Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ‘หลวงพ่อดำ’ วัดช่องแสมสาร จ.ชลบุรี อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
webmaster
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 04 มิ.ย. 2004
ตอบ: 769

ตอบตอบเมื่อ: 18 ก.ค.2008, 10:59 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ไหว้พระประธาน ๗๖ จังหวัด

‘หลวงพ่อดำ’
วัดช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี


“พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต” หรือ “หลวงพ่อดำ”
วัดช่องแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
เป็นพระพุทธปฏิมากรศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่ง ซึ่งชาวประมงฝั่งตะวันออก
เลื่อมใสศรัทธา ทุกครั้งที่ออกทะเลมักจะไปนมัสการและขอพร
ชาวประมงทุกคนจะกลับมาโดยสวัสดิภาพ
มีโชคได้สินทรัพย์จากทะเลเป็นกอบเป็นกำ


พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต หรือหลวงพ่อดำ
ประดิษฐานในพระวิหารวัดช่องแสมสาร
เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสูง ๕ เมตร มีรูปใบหน้าอิ่มเอิบ
ดวงตาทอดต่ำลงแผ่เมตตาให้กับผู้คนที่เดินทางมากราบไหว้

ตำนานหลวงพ่อดำ ระบุว่า เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๑
“หลวงพ่อดำรง คุณาสโภ” ได้เดินทางจาก จ.สุพรรณบุรี
มาปักกลด ณ บริเวณพระเจดีย์เก่าบนเขาของวัดช่องแสมสาร

Image

หลวงพ่อดำรง ได้เล่าให้ญาติโยมที่ไปกราบนมัสการให้ฟังว่า
ท่านจำพรรษาอยู่วัดเขาขึ้น อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
สาเหตุที่เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ เพราะได้ฝันว่า
เทพยดาองค์หนึ่งบอกให้ไปสร้างพระพุทธรูปไว้ใกล้ๆ
พระเจดีย์เก่าองค์หนึ่ง บนเขาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก

“ในภายภาคหน้า พระประธานองค์นี้จะกลายเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์
และมีประชาชนให้ความเคารพนับถือเดินทางมากราบไหว้กันเป็นจำนวนมาก
เนื่องจากบริเวณแห่งนี้มีความเหมาะสมที่จะบูรณะให้กลายเป็น
แหล่งรักษาศีลและความสงบให้กับชาวพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก...”


หลวงพ่อดำรง ได้ออกเดินทางจากวัดเขาขึ้น
กว่าจะถึงวัดช่องแสมสารเป็นเวลาหลายวัน
เพราะท่านเดินทางถึงหมู่บ้านติดทะเลที่ใดก็จะแวะดูเรื่อยไป

จนถึงบ้านช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี คือ สถานที่ท่านปักกลดอยู่นี้
เป็นสถานที่มีภูมิทัศน์ตรงกับสภาพที่ท่านนิมิตฝัน ท่านจึงชักชวนญาติโยม
ช่วยกันบริจาควัสดุในการสร้างพระพุทธปฏิมากร ซึ่งได้รับศรัทธาร่วมมือด้วยดี

ในสมัยนั้นยังไม่มีทางรถยนต์ จึงจำเป็นต้องใช้แรงงานคนแบกขนวัสดุขึ้นไป
การสร้างใช้เวลาสร้างประมาณ ๒ ปี จึงแล้วเสร็จและ ทารักสีดำ
ตั้งเป็นสง่าอยู่กลางแจ้ง โดยไม่มีหลังคาคลุมแต่อย่างใด


ชาวบ้านชาวเรือและผู้พบเห็น จึงเรียกว่าหลวงพ่อดำกันจนติดปาก
ทั้งๆ ที่ตอนสร้างเสร็จท่านได้ถวายนามว่า “พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต”
ซึ่งชื่อในตอนท้าย มีความหมายระบุว่า เป็นพระที่เกิดจากความฝันดี

Image

หลังจากสร้างเสร็จประมาณ ๑ เดือน
ได้จัดงานฉลองพระและประกอบพิธีเบิกพระเนตร
ในครั้งนั้นได้มีการผูกหุ่นฟาง ๒ หุ่น
เพื่อเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อดำ หลังจากเสร็จพิธีก็เผาหุ่นฟาง

หลวงพ่อดำ ได้ตั้งตากแดดอยู่กลางแจ้งเป็นเวลาถึง ๑๐ ปีเศษ
จนมีชาวประมงจากจังหวัดสมุทรปราการแล่นเรือผ่านมาเห็นหลวงพ่อดำตากแดด
จึงบนขอพรว่าออกเรือเที่ยวนี้ขอให้ได้ ๒๐๐,๐๐๐ บาท จะมาทำหลังคาให้
ปรากฏว่าได้ดังคำขอ จึงเอาเงินมาฝากให้นายเจริญ ทิศาบดี ผู้ใหญ่บ้าน
ช่วยทำหลังคา แต่ไม่มีฝา เมื่อฝนตกก็สาดเปียก

ต่อมาชาวประมงอีกรายผ่านมา ก็บนหลวงพ่อดำอีก
ขอให้จับปลาได้เยอะๆ จะมากั้นฝาให้
ปรากฏว่าได้สมหวังก็เอาเงินมาฝากผู้ใหญ่ให้ช่วยทำต่อไป

สภาพวิหารหลวงพ่อดำในขณะนั้น จึงเป็นเพียงมีหลังคาและฝาไม้สามด้าน
มีชาวบ้านและชาวเรือต่างขึ้นไปนมัสการกราบไหว้
เป็นจำนวนมาก และมักประสบผลสำเร็จ

หลังจากสิบปีผ่านไป สภาพของวิหารชำรุดทรุดโทรมจนใช้งานไม่ได้
นายเสน่ห์ พิทักษ์กร สมาชิกสภาจังหวัดชลบุรี
ได้ร่วมมือกับพระครูวิสารทสุตากร เจ้าอาวาส พร้อมชาวบ้าน
ร่วมกันสร้างเป็นวิหารจตุรมุข ภายในมีจิตรกรรมฝาผนัง
และมีภาพปูนปั้นเรื่องราวพุทธประวัติ ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน

Image
วิหารหลวงพ่อดำ


ครั้นสร้างเสร็จ ได้ทำพิธีเปิดวิหารอย่างเป็นทางการ
เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๒

ในแต่ละวันมีประชาชนเดินทางไปนมัสการขอบน
และแก้บนสิ่งสมปรารถนาโดยมิได้ขาด
เรื่องราวพุทธานุภาพปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อดำมีมาก
จากคำบอกเล่าของผู้คนที่มาแก้บนแต่ละวัน
จะเข้าสักการะแก้บนด้วยไข่ต้มและพวงมาลัยดอกไม้สด

ตามความเชื่อว่าหลวงพ่อดำคุ้มครองรักษาให้ปลอดภัย
และได้โชคลาภสิ่งที่สมปรารถนาไม่ขาดสาย
จนหลวงพ่อดำที่ทารักสีดำ
กลายเป็นหลวงพ่อดำสีทองเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งองค์ในปัจจุบัน


ผู้ที่จะเดินทางไปวัดช่องแสมสารแห่งนี้ หากเดินทางจากกรุงเทพมหานคร
ให้ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ผ่านไปถนนสุขุมวิทและไปถึง อ.สัตหีบ
หรือหากมาจากถนนบางนา-ตราด ให้วิ่งไปทางพัทยาและผ่านไปถึง อ.สัตหีบ

สำหรับถนนทางขึ้นสู่ยอดเขานั้นราดยางอย่างดีตลอดเส้นทาง
และจะได้พบกับทัศนียภาพอันสวยงาม
ทั้งทางทะเลและบนภูเขาควบคู่กันไปด้วย

หากมีเวลาจะได้ชมพระ อาทิตย์ตกทะเลอย่างสวยงามอีกด้วย

Image
ป้ายชื่อหลวงพ่อดำ เขาเจดีย์

สาธุ


หนังสือไหว้พระประธาน ๗๖ จังหวัด
กองบรรณาธิการข่าวสด สำนักพิมพ์มติชน
 

_________________
ธรรมจักรดอทเน็ต
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
kukkai.l
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 22 มี.ค. 2008
ตอบ: 16

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ค.2008, 10:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เคยไปมาแล้วค่ะ เป็นวัดหนึ่งที่น่าเที่ยวได้กราบไหว้พระศักดิ์สิทธิ์แล้วยังได้ชมวิวสวยๆ อากาศดีมากเหมาะแก่การถ่ายรูป ได้ชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ย. 2008, 6:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง