Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 คู่กรรมมีจริงหรือเปล่าค่ะ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
วิสุทธิยา
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 26 พ.ย. 2005
ตอบ: 3

ตอบตอบเมื่อ: 26 พ.ย.2005, 12:46 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หนูอยากถามว่าหนูมีเรื่องทะเลาะกับแฟนหนูบ่อยมากเลยค่ะ คือพูดก็จะขัดกันนะค่ะ คือหนูต้องเคยทำอะไรให้เข้าแน่เลยค่ะ หรือว่าเป็นกรรมของหนูค่ะ หนูรู้นะค่ะ แต่หนูก็จะต้องใช้กรรมนี้ต่อไป คือคำถามนี้อาจจะงงก้ได้ค่ะ หนูว่าหนูทำความดีนะค่ะและก็เป็นคนดีนะค่ะ แต่ทำไมถึงมีแฟนแบบนี้ หนูพยายามหนีมาหลายครั้งกับตรงนี้แต่ก็หนีไม่พ้น จนหนูคิดว่านี้คือเวรกรรมของหนูที่หนูจะต้องชดใช้ไช่ไหมค่ะ แต่เข้าก้ไม่ได้เลวรร้ายอะไรหรอกค่ะ คืออธิบายไม่ถูกเหมือนกันนะค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 26 พ.ย.2005, 1:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอเป็นการพูดคุยกันในเรื่องกรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่หนูถามน่ะ ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้มีความเห็นวิเศษจนสามารถล่วงรู้การกระทำในอดีต ปัจจุบัน ของตัวเอง และใครๆ ได้ เพียงมีความรู้ที่ได้ศึกษาอ่านมาด้วยความสนใจในเรื่องนี้บ้างไม่มาก ประกอบด้วยการสั่งเกตจากประสบการณ์ แต่ต้องออกตัวดังข้างต้นว่าขอเป็นการพูดคุยสนทนาพูดคุยกันเท่านั้นนะครับ

ที่ถามว่า หนูอยากถามว่าหนูมีเรื่องทะเลาะกับแฟนหนูบ่อยมากเลยค่ะ คือพูดก็จะขัดกันนะค่ะ

แฟนในที่นี่ แต่งงานกันหรือยัง หรือว่าคบกันแฟน แต่พิจารณาจากประโยคท้ายๆ แล้วคิดว่ายังคงไม่ได้แต่งงาน ทะเลาะกันด้วยสาเหตุจากคำพูด คิดว่าหนูคงจะรู้จักกับแฟนคนนี้มานานแล้วทำนองเหมือนเพื่อนมากกว่าแฟน หรือไม่ก็จากเพื่อนแล้วกลายมาเป็นเพื่อน ทำให้ความสนินสนมกันมานาน กระทบกันด้วยคำพูดก็เหมือนลิ้นกับฟันกระทบกันแต่ก็ยังอยู่ร่วมกันได้ไม่ทำร้ายซึ่งกันและกัน คือไม่ถึงกับลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกาย

คือหนูต้องเคยทำอะไรให้เข้าแน่เลยค่ะ หรือว่าเป็นกรรมของหนูค่ะ หนูรู้นะค่ะ แต่หนูก็จะต้องใช้กรรมนี้ต่อไป

อาจจะเป็นกรรมอย่างที่หนูคิดก็ได้ กรรมคือการกระทำ ผลของกรรมคือผลการกระทำ ถ้าเราเคยทำกรรมไม่ดีไว้ ผลที่จะรับหลังจากทำกรรมนั้นไม่ช้าหรือเร็ว ก็ต้องเป็นกรรมที่ไม่ดี เหมือนเราพูดมะม่วง ผลก็ที่ออกมาต้องเป็นมะม่วง จะออกเป็นมะพร้าวไม่ได้ เช่นกัน อย่ามาค้านว่าพูดถั่วเขียว ทำไมออกเป็นถั่วงอก เมื่อหนูรู้และเข้าใจว่าเป็นเรื่องของกรรม หนูก็ต้องพยายามอดทนรับกรรมนั้น โดยไม่ตอบสนองหรือต่อยอดให้กรรมนั้น เพื่อให้กรรมนั้นได้หมดสิ้นไป
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 26 พ.ย.2005, 2:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ของแก้คำผิดข้างบนก่อน "อย่ามาค้านว่าพูดถั่วเขียว ทำไมออกเป็นถั่วงอก" ขอแก้คำว่า "พูด เป็น ปลูก"

หนูว่าหนูทำความดีนะค่ะและก็เป็นคนดีนะค่ะ แต่ทำไมถึงมีแฟนแบบนี้ หนูพยายามหนีมาหลายครั้งกับตรงนี้แต่ก็หนีไม่พ้น จนหนูคิดว่านี้คือเวรกรรมของหนูที่หนูจะต้องชดใช้ไช่ไหมค่ะ แต่เข้าก้ไม่ได้เลวรร้ายอะไรหรอกค่ะ คืออธิบายไม่ถูกเหมือนกันนะค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ

หนูต้องแยกให้ออกระหว่างความดีกับความไม่ดี ความดีคือความดี ความไม่ดีคือความไม่ดี ทั้งสองแม้อยู่ในจิตใจเราแต่ทั้งอย่างก็ไม่ได้ร่วมเป็นหนึ่งเดียว งงหรือเปล่า ขอพูดอธิบายเพิ่มเติมนะครับ การสร้างความดีนั้นก็เพื่อสั่งสมของดีไว้ในจิตใจ ความดีไม่สามารถไปช้ำระล้างความไม่ดีที่เราเคยทำไว้ก่อนไม่ได้ การสร้างความดีนั้นช่วยให้เรามีความดีมากขึ้นเมื่อมีความมากขึ้นการให้ผลก็มากขึ้น แต่การให้ผลของความดีนั้นก็ต้องรอเหตุปัจจัย ไม่ใช่เราทำวันนี้วันนี้ พรุ่งนี้ จะได้รับผล เราไม่สามารถหวังผลได้อย่างที่ทำอย่างอื่นที่สามารถคาดหวังผลได้ในวันสองวัน

หนูพยายามหนีมาหลายครั้งกับตรงนี้แต่ก็หนีไม่พ้น จนหนูคิดว่านี้คือเวรกรรมของหนูที่หนูจะต้องชดใช้ไช่ไหมค่ะ แต่เข้าก้ไม่ได้เลวรร้ายอะไรหรอกค่ะ คืออธิบายไม่ถูกเหมือนกันนะค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ

ไม่มีใครหนีกรรมได้ พระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นผู้นำหลักกฎแห่กรรมออกมาเปิดเผยและสั่งสอนก็ยังไม่สามารถหนีกฎแห่งกรรมได้ แม้พระองค์จะได้บรรลุเป็นพระพุทธเจ้าแล้วกรรมบางอย่างยังตามมาให้ผล เช่น ครั้งหนึ่งพระเทวทัต ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องได้ออกบวช พอบวชแล้วเกิดหลงตัวเองว่าตัวเองมีสิ่งวิเศษสามารถเป็นผู้นำสงฆ์ได้ จึงคิดจะกำจัดพระพุทธเจ้า จะหาวิธีที่จะทำร้ายพระพุทธเจ้าให้สิ้นไปจากโลกนี้จึงหาอุบายวิธีต่างๆ ครั้งหนึ่งให้คนขึ้นไปบนภูเขาด้านล่างเป็นทางเสด็จของพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเสด็จมาถึงจุดนั้นก็สั่งให้คนดันก้อนหินขนาดใหญ่กลิ้งลงมาเพื่อหวังให้ทับพระพุทธเจ้า แต่ด้วยบารมีของพระพุทธเจ้าไม่มีใครสามารถทำร้ายพระพุทธเจ้าให้สิ้นพระชนม์ได้ ก้อนหินดังกล่าวได้กลิ้งลงมาโดนก้อนหินอีกหนึ่งก่อนถึงตัวพระองค์ ทำก้อนหินก้อนนั้นกระทบเข้าก้อนหนึ่งทำให้แตกออกเป็นชิ้น แม้จะไม่สามารถทำร้ายให้พระองค์สิ้นพระชนม์ได้ แต่ด้วยอำนาจของกรรม ยังมีสะกดหินไปโดนแขนของพระองค์ทำให้พระโลหิตห้อ หรือซ้ำเลือดนั้นเอง ผู้รู้ท่านบอกว่าเป็นเพราะกรรมเก่า ตรงนี้ลืมแล้วว่าเพราะกรรมอะไร ? ขอมองย้อนไปที่พระเทวทัต ซึ่งเป็นตัวการที่จะร้ายพระพุทธเจ้า พระเทวทัตได้รับผลของกรรมที่ทำแก่พระพุทธเจ้า โดยธรณี คือแผ่นดินแยกสูบร่างพระเทวทัต พอสิ้นชีวิตแล้วก็ตกไปอยู่ในอเวจีนรก

ที่ยกเรื่องราวมานี้ก็เพื่อบอกให้ทราบว่าไม่มีใครหลบหนีกฎแห่งกรรมได้ ถ้าเราไม่อยากจะได้รับผลที่ไม่ดี เราก็ควรหมั่นสร้างสมความดีไว้เท่าที่จะสามารถทำได้ ส่วนความไม่ดีที่เราเคยทำไว้ในอดีตจนไม่สามารถระลึกได้ เมื่อเรารู้ว่านั้นเป็นผลแห่งกรรมไม่ดี เราไม่สามารถหลีกหนีได้ การหลีกหนีไม่ได้หมายความกรรมนั้นจะหมดไป เพียงแต่รู้เวลาให้เหตุปัจจัยพร้อมผลของกรรมนั้นก็จะแสดงออกมา เหมือนอย่างหนูหลีกหนีได้ในตอนที่อยู่ห่างจากแฟนเรื่องไม่ดีเหล่านั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้น แต่เหมือนมีอำนาจใดสักอย่างหนึ่งดึงให้กลับมาเจอและอยู่กันอีก แล้วก็จะมีทะเลาะอย่างเดิมอีก ถ้าไม่ใช่เพราะอำนาจของกรรมหรอ ที่ดึงมา ?!

ถ้าเราคิดในทางที่ดีว่าการทะเลาะกันก็ยังดีกว่าแฟนไปมีคนอื่น มีกิ๊ก ยิ่งทำให้เรามีทุกข์ใจมากขึ้น ถ้าเราคิดในทางที่ดีอย่าคิดว่าสิ่งที่เรากำลังประสบนี้เป็นเรื่องที่ทุกใจมากๆ จนทนไม่ได้แล้ว ถ้าเป็นกรรมจริงๆ อย่างที่บอกการหลบหลีกไม่ใช่วิธีแก้ที่ดี การยอมรับความจริงอย่างอดทนและเข้มแข็งสักวันหนึ่งโอกาสที่ผลกรรมนั้นจะหมดไปก็จะมาถึง

คู่กรรม นั้นแยกออกเป็นสองประเภท

คือ 1. คู่กรรมในฝ่ายดี คือเคยสร้างสมกรรมดีกันมาก่อน เกิดมาชาตินี้ก็ได้เจอและอยู่กินกัน ประกอบอาชีพก็ก้าวหน้าไม่มีอุปสรรค

2. คู่กรรมในฝ่ายไม่ดี คือเคยสร้างสมกรรมไม่ดีกันมาก่อน เกิดมาชาตินี้เมื่อได้เจอและอยู่กินกัน จะทำอะไรจะประกอบอาชีพอะไรก็มีอุปสรรคขัดขว้างไปหมด ชีวิตคู่ก็ไม่สงบสุข มีเหตุให้เกิดการทะเลาะกัน เป็นต้น

สุดท้ายก็ขอให้หนูอดทนยอมรับความจริง คือผลของกรรม และหมั่นสร้างความดี ระวังอย่าสร้างกรรมด้วยคำพูด รักษาศีลข้อ 4 มุสาวาทา พูดแต่คำจริง ไม่ยุยงส่งเสริมให้คนอื่นแตกคอ แตกสามัคคีกัน นะครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
m
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 03 ธ.ค.2005, 12:54 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่มีใครหนีกรรมได้ พระพุทธเจ้าซึ่งเป็นผู้นำหลักกฎแห่กรรมออกมาเปิดเผยและสั่งสอนก็ยังไม่สามารถหนีกฎแห่งกรรมได้ แม้พระองค์จะได้บรรลุเป็นพระพุทธเจ้าแล้วท

สาธุ กราบอนุโมทนาค่ะ
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 02 มี.ค.2008, 9:54 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อืมม์
 

_________________
"อย่าลืมตัว อย่าลืมปัจจุบัน อย่าลืมปฏิบัติ"
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 17 มิ.ย.2008, 3:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทโธ ขอให้ปล่อยวางครับ แล้วคุณจะสบายใจขึ้น ซึ่ง
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง