแล้ว เห็นเพื่อนว่าอฐิษฐานขอแล้วจะได้ ตามกฎทฤษฏีแรงดึงดูดของหนังสือเล่มหนึ่ง(ซึ่งดังมาก) เค้าบอกว่าเค้าทำได้และมันก็จริง เค้าขอสามอย่างก็บังเกิดผลทุกครั้งและครั้งสุดท้ายนี้เค้าได้สิ่งที่เค้าต้องการมากที่สุดในชีวิต มากมายมหาศาลจนไม่น่าเชื่อ เราก็เลยอยากทราบว่ามันจริงหรือคะที่ถ้าเราอฐิษฐานอะไรหรือคิดอะไรเราจะได้ในสิ่งนั้น มันเหมือนกับเราหวังว่าจะได้หรือเปล่า เหมือนเคยได้ยินมาว่า ถ้าหวังแล้วจะไม่ค่อยได้และ เหมือนเคยได้ยินอีกว่าห้ามขอ ถ้าเกิดขอได้ในชาตินี้ชาติหน้าจะอะไรสักอย่างจำไม่ได้ ไม่ทราบมีใครให้เหตุผลได้บ้างคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2008, 11:02 pm

อ้างอิงจากหนังสือเล่มนี้ที่เพื่อนบอกนะคะ.....เค้าบอกว่าได้ผลจริงๆ และเค้าก็เชื่อ...เพราะเค้าสำเร็จแล้วค่ะ

กฎของแรงดึงดูดคืออะไร ?
ความหมายคือ เมื่อคุณดึงดูดสิ่งใด สิ่งนั้นจะมาหาคุณอย่างแน่นอน
แปลโดยฉบับของผมคือ เมื่อคุณต้องการอะไร หรือ มีจุดมุ่งหมายที่สิ่งใด คุณจะได้สิ่งนั้นอย่างแน่นอน
ใช่แล้วครับ The secret แนะนำให้เราเชื่ออย่างนั้น
มีสามวิธีการสู่ความสำเร็จที่ The secret อ้างไว้
ขอ = ขอสิ่งที่คุณต้องการต่อคุณเอง
เชื่อ = เชื่อสิ่งนั้น
รับ = และเตรียมตัวรับมัน

เนื้อหาบางส่วน The secret :
ผมสรุปนะครับ ไม่ตรงตามหนังสือเป๊ะ แต่ความหมายเหมือนกัน

ถ้าคุณต้องการจะลดน้ำหนัก ขอให้คุณคิดถึงตอนที่คุณสำเร็จ ตอนที่คุณมีรูปร่างดีแล้ว อย่าคิดถึงปัจจุบัน และมัวแต่คอยตรวจตราถึงผลลัพท์ในปัจจุบัน
ถ้าคุณเปิดตู้ไปรษณีหน้าบ้านและคุณคิดถึงแต่ใบแจ้งหนี้ เมื่อคุณเปิดตู้ก็จะเจอใบแจ้งหนี้จริงๆ แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณจะเจอเช็ค คุณก็จะเจอมัน
ถ้าในตู้ไปรษณีเป็นใบแจ้งหนี้กองโต The secret แนะนำให้คุณคิดว่านั่นคือเช็คกองโต และให้คุณยิ้มรับมัน จากนั้นก็แจ้งให้ตัดเงินจากธนาคาร และอย่าไปคิดถึงมัน เพราะยิ่งถ้าคิดถึงมัน ก็ยิ่งจะเจอมัน ตามกฎของแรงดึงดูด
ถ้า คุณคิดแต่เรื่องดีๆ คุณจะพบแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต ตรงกับข้าม เรื่องร้ายๆ จะมาเยือนคุณ เมื่อคุณคิดถึงมัน
อย่าพูดว่า ฉันทำไม่ได้ ฉันว่ามันยาก ควรใช้คำว่า ฉันเป็น ฉันคือ
และนี่คือบางส่วนของ The secret

----------------------------------------

อ่านแล้วรู้สึกว่าบางอย่างก็สอนคล้ายๆ หลักธรรมะ แต่บางอย่างก็ขัดแย้งอยู่ เช่นข้อนี้

ถ้าคุณต้องการจะลดน้ำหนัก ขอให้คุณคิดถึงตอนที่คุณสำเร็จ ตอนที่คุณมีรูปร่างดีแล้ว อย่าคิดถึงปัจจุบัน และมัวแต่คอยตรวจตราถึงผลลัพท์ในปัจจุบัน

มันตรงกันข้ามกับหลักการฝึกสติที่บอกว่าไม่ให้คิดถึงสิ่งที่ผ่านไปแล้วกับสิ่งที่ยังไม่เกิด แต่นี่เขาให้นึกวาดภาพเป็นจินตนาการเหมือนปรุงแต่งว่าต้องได้ ต้องเป็น แล้วเค้าก็ได้ แล้วเค้าก็เป็น ขอบอกว่าฟังจากเพื่อนตอนแรกไม่เชื่อเลย พอเค้าสำเร็จจริง ๆมันก็อดคิดและอดสงสัยไม่ได้ ว่าจริงหรือ..ไม่ทราบมีใครอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วบ้างและมีความคิดเห็นอย่างไรกันค่ะ

ปล. ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้มากไปกว่านี้นะคะว่าเพื่อนเราขออะไร เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวและคงไม่ดีแน่ถ้าเปิดเผยออกไปคงจะมีผลต่อเค้า เอาเป็นว่า.....เราเอามาโพสต์เพื่อถามความคิดเห็นละกันนะคะว่าทางศาสนาพุทธนี้มีความเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้คะ

ตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2008, 11:02 pm

อ้อ ลืมแจ้งเอามาจากเว็บนี้นะคะ

http://myself.in.th/2008/01/13/review-book-the-secret.scop

ตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 8:34 pm

เรื่องนี้ประหลาดๆอยู่นะครับ พูดยังกะเรื่องแก้วสารพัดที่เล่าสู่กันฟัง
ว่าใครมีแก้วชนิดนี้แล้ว นึกอยากได้อะไรก็สำเร็จสมปรารถนา

แต่หนังสือที่ว่านี้ ให้จินตนาการเอาแล้วสิ่งนั้นจะมีมาตามต้องการ
ถ้าเป็นอย่างนั้นนะครับ ในโลกนี้คงมีแต่คนสมหวังในสิ่งที่หวังทุกประการ คนผิดหวังก็ไม่มี
มีแต่คนร่ำรวยมั่งคั่งพรั่งพร้อม คนยากคนจนก็ไม่มี

กรัชกายว่า ฟังๆไว้ประดับความรู้เถอะครับคุณกตัญญุตา

ตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2008, 8:51 pm

ขอบคุณค่ะ ไม่เห็นมีใครมาตอบยังดีมีคุณกรัชกายมาตอบ..เราก็เห็นด้วยกับที่คุณกรัชกายเขียนอย่างยิ่งค่ะ

ว่าแต่ตอนนี้ได้คุยกับเจ้าตัวแล้วค่ะ ก็เป็นไปอย่างที่เล่าไว้จริงๆ ... เราก็คิดถูกด้วยแฮะ..ว่าแต่อยู่ดีดีออฟไป สงสัยเน็ทหลุดใช่ไหมคะ.. เอาไว้คุยกันใหม่นะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

ตอบเมื่อ: 14 ส.ค. 2008, 4:01 pm

อ่านหนังสือ เกี่ยวกับกฏของแรงดึงดูด อยู่เหมือนกันค่ะ รบกวนขอ e-mail ของคุณกตัญญตา ได้ป่าวค่ะ อยากคุยด้วยค่ะ สนใจค่ะ ส่ง e-mail มาที่ inda_nut@hotmail.com ค่ะ(ไม่ทราบว่ารบกวนหรือเปล่าค่ะ)

ตอบเมื่อ: 14 ส.ค. 2008, 4:04 pm

คุณกตัญญุตา mail ของดา คือ nida_nut@hotmail.com ที่พิมพ์ไปกระทู้ก่อนหน้านี้ ผิดค่ะ

ตอบเมื่อ: 14 ส.ค. 2008, 8:03 pm

คนมีผลบุญเก่าอยู่แล้ว ปราถนาสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น

คนไม่มีบุญเก่าหนุน คิดการสิ่งใดย่อมยากที่จะสมปราถนา

ทุกอย่างมีเหตุและมีผลสืบเนื่องกันมา

ความสำเร็จใดๆ ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยเพียงแค่ ความฝันครับ ต้องลงมือทำด้วย

แต่การคิดบวก ก็เป็นสิ่งที่ดีครับ อย่างน้อยจิตใจย่อมผ่องใส

ขอให้เชื่อในสิ่งที่เป็นแก่นของพระพุทธศาสนาครับ

อย่างอื่นฟังเอาไว้ อย่าไปใส่ใจอะไรมาก

ตอบเมื่อ: 14 ส.ค. 2008, 8:57 pm

ขอบคุณที่มาตอบนะคะ สาธุ

เห็นด้วยค่ะแล้วก็คิดเหมือนกันว่าการที่จะได้อะไรมาคน ๆนั้นก็ต้องทำมาด้วย ทุกอย่างมีเหตุและมีผลจริงๆ ค่ะ...

คุณชนิดาคะ ยินดีค่ะ แอ๊ดแล้วนะคะ มาสนทนาธรรมกันค่ะ แต่ว่าไม่รู้จะดึกไปไหมสำหรับคุณชนิดานะคะ เพราะว่าเราอยู่ต่างประเทศเวลาอาจจะไม่ตรงกัน ถ้าไงอีเมล์มาคุยก็ได้ค่ะ ... ยิ้มเห็นฟัน

ตอบเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 1:26 pm

เป็นสมาชิกใหม่เหมือนกันค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก เผื่อวันหน้าได้แลกเปลี่ยนความรู้กันนะค่ะ เจริญในธรรมค่ะ สาธุ

ตอบเมื่อ: 15 ส.ค. 2008, 7:43 pm

ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ คุณบัวหิมะ ยิ้ม

ตอบเมื่อ: 20 ส.ค. 2008, 4:22 pm

คุณกตัญญุตาค่ะ ดาเข้าไปดู mail แล้ว ยังไม่มี e-mail ของคุณเลยค่ะ คือตั้งใจว่าจะ คุยรายละเอียดต่างๆ ทาง mail น่ะค่ะ

ตอบเมื่อ: 22 ส.ค. 2008, 6:53 am

ปุพเพกตปุญญตา-เคยทำบุญมาแต่ก่อนๆ

ตอบเมื่อ: 24 ส.ค. 2008, 1:40 pm

ขอเสริมนิดนะคะ.. เป็นความเห็นส่วนตัวเพิ่มค่ะ
เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ น่าจะเปรียบได้กับการที่เราตั้งจิตจดจ่อกับสิ่งนั้นๆ เห็นมโนภาพว่าเราสำเร็จอย่างที่เราต้องการ การกระทำต่างๆของเราก็จะปรับเปลี่ยนไปเองเพื่อนำไปสู่สิ่งที่เราอยากจะเป็น โดยความคิดด้านลบว่าเราทำไม่ได้ หรือเป็นไปไม่ได้ก็จะไม่เกิด
จะมีความพยายามเป็นลำดับขั้นตอนของมันเอง ซึ่งบางทีเราอาจไม่รู้ตัวว่าเราพยายามอยู่ด้วยซ้ำ แต่เราจะมีกำลังใจที่จะทำสิ่งนั้นๆให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
จิตจดจ่อกับสิ่งใด ก็ดี ก็ถือว่ามีจิตรู้ตน สาธุเจ้าค่ะ
แต่อย่าลืมตั้งมั่นอยู่ในการไม่เบียดเบียนนะคะ เดี๋ยวจะเป็นทุกขลาภเปล่าๆ
ขอขมาถ้าเขียนอะไรผิดด้านบนค่ะ