Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
บุษบก เรือนที่ประทับแห่งฐานันดรสูง (นฤมล สารากรบริรักษ์)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
วัดและศาสนสถาน
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ก้อนดิน
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 07 ก.ค. 2004
ตอบ: 623
ตอบเมื่อ: 05 ก.ค.2008, 12:39 pm
พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ
บุษบก เรือนที่ประทับแห่งฐานันดรสูง
ตามที่ได้นำเสนอไปเมื่อครั้งก่อนถึงรูปทรงต่างๆ ของมณฑปแล้วนั้น พบว่ามีความคล้ายคลึงกับรูปแบบของสถาปัตยกรรมประเภทหนึ่งที่เรียกว่า
บุษบก
หากแต่ต่างกันในเรื่องของขนาดและรูปแบบการใช้งานเท่านั้น บุษบกจึงเป็นเสมือนการย่อส่วนเรือนแห่งฐานานุศักดิ์เช่นเดียวกับมณฑปที่น่าสนใจยิ่ง
บุษบก คือ ซุ้มยอด ซึ่งมีหลังคาซ้อนชั้นเป็นยอดแหลม มีบันแถลง
(ส่วนที่คล้ายกระจัง)
ประดับโดยรอบ
ซึ่งความหมายของบันแถลงนี้มีอยู่ว่า เป็นการจำลองอาคารหนึ่งๆ ด้วยการนำส่วนที่เรียกว่าหน้าบันมาซ้อนชั้นกันขึ้นไป โดยมากซ้อนกันสามชั้น หมายความว่า การประดับด้วยบันแถลงนี้ เป็นการจำลองอาคาร
สะท้อนความหมายของเรือนฐานานุศักดิ์ หรือเรือนฐานันดรสูง
ได้เช่นกัน
บุษบกมีด้วยกัน ๒ ขนาด คือ
ขนาดเล็ก ใช้ประดิษฐานพระพุทธรูป และขนาดใหญ่ ใช้ในการเสด็จออกว่าราชการของพระเจ้าแผ่นดิน
พระพุทธสิหิงคปฏิมากร วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ
จากประวัติความเป็นมาและข้อมูลที่พอทำให้ทราบว่า
บุษบกขนาดเล็ก ซึ่งใช้ประดิษฐานพระพุทธรูปนั้น ปรากฏชัดเจนในสมัยรัตนโกสินทร์ ที่สำคัญได้แก่ บุษบกที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๑ เป็นบุษบกที่สร้างด้วยไม้สลักหุ้มทองคำทั้งองค์ และฝังอัญมณีต่างๆ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๓ ได้มีการสร้างพระเบญจาสามชั้นหุ้มด้วยทองคำเป็นฐานชุกชี ซึ่งเป็นการหนุนให้องค์บุษบกสูงสง่าขึ้น
บุษบกที่ประดิษฐานพระพุทธรัตนปฏิมากรนี้ ถือว่าเป็นแบบอย่างของการสร้างบุษบกเพื่อประดิษฐานพระประธานในอุโบสถอย่างมาก ดังจะพบว่าในระยะต่อมา มีการสร้างบุษบกเพื่อประดิษฐานพระประธานในวัดหลวงอีกจำนวนไม่น้อย อาทิ
พระพุทธสิหิงคปฏิมากร พระประธานในพระวิหารหลวง วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
กรุงเทพฯ วัดประจำรัชกาลที่ ๔ โดยสร้างบุษบกที่มีชั้นซ้อนลดชั้น จำนวน ๔ ชั้น ประดับด้วยนาคปักที่มุมของแต่ละชั้น ผนังของเรือนธาตุประดับกระจกและอัญมณี ซุ้มด้านหน้าทำเป็นซุ้มคดโค้ง ฉลุลายทองทั้งกรอบ มีคันทวยรองรับ เครื่องยอดของบุษบกนี้ มีรูปแบบเช่นเดียวกับเจดีย์ทรงเครื่อง
พระสัมพุทธสิริ วัดโสมนัสราชวรวิหาร กรุงเทพฯ
และดูเหมือนว่าความนิยมในการสร้างบุษบกเพื่อประดิษฐานพระประธานในรัชกาลที่ ๔ ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังบุษบกที่ประดิษฐานของ
พระสัมพุทธสิริ พระประธานในพระอุโบสถ วัดโสมนัสราชวรวิหาร
กรุงเทพฯ โดยมีรูปแบบของบุษบกเช่นเดียวกับที่วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร แตกต่างกันเพียงผนังด้านหลังที่มีจารึกประดิษฐานไว้เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการสร้างบุษบกที่มีรูปแบบต่างไปจากเดิม คือ
มีการสร้างในแผนผังสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ดังบุษบกที่ประดิษฐานของ
พระประธานในพระอุโบสถ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร
กรุงเทพฯ
รูปแบบของบุษบกทรงนี้ อาจกล่าวได้ว่า มีความใกล้เคียงกับพระราชวังอย่างเห็นได้ชัด
เป็นการจำลองสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะคล้ายอาคารที่ประทับของกษัตริย์อย่างแท้จริง
บุษบกที่สร้างไว้ระหว่างประตูด้านหน้าทั้งสองข้างของพระอุโบสถ
ภายในประดิษฐาน พระพุทธนฤมิตร วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ
ไม่เพียงบุษบกอันเป็นที่ประดิษฐานของพระประธานในพระอุโบสถ และพระวิหารเท่านั้น ยังมีบุษบกที่สร้างขึ้นนอกพระอุโบสถอีกด้วย ดังเช่น
บุษบกที่สร้างไว้ระหว่างประตูด้านหน้าทั้งสองข้างของพระอุโบสถ วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร
กรุงเทพฯ โดยตัวบุษบกนี้จำหลักลายวิจิตรปิดทองประดับกระจก ภายในประดิษฐาน
พระพุทธนฤมิตร
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปฉลองพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ เป็นต้น
ดังจะเห็นได้ว่า การย่อส่วนของเรือนเครื่องสูง จะยังคงลักษณะร่วมไว้ประการหนึ่ง นั่นคือ การซ้อนชั้นของหลังคา และการประดับด้วยบันแถลง อันมีความหมายของการซ้อนชั้นของอาคารอีกทีหนึ่ง แนวความคิดนี้ได้บ่งบอกว่า คือการยกย่องและเป็นเรือนเครื่องสูงสำหรับผู้สูงศักดิ์ควรค่าแก่การสักการบูชา
บุษบกภายในพระอุโบสถ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร กรุงเทพฯ
บุษบกภายในศาลาการเปรียญ (พระอุโบสถเก่า)
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ
เอกสารอ่านประกอบ
กรมศิลปากร. วัดหลวงสมัยรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ : กรม, ๒๕๔๐.
สมคิด จิระทัศนกุล. รูปแบบพระอุโบสถและพระวิหารในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ, ๒๕๔๗.
สมคิด จิระทัศนกุล. วัด : พุทธศาสนสถาปัตยกรรมไทย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๔.
หนังสือธรรมลีลา โดย นฤมล สารากรบริรักษ์
คัดลอกมาจาก...หนังสือพิมพ์ผู้จัดการออนไลน์
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
วัดและศาสนสถาน
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th