นายอำเภอปราสาท "สุชีพ แข่งขัน" ศึกษาหลักธรรม-ศรัทธ

ตอบเมื่อ: 02 มี.ค.2005, 3:36 pm

นายอำเภอปราสาท "สุชีพ แข่งขัน" ศึกษาหลักธรรม-ศรัทธาหลวงปู่ดูลย์

"ไม่อยากให้คนหลงเข้าใจผิดว่า การแขวนพระเครื่องแล้วต้องมีอภินิหาริย์ แคล้วคลาดรอดตาย เพราะสิ่งเหล่านี้มันเป็นแค่ภาพมายาลวงตาเรา" นี่เป็นความเชื่อของ "สุชีพ แข่งขัน" นายอำเภอปราสาท จ.สุรินทร์ ที่เป็นแก่นธรรมแห่งพุทธองค์

ประวัติโดยย่อของนายอำเภอหนุ่มใหญ่ลูกอีสาน เกิดวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2491 ปีชวด ราศีตุล มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านผงสวาย หมู่ 9 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์

จบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปี พ.ศ.2514 และจบปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สมรสกับนางอัครศิริ แข่งขัน ประกอบอาชีพรับราชการเป็นอาจารย์สอนหนังสือเด็กนักเรียนที่โรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ ต.ท่าทราย จ.นนทบุรี มีบุตร-ธิดาสืบสกุล 3 คน

หน้าที่การงานของท่าน เริ่มต้นในปี พ.ศ.2517 บรรจุรับราชการครั้งแรกดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอท่าตูม ในปีพ.ศ.2518 นายสุชีพ เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เข้าสู่ร่มธรรมเพื่อศึกษาหาความรู้ตามรอยพุทธองค์ ณ วัดโพธิพฤกษาราม อ.ท่าตูม เมื่อลาสิกขา ได้กลับมารับราชการต่อ

นายสุชีพย้อนอดีตช่วงนั้นว่า สมัยอยู่ที่ อ.กุดบาก จ.สกลนคร มีโอกาสไปนมัสการ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ศิษย์สายพระอาจารย์มั่น ภูริฑัตโต วัดป่าอุดมสมพร โดยให้ความนิยมศรัทธาหลวงปู่ดูลย์อย่างแรงกล้าว่าเป็นพระสายกรรมฐาน ที่น่ายกย่องมีความเมตา และบรรลุธรรมขั้นสูง รวมทั้งหลวงปู่สาม อกิญจโญ วัดป่าไตรวิเวก ก็เป็นนักปฏิบัติธรรมได้น่ายกย่องเช่นกัน รู้สึกฝังใจและมีความเคารพในคุณงามความดี จึงได้เสาะหาวัตถุมงคลที่เกี่ยวข้องกับเกจิๆ ทั้งสองไว้บูชาติดตัวตลอด

ในปีเดียวกัน ได้พบกับประสบการณ์สุดระทึกเสี่ยงตายแทบเอาชีวิตไม่รอด ช่วงเป็นปลัดอำเภอกุดบาก จ.สกลนคร ในระหว่างนำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไปรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ได้ถูกกลุ่มผู้ก่อการร้าย ดักซุ่มโจมตีด้วยอาวุธปืนหนัก ทั้งจรวดอาร์พีจี และอาก้า เกิดการยิงปะทะกันนานกว่า 15 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ปกครอง รับบาดเจ็บ แต่นายสุชีพแคล้วคลาดปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

"ผมเชื่อมั่นว่าเหตุการณ์ถูกคนร้ายลอบปะทะครั้งนั้น ที่สามารถรอดมาได้หวุดหวิด เป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทั้งสองที่คอยคุ้มครองป้องกันภยันตรายให้กับผม" นายสุชีพกล่าวยืนยันหนักแน่น

หลังจากปีพ.ศ.2518 โยกย้ายไปรับราชการในพื้นที่อำเภอต่างๆ กว่า 10 แห่ง ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นนายอำเภอครั้งแรกที่ อ.สนม จ.สุรินทร์ และเป็นนายอำเภอกว่า 10 แห่ง เป็นเวลา 14 ปี จนถึงปัจจุบันมาดำรงตำแหน่งเป็นนายอำเภอปราสาท จ.สุรินทร์

ยามว่างจากหน้าที่การงาน จะใช้เวลาอันแสนสงบ พึ่งหาหลักธรรมะของพระพุทธเจ้า เพื่อให้เกิดกำลังใจ โดยศึกษาผ่านทางหนังสือของท่านพุทธทาสและท่านพระธรรมปิกฎ เมื่ออ่านมากทำความเข้าใจจนลึกซึ้งตกผลึก จึงรวบรวมรักษาหนังสือไว้กว่า 1,000 เล่ม เริ่มเขียนหนังสือธรรมะครั้งแรก สมัยเป็นนายอำเภอสังขะ

ปัจจุบันรวบรวมได้กว่า 5 ชุด มีทั้งธรรมะผู้ใหญ่และเด็ก สำหรับธรรมะเด็ก ใช้รูปภาพการ์ตูนประกอบ โดยใช้คำง่ายๆ สั้นๆ เช่น "เรื่องของร่างกายของคน เราแบ่งแยกเป็น 5 ส่วน ประกอบด้วยกองวัตถุ กองความรู้สึก กองความจำ กองปรุงแต่ง กองความคิด คือ ความรู้หรือความสามารถ ในการรับรู้ หรือเรียกตรงว่าจิตวิญญาณก็จะทำให้ตัวเรารู้ว่าร่างกายเรานั้นมีอยู่เพียง 5 ส่วน หรือ ขันธ์ 5 นั่นเอง"

เมื่อย้ายเข้ามารับราชการที่ อ.ปราสาท นายวิวัฒน์ คันธกุลดุษฎี ได้มอบกริ่งรูปเหมือนหลวงปู่ดูลย์ อตุโล (เนื้อเงิน) ให้ 1 องค์ จึงนำไปเลี่ยมทอง คราใดได้นำพกพาติดตัวจะทำให้มีสติรู้ตัว ไม่ตกอยู่ในความประมาท มีเหตุมีผล ไม่วู่วาม และใจเย็นขึ้น

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 ได้จัดสร้างวัตถุมงคล เป็นเหรียญพุทธพรหมวิหาร ศิลปะแบบคันธารราฐ เพื่อหารายได้ให้ กิ่งกาชาดอำเภอปราสาท ไว้สำหรับใช้จ่ายช่วยเหลือราษฎรผู้ยากไร้

ส่วนหลักธรรมในการอบรมสอนบุตร-ธิดา "สุชีพ แข่งขัน" เน้นที่ความเรียบง่าย ให้ลูกมีความอิสระ มีเหตุผล พึ่งตัวเองได้ ไม่ใฝ่สูง

ทุกวันนี้ ชีวิตราชการของ "สุชีพ แข่งขัน" นายอำเภอปราสาท ประสบความสำเร็จแล้ว

อันพึงจะได้รับความสุขและความสบายใจ

ที่มา : คอลัมน์ พระเครื่องคนดัง

สมศักดิ์ แซ่จึง

นสพ.ข่าวสด หน้า 40

วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2548 ปีที่ 14 ฉบับที่ 5207

ผู้เยี่ยมชม

สาธุ ขออนุโมทนาด้วยครับ