Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เชิญท่านทั้งหลายมาสนทนาธรรม เรื่องความอยากได้ในสมาธิ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
สี บุญมา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ม.ค. 2008
ตอบ: 83

ตอบตอบเมื่อ: 22 ม.ค. 2008, 6:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ท่าน รารม นี้แหละท่านที่อยากสนทนาด้วย ต้องปฏบัติจริง ถึงจะรู้ว่าที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร
ถูกต้องที่สุด เห็นดวงแก้ว ก็รู้อยู่ว่าเห็นดวงแก้ว ไม่ใช่จะเห็นทุกคน(ข้าพเจ้าไม่เห็น) หลายคนไม่เข้าใจ ที่อยากจะให้เข้ามาสนทนาคือต้องการความเป็นจริงของการปฏิบัติ ถ้ามีคนเข้ามาเยอะ จะรู้ว่าแต่ละท่านจะไม่เหมือนกัน(คืออาการของสมาธินั้นๆ) แต่ได้ความสงบเหมือนกัน

ข้าพเจ้าเว้นมา 6 ปีสนิมเขอะ หวนปฏิบัติได้เกือบจะสองปีแล้ว มีอะไรเพิ่มขึ้น มีปัญญาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นนิดหน่อย สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
สี บุญมา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ม.ค. 2008
ตอบ: 83

ตอบตอบเมื่อ: 22 ม.ค. 2008, 7:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เล่าต่อ
ข้าพเจ้ารู้กังวลกับการนั่งสมาธิเพราะทุกครั้งที่นั่งไปสักพัก พุทโธ จะหายไป

กลับบ้าน ไปถามแม่ดีกว่า

"แม่พุทโธหายนะแม่"
"หายไปใหนละ"
"ไม่รู้ พอสว่างมันก็หายไป"
"มึงจะเอาพุทโธไว้ทำไมละ"
"เอ๊า ก็ให้มันเป็นสมาธิไงแม่"
แม่หัวเราะ ฮึๆๆ
"หายก็ให้มันหายไป มึงก็นั่งต่อไป ดูมันหายนั้นแหละ ปล่อยมันไป"
"แล้วสมาธิละแม่"
"ชั่งมัน"

หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ทำตามที่แม่แนะนำ ปล่อยให้พุทโธมันหายไป ไม่สนใจ รู้อยู่ว่ามันหายไป ก็ดูไอ้ที่มันมีแสงนั้นแหละต่อไป(แรกๆมันไม่ค่อยคงตัวนะ หายไปบ้าง มืดขึ้นอีกบ้าง พอมืดก็ได้พุทโธกลับมา สักพักก็สว่างใหม่ สนุกดี) ความสว่างนั้นไม่เปลี่ยนแล้ว เบาดี

ไม่นานนัก ข้าพเจ้าก็ต้องถึงกับสะดุ้ง เมื่อเข้าสู่สมาธิอีกครั้งหนึ่ง ในแสงสว่างนั้น มีภาพศพคนตาย เน่าเฟะ ลอยมา ที่แรกนึกว่าฝัน แต่ก็รู้ตัวอยู่ เพราะหูยังได้ยินเสียง มอไซต์ วิ่งอยู่ ได้ยิ่นเสียงนั้นนี้ นี้มันอะไรกันหว่า ภาพที่เห็นนั้นเหมือนภาพตอนที่ข้าพเจ้าดูจากเน็ต แต่ไม่ชัดเท่าไร

ข้าพเจ้าก็นั่งมองมันลอยไปลอยมาอยู่อย่างนั้น มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ลอยเข้ามาแล้วออกไป เป็นอยู่หลายวัน ชักไม่ค่อยดี โทรถามแม่เลยดีกว่า

สรูปได้ว่าแม่บอกจับมาสักตัวเอามาดูใกล้ อย่าให้มันไปใหน ดูอันเดียวนั้นแหละ

ข้าพเจ้าก็ทำตาม(ไม่ง่ายเลย) ได้ขามาอันหนึ่ง (ไม่อยากได้แต่มันจำง่าย) ก็นั่งดู

เชื่อมั๊ยท่าน ทุกวันนี้ ข้าพเจ้ายังนั่งดูขานั้นอยู่ มันไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอะไร กะว่า กลับบ้านคราวนี้จะถามแม่ต่อ

(ที่แม่บอกว่าดูซากนั้น แม่บอกว่า กูถอดออกมาดูตัวกู หัวหงอกๆนั่งจ๊องก๊องอยู่ แล้วมันก็เน่าไปเอง)

สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 23 ม.ค. 2008, 5:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน


สรุปแล้วสองแม่ลูกนั่งเล่นกสิณซึ่งเกิดจากภาวนาพุทโธบ้าง อสุภะบ้าง

ซึ่งไม่ต่างจากกสิณลูกแก้วของวัดหนึ่ง หรือแบบเพ่งพุทธรูปอีกแห่งหนึ่ง ทำๆกันอยู่

ฝึกสมาธิล้วนๆ

กรัชกายเคยชี้ให้คุณดูถนนสายหนึ่ง ศรัทธา => ศีล => สมาธิ => ปัญญา => วิมุตติ

เวลานี้คุณป้วนเปี้ยนๆอยู่กับสมาธิ อยู่กับการสร้างภาพที่เห็นนั้นให้ผกผันพิสดารไปเรื่อยๆ

ตามความคิดสร้างสรรค์ในใจตน

ถ้าชอบก็ทำไปครับ ตามอัธยาศัย ก็ดีระดับหนึ่ง


กรัชกายว่าต่อไปคุณคงเหมือนแม่ที่ว่า => ( ฯลฯ กูถอดออกมาดูตัวกู หัวหงอกๆ

นั่งจ๊องก๊องอยู่ แล้วมันก็เน่าไปเอง)
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
1เอง
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 29 ต.ค. 2007
ตอบ: 43
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 23 ม.ค. 2008, 10:48 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วิธีที่คุณแม่คุณสีให้ท่องพุทโธดังในใจอย่างเดียวนั่นแหละคับ เป็นคำตอบสำหรับคุณสีที่ถูกที่ตรงที่สุดเลยครับในขณะนี้
เจริญในธรรมครับคุณสี
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
สี บุญมา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ม.ค. 2008
ตอบ: 83

ตอบตอบเมื่อ: 23 ม.ค. 2008, 5:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุจ้า ท่าน 1เอง

เมื่อคืนโทรไปหาแม่ แม่บอกว่า ต่อจากนี้ให้พิจารณากาย เห็นแค่ขาก็ให้พิจารณาแค่ขา พิจารณาให้เห็นจริงๆ ว่ามีขามันมีทุกข์อย่างไร ถ้าไม่มีขามีทุกข์อย่างไร(อันนี้เข้าใจว่า แม่แนะให้ข้าพเจ้า พิจารณาทุกข์ของกาย)

ถ้าเหยียบขี้จะทุกข์แบบใหน ถ้าเหยียบหนามจะทุกข์แบบใหน ให้รู้ว่าเป็นทุกข์เพราะมีขา(ถึงข้าพเจ้าจะไม่ค่อยเข้าใจ แม่คงเริ่มหัดให้พิจารณา อริยสัจน์ 4 แน่ๆ เริ่มจากทุกข์ คิดว่างั้นนะ)

ข้าพเจ้ากำลังเริ่มปฏิบัติการพิจารณากายอยู่ ผล ช้า นาน เดาไม่ได้ คงปล่อยไปเรื่อยๆ

สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
1เอง
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 29 ต.ค. 2007
ตอบ: 43
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 24 ม.ค. 2008, 9:38 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุครับคุณสี คุณมีคุณแม่ที่ยอดมากเลยครับท่านสอนคุณมาเป็นขั้นๆได้ถูกต้องและตรงอย่างที่สุดและคับ ก็ขอให้นำกายขึ้นมาพิจารณาอย่างท่านสอนแหละคับ ได้ตรงไหนก็เอาตรงนั้นแหละคับมาพิจารณา
มันพิจารณาออกในรูปใดก็ตามก็ให้พิจารณาไปคับ ข้อสำคัญอย่าเข้าไปปรุงแต่งมันก้แล้วกันครับเดี๋ยวดีเอง
เจริญในธรรมคับคุณสี
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
น้ำใส
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 31 พ.ค. 2004
ตอบ: 53

ตอบตอบเมื่อ: 25 ม.ค. 2008, 10:21 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การเล่าประสบการณ์ในสมาธิกัน เป็นประโยชน์ที่ดีเหมือนกันครับ
เริ่มแรกผมก็เริ่มด้วยความอยากเหมือนกัน อยากรรู้ว่าชาติก่อนเป็นอะไร จึงหัดนั่งสมาธิ
ก็สมใจอยากครับ ไม่นานนัก ก็เห็นภาพชาติที่แล้ว เห็นตัวเองแต่งชุดไทยโบราณสะพายดาบ เห็นบ้านทรงไทย ....
ตอนนั้นดีใจมาก แต่จริงๆแล้ว พระอาจาร์ท่านบอกว่า ถ้าเห็นแบบไม่รู้สึกตัว คือ เห็นแบบไม่มีสติ นั้นเราถูกหลอกให้เห็น
ผมก็ทบทวนดู ตอนที่เห็นนั้นเหมือนตกภวังค์วูบไปจริงๆ คือเห็นตอนไม่มีสติ ดังนั้นสรุป ผมถูกหลอกจริงๆ
ขอเล่าเพียงแค่นี้ครับ ไม่ได้มาแสดงความขัดแย้งหรืออวดอ้างใดๆขอรับ จบเพียงเท่านี้พอ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
มรรคคา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
ตอบ: 77
ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต

ตอบตอบเมื่อ: 02 เม.ย.2008, 10:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อย่างที่บอกครับความอยากของคนเราเป็นธรรมดาจิตยิ่งถ้าได้ลิ้มรสความสงบจากการปฏิบัติธรรมด้วยแล้วยิ่งมีความอยากได้มากๆยิ่งขึ้นครับ

เพราะฉนั้นเราต้องมีสติ สัมปชัญญะ ให้มากๆครับ
พิจารณาธรรมทั้งหลายเฉพาะธรรมที่อยู่ตรงหน้าครับ
ไม่ควรส่งจิตออกข้างนอกเพราะจะทำให้เกิดอารมณ์ฟุ้งซ่านได้ครับ

ที่สำคัญ ควรจะมีสติ สัมปชัญญะ ครับ เพราะว่าธรรมของพระพุทธองค์รวมลงที่สติ สัมปชัญญะเท่านั้นเอง

ถ้าไม่มีสติ สัมปชัญญะ แล้วสิ่งต่างๆที่อยากได้จะไม่เกิดเลยครับ
 

_________________
มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตามรอย
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
ตอบ: 109
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 15 พ.ค.2008, 6:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แล้วคุณ สี บุญมา เค้าเข้าใจรึยังล่ะครับเนี่ย
 

_________________
อย่าประมาทลืมตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
สี บุญมา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ม.ค. 2008
ตอบ: 83

ตอบตอบเมื่อ: 18 มิ.ย.2008, 6:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เข้าใจแล้ว แต่ยังไม่ซึ้ง
เพราะยังไม่ขาดจากรูปเลยท่าน สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง