Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 แอร์โฮสเตสกับการนั่งสมาธิ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
dudede
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.พ.2005, 10:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เห็นข่าวแอร์โฮสเตสเกิดอาการไม่ปกติปีนขึนไปบนเสาไฟฟ้า เหตุเพราะไปนั่งสมาธิพร้อมครอบครัวที่ตามข่าวกล่าวไว้ว่า เดิมมีกำหนดจะอยู่ที่วัด 3 วันแต่ระหว่างที่นั่งสมาธิวิปัสสนา ได้เพ่งเห็นภาพของแฟนตัวเองไปมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่น จึงกลับบ้านก่อนกำหนด แล้วมาก่อเหตุระทึกขวัญขึ้น เป็นข่าวที่น่าสนใจ และน่าจะศึกษาถึงเรื่องของ การนั่งสมาธิ

ศัพท์คำว่า สมาธิ เราอาจแยกพิจารณาออกได้เป็น 2 ความหมาย สมาธิความหมายแรกคือ สมาธิ ช่วงที่อยู่ในระยะเวลาที่กำลังสร้างให้เกิดขึ้น ตามเทคนิค หรือเคล็ดหรือกรรมวิธี ของอาจารย์ท่านต่างๆ เช่น วิธีพุทโธ ยุบหนอพองหนอ อานาปานสติ เป็นต้น

ส่วนอีกความหมายหนึ่งก็คือ สมาธิที่เราสร้างมันขึ้นมาได้แล้ว เรานำสมาธิที่ได้มานี้ไปใช้ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์อื่น ตามที่เราต้องการ มันมี 2 ความหมาย และในภาษาไทยก็มีศัพท์ที่มีความหมายซ้อนๆ กันอย่างนี้หลายคำ เช่นคำว่าแกง

แกง ความหมายแรก เราอาจไปทำแกง ไปปรุงแกง หรือไปแกงก็ได้ เป็นช่วงทำ

ส่วนความหมายที่ 2 เป็นช่วงที่แกงทำเสร็จแล้ว จะเอาแกงไปใช้งานแล้ว เช่นไปกินแกง

คนที่ทำแกงมาดีแล้ว ปรุงแกงมาดีแล้ว เมื่อมากินแกง แกงก็จะอร่อย เอาไปใช้งาน ใช้ประโยชน์ เช่นเอาไปให้คนอื่นเขากิน คนอื่นเขาก็จะอร่อย

แต่กว่าจะอร่อยได้ บางครั้งก็ต้องใช้เวลาฝึกปรุงนาน ปรุงกันหลายหม้อกว่าจะอร่อยได้ อาจเผ็ดมากไป เค็มมากไปน้อยไป ดังนั้นการปรุงเพื่อให้ได้แกงที่ดี นำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ อาจจะต้องใช้เวลาและต้องทำอย่างประณีต

การนั่งสมาธิก็เช่นกัน การนั่งเพื่อสร้างให้เกิดสมาธิ เพื่อที่จะสามารถนำสมาธิที่ได้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราอาจจะต้องฝึกทำหลายๆ ครั้ง เราจะต้องเริ่มฝึกไว้ก่อน พอเกิดปัญหาจึงจะเรียกสมาธิมาใช้ได้อย่างทันท่วงที เหมือนเราจะกินแกงที่อร่อย เราก็ต้องฝึกทำแกงที่อร่อยไว้ก่อน พอหิวจะกินเราทำแผล็บเดียวก็ได้แกงที่อร่อยแล้ว ถ้าไม่ฝึกไว้ก่อนแล้ว พอเราหิวปรุงแกงกินเราก็จะได้แกงที่ไม่อร่อย บางครั้งเราอาจท้องไส้เสียก็ได้ เพราะการปรุงแกงที่ถูกสูตร ก็ต้องใช้เวลา

ครูบาอาจารย์ที่สอนเรื่องสมาธิ มักพูดในทำนองว่าสมาธิเป็นเรื่องของการนิ่งมากๆ

การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่เราจะต้องเคลื่อนไหวให้เร็วๆ เราจึงจะได้กำลังกายมาก แต่การออกกำลังจิต คือการนั่งสมาธิเป็นเรื่องของความนิ่ง ยิ่งนิ่งมากเท่าไรสมาธิก็จะมาเร็วเท่านั้น

ดังนั้นท่านจึงไม่ได้เร่งเร้าผู้ฝึกว่า ให้ทำอย่างรวดเร็ว แม้จะบอกให้ทำบ่อยฝึกบ่อย แต่ในช่วงฝึกก็ไม่ให้นั่งคิดหวังว่าสมาธิจะมาเร็วๆ และท่านก็ไม่ได้ตั้งความหวังไว้ว่าทุกคนจะได้สมาธิกันหมด

มีอาจารย์ที่สอนสมาธิท่านหนึ่ง สอนสมาธิมานาน มีลูกศิษย์มากมายหลายพันคน ตอนเปิดคอร์สสอนสมาธิท่านจะบอกถึงความคาดหวังของท่านแก่ผู้เข้ารับการฝึกว่า ที่เข้ามาฝึกเป็นร้อยคนนี่ ถ้าทำได้ดีเพียงคนเดียวท่านก็พอใจแล้ว

ทำให้ดีนี่ก็อาจจะเป็นแบบที่ว่า ทำแกงให้อร่อยระดับเชลล์ชวนชิมก็ได้ ส่วนคนอื่นก็เป็นระดับแกงพอกินได้ อร่อยมากอร่อยน้อยก็อยู่ที่การฝึกบ่อยๆ อะไรที่ทำบ่อยๆ นานๆ มันก็จะดีขึ้นเองชำนาญขึ้นเองกระมัง

อันที่จริงช่วงเวลาที่เราสร้างสมาธิ ทำให้เกิดสมาธิแม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก ต้องผ่านอุปสรรคนานาชนิด แต่ก็ขอยืนยันว่า หลังจากเราสร้างสมาธิจนได้สมาธิแล้ว สมาธิที่ได้นี้มีประโยชน์อย่างแน่นอน เช่นนอนหลับสบาย รักษาโรคบางอย่างได้ ใครอยากมีสมองดีสมาธิก็ช่วยได้ หรือใครอยากจะทำวิปัสสนา ก็ใช้สมาธิเป็นพื้นฐานเพื่อทำวิปัสสนาได้

ไม่อยากจะให้คนที่กำลังจะเริ่มฝึกสมาธิคิดว่า ถ้าฝึกสมาธิแล้วจะแสดงอะไรแปลกๆ เหมือนกันทุกคน มันมีตัวแปรหลายตัวจึงประกอบกันขึ้นเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติในครั้งนี้

ไม่ทราบว่าท่านอื่นมีความคิดเห็นเป็นประการใด
 
เฉื่อย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.พ.2005, 11:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คิดว่า สาวคนนี้คงระแวงอยู่ก่อนแล้วว่าแฟนนอกใจ อาจปรุงแต่งนิมิตขึ้นมาเองมะมั้ง...........ไม่รู้เหมือนกันไม่ค่อยรู้เรื่องทางธรรม
 
เซียงมีมาลัย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 ก.พ.2005, 5:53 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พื้นฐานของจิตยังไม่เข้าใจเรื่องธรรมดาของชีวิตได้ดีพอ และมีความเชื่อในความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ขาดการพิจารณาที่ดี จึงเป็นลักษณะนี้
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 28 ก.พ.2005, 2:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจให้ดี ว่าสาเหตุที่แท้จริงๆ ที่สาวแอร์โฮสเตสคนนั้นต้องปีนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าเพื่อประชด หรือทำร้ายร่างกายตัวเอง เกิดจากอะไร แล้วการทำสมาธิเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่

จากความเข้าใจส่วนตัวคิดว่า สมาธิคงไม่เป็นสาเหตุที่ต้องสาวฯ คนนั้นแสดงอาการดังที่เป็นข่าว แต่ด้วยว่าก่อนที่สาวฯ คนนั้นจะปีนเสาไฟฟ้าได้ไปฝึกนั่งสมาธิ คนก็เลยมองว่าสมาธิเป็นสาเหตุทำให้สาวฯ คนนั้นต้องแสดงอาการผิดเพียนออกมา

สาเหตุจริงๆ แล้วน่าจะมาจากปัญหาเกี่ยวแฟนหนุ่ม ซึ่งมีมาก่อนที่จะเข้าไปฝึกสมาธิ ที่ต้องฝึกสมาธิก็เพื่อต้องการลดหรือไม่คิดฟุ้งซ่านจากเรื่องราวของปัญหานั้น พูดง่ายๆ คือเข้าวัดนั่งสมาธิเพื่อให้จิตสงบจากปัญหา แต่เมื่อมานั่งสมาธิแล้วแต่ปัญหานั้นก็ไม่ลด จิตใจยังไม่ฟุ้งซ่าน เลยตัดสินใจกลับบ้านแล้วหาวิธีแก้ปัญหาโดยการแสดงอาการดัง เพื่อประชดเรียกร้องความสนใจจากแฟนหนุ่ม

จากที่พูดมานี้จะเห็นว่าสมาธิไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้สาวฯ คนนั้นแสดงอาการดังที่ข่าวเลย เพียงแต่ว่าสาวฯ นั้นได้เข้าวัดนั่งสมาธิมาก่อนที่จะแสดงอาการดังกล่าว เลยทำให้คนที่รับข่าวสารตีความเข้าใจผิดคิดว่าการฝึกสมาธิให้เกิดอาการผิดเพียนดังกล่าวได้ บ้างครั้งการเสนอออกมาคนที่เขียนก็ขาดวิจารณญาณเขียนไปตามที่ตัวเองรับรู้มาโดยไม่ไตร่ตรองข้อความให้รอบคอบว่าคนอ่านแล้วจะตีความอย่างไร

ที่กล่าวมานี้ก็ต้องการเสนอความคิดเห็นอีกแง่มุมหนึ่ง

เพื่อต้องการให้เข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับการฝึกสมาธิ

ไม่ต้องการให้บางคนมองว่าการฝึกสมาธิแล้วจะมีอาการ

ที่ผิดเพี้ยนจากคนธรรมดา จนไม่อยากจะคิดฝึกสมาธิ

การฝึกสมาธินั้นถ้าฝึกอย่างถูกต้อง ก็จะได้รับผลตาม

ความเพียรพยายามของแต่ละคน ที่มีปัญหาอันเนื่องด้วยนั่งสมาธิ

ส่วนใหญ่แล้วจะทำกันผิดทาง ผิดจุดมุ่งหมายของสมาธิ

เพื่อนั้น เพื่อนี่ ก็เลยได้รับผลที่ผิดเพี้ยนไปจากจุดหมายที่แท้จริง

อันเป็นจุดมุ่งหมายของพระพุทธศาสนา ที่ต้องการฝึกสมาธิ ฝึกจิต

เพื่อให้สงบจากกิเลส ความเศร้าหมองอันเกิดความทุกข์ทั้งหลาย
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
แกงไม่อร่อย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 มี.ค.2005, 1:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สมาธิดี ปรุงแกงอร่อย สมาธิไม่ดีบางทีลืมใส่น้ำปลา
 
สมบัติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 มี.ค.2005, 1:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เด็กยังนั่งสมาธิเป็นเลยดูดิ
 
อสรี
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 มี.ค.2005, 3:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

รับเรื่องแล้วต้องพิจารณาก่อน...เพราะเงื่อนไขในการสื่อสารนั้นสลับซับซ้อนเหลือเกิน...โดยเฉพาะเจ้าตัวผู้หญิงนั้น ในสมองและในใจนั้นมีเรื่องอะไรต่อมิอะไรมากมายก่อนไปปฏิบัติหรือเปล่า....และก็อาจเป็นเรื่องระแวงกันก่อนไปปฏิบัติอยู่แล้ว พอได้ไปก็คิดวนเวียนอยู่อย่างนั้น ๆ มันก็เลยเกิดอาการออกมาแบบขาดสติ....อย่างนี้ทางปฏิบัติคงเรียกว่า "ฟุ้ง" มากกว่า...
 
siam
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 01 มี.ค. 2005
ตอบ: 19

ตอบตอบเมื่อ: 01 มี.ค.2005, 8:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
สบาย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 03 มี.ค.2005, 5:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

นั่งแล้วก็.... รู้....แต่ไม่คิด...

ถ้านั่งแล้วคิดจะยุ่ง
 
ท่านจันทโชต
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 มี.ค.2005, 6:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

3 วันทำสมาธิได้กี่นาที ข่าวไปได้บอกด้วย คนเพิ่งหัดทำ 3 วันไม่เกิน 6 ชั่วโมง ให้เพื่อเก่งไว้หน่อย 6 ชั่วโมงนี่ สมาธิไม่เกิดจนเป็นเหตุได้หรอก

น่าจะมีปัญหาเรืองแฟนก่อนแล้ว จึงคิดถึงทำสมาธิเพือให้สมาธิช่วย (ในความคิดของเขา) นั่งๆ ทำไป แทนที่บริกรรมนาม-รูป คิดถึงแต่แฟนๆ ๆ ๆ ๆ ทำไมถึงทำกะเราได้..... คิดเองเออเองไป เรื่อยๆ เหมือนกะคนกลัวผีวาดผีไปตามจิตนาการของตน แล้วก็กลัว

เข้าประเด็นที่วิตกกันว่า คนอ่านข่าวแล้วจะกลัวการทำสมาธิ

ถามว่า สมาธิทำให้คนเพี้ยนได้ไหม ตอบว่าไม่ ......

... แต่อาการที่เกิดจากมีสมาธินี่ต้องระวัง..... จะสมมุติให้เห็นชัดๆ เราเพ่ง อะสุภะกรรมฐาน...(เพ่งซากศพ) จนติดตาติดความรู้สึก ภาพซากศพนั้น จะอยุ่ในความทรงจำ เพ่งบริกรรมไป ซากนั้น จะแสดงอาการต่างๆ แรกๆ จะมีน้ำเลือดน้ำหนองไหล พองอึด แล็วก็แตก ฯลฯ คิดดูเองน่ะ (สมาธิยังหยาบอยุ่) เมือสมาธิละเอียด ซากนั้นจะเปลียน เป็นสวยงามสมบูรณ์ ฯลฯ เปลียนไปเรื่อยตามสมาธิของผุ้นั้น

วัดนี้ไม่แน่ใจว่า ให้แอร์ ฯ สาวบริกรรมอะไร น่าจะเป็นยุบหนอ...พองหนอ หรือ พุท..โธ ก็ได้

ทั้งสองนี้ ทำแค่ 3 วัน 6 ช.ม.ไม่น่ามีปัญหา เพราะไม่ได้สัมผัสสมาธิหรอก แต่ถ้าทำจริงๆ นานๆ เป็นเดือน ก็ไม่แน่

กิเลสในใจคนแตกต่างกัน เมือมีสมาธิถึงระดับหนึ่งแล้ว กิเลสมารจะแสดงตน ตามอำนาจของมัน หลายอย่างต่างกัน ทำให้เพี้ยนได้ ถ้าผู้นั้น ไม่มีผู้แก่การปฏิบัติคอยแน่นำอย่างใช้ชิด ....

ผู้มีสัทธา สนใจทำจริง ควรมีกัลยาณมิตร คอยคุมดูแล เวลามีปัญหาจะได้ช่วยชี้ทางถูกให้
 
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 01 ต.ค.2008, 9:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตกใจ ตกใจ ตกใจ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 02 ต.ค.2008, 1:44 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่รู้อะ

เห็นแต่มีคนลงสมัครผู้ว่า กทม เพราะสมาธิ
เขาพูดชัดเลยล่ะว่าเกิดนิมิต
นิมิต ทำให้มาสมัคร

นี่หละหนา
ผลของการเชื่อว่านิมิตเป็นของจริง (Truth)
ทั้งๆที่เขาเพียงแค่ รู้เห้นจริงๆ (real experience) เท่านั้น

หลวงปู่ดุลย์ -
"ที่เห็นนั้น เขาเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็น ไม่จริง."
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 04 ต.ค.2008, 10:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แต่เขามีเครื่องราษฯจากสวรรค์เยอะมากเลยนะ.... ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2008, 10:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เฉื่อย พิมพ์ว่า:
คิดว่า สาวคนนี้คงระแวงอยู่ก่อนแล้วว่าแฟนนอกใจ อาจปรุงแต่งนิมิตขึ้นมาเองมะมั้ง...........ไม่รู้เหมือนกันไม่ค่อยรู้เรื่องทางธรรม


เห็นด้วยครับ สมาธิบางทีก็เห็นของจริง บางทีก็เห็นของปลอม (วิปัสสนูกิเลส)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา

ตอบตอบเมื่อ: 13 ต.ค.2008, 9:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผู้ไม่มีครูอาจารยแนะนำก็มักหลงผิด ตาม สัญญาหลอกครับ
 

_________________
ทำดีทุกทุกวัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 13 ต.ค.2008, 4:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ลองผิด ลองถูก ไม่มีท้อ (แก้ตัวได้)

ไม่มีใคร ไม่เคยทำผิด
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา

ตอบตอบเมื่อ: 13 ต.ค.2008, 5:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมื่อเข้า ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน หรือ ปัญจมฌาน โดยมีกสิณใดเป็นกัมมัฏฐาน ก็พิจารณาว่า กสิณนั้น ๆ เป็นอารมณ์ของฌานนั้น ๆ ตามนัยที่ได้กล่าวแล้วข้างต้นนี้
เมื่ออากาสานัญจายตนฌานเกิดขึ้น ก็พิจารณารู้ว่ามีอากาสบัญญัติเป็นอารมณ์
เมื่อวิญญาณัญจายตนฌานเกิดขึ้น ก็พิจารณารู้ว่ามี อากาสานัญจายตนฌานเป็นอารมณ์
เมื่ออากิญจัญญายตนฌานเกิดขึ้น ก็พิจารณารู้ว่ามีนัตถิภาวบัญญัติเป็นอารมณ์
เมื่อเนวสัญญานาสัญญายตนฌานเกิดขึ้น ก็พิจารณารู้ว่ามีอากิญจัญญายตนฌาน เป็นอารมณ์
ทั้งนี้ต้องฝึกฝนอบรมจนเป็นวสี
สรุปความว่า การอบรมสมาธิเพื่อให้สามารถทำอภิญญาได้ดังที่กล่าวมาแล้วรวม ๑๔ นัยนี้ ก็ประสงค์จะให้ฌานลาภีบุคคลนั้น มีความชำนิชำนาญในกระบวนการเพ่งอารมณ์กัมมัฏฐาน ให้เข้าฌานได้แคล่วคล่องว่องไว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่จะก่อให้จิตมีสมาธิเข้มแข็งเป็นพิเศษ เป็นเหตุให้มีอำนาจจนสามารถให้รูปาวจรปัญจมฌานอภิญญาเกิดขึ้นตามความปรารถนา การฝึกฝนอบรมสมาธิให้กล้าแข็งนี้ ฌานลาภีบุคคลจะมีวิธีอื่นใดเพิ่มขึ้นอีกก็ได้
 

_________________
ทำดีทุกทุกวัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง