Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 3 วันแรกของการฝีกสมาธิ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.ค.2008, 12:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
สมาธิค่ะ พอดีว่าเราไปเห็นคลิปวีดีโอของ DMCTV เค้าทำคลิปเกี่ยวกับนรก สวรรค์ เราชอบดูแล้วเราก็ว่าดีนะคะ คือน่ากลัวดี
ดูแล้วไม่กล้าทำบาปเลย และอีกอย่างเห็นว่าจะเป็นการดีไหมคะถ้าเอาคลิปมาแบ่งปันกันดู และคลิปที่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมหรือว่าคลิปที่ดูแล้วให้ความรู้หรือข้อคิดนี่เอามาโพสต์ได้ไหมคะ และถ้าโพสต์ได้ ควรโพสต์ที่ห้องไหนคะ.

กตัญญุตา : 27 กรกฎาคม 2008, 3:29 am



ห้องธรรมทานลิงค์นี้น่าจะได้ เห็นเค้าแจก vcd cd เป็นต้น กันเต็มเลย

http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=20

ขอบคุณที่มาชื่อกตัญญุตาครับ ยิ้ม
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กตัญญุตา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 29 มิ.ย. 2008
ตอบ: 73

ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.ค.2008, 4:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กรัชกาย พิมพ์ว่า:
อ้างอิงจาก:
สมาธิค่ะ พอดีว่าเราไปเห็นคลิปวีดีโอของ DMCTV เค้าทำคลิปเกี่ยวกับนรก สวรรค์ เราชอบดูแล้วเราก็ว่าดีนะคะ คือน่ากลัวดี
ดูแล้วไม่กล้าทำบาปเลย และอีกอย่างเห็นว่าจะเป็นการดีไหมคะถ้าเอาคลิปมาแบ่งปันกันดู และคลิปที่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมหรือว่าคลิปที่ดูแล้วให้ความรู้หรือข้อคิดนี่เอามาโพสต์ได้ไหมคะ และถ้าโพสต์ได้ ควรโพสต์ที่ห้องไหนคะ.

กตัญญุตา : 27 กรกฎาคม 2008, 3:29 am



ห้องธรรมทานลิงค์นี้น่าจะได้ เห็นเค้าแจก vcd cd เป็นต้น กันเต็มเลย

http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=20

ขอบคุณที่มาชื่อกตัญญุตาครับ ยิ้ม



สาธุ ขอบคุณค่ะ นำไปโพสต์แล้วค่ะ
 

_________________
สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดจะเกิดปัญหา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.ค.2008, 9:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน


ความรู้สึกระทมทุกข์ของหญิงคนหนึ่ง จากเว็บบอร์ดหนึ่ง สมมุติว่า

ปัญหานี้เกิดแก่กรัชกาย แล้วนำมาขอคำปรึกษาคุณกตัญญุตา

คุณพอจะแนะนำอย่างไร ปัญหาเค้ามีดังนี้ครับ



(หนูอกหักแล้วติดอารมณ์ดูจิตไม่ได้ช่วยหน่อยค่ะ)


ก็หนุคบกับแฟนคนนี้มาได้ 3 ปี หนูรักเค้าหมดใจหนูให้เค้าหมด

ทุกอย่าง หนูเริ่มเข้ามาทางธรรมะตอนอายุ 12 ปี

ตอนนี้ 17 12-17 หนูหลงระเลิงไปทางโลกบ้างไม่เอาธรรมก้อมี

แต่ทุกครั้งที่หนูจะทิ้งธรรม กับต้องมีเหตุการร์ทำให้หนูต้องกลับเข้าไป

ปฏิบัตรใหม่ เหตุการรืที่บั่นทรจิตรใจ ต้องเข้าไปอยู่เรื่อยๆ

แต่ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่แรงทีสุด หนูไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรที่หนุ

กับแฟนกับกลายมาเป็นแบบนี้ เป็นเพราะช่วง 1-2 เดือน ที่ผ่าน

มา หนูท้าทายดวงชะตาท้าทายกิเลสหนูคิดว่ายังไงหนู

ก้อสามารถคบกับเค้าได้ อย่างไม่มีอะไรพรากจากกัน หนุเชื่อว่าหนุ

กำหนดทุกสิ่งทุกอย่างได้

ถ้าหนู หนุกำลังท้าทายในสิ่งที่เป็นสัจธรรมของโลกอยู่ คือ ทุกอย่าง

ไม่เที่ยง จนพอหนุมาเจอกับตัวเองหนูรุ้ได้จากใจ เพราะว่าหนุไป

ท้าทายและพยายามไปทำหนูไปกำหนดไม่ใช่กรรมฐาน

ที่ถุกต้อง

อาบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เกิดขึ้นกับตัวหนู จิตรหนุกำหนดขึ้นมา

เอง เค้าบอกว่าแฟนหนุ

เป็นแค่เครื่องมือของกิเลสที่ใช้ทำร้ายเรา เมื่อเราไม่สำรวมความคิด

หรือปล่อยให้จิตรเป็นไปด้วยกับความคิดกิเลสจะรุ้ดีว่าเราชอบอยากต้อง

การปราถนาอะไร แล้วมันจะเล่นเกมกับชีงิตของเราได้ แต่ถ้าเราอยุ่

โดยที่จิตรเราเห็นแต่ไม่ไปจับเราก้อจะกำหนดชะตาชีวิตของเราได้

อาบอกหนูว่าอย่างนี้

ทีนี้หนุอยากรู้ว่า เวลาที่หนูดุจิตร มักจะมีความคิด และ อารมคิด

ถึงโหยหา ทุรนทุรายเข้ามาเกือบ 24 ชั่วโมง มันเป็นอะไร

ที่ทรมานมาก หนูรู้ดีเลยใคร ก้อตามชาติก่อนๆ หรือในชาตินี้ที่หนุ

เคยไปทำกรรมเรื่องนี้ไว้ หนุขออโหสิกรรมให้หมดทุกคน หนู

สลดแล้วจิงๆ เจ็บมากๆเลยค่ะ

ดูจิตรก้อทรมานมาก รุ้สึกว่าเจ็บปวดอยุ่ทั้งวัน ใครมีวิธีช่วยบอกที

สิคะ
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กตัญญุตา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 29 มิ.ย. 2008
ตอบ: 73

ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.ค.2008, 10:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

นึกยังไงคุณกรัชกายถึงมาถามเราคะ เรากลัวจะแนะนำได้ไม่ดีพอเพราะเราเองอ่านข้อความก็ยัง งง ๆ อยู่..เอาเป็นว่าแนะนำได้เท่าที่ปัญญาน้อย ๆนี้จะพึงแนะนำได้ละกันนะคะ...

ถ้าถามเรา เราคงจะแนะนำว่า อย่าเอาใจไปยึด ถ้าเมื่อไหร่ที่ใจเรายึด เมื่อนั้นก็เกิดทุกข์..เค้าบอกว่าสุข ทุกข์ นั้นอยู่ที่ใจ ก็คงจะแนะนำได้เท่านี้ล่ะค่ะ ง่ายๆ สั้นๆ ^^

และอีกอย่างนึงอยากจะบอกว่าเวลารักใครอย่าทุ่มเทใจให้ทั้งหมด คนส่วนใหญ่จะทุ่มซะจนไม่เหลือเผื่อใจไว้ให้เจ็บบ้าง เพราะว่าอะไร ๆ ก็ไม่แน่นอนในชีวิตนี้ มีวันรัก ก็ต้องมีวันเลิก ถ้าเราเผื่อใจไว้แต่แรก อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการเตรียมใจแต่เนิ่นๆ หากทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิดหรือหวังเอาไว้ เราก็จะได้ไม่เสียใจมาก คนส่วนใหญ่มักทุ่มเทให้ความรักเต็มร้อยไม่ก็เกินร้อย น้อยคนที่จะเหลือเผื่อใจไว้รักตัวเอง..
 

_________________
สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดจะเกิดปัญหา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กตัญญุตา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 29 มิ.ย. 2008
ตอบ: 73

ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.ค.2008, 10:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าน้องเค้าหัดฝึกสติก็ดีนะคะ ความคิดถึงและอารมณ์โหยหานั้นจะได้น้อยลง ไม่ต้องทุรนทุราย เพราะการฝึกสติช่วยให้เราอยู่กับปัจจุบัน สิ่งที่เรากระทำ ความคิดต่างๆ ก็จะได้ไม่แว๊บเข้ามามาก หรืออาจจะฟุ้งซ่านน้อยลง...น้องเค้าอายุยังน้อยก็แบบนี้แหล่ะค่ะ ความรักหนุ่มสาว..เมื่อก่อนเราก็เป็นค่ะ...เด๋วก็ผ่านไปได้เอง...อยากให้น้องเค้าเลิกจมอยู่กับความคิดที่ทำให้ทุกข์ เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ไหมคะ "เข็มทิศชีวิต" ถ้าเรารู้จักน้องก็อยากแนะนำให้เค้าอ่านนะคะ พอเขียนถึงหนังสือเล่มนี้ก็อยากขอบคุณคนเขียน คุณ ฐิตินาถ ณ พัทลุง หนังสือของคุณทำให้เรา"คิดได้" และ"ได้คิด" หนังสือเล่มนี้ดีมากๆ ค่ะ อ่านแล้วทำให้เรามองเห็นความเป็นจริงมากขึ้น..ไม่ทราบคุณกรัชกายเคยอ่านไหมคะ

ชอบเรื่องหนึ่งค่ะ จะเขียนให้อ่าน

เคยสังเกตุบ้างไหม เวลาที่เราเป็นทุกข์นักทุกข์หนา เรามักจะรู้สึกว่าทุกข์เหลือเกิน ไม่รู้จะหยุดทุกข์ได้ยังไง ไม่วาเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสักแค่ไหน เช่น โดนนินทา ถ้าเปรียบใจก็เป็นมือและความรู้สึกทุกข์เป็นก้อนหนามแหลมๆ ใจเราไม่รู้ก็กำก้อนหนามไว้เสียแน่น ยิ่งเจ็บ ยิ่งทุกข์ ไม่รู้จะช่วยตัวเองได้ยังไง พอเราได้ฝึกตามสังเกตจิตใจตัวเอง เราจะเห็นอาการที่ใจคอยกำความคิดและความทุกข์ไว้แน่น ทันทีที่เราเห็นว่าใจของเรากำลังกำก้อนหนาม กำมีดทิ่มแทงตัวเองอยู่ ขณะนั้นเองที่ใจจะสามารถวางความคิด วางมีดลงได้ชั่วขณะหนึ่ง เรามักจะรู้สึกว่า เราสามารถวางความทุกข์ได้เพียงครู่เดียว แล้วมันก็กลับมาอีก เคยได้ยินเรื่องลิง
เกลียดกะปิบ้างไหม


ลิงน้อยกับกะปิ

เวลาที่คนจะแกล้งลิงก็มักจะเอากะปิไปทาที่มือลิง เจ้าลิงเกลียดกะปิที่สุดในชีวิต ก็จะเอามือมาสูดดม แล้วถูมือไปกับสิ่งต่าง ๆ จนเลือดไหลท่วมมือ ถามว่าสิ่งที่ทำให้ลิงบาดเจ็บจนเลือดไหลคือ กะปิ หรือความเกลียดกะปิในใจลิง

ลิงน้อยไม่เคยฝึกตามรู้จิตใจตัวเอง มันจึงไม่รู้ว่า ตัวมันนั่นเองที่หยิบกะปิมาดมตลอดเวลา แล้วความเกลียด ความอยากผลักไสของมันก็ทำร้ายตัวเองอย่างแสนสาหัส เราอาจจะหัวเราะเยาะว่าลิงโง่ แต่เราทุกคนก็เคยเป็น เหมือนตัวเรา เหมือนเจ้าลิงน้อย ที่หยิบมีดมาแทงตัวเอง กำก้อนหนาม หยิบกะปิมาดม ทำร้ายตัวเองอยู่ทุกขณะโดยไม่รู้ตัว

แล้วมนุษย์อย่างเราจะปล่อยให้ตัวเองเป็นเหมือนลิงที่หยิบกะปิมาดม กำก้อนหนาม หรือหยิบมีดมาทิ่มแทงตัวเองตลอดเวลา โดยไม่คิดจะช่วยตัวเองบ้างเลยหรือ...


อยากเอาบทความนี้ให้น้องอ่านค่ะ อาจจะพอช่วยได้บ้าง แต่สำหรับเรานะคะ มันช่วยได้มากทีเดียว พออ่านจบแล้วนั่งคิดพิจารณาตามดูก็เห็นว่าจริง หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นครั้งที่สองเราก็พยายามที่จะไม่หยิบมีดมาแทงตัวเอง ไม่กำก้อนหนาม หรือไม่หยิบกะปิมาดมอีกแล้ว..

คุณกรัชกายอ่านเห็นว่าเป็นยังไงบ้างคะ คำแนะนำเราตรงประเด็นหรือเปล่าคะ อาจพอช่วยได้บ้าง ไม่มากก็น้อยนะคะ...
 

_________________
สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดจะเกิดปัญหา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2008, 8:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:

อยากเอาบทความนี้ให้น้องอ่านค่ะ อาจจะพอช่วยได้บ้าง แต่สำหรับเรานะคะ มันช่วยได้มากทีเดียว พออ่านจบแล้วนั่งคิดพิจารณาตามดูก็เห็นว่าจริง หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นครั้งที่สองเราก็พยายามที่จะไม่หยิบมีดมาแทงตัวเอง ไม่กำก้อนหนาม หรือไม่หยิบกะปิมาดมอีกแล้ว..

กตัญญุตา : 27 กรกฎาคม 2008, 10:57 pm



สวัสดีครับคุณกตัญญุตา ยังติดตามอยู่นะครับ

คงกำลังฝึกทำกรรมฐานอยู่กระมัง

ตอบล่าช้าไปหน่อย เพราะเห็นว่า เป็นปัญหาจากที่อื่น ไม่เร่งด่วนอะไร

อายหน้าแดง


กรัชกายไม่ได้สมัครสมาชิกที่บอร์ดนั้น เข้าไปโพสต์ไม่ได้ครับ

เก็บไว้ตรงนี้ก็ดีเหมือนกัน อาจมีผู้มีปัญหาเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน

ได้อ่าน อาจฉุกใจได้คิดอย่างคุณก็ได้

คุณกตัญญุตารู้จักคิด คิดเป็น ภาษาทางธรรมเรียกว่า

มีโยนิโสมนสิการ เพียงอ่านข้อเขียนหรือได้ยินใครพูดให้แง่คิด

ก็นำมาปรับใช้แก้ปัญหาของตนได้ ยิ้ม
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2008, 8:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:

คุณกรัชกายอ่านเห็นว่าเป็นยังไงบ้างคะ คำแนะนำเราตรงประเด็นหรือเปล่าคะ อาจพอช่วยได้บ้าง ไม่มากก็น้อยนะคะ



ใช้ได้ครับ หากผู้อ่านผู้ฟังรู้จักคิดพิจารณาข้อเขียนหรือคำพูดจากภาย

นอก ภาษาธรรมเรียกว่า ปรโตโฆสะที่ดี แล้วน้อมเข้ามาในตน

ก็รอดจากทุกข์ได้ครั้งหนึ่ง ๆ แม้ชั่วขณะก็ยังดีอย่างคุณว่า เพราะการ

จะกำจัดทุกข์ให้ถึงต้นตอหรือถึงตัวสภาวะมันยาก ครับ


กรัชกายจะลอกข้อเขียนจากหนังสือพุทธธรรม (บางส่วน)

สำนวนอาจไม่หยดย้อยเหมือนหนังสือทั่วๆไป แต่ให้แง่คิดตรงตัว

สภาวะกรัชกายชอบอ่านครับ กระชับเนื้อๆดี

ดังนี้ ครับ


ปัญหาของมนุษย์ มีต่างๆมากมาย เมื่อกล่าวให้สั้น ก็เป็น

เรื่องเกี่ยวกับดี-ชั่ว หรือ ดี-ร้าย และสุข-ทุกข์ ถ้าพูดรวบรัดลงไป

อีก ก็รวมลงในคำเดียวคือ ทุกข์ แม้ที่พูดว่า ชีวิตอยู่เพื่อหาความ

สุข ก็เป็นการบ่งถึงทุกข์อยู่ในตัว และทุกข์นั้นยังอาจส่งผลเกี่ยว

ข้องถึงความดี ความชั่วและสุขทุกข์ต่อไปอีกหลายชั้นด้วย

เริ่มแรก การหาความสุขก็แสดงอยู่ในตัวถึงความขาดแคลบกพร่อง

ความบีบคั้นกรวะวนกระวายหรือภาวะไร้ความสุขอยู่ภายใน ซึ่งเรียก

สั้นๆว่า มีทุกข์ จากนั้น จึงผลักดันให้ต้องออกแสวงหาสิ่งที่จะเอา

มาเติมให้เต็มหายขาดแคลนบกพร่อง หรือเอามาระงับดับคลายความ

บีบคั้นกระวนกระวายนั้น และในการแสวงหาเช่นนี้ ก็ปรากฏ

ความขัดแย้งเบียดเบียนกันขึ้น เกิดปัญหาเกี่ยวกับความดี

ความชั่ว และความสุขความทุกข์ในระหว่างมนุษย์พอกพูนขยายวงกว้าง

ขวางออกไป
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2008, 8:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

-ต่อ


มองอีกด้านหนึ่ง ปัญหาเกิดจากมนุษย์มีทุกข์อยู่แล้ว แต่แก้ไข

ทุกข์ไม่ถูกต้อง จึงระบายทุกข์นั้นออกไป ทำให้ทุกข์กระจาย

เพิ่มขยายปัญหาทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ด้วยความเป็นไปเช่นนี้

ทุกข์ที่เป็นสภาวะติดเนื่องมากับความเป็นสังขารของชีวิต หรือทุกข์

ตามธรรมดาของธรรมชาติ แทนที่จะถูกแก้ไข กลับถูกละเลย

มองข้ามหรือปิดกลบไว้เสีย

แล้วสุขทุกข์และปัญหาต่างๆ ชนิดที่เกิดจากฝีมือเสกสรรผันพิสดาร

ของมนุษย์ก็เกิดประดังพรั่งพรูวิจิตรนานัปการ จนแทบจะบดบัง

ให้มนุษย์ลืมปัญหาพื้นฐานของชีวิตเสียทีเดียว
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2008, 8:32 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

-ต่อ


บางคราว มนุษย์เองยังคิดหลงไปด้วยซ้ำว่า หากลืมมองปัญหา

พื้นฐานของชีวิตนั้นเสียได้ ก็จะสมารถหลุดพ้นไปจากความทุกข์

และชีวิตก็จะมีความสุข แต่ความจริงยังคงยืนยันอยู่ว่า


ตราบใด มนุษย์ยังไม่สามารถจัดการกับปัญหาพื้นฐานแห่งชีวิต

ของตน ยังวางตัววางใจหาที่ลงไม่ได้กับทุกข์ถึงขั้นตัวสภาวะ

ตราบนั้น มนุษย์ก็จะยังแก้ปัญหาไม่สำเร็จ ยังหลีกไม่พ้น

การตามรังควาญของทุกข์ ไม่ว่าจะพบสุขขนาดไหน และจะยัง

ไม่ประสบความสุขที่แท้จริง ซึ่งเต็มอิ่ม สมบูรณ์ในตัว


และจบบริบูรณ์ลงที่ความพึงพอใจ ซ้ำร้าย ทุกข์พื้นฐานที่หลบเลี่ยง

และยังไม่ได้แก้นั้น กลับจะกลายเป็นเงื่อนปมซับซ้อนอยู่เบื้องหลัง

คอยส่งอิทธิพลออกมาบีบคั้นรุนเร้าให้การแสวงหาและเสวยสุขต่างๆ

เป็นไปอย่างเร้าร้อนกระวนกระวาย ไม่รู้จักเต็มอิ่ม และไม่มี

ความแน่ใจจริง พร้อมทั้งส่งผลในทางจริยธรรมเกี่ยวกับความดี

ความชั่วให้รุนแรงยิ่งขึ้นด้วย
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2008, 8:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

-ต่อ


พูดอีกนัยหนึ่ง สร้างความกดดันให้ทุกข์แฝงขยายตัวเพิ่มขีดระดับสูง

ตามขึ้นไป การดำเนินชีวิต ก็คือ ความพยายามที่จะแก้ปัญหา

ของชีวิต หรือการหาทางปลดเปลื้องไถ่ถอนทุกข์ แต่ถ้าไม่รู้

วิธีแก้ไข หรือวิธีปลดเปลื้องไถ่ถอนที่ถูกต้อง การแก้ปัญหา

ก็กลายเป็นการเพิ่มปัญหา

การปลดเปลื้องไถ่ถอนทุกข์ก็กลายเป็นการสะสมทุกข์ ยิ่งพยายาม

ดำเนินไป ปัญหาหรือทุกข์ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น กลายเป็นวงจรและเป็น

วงจรที่ยิ่งหนา ยิ่งเข้มข้นยิ่งซับซ้อนขึ้นทุกที

เรียกโดยภาพพจน์ว่า เป็นวังวนแห่งปัญหาและการเวียนว่าย

อยู่ในทุกข์ สภาพเช่นนี้คือ ความเป็นไปแห่งกระบวนธรรม

แบบสังสารวัฏ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงในหลัก

ปฏิจจสมุปบาทฝ่ายสมุทยวาร หรืออนุโลมปฏิจจสมุปบาท

แสดงให้เห็นว่า ปัญหาหรือความทุกข์ของมนุษย์เกิดขึ้น

ตามกระบวนการแห่งเหตุและผลอย่างไร

ฯลฯ
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2008, 9:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน


การปฏิบัติกรรมฐานอย่างถูกทางถูกวิธีนั่นแหละครับ คือ การชำระชะล้าง

ทุกข์ได้ถึงตัวสภาวะ

ส่วนใครจะมองเห็น หรือ ปฏิบัติผิดถูกอย่างไร เป็นอีกเรื่องหนึ่งประเด็น

หนึ่ง ซึ้ง
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กตัญญุตา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 29 มิ.ย. 2008
ตอบ: 73

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 3:18 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณคุณกรัชกายมากค่ะ ที่คัดลอกมาให้อ่าน ได้คิดจริง ๆค่ะ เรื่องทุกข์เนี่ย เห็นด้วยเลยค่ะ

เราก็เข้ามานะ เมื่อวาน แต่ยังไม่เห็นคุณตอบก็เลยไม่รู้ว่าจะคุยอะไรต่อ ขำ นึกว่าลืมกันไปซะละ ตอนแรกก็ เอ หรือว่าตอบแบบไม่ถูกประเด็นหรือเปล่า ก็คิดไปน่ะค่ะ อายหน้าแดง

อ่านแล้วมีคำถามอีกแล้วค่ะ ยิ้ม

จากที่คุณเขียนว่า การปฏิบัติกรรมฐานอย่างถูกทางถูกวิธีนั่นแหละครับ คือ การชำระชะล้าง ทุกข์ได้ถึงตัวสภาวะ
เอ่อ แล้วเราจะรุ้ได้ยังไงคะว่าเราปฏิบัติถูกไหม ยกตัวอย่างเราอยู่ต่างแดน ไม่มีคนมาสอนจริง ๆจัง ๆ..ได้แต่ฝึกหัดเอง ดูคลิปวีดีโอบ้าง อ่านหนังสือเอาบ้าง หรือจากถามกับหลายๆ คนแล้วมาปฏิบัติเองบ้างอย่างนี้ล่ะคะ?

คุณกรัชกายเรามีความสงสัยค่ะ..ว่าคำว่าศีลบริสุทธิ์เนี่ยมันต้องขนาดไหนคะ คือ เราเคยคิดว่าเราไม่ผิดศีลอะไรในห้าข้อ แต่พอมาอ่านหนังสือธรรมะจริง ๆแล้วในศีลห้าข้อมีอะไรที่แยกย่อยออกไปอีกเยอะมาก แล้วเราก็มานั่งพิจารณาดูว่าเราเองก็ผิดศีลข้อนี้เหมือนกันนะ อายหน้าแดง อย่างเช่น ข้อมุสา (เราไม่ได้โกหกและไม่ชอบโกหกแต่บางทีก็ยอมรับว่าตามประสาผู้หญิงมีคุยกับเพื่อน เรื่องดาราคนนั้นคนนี้ หรืออ่านข่าวมาคุยหรือรู้เห็นอะไรมาเล่าแบบนี้ถือว่าผิดศีลด้วยใช่ไหมคะ เข้าข่ายนินทากาเล? แต่เราไม่ได้นินทาว่าร้ายนะคะ แค่เล่าสู่กันฟังเฉยๆ อ่ะค่ะ เช่นเราอ่านเจอมาอย่างนี้แล้วมาเล่าให้เพื่อนฟังหรือคุยกันกับเพื่อนเรื่องคนอื่นบ้างนี่ ผิดศีลมากไหมคะ แล้วอย่างนี้เราจะคุยอะไรกับคนอื่นๆ ได้บ้างคะเนี่ยถ้าเกิดไม่อยากที่จะนินทาหรือพูดถึงใครเลย นอกจากเรื่องของตัวเอง??? อยากรุ้ว่ามีใครไม่เคยพูดถึงคนอื่นบ้างไหมอ่ะ สงสัย

และก็อยากทราบว่าการเสี่ยงโชค ซื้อลอตเตอรี่นี่ ผิดศีลด้วย หรือเปล่าคะ?
 

_________________
สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดจะเกิดปัญหา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กตัญญุตา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 29 มิ.ย. 2008
ตอบ: 73

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 3:30 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอเล่าเรื่องการปฏิบัติหน่อยค่ะ พักนี้รู้สึกว่าล้า ๆ ไม่ค่อยเต็มที่เลยค่ะ แต่เราก็ปฏิบัติแบบสบายๆ นะคะ ไม่เคร่งเครียดเหมือนตอนแรก ๆ คือคิดในใจว่าได้แค่ไหนก็เอาแค่ไหน ไม่บังคับตัวเองมากมาย แล้วก็ทำไปเรื่อยๆ เท่าที่จะทำได้อ่ะค่ะ...เมื่อก่อนหน้านี้(วันอาทิตย์)เรานอนหลับไปกะลูก ตื่นขึ้นมาอีกทีเลยเวลาปฏิบัติไปแล้ว แต่ก็พยายามลุกขึ้นมาปฏิบัติ แต่เรามึนและปวดหัวมาก เพราะว่านอนแล้วลุกขึ้นมาแบบมันเผลอไปน่ะค่ะ เลยปวดหัว..ทีนี้เราก็พยายามมาเดินจงกรมได้แค่ 15 นาทีแบบว่าไม่ไหวแล้ว มึนหัวมากๆ สมาธิไม่มีเลย เราก็เลยต้องไปนอนน่ะค่ะ ทั้ง ๆที่อยากปฏิบัตินะ แต่ว่าหัวเรามันมึน ปวดเราก็ไม่ไหว เศร้า นี่เป็นครั้งที่สองตั้งแต่ปฏิบัติมาที่เราไม่สามารถทำได้จริงๆ...แต่ก็พยายามไม่รู้สึกผิดตรงนั้น ก็อย่างที่บอกว่าไม่เคร่งจนเกินไปเพราะว่าเราก็ยังครองเรือนมีครอบครัว มันก็อาจจะไม่เต็มทีเท่าไหร่นัก ประกอบกับต้องพาลูกนอนทุกคืน เค้านอนเองกันไม่ได้ ต้องกอดแม่ เราก็ต้องนอนด้วย ถ้าลูกไม่หลับเราก็ทำไม่ได้ และส่วนใหญ่ก็ชอบเผลอหลับไปกับลูก เพราะว่าก็นานกว่าลูกจะหลับอ่ะค่ะ หลับ

ทีนี้พออีกวันมาปฏิบัติเหมือนว่ามันถดถอย เรารู้สึกยังงั้นจริงๆ นะ เพราะว่ามันเหมือนเริ่มต้นใหม่ยังไงไม่รู้...(คิดไปเองป่าวไม่ทราบนะคะ) เหมือนว่านั่งน้อยลงไม่ถึง 1 ชม. จากที่เคยนั่งเป็นชม. แล้วแปลกอีกอย่างที่ว่าตอนนี้เราเดินจงกรมจับเวลา 45 นาที แล้วนั่งสมาธิก็เร็วกว่าเดิมคือ 45 นาทีเป๊ะเท่ากันเลย มาสองวันแล้ว ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเราเดินจงกรมเท่าเดิมนี่แหล่ะค่ะ 45-50 นาที แต่นั่งอ่ะ จะนานกว่าประมาณ 10-15 นาที แต่ครั้งนี้ได้แค่นี้ แล้วสังเกตดูจากอาการเวทนาที่ปรากฎก็ราวๆ เวลาเดียวกันเลย จริง ๆ ตอนมันหายไปเราจะนั่งต่อก็ได้ แต่เราก็ไม่ได้นั่งต่ออ่ะค่ะ เห็นว่าหายไปเราก็นั่งกำหนดไปสักพักแล้วก็ออกจากสมาธิแบบนี้...แล้วความรู้สึกแบบว่าขี้เกียจๆ ก็เริ่มมีบ้างแล้วนะคะ เศร้า เอ้อ ทำไมเป็นอย่างนี้หนอเรา...

คุณกรัชกายมีอะไรจะแนะนำผู้ปฏิบัติใหม่อย่างเราไหมคะ...
 

_________________
สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดจะเกิดปัญหา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 11:23 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มีประเด็นให้ตอบเยอะเลยครับ คงต้องว่ากันยาวหน่อย

เรื่อง ศีล ตัวเดียว ก็ตอบยาวแล้วล่ะครับ

แต่ก่อนตอบคำถามเรื่องศีลนี้

ขอถามคุณกตัญญุตาก่อนว่า คุณถือศีลสมาทานศีลด้วยเหตุผลใด

มีเป้าหมายอย่างไร ในการถือศีลรักษาศีลครับ
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 11:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ว่างๆ อ่านลิงค์นี้ไว้ด้วยครับ

http://www.free-webboard.com/view.php?user=vipassanatipani&wb_id=50&topic=สีลัพพตปรามาส
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 12:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ระหว่างที่รอคำตอบเกี่ยวกับเจตนาถือศีลจากคุณ จะตอบประเด็นปลีก

ย่อยให้พลางๆก่อน

อ้างอิงจาก:

อยาก รู้ว่ามีใครไม่เคยพูดถึงคนอื่นบ้างไหมอ่ะ


ไม่มีหรอกครับ พูดแล้วจบอยู่ตรงนั้น

อย่าวิตกไปเลย ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย หากอยู่ในขอบเขตดัง

กล่าว

อ้างอิงจาก:

อยากทราบว่าการเสี่ยงโชค ซื้อลอตเตอรี่นี่ ผิดศีลด้วย หรือเปล่าคะ?


ยังไม่เห็นมีศีลข้อใดห้ามครับ ซื้อได้เปิดช่องให้บุญเก่าเข้าบ้าง

ไม่ใช่เล่นเอาเป็นเอาตายซึ่งทำให้ตนเองเดือดร้อนนี่น่ะ ยิ้ม
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 12:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:

เราก็เข้ามานะ เมื่อวาน แต่ยังไม่เห็นคุณตอบก็เลยไม่รู้ว่าจะคุยอะไรต่อ
นึกว่าลืมกันไปซะละ ตอนแรกก็ เอ หรือว่าตอบแบบไม่ถูกประเด็นหรือเปล่า ก็คิดไปน่ะค่ะ



อย่างนั่นแหละครับ ภาษาธรรมะท่านเรียกว่า การปรุงแต่ง หรือ สังขาร

ขันธ์ปรุงแต่งจิต คิดเองตอบเอง เออเอง ใช่ไม่ใช่เอง ฯลฯ


ไม่เป็นไรครับพูดให้ฟังเป็นตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพของสังขารปรุงแต่ง

จิต หรือ แต่งความคิด มีลักษณะเช่นนั้น

บอกให้รู้ไว้เป็นตัวอย่าง ตอนเราทำกรรมฐาน สมมุติว่า ประสบสภาวะ

ใด หรือรู้สึกอย่างไร เห็น ได้ยิน ฯลฯ ก็กำหนดสภาวะนั้นตามนั้นเสีย

ตัดตอนไม่ให้มันคิดปรุงแปรความคิดไปจนตกจากกรรมฐาน


มิใช่นั่งๆ คิดปรุงแต่งไปเรื่อยๆ แบบนี้มันน่าจะเป็นนั่นเป็นนี่หรือเปล่า

ใช่ไม่ใช่ (พี่น้อง...เลียนแบบนักประท้วงหน่อย)

อายหน้าแดง ประมาณนั้น อย่างนี้เรียกว่า ปรุงแต่งความคิด
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กตัญญุตา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 29 มิ.ย. 2008
ตอบ: 73

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 2:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่ค่อยเข้าใจคำถามค่ะ อย่าว่ากันนะคะ ที่ถามว่า

คุณถือศีลสมาทานศีลด้วยเหตุผลใด

มีเป้าหมายอย่างไร ในการถือศีลรักษาศีลครับ


ตอบตามที่เข้าใจ ตอนแรก ๆ ที่ยังไม่ปฏิบัติ แต่ว่าก็สนใจเรื่องธรรมะมาแต่เด็กนะคะ เพราะว่าแม่ทำ เราก็ทำด้วย ในบ้านมีเรากะแม่ที่คุยเรื่องนี้กันได้ แบบสามารถปรึกษาพูดคุยในทางนี้ได้ดีอ่ะค่ะ ฉะนั้นแล้วคำว่า "ศีล" ก่อนหน้านั้นรู้จักมานาน เวลาเรียนก็ดี รู้แต่ว่าศีลห้าข้อ

1. ห้ามฆ่าสัตว์(ปกติก็ไม่เคยฆ่าสัตว์ถ้าไม่บังเอิญไปเหยียบหรือทำมันตายโดยไม่เจตนา จะมีบ้างนาน ๆ ทีด้วยมีเหตุผลที่ว่าอย่างหน้าร้อนแถวนี้แมลงวันชอบบินว่อนเข้ามาในบ้าน มาแถว ๆ ถังขยะ บางทีก็มาปล่อยไข่แล้วเป็นหนอน เราก็ไม่รู้จะทำไงบางทีก็ตี แต่ถ้ามันไม่อะไรมากมายก็ปล่อยอ่ะค่ะ จริงๆ เป็นคนรักสัตว์มาก)

2. ห้ามขโมย (เราก็ไม่ค่อยขโมยนะ ไม่ค่อยอยากได้ของใครเท่าไหร่ แต่ตอนเด็ก ๆมีบ้างค่ะ แบบว่าหยิบตังค์พ่อนิด ๆ หน่อยๆ แต่พ่อก็รู้นะ อายหน้าแดง แต่เรื่องขโมยอะไรแบบเอาของ ๆ คนอื่นมาเป็นของเรานี่ไม่มีค่ะ แต่พอมาอ่านศีลจริง ๆเค้าบอกว่าแม้เป็นสามีภรรยากัน ใช้กระเป๋าเดียวกัน ถ้าเราเอาโดยไม่บอกก็ถือว่าผิดศีล เศร้า คือก็มีอ่ะค่ะ แบบบาทสองบาทเงี๊ยะ เราก็ไม่ได้คิด เห็นว่าสามีภรรยาคงไม่เป็นไร แต่พออ่านแบบนี้ก็ไม่กล้าแล้วอ่ะค่ะคงต้องบอกก่อนเอา ซึ่งปกติสามีเค้าก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้นะคะ)

3. ห้ามผิดลูกเมียคนอื่น(ข้อนี้ตัดไปได้เลย ไม่มีอ่ะค่ะ แต่เคยคิดนิด ๆ เวลามีคนมาจีบ มันก็ธรรมดาเรามีหวั่นไหวนะ แต่พอนึกๆ แล้วเราก็มีลูกมีสามีแล้วก็ตัดไป ไม่สนใจ ไม่เคยสานต่อความสัมพันธ์ใด ๆ กับใครอ่ะคะ เวลามีอะไรเช่นใครมาจีบเราก็เล่าให้สามีฟังนะ)

4. ห้ามโกหก ข้อนี้อ่ะ...น่าจะผิดเยอะสุด ไม่ใช่แค่โกหกอย่างเดียวคือเราเป็นคนที่ไม่โกหกนะคะ แต่ว่ามีบางทีอย่างคนชอบมาบ้านเราบ่อยๆ มาแล้วไม่บอก บางทีเรามีอย่างอื่นต้องทำหรือเหนื่อยรับแขก เพราะแค่ลำพังกับลูกก็ยุ่งพอแล้ว เราก็จะมีพูดไม่จริงบ้างว่า อาจจะไม่อยู่นะอะไรแบบนี้อ่ะค่ะ มันก็เข้าข่ายโกหกใช่ไหมคะ คือโกหกเล็กน้อยไม่ลำบากเดือดร้อนใครก็มีบ้าง แต่โกหกแบบใหญ่ๆ ทำให้คนเข้าใจผิดกันหรือว่าใส่ร้ายป้ายสีใครอันนี้ไม่มีค่ะ

5. ห้ามดื่มสุรา(นี่ตัดไปได้เลยไม่ใช่ของชอบเลยค่ะ)

ฉะนั้นเมื่อก่อนเรารู้เท่านี้เราก็คิดว่าเรามีศีลครบ เพราะเราไม่ได้คิดว่าการพูดแบบโกหกเล็กน้อยจะถือเป็นการผิดศีลหรือผิดมากเราคิดแต่ว่าเราไม่เคยโกหกอะไรร้ายแรง ใหญ่โตก็เลยคิดว่าตัวเองมีศีลครบทุกข้อ

แต่พอมาอ่านเอาเข้าจริงๆ แล้วก็มีสองข้อที่รักษาไม่ครบคือข้อ 2กับ 4 ตอนนี้ก็เลยพยายามที่จะไม่โกหกแล้วถ้าอยู่คงบอกว่าอยู่แต่บอกว่ายุ่ง ๆ วันนี้รับแขกไม่ได้ดีกว่า...เพราะว่าถ้าบางทีเราพูดว่าอยู่ เค้าก็ไม่สนใจอ่ะค่ะ ถือว่าอยู่ เอาลูกมาฝากเราเลี้ยงบ้างไรเงี๊ยะ เราก็ไม่ไหวอ่ะค่ะ แค่ลูกเราสองคนก็จะแย่ละ..นี่ล่ะเหตุผลที่บางทีพูดไม่จริง.. อายหน้าแดง

ส่วนตอนนี้ถ้าถามว่า....ถือศีลด้วยเหตุผลใด ก็อยากทำให้มันครบจริง ๆแบบไม่ขาดและทำไม่ผิดอะไรเลยเพื่อในการปฏิบัติภาวนาเพราะเรามาทำตรงนี้ก็เลยยิ่งอยากรักษาศีลให้บริสุทธิ์เท่าที่จะทำได้ แต่เรื่องศีลนี่ก็เชื่อถือแล้วก็มีอยู่ในใจมาตลอดอยู่แล้วนะคะ เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้บริสุทธิ์ขนาดนั้น เหมือนอย่างที่แจกแจงให้ฟังอ่ะค่ะ...

ขอโทษนะคะตอบยาวไปหน่อย อายหน้าแดง
 

_________________
สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดจะเกิดปัญหา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 4:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน


เท่านั้นก็ดีถมเถแล้วครับ คุณกตัญญุตา

แต่เมื่อต้องการรู้ก็จะยกหลักสำหรับตรวจสอบก็จะนำที่ท่านอรรถกถาจารย์

จัดไว้ก่อนดังนี้




พระอรรถกถาจารย์ ได้ประมวลหลักเกณฑ์บางอย่างไว้สำหรับกำหนด

ว่า การกระทำแค่ไหนเพียงใด จึงจะชื่อว่าเป็นการละเมิดศีลแต่ละข้อๆ

เป็นการให้ความสะดวกแก่ผู้รักษาศีล โดยจัดวางเป็นองค์ประกอบของ

การละเมิด เรียกว่าสัมภาระ หรือ เรียกกันง่ายๆ ว่าองค์

บุคคลจะชื่อว่าละเมิดศีล (เรียกกันง่ายๆว่าศีลข้อนั้นจะขาด) ต่อเมื่อ

กระทำการครบองค์ทั้งหมด

ของการละเมิด ดังนี้

ศีลข้อ 1 ปาณาติบาต มีองค์ 5 คือ

1. สัตว์มีชีวิต

2. รู้อยู่ว่าสัตว์มีชีวิต

3. จิต คิดจะฆ่า

4. มีความพยายาม

5. สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 4:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ศีลข้อ 2 อทินนาทาน มีองค์ 5 คือ

1. ของผู้อื่นหวงแหน

2. รู้อยู่ว่าเขาหวงแหน

3. จิตคิดจะลัก

4.มีความพยายาม

5.ลักของได้ด้วยความพยายามนั้น
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง